ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 163 โมโห
เมื่อเห็นใบหน้าที่พอใจของโจวหรานฮวา อู๋ต้าเฉียวก็อยากรู้ว่าโจวหรานฮวามีความคิดอะไรกันแน่
"พี่หรานฮวา พี่กับฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว ยังมีความคิดอะไรที่จะรั้งหมอนั้นไว้ล่ะ"
โจวหรานฮวามองสายที่คาดหวังของอู๋ต้าเฉียวแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า "ง่ายมาก ฉันเตรียมที่จะแนะนำถิงถิงให้เขา แม้ว่าถิงถิงอายุมากกว่าเขา แต่ว่าถิงถิงนั้นก็ถือว่าคู่ควรกับเขา"
หลังจากพูดจบ โจวหรานฮวาก็หรี่ตา แล้วทำหน้าได้ใจ
อู๋ต้าเฉียวคิดไม่ถึงเลยว่าแผนการที่โจวหรานฮวาคิดไว้จะเป็นแบบนี้ แต่เมื่อคิดถึงหน้าตาของจ้าวถิงถิงและการศึกษาของเธอ เลยทำให้เธอกังวลขึ้นมา
"พี่หรานฮวา ถิงถึงจะชอบเสี่ยวกังหรือ?อีกอย่างต่อให้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว พี่ที่เป็นแม่จะใช้ของรวมกับ…"
คำที่เหลืออู๋ต้าเฉียวไม่ได้พูดออกมา แต่โจวหรานฮวารู้ว่าอู๋ต้าเฉียวจะพูดอะไร
"น้องสาวที่รัก เธอกำลังคิดอะไรน่ะ? ฉันจะไปแย่งกับถิงถิงได้ยังไง? ตามความแข็งแกร่งเสี่ยวกังแล้ว ลูกถิงถิงรับไม่ไหวแน่นอน ในตอนนี้ฉันก็มาช่วยลูกสาวของฉันใครจะว่าอะไรได้? "
เมื่อโจวหรานฮวาพูดแบบนี้ สายตาของอู๋ต้าเฉียวก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
เพียงเมื่อคิดถึงแผนการที่โจวหรานฮวาต้องาการจะเก็บจ้าวเสี่ยวกังไว้ใช้กับลูกสาวเธอก็รู้สีกไม่ค่อยสบายใจ
"พี่หรานฮวา ถ้างั้นฉันก็ยินดีกับพี่ก่อน ถ้าถึงเวลานั้นอย่าลืมน้องสาวคนนี้ก็แล้วกัน"
หลังจากพูดจบอู๋ต้าเฉียวก็ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย เพราะว่าคำพูดนี้เธอต้องกัดฟันพูด แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกก่อนหน้านี้ อู๋ต้าเฉียวก็เข้าใจว่า ถ้าพลาดโอกาสครั้งนี้เธอจะต้องพลาดไปตลอดชีวิต
โจวหรานฮวาก็คิดไม่ถึงว่าอู๋ต้าเฉียวจะกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา ก็ยิ้มทันทีและบีบไปที่หน้าอกของอู๋ต้าเฉียวไปหนึ่งที
"ฮ่าๆๆๆ …..ดูไม่ออกเลยว่าเธอก็คิดเหมือนกัน เธอรักนวลสงวนตัวมากไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงทนไม่ไหวแล้วล่ะ?"
