ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 12 ซีชุนซิลกี้
มองไปที่ดวงตาที่พร่ามัวของซ่งยวี่ชิง ปากแดงจนน่าใจหาย เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของคนนั้นช่างสุขใจที่สุด หัวใจของจ้าวเสี่ยวกังมีความสุขอย่างมาก
เขาคิดมาตลอดว่าวันนี้มันน่าจะไกลมาก คิดไม่ถึงเลยว่าพี่สะใภ้จะยินยอม นอกจากนี้ยังตอบตกลงด้วยวิธีการอย่างกล้าๆกลัวๆ
"พี่สะใภ้ เสี่ยวกังจะไปเดี๋ยวนี้เลย คุณช่วยทนหน่อยนะ"
จ้าวเสี่ยวกังพูดไปด้วย พร้อมกับปลดเข็มขัดของตัวเองไปด้วย ยกสูงขึ้น เหมือนข้าวโพดบนซังในดินแบบนั้น ทะยานสู่ดวงอาทิตย์ชูสูงขึ้น
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซ่งยวี่ชิงพบเห็นแล้ว แต่ยังคงหนีบขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว แม้ว่าในหัวใจของเธออยากจะลองสัมผัสความรู้สึกนั้น แต่ว่าไอ้นั่นของจ้าวเสี่ยวกังนั้นใหญ่เกินไปแล้วจริงๆ ใหญ่จนเธอรู้สึกเริ่มกลัว
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังกระตือรือร้นและพร้อมที่จะเริ่มต้น พบไว้ซ่งยวี่ชิงหนีบขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่นแล้ว มองเขาด้วยความเขินอายและขมขื่น
แววตาแบบนี้จ้าวเสี่ยวกังไม่เคยเห็นจากบนตัวของซ่งยวี่ชิงมาก่อนเลย หน้าตาเขินๆที่เหมือนกับหญิงสาวที่โตเต็มวัยกำลังจะแต่งออกจากบ้านของหมู่บ้าน
"พี่สะใภ้ คุณไม่ใช่บอกว่าเปิดประตูใหญ่นั้นให้ฉันแล้วเหรอ?"
"เสี่ยวกัง พี่สะใภ้กลัวนิดหน่อย ไอ้นั่นของนายมันใหญ่มากเกินไปแล้ว พี่สะใภ้กลัวว่าจะรับไม่ไหว……"
ยังไม่ทันพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังได้จูบริมฝีปากสีแดงที่ทำให้น่าหลงใหลแล้ว สัมผัสลมหายใจอันร้อนแรงของจ้าวเสี่ยวกัง คิดถึงฉากที่มีความเขินอายในเมื่อกี้ ซ่งยวี่ชิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกอีกครั้งที่ด้านล่าง ในเวลาเดียวกันเธอค่อยๆเปิดริมฝีปากและร่องฟันให้จ้าวเสี่ยวกังสอดลิ้นเข้าไป
จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่าปลายลิ้นของเขาสัมผัสลิ้นที่อ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอมของซ่งยวี่ชิง กลิ่นหอมที่เย้ายวนใจที่ชวนให้คนน่าหลงใหลนั้นทำให้เขายิ่งอยากจะลิ้มลองมากขึ้น และความรุนแรงก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ซ่งยวี่ชิงก็กอดคอของจ้าวเสี่ยวกังเอาไว้แน่นอย่างช้าๆ เริ่มตอบโต้กลับอย่างช้าๆ
รู้สึกว่าเอวเรียวของซ่งยวี่ชิงบิดไปมาตลอดเวลา จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่าโอกาสมาถึงแล้ว จูบไซร้ไปที่คออย่างรวดเร็วทันที หลังจากนั้นจูบไซร้ลงมาข้างล่างตลอดทาง เขาต้องการถอดเสื้อผ้าของซ่งยวี่ชิงออก แต่ว่ากลับถูกมือที่ขาวราวกับว่าเป็นหยกสีเขียวของซ่งยวี่ชิงขัดขวางเอาไว้ ทันใดนั้นเขาก็ตรงไปยังขาที่ขาวเหมือนยกทั้งสองข้างนั้น
ซ่งยวี่ชิงสัมผัสได้ถึงขาทั้งสองข้างของเธอมีความรู้สึกเย็นๆชาๆส่งมา สั่นขึ้นมาทั้งตัวโดยตรง เธอไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกสบาย ๆ นั้นอย่างไร แต่เธอรู้วิธีแสดงออกด้วยเสียงครางที่ทำให้คนหลงใหลออกมา
"อื้ม…..เสี่ยวกัง อย่าจูบที่นั่น"
จ้าวเสี่ยวกังใช้ปลายลิ้นวนไปมาบนขาขาวหยกคู่นั้นเรื่อยๆ เขาจะไม่เข้าใจคำพูดของซ่งยวี่ชิงได้อย่างไร?
