ทุกคนมองไปตามเสียง ก็เห็นหยวนเซียงหลิงมองดูพวกเขาด้วยความดูถูก
เถ้าแก่ชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยนมองไปทางเก้าอี้ที่มีเสื้อผ้าของหยวนเซียงหลิงแขวนเอาไว้ จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ทัน
"คิดไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะดักฟังพวกเราคุยกัน?"
เพียงแค่เห็นหยวนเซียงหลิงเดินไปที่เก้าอี้อย่างสง่างาม หยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วโยนลงบนโต๊ะ
ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ :"ฉันก็คิดว่าพวกคุณหลายคนปิดบังฉันจะทำเรื่องที่น่าตกใจอะไรสะอีก คิดไม่ถึงเลยนะว่าพวกคุณจะคุยปัญหาเรื่องส่วนตัวจริงๆด้วย ปากกาด้ามนี้มีทั้งฟังค์ชั่นดักฟังและบันทึก พวกคุณทำลายมันทิ้งสะ สำหรับเรื่องส่วนตัวของพวกคุณฉันไม่สนใจหรอก"
เมื่อได้ยินคำพูดของหยวนเซียงหลิง ใบหน้าของทุกคนมีความโกรธ แต่ว่ากลับไม่มีทางเลือกอื่น ท้ายที่สุดแล้ววันนี้ที่คนหลายคนมาที่นี่ก็เพื่อมาทำธุระ ถ้าหากมีการสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับหยวนเซียงหลิงมันไม่ดีแน่นอน
ชายผู้มีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมโค้งคำนับเบาๆและหยิบปากกามาหักทิ้ง หยิบมีดคมๆ ออกมาจากอ้อมแขน และทำลายเส้นด้านในทั้งหมดโดยตรงแล้วโยนมันทิ้งลงในถังขยะ หลังจากนั้นเทน้ำร้อน
"ประธานหยวนเป็นผู้หญิงที่เยี่ยมยอดจริงๆ มีวิธีการที่ดีมาก ฉันขอชื่นชม"
หลังจากชายหนุ่มหน้าสี่เหลี่ยมทำเสร็จเรื่องนี้แล้วค่อยนั่งลงอย่างช้าๆ ในก่อนหน้านี้ที่เขามีการติดต่อกับหยวนเซียงหลิง รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ว่าวันนี้กลับทำให้เขาเห็นเข้ากับตาของเขาแล้ว มีความกล้าหาญและสมคบคิดที่ไม่มีทางรั่วไหล
สีหน้าของคนอื่นๆต่างก็ดูไม่ได้เลย ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พวกเขาพูดในเมื่อกี้ก็เทียบเท่ากับจุดอ่อนอย่างหนึ่งของพวกเขาอยู่ในมือของหยวนเซียงหลิง แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งมีค่าอะไร แต่ว่ากลับเป็นจุดอ่อนที่ทำให้พวกเขาขายหน้าอย่างมาก
"ฮ่าๆๆๆ……เถ้าแก่เจิ้งยกย่องฉันมากเกินไปแล้ว ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่งไม่มีความสามารถพิเศษขนาดนั้น ตอนนี้สามารถพูดจุดประสงค์การมาของพวกคุณได้หรือยัง?"
"ประธายหยวน ขอไม่ปิดบังเลยนะ จุดประสงค์ของพวกเราที่มาร้านอาหารของพวกคุณในวันนี้ก็เพื่อเห็ดสน" คนที่พูดเป็นวัยกลางคนที่เงียบมาโดยตลอดและสวมแว่นตา
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย หยวนเซียงหลิงขมวดคิ้ว
"ที่เมืองจวินไชนั้นมีเห็ดสนมากมาย ทำไมพวกคุณต้องมาแย่งสิ่งเหล่านี้กับฉันในพื้นที่หนึ่งในสามเอเคอร์นี้ด้วย?"
