ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 18 เซอร์ไพรส์ไม่อันตราย
มองดูซุนหรานหรานใบหน้าแดงก่ำนอนอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองด้วยแขนขาอ่อนแรง จ้าวเสี่ยวกังหัวเราะอยู่ภายในใจ รู้สึกได้ว่าเริ่มได้ที่แล้ว
"พี่สาว ตอนนี้พวกเราเข้าไปในห้องกันดีกว่า? คุณดูสิมันเริ่มโตขึ้นแล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะต้องระเบิดแน่เลย"
จ้าวเสี่ยวกังพูดไปด้วย พร้อมกับนำมือเล็กของซุนหรานหรานมาวางตรงใต้ท้องจุดสำคัญของตัวเอง
แม้ว่าจะมีกางเกงขวางอยู่ แต่ว่าซุนหรานหรานยังคงสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านใน สีหน้าเริ่มแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เสี่ยวกัง คืนนี้ดีกว่านะ พี่ชายต้าจ้วงของนายใกล้จะกลับมาแล้ว คืนนี้พี่สาวจะให้นายทั้งหมดเลยตกลงไหม?"
"พี่สาว คุณสบายแล้วแต่ฉันยังรู้สึกอึดอัดอยู่เลย ถ้าหากคืนนี้คุณไม่ไปฉันเสียเปรียบอย่างมากเลยใช่ไหม คุณให้ฉันลองดูสักคำถือว่าเป็นดอกเบี้ยเป็นยังไง?"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังต้องการถอดเสื้อผ้าโปร่งใสชุดนั้นของซุนหรานหรานออก จริงๆแล้วต่อให้เขาไม่ถอดออกก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในเมื่อกี้เหงื่อหอมของซุนหรานหรานออกทำให้ชุดโปร่งใสนั้นเปียกจนสามารถมองเห็นได้ทุกอย่างแล้ว
ซุนหรานหรานรู้ว่าไม่สามารถห้ามจ้าวเสี่ยวกังได้ แต่ยังคงแสร้งทำเป็นขัดขืนไว้สักหน่อย
"เสี่ยวกัง อย่าทำแบบนี้ เมื่อกี้วิญญาณของพี่สาวเกือบจะถูกนายทำให้บินออกไปแล้ว ถ้าหากนายยังทำแบบนั้นกับพี่สาวอีก เกรงว่าวันนี้คงไปทำงานที่สวนไม่ไหวแล้ว"
"อิๆๆ พี่สาว ฉันไม่สน ฉันก็แค่ต้องการชิมดูสักคำ ฉันก็ทำจนวิญญาณของพี่สาวเกือบจะบินออกไปแล้ว คุณทำให้ฉันแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว เพียงแค่คำขอร้องเล็กๆแค่นี้คุณก็ทำให้ฉันไม่ได้งั้นเหรอ?"
มองดูท่าทางที่โศกเศร้าของจ้าวเสี่ยวกังนั้น ซุนหรานหรานใจอ่อนอย่างช่วยไม่ได้
"นายเป็นเหมือนเพื่อนตัวน้อยของพี่สาว นายชิมดูหนึ่งคำก็พอแล้วนะ อย่ามาได้คืบจะเอาศอกกับพี่สาวนะ"
ซุนหรานหรานพูดแบบนี้ไปด้วย พร้อมกับขยิบตาถลกเสื้อผ้าขึ้นไปด้วย
ภายใต้การส่องของดวงอาทิตย์ ทิวทัศน์สีขาวราวกับหิมะนั้นช่างงดงามเป็นพิเศษ หน้าท้องที่แบนราบนั้นยังสามารถมองเห็นเส้นหน้าท้องนั้นได้อย่างชัดเจน
"นายรีบชิมเลยนะ ยังอึ้งอยู่ทำไหม?"