ผู้หญิงบอกว่าอย่านั่นก็คือต้องการ บอกว่าอย่าจูบที่นั่น นั่นก็คืออยากให้เขาจูบอย่างแน่นอน
มองดูสถานที่นั้นที่เป็นเหมือนกับผีเสื้อสีชมพู จ้าวเสี่ยวกังถอนหายใจเบาๆหนึ่งทีที่นั่น
แต่ว่าการหายใจนี้ กลับทำให้ซ่งยวี่ชิงหนีบขาทั้งคู่เอาไว้แน่นจนหนีบหัวของเขาไปด้วย ในเวลาเดียวกันมือที่หยกขาวคู่นั้นก็กำหัวของเขาเอาไว้แน่นเช่นกัน เอวยังคงบิดไปมาอย่างต่อเนื่อง
ในก่อนหน้านี้จ้าวเสี่ยวกังและซ่งยวี่ชิงอยู่ภายในบ้านล้วนแล้วมีความหวาดกลัวอยู่ในใจ ตอนนี้เขามีความกล้าอย่างมากกับสถานที่เปลี่ยวแห่งนี้โดยปราศจากผู้คน
มือทั้งคู่ค่อยๆจับลงไปบนหน้าอกที่อ่อนนุ่มทั้งคู่ของซ่งยวี่ชิง ในเวลาเดียวกันก็ค่อยๆยื่นลิ้นออกไปอย่างช้าๆเลียไปบนผีเสื้อเป็นวงกลม
"อ้าอ้า….เสี่ยวกัง นายอย่า……"
นับตั้งแต่หลังจากจ้าวเสี่ยวกังช่วยเอาแตงกวาออกมา ในคืนที่มืดมิดเงียบสะงัดซ่งยวี่ชิงจะนึกถึงความรู้สึกของการใช้แตงกวาช่วยตัวเองในวันนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อคืนเพื่อนบ้านอย่างหลี่ชุ่ยฮวากับผู้ชายของเธอทำจนส่งเสียงดังอย่างรุนแรงด้วยกัน เธอคิดถึงความรู้สึกที่จ้าวเสี่ยวกังมอบให้เธอมากยิ่งขึ้น
แต่ว่าในครั้งนี้รู้สึกว่ามันรุนแรงมากกว่าครั้งที่แล้ว และรู้สึกดีมากกว่า นับตั้งแต่เธอแต่งงานกับจ้าวต้าเป่ามาไม่เคยมีความรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ
"อ้า…..เสี่ยวกัง……นายอย่าหยุดนะ!"
ในเวลานี้ซ่งยวี่ชิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรออกมาบ้างแล้ว เธอรู้เพียงแค่ว่าจ้าวเสี่ยวกังเด็กคนนี้เอาแต่เล่นสนุกไม่หยุด ทำให้เธอรู้สึกถึงความรู้สึกที่หายไปนานอีกครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงครางที่มีความรู้สึกที่สับสนกระซิบดังออกมา จ้าวเสี่ยวกังรู้ได้ทันทีว่าในครั้งนี้เขาจะสามารถเข้าถึงตัวของพี่สะใภ้อย่างสมบูรณ์แล้ว หายใจเข้าลึกๆหนึ่งทีทันที ในทันทีร่างกายของซ่งยวี่ชิงก็แข็งทื่อโดยตรง ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังนอกจากนี้น้ำเสียงที่มีความสั่นของเธอดังออกมาจากปาก
"อ้า!"