หยวนเซียงหลิงรู้ว่าคนเหล่านี้ในวันนี้ไม่มีทางจบง่ายๆแน่นอน ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือพวกเขาหลายคนยังมาเพื่อขอเห็ดสนที่ขาดตลอดอีกด้วย
เห็ดสนหนึ่งจานราคาอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยหยวน ถ้าหากออกจากเมืองจวินไชราคาจะยิ่งแพงมากขึ้น สาเหตุที่ราคาสูงเพราะเป็นของหายากและมีราคาแพง ยิ่งบวกกับเห็ดสนมีมูลค่าที่สูงอย่างมาก นอกจากนี้รสชาติเหนือกว่าเห็ดสนชนิดอื่นๆอีกด้วย
เพียงแต่หยวนเซียงหลิงคิดไม่ถึงเลยว่าความลับนี้จะถูกพวกเขาค้นพบได้เร็วขนาดนี้
"ฮ่าๆๆๆ ประธานหยวน คนที่ชัดเจนไม่พูดเรื่องลับๆ เมืองจวินไชมีเห็ดสนไม่น้อยก็จริง แต่ฉันเอาเห็ดสนจากเมืองเซียงหลิวมาทดสอบกับเห็ดสนจากที่อื่นในเมืองจวินไช เห็นผลชัดเจนในพริบตา"
หลังจากพูดจบ ชายใส่แว่นหยิบข้อมูลสองฉบับและผลการทดสอบจากกระเป๋าหนังของเขาและส่งให้หยวนเซียงหลิง
เมื่อหยวนเซียงหลิงเห็นผลการทดสอบของเมืองเซียงหลิวและเมืองอื่นๆมีสองสรรพคุณที่เกินออกมา มีความตะลึงอย่างมาก ในเวลาเดียวกันเธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไหมอีกฝ่ายหลายคนถึงต้องชนะให้ได้
เพราะว่าสองสรรพคุณที่ได้ออกมานั้นคุ้มที่จะทำอย่างมาก
สองสรรพคุณ อย่างที่หนึ่งเป็นการต่อต้านริ้วรอย อย่างที่สองเป็นการบำรุงไตและเสริมสร้างหยิน
หลังจากดูรายงานการทดสอบและข้อมูลเบื้องต้นนี้ หยวนเซียงหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูด :"ในเมื่อมีความมั่นใจมากแล้ว ช่วยพูดถึงมุมมองของพวกคุณหน่อย ถ้าหากมีผลเสียต่อฉัน ฉันไม่รังเกียจที่แข่งขันกับทุกท่านสักรอบ"
สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือการสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของหยวนเซียงหลิง หลังจากได้ยินหยวนเซียงหลิงพูดแบบนี้ คนไม่กี่คนก็มองหน้ากันก่อนตัดสินใจ
"ประธานหยวนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ถ้าหากเอาเป็นเอาตายขึ้นมาจริงๆเกรงว่าพวกเราคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ ถ้าหากมันถึงขั้นนั้นจริงๆ ฉันคิดว่าพวกเราทุกฝ่ายไม่มีใครรู้สึกดีหรอก พวกเรามาในครั้งนี้ก็แค่อยากแบ่งอัตราส่วน เห็ดสนในเมืองเซียงหลิวคุณเอาไปสามสิบเปอร์เซ็น ส่วนพวกเราสี่คนเอาเจ็ดสิบเปอร์เซ็น คุณคิดว่าเป็นยังไง?"
"ฮึ พวกคุณช่างมีความกล้าในการเปิดปากพูดจริงๆเลยนะ พวกคุณไม่มาทั้งหมดล้วนเป็นของฉัน พวกคุณมาแล้วอยากจะเอาไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่ามีการรังแกผู้หญิงที่อ่อนแออย่างฉันเหรอ?"
หยวนเซียงหลิงค่อยๆจิบชาที่อยู่ตรงหน้าเธอหนึ่งคำ แววตาที่มองดูคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เมื่อถูกหยวนเซียงหลิงมองแบบนี้ พวกเขาหลายคนนั้นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วทุกคนล้วนแล้วออกมาทำธุรกิจมากมายหลายปีแล้ว แม้ว่าจะเขินอายเล็กน้อย แต่สำหรับเรื่องที่ควรทำยังคงไม่มีความลังเลที่จะไปทำให้สำเร็จอย่างแน่นอน
"ประธานหยวน พวกเรามีสี่คน ร้านอาหารสามแห่งและซุปเปอร์มาร์เก็ตหนึ่งแห่ง เมื่อลองคำนวณแบบนี้ดูแล้วคุณมีเพียงแค่ร้านอาหารร้านเดียวเท่านั้น คุณนั้นยังคงได้เปรียบอย่างมากเลยนะ"
เมื่อจั่วจวินซั่งพูดเช่นนี้ หน้าก็ไม่แดงและหัวใจก็หยุดเต้น อีกสามคนมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับสำนวนโวหารของจั่วจวินซั่ง
"เถ้าแก่จั่ว เกรงว่าคุณน่าจะลืมไปแล้วว่าฉันเป็นผู้ที่ครอบครองเห็ดสนทั้งหมดของที่นี่ นอกจากนี้ฉันมีแค่ร้านอาหารร้านเดียวเหรอ? ทั่วทั้งประเทศฉันมีร้านอาหารเยอะแยะมากมาย"