จ้าวเสี่ยวกังคืนสติกลับมาด้วยเสียงของซุนหรานหราน มองดูหน้าอกคู่นั้นที่ขาวราวกับหิมะ ทันใดนั้นน้ำลายไหลพักออกมา
พู่……
จ้าวเสี่ยวกังรีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่พูดไร้สาระอะไรแล้วดูดไปที่หน้าอก ร่างกายของซุนหรานหรานสั่นสะท้านอีกครั้งโดยไม่สามารถควบคุมได้
ความรุนแรงของเขารุนแรงยิ่งกว่าความรุนแรงของหลิวต้าจ้วงมาก ถูกจ้าวเสี่ยวกังจู่โจมอย่างกะทันหันแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าซุนหรานหรานจะรู้สึกได้ถึงความสุขที่แตกต่างกันออกไป ความสุขแบบนั้นก็เหมือนได้ลองทานผักดองก่อนกินซาลาเปาแบบนั้น
และสิ่งที่จ้าวเสี่ยวกังทำในเวลานี้คือทำให้เธอได้ลิ้มรสของดอง
"เสี่ยวกัง…..พอได้แล้ว"
ซุนหรานหรานต่อต้านความอยากนั้น แล้วผลักจ้าวเสี่ยวกังออกจากร่างกาย แต่ว่าจ้าวเสี่ยวกังดูดเอาไว้แล้ว จะสามารถถอนปากออกง่ายๆได้ยังไงกัน
ความนุ่มนั้นนุ่มเหมือนกับบัตเตอร์เค้ก ทำให้จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะยื่นลิ้นออกมา
"อ้า……อย่าเลียนะ"
ซุนหรานหรานคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเสี่ยวกังแม้ว่ายังเด็ก แต่กลับสามารถเล่นลูกไม้แบบนี้ได้ ด้วยการกระทำด้วยลิ้นของจ้าวเสี่ยวกัง เธอรู้สึกว่าความสุขนั้นได้กลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกนั้นทำให้เธอยากที่จะปฏิเสธได้เล็กน้อย
เมื่อเวลาที่จ้าวเสี่ยวกังเตรียมจะจู่โจมรอบใหม่โดยการใช้มือล้วงลงไปข้างล่างอีกครั้ง ทันใดนั้นเสียงของหลิวต้าจ้วงก็ดังมาจากข้างนอกประตู
"จางฟู่กุ้ยนายกำลังจะไปไหนเหรอ? ไม่ใช่ว่าไปแอบดูซ่งยวี่ชิงอาบน้ำอีกแล้วนะ?"
"เวร นายมันคนปากเสีย นายไม่อายหรือยังไงที่พูดแบบนี้? นายรู้บ้างหรือเปล่าเป็นเพราะว่าเรื่องนี้ภรรยาที่บ้านของฉันทุกคืนล้วนแล้วต้องการทำแบบนั้น ตอนนี้ฉันเดินก็รู้สึกเริ่มขาอ่อนแล้ว หลังจากนี้ไปไม่ต้องพูดถึงเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะบอกหรานหรานของบ้านนาย ให้เธอมีอะไรกับนายทุกคืน ให้นายลองดูการเดินที่ไม่มีแรงเป็นยังไง"
"ฮ่าๆๆ นั่นเป็นเพราะว่านายไม่ได้เรื่องไง ฉันนั้นร้ายกาจมากเลยนะ"
ภายในบ้าน ซุนหรานหรานและจ้าวเสี่ยวกังล้วนแล้วตกใจอย่างมาก ซุนหรานหรานรีบกลับเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหนึ่งชุด จ้าวเสี่ยวกังกำลังทำความสะอาดเห็ดสนบนพื้น ในเวลาเดียวกันเดินไปตรงประตูอย่างเงียบๆและเปิดประตูบ้าน
แกร็กแกร็ก…….
ประตูถูกเปิดโดยตรงโดยหลิวต้าจ้วง เขามองเห็นจ้าวเสี่ยวกังที่กำลังก้มเก็บเห็ดสนด้วยความตะลึง
"เสี่ยวกัง นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"
"อิๆๆ พี่ชายต้าจ้วง ฉันเก็บเห็ดสนมากมายจากบนภูเขาแล้วจะเอามาแบ่งให้คุณกิน แต่ว่าพี่สาวบอกว่าไม่เอา เลยทำให้ตกกระจายไปทั่วพื้นเลย ต่อจากนั้นอยากจะยืมรถมอเตอร์ไซค์ของบ้านคุณสักหน่อย ฉันอยากจะเข้าเมืองเพื่อขายเห็ดสน หาเงินสักหน่อยเพื่อมาแต่งงาน"
เมื่อเห็นใบหน้าธรรมดาๆ ของจ้าวเสี่ยวกัง หลิวต้าจ้วงก็ไม่ได้สงสัยอะไร