"อืม เมื่อนึกถึงความรู้สึกเมื่อกี้เกรงว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็คงจะทนไม่ไหว พี่หรานฮวาก็กังวลมากกว่าฉันอีก ถึงกับคิดแผนในตัวของลูกสาว"
เมื่อโจวหรานฮวาได้ยินแบบนี้ก็กลอกตาให้กับอู๋ต้าเฉียวแล้วพูดว่า"ฉันก็เพื่อลูกถิงถิงของฉัน ผู้หญิงอย่างเราต้องการอะไรล่ะ?ก็ไม่ใช้ผู้ชายที่จะดูแลเราไปทั้งชาติอย่างนั้นหรือ?หรือว่ายังคิดจะให้ลูกตัวเองไปครองลูก ฉันดูเสี่ยวกังแล้วก็ดีมาก รู้จักหน้าที และดูแลคนเป็น ที่สำคัญที่สุดคือเกรงว่าของของเขาคงหาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้"
เมื่ออู๋ต้าเฉียวได้ยินแบบนี้ ก็รู้สึกขึ้นมา และเมื่อนึกถึงลูกสาวของตัวเองก็ใจสั่นเล็กน้อย
ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกันในถ้ำครู่หนึ่ง จ้าวเสี่ยวกังก็ได้ขนเห็ดสนเข้ามาในถ้ำอีกครั้ง
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังเสร็จงาน เขาอดไม่ได้ที่จะมองเห็นถุงน่องผ้าไหมบนพื้นและชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ก็มมีไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เมื่อเขาเห็นทั้งสองคนประคองตัวกันลุกขึ้นมาไฟในตัวก็ดับไปอย่างสิ้นเชิง
"หึๆๆ น้าทั้งสองคน ฉันส่งพวกน้ากลับบ้านนะ อยู่ในถ้ำเดี๋ยวจะเป็นหวัด และถ้ากลับสายเกรงว่าน้าอู๋และน้าจ้าวที่บ้านจะคิดมาก
ขณะที่จ้าวเสี่ยวกังพูด เขาเริ่มเก็บถุงน่องบนพื้นและเตียงและชุดชั้นในที่ขาด
โจวหรานฮวาและอู๋ต้าเฉียวมองดูท่าทางการที่จริงจังของจ้าวเสี่ยวกัง ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ในขณะเดียวกันสายตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
"เสี่ยวกัง ไม่ต้องเก็บแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าฉันมาเก็บ"
"หึๆๆ น้าอู๋ ฉันชินแล้ว อีกอย่างของพวกนี้ถ้าคนอื่นมาเห็นมันจะไม่ดี เก็บแล้วสบายใจดีกว่า ไม่งั้นก็เอาแต่กังวลว่าจะมีคนเห็น เวลานอนแล้วนอนไม่หลับ"
หลังจากพูดแบบนี้ จ้าวเสี่ยวกังก็เก็บผ้าปูที่นอนแล้วประคองทั้งสองคนออกจาถ้ำไป
หลังจากล็อกประตูถ้ำแล้ว จ้าวเสี่ยวกังก็พาทั้งสองคนกลับบ้านไป
เมื่อมองไปที่เก้าอี้ที่จ้าวเสี่ยวกังเตรียมไว้บนหลังรถ โจวหรานฮวาและอู๋ต้าเฉียวมองการใส่ใจรายละเอียดของจ้าวเสี่ยวกังใหม่
หลังจากส่งอู๋ต้าเฉียวกลับบ้านก่อน จากนั้นจ้าวเสี่ยวกังก็ส่งโจวหรานฮวากลับไป
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยและกลับถึงบ้านแล้วก็เป็นเวลาประมาณตีสอง จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกเหนื่อยล้า กลับไปก็นอนทันที
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จจ้าวเสี่ยวกังก็ถ้าจ้าวโหย่วเทียนเกี่ยวกับเห็ดเมื่อวันว่าฝากไว้ที่ไหน จากนั้นก็ไปตามเก็บ
เมื่อเขามาถึงบ้านของเฉินฉางฉู่ จ้าวเสี่ยวกังขมวดคิ้ว เพราะจ้าวโหย่วเทียนบอกกับจ้าวเสี่ยวกังว่าที่บ้านของเฉินฉางฉู่มีเห็ดสนอยู่หนึ่งตะกร้า แต่เฉินฉางฉู่เอาออกมาแค่ครึ่งตะกร้าทั้งนั้น ก็เลยทำให้จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกเดือด
หลังจากที่เฉินฉางฉู่ได้เงินอย่างง่ายดายจากจ้าวเสี่ยวกังไปหนึ่งหมื่น ก็รู้สึกก้าวร้าว และไม่เห็นเด็กอย่างจ้าวเสี่ยวกังอยู่ในสายตาเลย
ยิ่งกว่านั้น เขายังดูถูกพ่อลูกตระกูลจ้าวทั้งสองคน และเมื่อคืนที่รับปากให้จ้าวโหย่วเทียนเก็บเห็ดไว้ที่บ้านเขา เขาก็มีแผนขึ้นมา
เห็ดสนหนึ่งโลราคาสิบห้า ถ้าเขาเอาออกมาสักห้าโลสิบโลมันก็เป็นเงินหลายร้อยแล้ว อีกอย่างแม้ว่าเขาจะไว้คนเดียวจ้าวเสี่ยวกังก็ไม่มีหลักฐานอะไร เพราะเห็ดพวกนั้นเขาได้เก็บไว้ที่บ้านเมียเขาแล้ว และเป็นการเอาไปเก็บไว้ตอนดึก
น้าเฉิน พ่อของฉันบอกว่าได้ฝากเห็ดไว้เต็มตะกร้า นี่ก็มีแค่ครึ่งตะกร้า น้าคิดจะรังแกฉันเพราะฉันเด็กหรือรังแกเพราะฉันโง่?"