"พี่สะใภ้ ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้ คุณอย่าเพิ่งใจร้อน"
เห็นใบหน้าที่สวยงามของซ่งยวี่ชิงก็เหมือนกับเห็นภูเขาที่สดใสน่าเชยชมแบบนั้น จ้าวเสี่ยวกังกลืนน้ำลายไปหลายที หลังจากนั้นก็แยกต้นขาใหญ่ของซ่งยวี่ชิงคู่นั้นแยกออกจากกันโดยตรง
มองเห็นไอ้นั่นที่ดุร้าย จ้าวเสี่ยวกังที่มองดูอยู่ก็แอบด่าอยู่ในใจ แทบจะรอไม่ไหวมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ
แปะ…….
แปะ…..
ทันใดนั้น เสียงร้องของแพะดังมาจากใต้ภูเขา สิ่งนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังขมวดคิ้ว ฟาร์มบนภูเขาแห่งนี้ล้วนแล้วถูกเขาทำสัญญาเช่าทั่วทั้งภูเขาแล้วคาดไม่ถึงยังมีคนกล้ามาเลี้ยงแกะอีก?
ซ่งยวี่ชิงก็ถูกเสียงแพะร้องนี้ทำให้มีสติขึ้นมาเช่นกัน มองไปที่ไอ้นั่นที่น่าสะพรึงกลัวของจ้าวเสี่ยวกัง ซ่งยวี่ชิงอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย ทั่วทั้งร่างกายมีความประหม่าเล็กน้อย
จ้าวเสี่ยวกังเข้าใจดีว่าวันนี้เรื่องที่มีอะไรกับพี่สะใภ้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้ว ภายในใจที่โกรธเป็นไฟยิ่งไม่ต้องพูดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่เห็นซ่งยวี่ชิงใส่กางเกงเสร็จแล้ว ภายในใจแทบรอไม่ไหวอยากจะลงภูเขาไปฆ่าคนเลี้ยงแกะทันที
"พี่สะใภ้ คุณช่วยรอฉันตรงนี้ก่อนนะ ฉันจะไปดูว่าใครเอาแกะมาเลี้ยงตรงนี้"
ซ่งยวี่ชิงก้มหัวและมีใบหน้าแดงก่ำไม่กล้ามองไปทางจ้าวเสี่ยวกัง พยักหน้าเบาๆแล้วพยักหน้าพูด :"อย่างนั้นนายรีบไปรีบกลับนะ อย่าไปทะเลาะกับคนอื่น"
เมื่อได้ยินซ่งยวี่ชิงเป็นห่วงแบบนี้ หัวใจของจ้าวเสี่ยวกังอบอุ่นในทันที เมื่อก่อนพี่สะใภ้เอาแต่เย็นชาและไม่สนใจเขา คิดไม่ถึงเลยว่าในครั้งนี้จะเริ่มเป็นห่วงเขาแล้ว อดไม่ได้ที่จะทำให้จ้าวเสี่ยวกังคิดไปต่างๆนาๆ ลงไปในครั้งนี้เขายังมีโอกาสที่จะมีอะไรกับพี่สะใภ้อย่างแน่นอน
"พี่สะใภ้ คุณสบายใจได้ ฉันไม่มีทางทะเลาะกับคนอื่นแน่นอน คุณจะต้องรอฉันนะ อย่าวิ่งไปเรื่อย บนภูเขาแห่งนี้ไม่แน่อาจจะมีอะไรบางอย่างนอกจากงูอยู่นะ"
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังพูดเช่นนี้ก็รีบสวมกางเกงและรีบลงจากภูเขา
มองดูแผ่นหลังที่ร่าเริงของจ้าวเสี่ยวกัง ภายในใจของซ่งยวี่ชิงถอนหายใจเบาๆ แต่ว่าจู่ๆกลับรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองดีขึ้นมากอย่างมากเลย หรือว่าบางทีตัวเองอาจจะติดนิสัยของจ้าวเสี่ยวกังมาแล้ว
จ้าวเสี่ยวกังยังไม่ทันลงจากภูเขา หยุดก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เพราะเครื่องหมายสีน้ำเงินที่คอแกะภูเขานั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นแกะภูเขาของครอบครัวตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจ้าวโหย่วเทียนได้ปีนขึ้นมาถึงแล้ว
"ไอ้เด็กเวร นายมาทำอะไรอยู่บนภูเขา? เสียงผู้หญิงที่ดังมาในเมื่อกี้เป็นของใคร?"