"อื้ม พี่สาวของนายรู้สึกว่านายก็หามาไม่ได้ง่ายๆก็เลยไม่ต้องการไง เด็กอย่างนายก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ ต้องดูแลคุณพ่อและคุณแม่ของนายและยังต้องดูแลพี่สะใภ้ของนายอีก หลังจากนี้ไปต้องการใช้อะไรก็มาเอาไปใช้ได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจกับฉัน"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังรู้สึกละอายใจเล็กน้อยกับคำพูดของหลิวต้าจ้วง ท้ายที่สุดแล้วเมื่อกี้เขายังมีการเล่นกับพี่สาวและยังชิมหน้าอกอีก
ซุนหรานหรานหยิบถังขยะออกมาจากห้อง ด้วยท่าทางที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย และพูดบ่น :"พี่ชายต้าจ้วงของนายพูดถูก หลังจากนี้ต้องการใช้อะไรก็มาเอาไปใช้ได้เลยนะ เมื่อกี้พี่สาวบอกว่าไม่เอา นายยังต้องการให้อีก ทำให้ตกกระจายไปทั่ว ใช้ที่ตักผงเก็บน่าจะเร็วกว่านะ"
"ขอบคุณพี่สาว ขอบคุณพี่ชาย"
จ้าวเสี่ยวกังรับที่ตักผงมาและเก็บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่กล้ามองหลิวต้าจ้วงเล็กน้อย กลัวว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นอะไร
ซุนหรานหรานนั่งยองๆและเริ่มเก็บกวาดกับจ้าวเสี่ยวกังด้วยกันจนเสร็จ หลิวต้าจ้วงไปที่ลานหลังบ้านและเข็นมอเตอร์ไซค์ออกมา
บังเอิญเหลือบมองไปเห็นหน้าอกที่ขาวราวกับหิมะคู่นั้นของซุนหรานหรานผ่านคอเสื้อ จ้าวเสี่ยวกังยังคงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำหนึ่งคำ
หลิวต้าจ้วงขมวดคิ้วหนึ่งที แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ในสายตาของเขาจ้าวเสี่ยวกังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงแค่เด็กผู้ชายคนจนคนหนึ่งที่ต้องดูแลครอบครัวตั้งแต่เนิ่นๆ
"พี่ชายต้าจ้วง เห็ดสนเหล่านี้คุณจะต้องรับเอาไว้นะ ถ้าหากคุณไม่รับไว้ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่มายืมรถมอเตอร์ไซค์อีกแล้ว"
เมื่อเห็นว่าจ้าวเสี่ยวกังมีท่าทางที่จริงจัง หลิวต้าจ้วงถอนหายใจหนึ่งที และพูด :"ตกลง พี่ชายจะเก็บเอาไว้ นิสัยที่ดื้อรั้นของนายพี่ชายนั้นรู้อยู่แล้ว เพื่อพี่สะใภ้คนนั้นของนายแล้ว นายต้องไปทุบตีกับคนในหมู่บ้านของพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า นายรีบไปทำธุระได้แล้ว ฉันกับพี่สาวของนายยังคงต้องพักผ่อนเตรียมจะไปทำงานที่สวนสักหน่อย"
"โอเค พี่ชายต้าจ้วงไปทำงานเย็นหน่อยน่าจะดีกว่านะ แสงแดดเป็นพิษเกินไปและเป็นลมแดดได้ง่าย ฉันขอไปก่อนนะ"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็สตาร์ทมอเตอร์ไซค์และขับไปที่บ้านของซ่งยวี่ชิงโดยตรง ช่วงเวลาที่หลิวต้าจ้วงกลับมาในเมื่อกี้ ทำให้เขาตกใจอย่างมากจริงๆ แม้ว่าเขาจะไม่กลัวฝ่ายตรงข้าม แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นการทำเรื่องที่ผิดต่อคนอื่น ภายในใจรู้สึกละอายใจ
"เห้อ ถ้าหากว่าฉันบอกว่าขอยืมพี่สาวไปใช้สักหน่อย ไม่รู้ว่าพี่ชายต้าจ้วงจะมีความยินดีแบบนี้หรือเปล่า"
จ้าวเสี่ยวกังเพียงแค่คิดเรื่องเหล่านี้ภายในใจ แต่ไม่ได้มีการพูดออกมา ในไม่ช้าเขาก็มาถึงหน้าประตูบ้านของซ่งยวี่ชิง
ทันทีที่ขับมาถึงหน้าประตู คาดไม่ถึงว่ากลางวันแสกๆเขาจะมองเห็นจางฟู่กุ้ยก้มๆเงยๆหลบอยู่ตรงหน้าประตูของพี่สะใภ้ แอบมองดูจากรอยแยกตรงประตูเข้าไป นอกจากนี้ยังมีการหัวเราะเป็นระยะ
สิ่งนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังโกรธอย่างมาก