"หึๆ เสี่ยวกัง เธอไม่รู้หรอก เห็ดเมื่อใส่ในตู้เย็นมันจะหดลง อีกอย่างเมื่อคืนมืดขนาดนั้นไม่รู้ว่าพ่อของเธอทำเห็ดร่วงไปเท่าไหร่? ที่นี่มีแค่พวกนี้แหละ ถ้าไม่เชื่อเข้าไปดูในบ้านก็ได้"
เมื่อเห็นใบหน้าที่ไร้ยางอายของเฉินฉางฉู่ จ้าวเสี่ยวกังก็กำหมัดและอยากจะเข้าไปชกหน้าอีกฝ่าย
แต่หลังจากคิดแล้วเขาก็อดทนไว้
"น้าเฉิน ขอให้น้าเพราะเก็บเมล็ดงาแล้วเสียแตงโมนะ ของของน้ายังไงก็เป็นของของน้า ถ้าไม่ใช่เกรงว่าเอาไปแล้วก็ไม่ใช่ของน้าอยู่ดี "
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็แบกเห็ดครึ่งตะกร้าแล้วเดินออกไปด้วยความโกรธ
เมื่อเฉินฉางฉู่เห็นสีหน้าไม่พอใจของจ้าวเสี่ยวกังเขาก็รู้สึกมีความสุข
"หึๆๆ เสี่ยวกัง น้าเฉินของเธอไม่ใช่คนที่จะเอาเปรียบเธอหรอก ถ้ามีก็ให้เธอแล้ว แต่มันไม่มีจริงๆ"
หลังจากได้ยินแบบนี้ ก็หยุดและหันกลับมาแล้วมองเฉินฉางฉู่อย่างเย็นชาแล้วพูดว่า"หวังว่าน้าจะจำคำพูดของตัวเองในวันนี้ไว้นะ ฉันขอพูดตรงนี้เลย ของของฉันจ้าวเสี่ยวกังไม่ได้เอาง่ายขนาดนั้นแน่นอน"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็หันหน้าแล้วก็เดินออกจากประตูด้วยความโมโห
แต่ทันทีที่เขาเดินออกจากประตู เขาก็รู้สึกชนกับอะไรที่นุ่มนวล
เอ๊ย…
"โอ้….เสี่ยวกัง เธอจะชนฉันให้ตายเลยใช่ไหม เดินไม่มองอะไรเลยใช่ไหม?"
เมื่อเห็นหญิงสาวอ้วนล้มลง เมื่อเห็นสายตาแบบนั้น จ้าวเสี่ยวกังก็รู้สึกโมโห เธอคนนี้เป็นเมียของเฉินฉางฉู่ จ้างชุ่ยหลิน ถ้าสองคนมีนิสัยเหมือนกัน เห็นใครก็กัด
แม้ว่าจ้าวเสี่ยวกังจะเกลียดทั้งสองคน แต่เขาก็ยังเอื้อมมือออกไปช่วยดึงจ้างชุ่ยหลินขึ้น แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจ้างชุ่ยหลินลุกไม่ขึ้น
"อา… ชนแรงจะตายแล้ว แขนฉัน เอวฉันหักแล้วมั่ง…"