ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 97 นวดเท้า
อ๊ะ……
เนื่องจากมีขั้นบันไดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ประตูหญิงสาวหน้าหวานต้องถอยกลับโดยสัญชาตญาณแต่เมื่อเธอชนเข้ากับประตูสุดท้ายเธอก็สะดุดล้มลงไป
จ้าวเสี่ยวกังหูไวตาไวรีบคว้าเธอเข้ามาโอบกอดไว้
กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวนเอวอันบอบบางบวกกับสายตาที่มีเสน่ห์ของเธอ ทำให้จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะมีปฏิกิริยาขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายยังอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาสามารถมองเห็นความขาวจากคอเสื้อ
เมื่อสัมผัสถึงเอวที่แข็งกระด้างหญิงสาวแสนสวยนึกว่าเป็นไม้ที่เหน็บอยู่ข้างตัวจ้าวเสี่ยวกังกระแทกถูกตัวเธอ จึงรีบลุกขึ้นมาแล้วกล่าวขอบคุณ
แต่เมื่อเธอก้มหัวมองลงไปที่เอวของจ้าวเสี่ยวกังเธอต้องตกตะลึง
เห็นแต่เป้ากางเกงที่ถูกดันขึ้นสูงและด้วยกางเกงที่บางทำให้เห็นเค้าโครงข้างหน้าได้อย่างชัดเจน ทำให้เธออดไม่ได้ที่อยากจับลงไปเพื่อพิสูจน์ให้รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
"เฮ้ ไม่ต้องขอบคุณ ผมชื่อจ้าวเสี่่ยวกังไม่ได้ชื่อน้องชายและน้องชายของผมก็ไม่ได้เล็กด้วย"
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังใบหน้าของหญิงสาวหน้าหวานก็แดงก่ำ โดยเฉพาะคำพูดที่ว่าน้องชายของเขาไม่เล็กทำให้เธอรู้สึกรุ้มร้อนเริ่มทนไม่ได้
ยิ่งเมื่อเธอเห็นแผ่นหลังของจ้าวเสี่ยวกังที่หันหลังกลับไปอย่างไม่ลังเล เธอจึงพูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังว่า "ฉันชื่อเกาลี่ลีวันหลังถ้ามาฝากเงินฉันช่วยคุณได้"
ตอนที่จ้าวเสี่ยวกังหันหลังจากไปเขายังคิดถึงกลิ่นหอมบนตัวและเอวที่บอบบางของจ้าวลี่ลี่อยู่ เมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบหันกลับโบกมือไปมาแล้วพูดว่า: "จำไว้นะครั้งหน้ามาหาคุณแน่นอน"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็ขี่รถสามล้อไฟฟ้าตรงไปที่ร้านอาหารเผิงไหล
วินาทีที่เห็นจ้าวเสี่ยวกังหันกลับไป เสมือนน้องชายของเขาได้โดดสูงขึ้นทำให้เกาลี่ลี่รู้สึกหัวใจเต้นแรงไม่หยุด
เมื่อเห็นจ้าวเสี่ยวกังที่ค่อยๆจากไปทำให้เกาลี่ลี่คิดถึงความเหงาที่ตนต้องเผชิญในหลายปีที่ผ่านมา สามีเธอทำงานขับรถบรรทุกไม่ค่อยได้อยู่บ้านแม้ว่าเธอก็อยากลิ้มลองกับชายคนอื่น แต่หลายปีมานี้กลับไม่มีชายใดที่ทำให้เธอหวั่นไหวได้แต่การปรากฏตัวของจ้าวเสี่ยวกังทำให้น้ำที่่เคยสงบนิ่งมานานเริ่มมีการเคลื่อนไหว.
แน่นอนจ้าวเสี่ยวกังไม่สามารถรับรู้ถึงความคิดของเกาลี่ลี่ได้ แต่เมื่อเขาคิดถึงเอวแสนบางของเธอแล้วก็รู้สึกได้ว่าถ้ามีโอกาสแทงเข้าข้างหลังของเธอสักครั้งอาจทำให้เครื่องเธอพังได้เหมือนกัน
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังกลับมาที่ร้านเผิงไหลอีกครั้ง เขาพบกับหยวนเซียงหลิงส่งผู้คนขึ้นรถพอดี
ใบหน้าที่แดงก่ำหลังดื่มเหล้าของหยวนเซียงหลิง ทำให้จ้าวเสี่ยวกังตกตะลึงและแน่นอนเธอก็เห็นจ้าวเสี่ยวกังเธอยิ้มให้เขาเบาๆคุยกับหลิวต้าโถวที่อยู่ข้างๆแล้วขึ้นห้องไป
"เสี่่ยวกังเดี๋ยวนายขึ้นไปรับเงินในห้องประทานหยวน ตั้งใจทำนะประทานหยวนดูนายอยู่"
หลังพูดจบหลิวต้าโถวตบไหล่จ้าวเสี่ยวกังและเดินตรงไปที่ห้องครัว
จ้าวเสี่ยงกังอยากถามว่าเมื่อกี้หยวนเซียงหลิงพูดอะไรแต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลิวต้าโถวแล้วเขารู้ดีถึงถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร สู้ขึ้นไปเลยดีกว่ารับเงินเสร็จจะได้รีบกลับไปดูหลี่ชุ่ยฮวาว่าเป็นยังไงบ้าง?