"นั่นเป็นถึงอุตสาหกรรมของตระกูลหยวน ไม่ใช่แค่ประธานหยวนของฉันคนเดียว"
สำหรับคำพูดของจั่วจวินซั่ง หยวนเซียงหลิงก็โกรธอย่างมากเช่นกัน แต่ว่าเธอก็ไม่อยากสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับคนพวกนี้ นักธุรกิจล้วนแล้วต้องใส่ใจสามัคคีสร้างรายได้ เว้นแต่จะมีความแค้นใหญ่อะไรนั่นถึงจะมีการสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
"ด้วยพื้นฐานของฉันพวกคุณเอาสี่สิบเปอร์เซ็นส่วนฉันเอาหกสิบเปอร์เซ็น ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องแข็งขันกันแล้ว ดูว่าใครออกราคาสูงที่สุดก็พอแล้ว"
ทั้งสี่คนคิดไม่ถึงเลยว่าหยวนเซียงหลิงจะออกไพ่โดยไม่ทำตามแผน อ้าปากก็จะแข่งทรัพยากรทางการเงิน
เมื่อเวลาที่ทั้งสี่คนเตรียมจะปรึกษากัน จ้าวเสี่ยวกังกลับมาอีกครั้ง
จ้าวเสี่ยวกังขายเห็ดสนตามราคาในก่อนหน้านี้ วันนี้เขาก็มีการคืนเงินที่ให้ไปในก่อนหน้านี้หมดแล้ว นอกจากนี้ยังทำกำไรได้อีกสี่พันหยวน เดิมทีคิดว่าหลิวต้าโถวจะมีเงินมากขนาดนั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลิวต้าโถวจะต้องรายงานกับหยวนเซียงหลิงถึงจะเอามาได้ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของหลี่ชุ่ยฮวาที่อยู่ในบ้าน และยังมีผู้หญิงที่ชำชองอีกสองคน จ้าวเสี่ยวกังไม่อยากอยู่ต่อที่นี่อีกแล้ว เดินตรงไปที่ประตูชั้นสองและเตรียมคิดเงินกับหยวนเซียงหลิง
หยวนเซียงหลิงมองดูจ้าวเสี่ยวกังที่อยู่ตรงประตูด้วยท่าทางที่ลังเล รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีเรื่อง ทันใดนั้นพูด :"เสี่ยวกัง นายมาหาฉันหรือว่ามาหาพวกเขา?"
"ฮ่าๆๆ มาหาประธานหยวน เห็ดสนที่ฉันซื้อมาขายเกินโควตาแล้ว ดังนั้นอยากจะให้ประธานหยวนคิดเงินให้สักหน่อย"
"อ้อ เกินมาเท่าไหร่เหรอ?"
หยวนเซียงหลิงคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเสี่ยวกังทำเรื่องจะเร็วขนาดนี้
เมื่อได้ยินเรื่องซื้อขายเห็ดสนของจ้าวเสี่ยวกัง คนอื่นๆต่างมีสายตาที่เป็นประกาย
"ฮ่าๆๆ ไม่มากเท่าไหร่ สี่พันหยวนเอง"
"ได้ นายไปรอฉันที่หน้าประตู เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะไปคิดเงินให้นาย"
หลังจากหยวนเซียงหลิงพูดจบก็มองไปทางคนเหล่านั้น และพูด :"เถ้าแก่ทุกท่าน พวกคุณคิดได้หรือยัง พวกคุณสามารถแข่งขันกันได้นะ เพียงแต่ฉันขอเตือนพวกคุณอย่ามีความคิดนี้เลยนะ เพราะว่าเห็ดสนของเมืองเซียงหลิวหลายเดือนก่อนหน้านี้ฉันเริ่มให้คนกวาดซื้อเห็ดสนแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงปัญหาความน่าเชื่อถือของพวกคุณ ต่อให้ตอนนี้พวกคุณขึ้นราคา ถึงเวลานั้นเห็ดสนที่ซื้อมาทุกท่านคงไม่สามารถทำกำไรได้มากเท่าไหร่ ฉันขอเตือนพวกคุณตอบตกลงเงื่อนไขของฉันดีกว่า ไม่อย่างนั้นทุกคนก็จะไม่มีรายได้"
"ได้ เงื่อนไขของคุณพวกเราตอบตกลงได้ แต่ว่าจำเป็นต้องให้น้องชายคนนี้บอกเคล็ดลับที่เขารู้ออกมา"
แม้ว่าจั่วจวินซั่งไม่ได้พูดชัดเจนว่าเคล็ดลับอะไร แต่ว่าทุกคนที่อยู่ในสถานที่นี้ล้วนแล้วชัดเจนอย่างมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าเคล็ดลับที่จะทำให้สิ่งนั้นใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพียงแต่สำหรับเงื่อนไขนี้ ทุกคนต่างรู้สึกว่ายังคงมีความคุ้มค่าอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วสิ่งของนั้นเป็นของตัวเอง สามารถนำมาใช้ได้ตลอดชีวิต แต่ว่าเห็ดสนนั้นเป็นเพียงแค่ตามฤดูกาล รับประกันได้แค่ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น
"เรื่องนี้ฉันเป็นคนพูดมันไม่นับ เสี่ยวกัง นายช่วยเข้ามาแสดงความคิดเห็นของนายสักหน่อย"
MANGA DISCUSSION