เมื่อเดินไปที่ห้องทำงานชั้นสาม จ้าวเสี่่ยวกังเคาะประตูเบา ๆ
"เข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อก"
เสียงเกียจคร้านดังมาจากห้องทำงานของหยวนเซียงหลิง ซึ่งทำให้จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกตื่นเต้น* เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อใดถึงจะมีน้ำเสียงแบบนี้ได้ โดยส่วนมากแล้วจะเกิดจากขึ้นหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้หญิงจะมีน้ำเสียงเช่นนี้
เมื่อเปิดประตูเข้าไป จ้าวเสี่ยวกังเดินด้วยความระมัดระวังเมื่อเห็นหยวนเซียงหลิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มองเขาด้วยสายทำมึนเมาๆเธอขยี้ตาเพื่อให้ตัวเองตื่น
"คุณหยวน ผมมารับเงิน"
"อืม ฉันเตรียมเงินไว้ให้นายแล้วนี่คือห้าพันหยวนลองนับดู"
หลังพูดจบ หยวนเซียงหลิงก็หยิบเงินก้อนหนึ่งออกมาจากลิ้นชักแล้วยื่นให้จ้าวเสี่่ยวกัง
"คุณหยวน ไม่ได้เยอะขนาดนี้คุณให้เยอะไป"
เมื่อเห็นการปฏิเสธของจ้าวเสี่ยวกังหยวนเซียงหลิงก็หัวเราะคิกคัก
"ให้นายรับนายก็รับไว้เงินนี่คือเงินที่นายควรได้ หลังจากหารือเราตกลงกันแล้วว่าราคาเห็ดเพิ่มขึ้นเป็นครึ่งโลห้าสิบหยวนฉะนั้นดูเหมือนฉันต่างหากที่ยังได้เปรียบ"
เมื่อหยวนเซียงหลิงเห็นจ้าวเสี่ยงกังไม่รับจึงลุกขึ้นเอาเงินยัดไปที่หน้าอกเขา
"คุณหยวน ผมไม่สามารถรับเงินนี้ได้ผมแค่ต้องการส่วนที่ผมควรได้"
จ้าวเสี่ยวกังปฏิเสธพร้อมบังท่าทางที่ยัดเงินให้ของเธอไว้
อ๊ะ……
ในขณะที่ทั้งสองต่างปฏิเสธกันไปมาเพราะจ้าวเสี่ยวกังที่ออกแรงหนักเกินไป ทำให้หยวนเซียงหลิงต้องถอยไปหลายก้าวและรองเท้าส้นสูงของเธอก็หักไป
จ้าวเสี่ยวกังเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ รีบคว้าหยวนเซียงหลิงไว้อย่างรวดเร็ว
"คุณหยวน คุณโอเคไหม"
ฟ่อ……
"เสี่่ยวกัง ข้อเท้าฉันน่าจะพลิก"
เมื่อเห็นหยวนเซียงหลิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด จ้าวเสี่ยวกังรู้ว่าเธอไม่ได้โกหก
จ้าวเสี่ยวกังรีบอุ้มเธอขึ้นมาแล้วค่อยๆวางลงบนโต๊ะ
หยวนเซียงหลิงไม่คิดว่าเขาจะอุ้มเธอขึ้นมาเลยดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเธอได้กลิ่นของความสดใสรับรู้ได้ถึงความปลอดภัยเมื่อกระทบหน้าอกอันแข็งแกร่งของเขาทำให้เธอสบายใจขึ้น.
"คุณหยวน อย่าขยับผมดูให้"
เมื่อสัมผัสกับการนวดเบาๆของจ้าวเสี่ยวกังหยวนเซียงหลิงเริ่มชอบความรู้สึกแบบนี้
เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้มาหลายปีแล้ว เหตุผลที่ทำไมเธอถึงมีบุคลิกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ล้วนแล้วเกิดจากสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับ
ผู้หญิงคนไหนบ้างที่เกิดมาก็แข็งแกร่ง? ผู้หญิงเปรียบเสมือนน้ำ แต่เมื่อพบเจอกับความเยือกเย็นก็ทำให้ตนเองค่อยๆเย็นชา
ขณะนี้จ้าวเสี่ยวกังเสมือนดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ สร้างความอบอุ่นแก่หยวนเซียงหลิงทำให้หัวใจที่แข็งทื่อของเธอค่อยๆละลายไป
จ้าวเสี่ยวกังค่อยๆยกเท้าข้างที่ส้นสูงหักของหยวนเซียงหลิงขึ้น ถอดส้นสูงออกมาอย่างเบาเบาเท้างามที่น่าดึงดูดของเธอยังทาสีแดงบนเล็บที่สวยงาม
เท้าขาวราวหิมะเรียบเนียนมาก และผิวบนฝ่าเท้าก็นุ่มเช่นกันจะมีก็แต่ส้นเท้าค่อนข้างแข็งทื่อน่าจะเกิดจากการที่สวมใส่ส้นสูงมานาน
เมื่อมองไปตรงข้อเท้าที่แดงและบวม จ้าวเสี่่ยวกังก็รู้ว่าขาเธอพลิกจริงๆ
จ้าวเสี่ยวกังกดไปข้อเท้าแดงบวมเบา ๆ หยวนเซียงหลิงเจ็บจนขหมวดคิ้วแต่เธอไม่ได้เปล่งเสียงออกมา
การต่อสู้ฟันฝ่าหลายปีที่ผ่านมาทำให้เธอทนกับความเจ็บปวดได้มากกว่าคนทั่วไป
"เสี่่่ยวกัง นายรักษาเป็นด้วยเหรอ"
หยวนเซียงหลิงต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเธอเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
แต่เธอเพิ่งพูดออกไป ความเจ็บปวดที่รุนแรงก็ทำให้เธอต้องกรีดร้องออกมา