ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 107 พัฒนาชุมชน
อารมณ์เสน่หาของหลี่ชุ่ยฮวาที่มาอย่างกะทันหันทำให้เขาตั้งหลักไม่ทัน เพราะฉากที่เธอกอดจางฟู่กุ้ยแล้วร้องไห้ยังชัดเจน
"พี่ชุ่ยฮวา ทำให้พี่ไม่อยู่กับน้าฟู่กุ้ยล่ะ?"
"หย่าแล้ว ฉันได้พูดคุยกับเขาแล้ว เขาตอบตกลงแล้ว"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่ชุ่ยฮวาพูด จ้าวเสี่ยวกังก็ตะลึง และถามว่า"พี่พูดเรื่องของเราออกมาแล้วหรือ?"
"พี่บ้าอะไรน่ะ? เบาๆหน่อย"
หลี่ชุ่ยฮวาตีจ้าวเสี่ยวกังเบาๆ และพูดเบาๆ
"ในสายตาคุณฉันโง่ขนาดนั้นเลยหรือ วางใจได้ ทุกอย่างพี่รับเอง คุณไม่ต้องห่วง หลังจากนี้พี่ไม่มีที่พักแล้ว คงจะต้องมาขออาศัยพี่สะใภ้คุณอยู่ แต่ว่าถ้าเวลาคิดถึงคุณไม่รู้ว่าคุณจะมาหรือเปล่า"
จ้าวเสี่ยวกังเข้าใจที่หลี่ชุ่ยฮวาพูดว่าคิดถึงคือคิดถึงอะไร ก็เลยหัวเราะหึๆ เขาก็ยื่นมือคู่นั้นจับไปที่แตงโมของอีกฝ่ายไปหนึ่งที
"หึๆๆ แค่พี่ชุ่ยฮวาคิดถึงฉันจะมาทันที แต่ว่าถ้าพี่สะใภ้ยวี่ชิงเห็นแล้วจะไม่ดี"
"หึๆๆ….คุณกล้าจับเลยหรือ วางใจได้ คืนนี้มาเลย พี่จะช่วยคุณจัดการพี่สะใภ้ของคุณ ดีไหม?"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชุ่ยฮวา ดวงตาของจ้าวเสี่ยวกังก็สว่างขึ้นทันที
"พี่ชุ่ยฮวา พี่อย่าหลอกกันนะ ฉันเอาจริงนะ "ขณะที่พูด ลมหายใจของจ้าวเสี่ยวกังก็แรงขึ้นมา
เพราะสำหรับซ้งยวี่ชิงเธอเฝ้ารอมาไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว แม้ว่าจะชอบอีกฝ่ายมาก อีกฝ่ายก็ชอบเขา แต่ก็ยังไม่เคยประกาศให้คนอื่นรู้ และเขาก็หาโอกาสจะจัดการอีกฝ่าย แต่ทุกครั้งโอกาสก็หลุดลอยไปทุกครั้ง
โดยเฉพาะครั้งที่อยู่บนภูเขา เขาเสียดายทุกครั้งที่คิดถึง ถ้ารู้แบบนั้นก็จัดการพี่สะใภ้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว ไม่งั้นคงจะไม่เป็นแบบนี้ที่พี่สะใภ้ยังวางใจไม่ลง
เวลาเจอพี่สะใภ้ทุกครั้ง เธอก็ตั้งใจที่จะรักษาระยะห่าง
"อย่ากังวลไป พี่ชุ่ยฮวาเคยหลอกคุณหรือ วันนี้แค่มาก็มีโอกาส ฉันเข้าไปก่อนนะ""
ขณะที่เขาเดินเข้าไป หลี่ชุ่ยฮวาก็จับไปที่เป้าของจ้าวเสี่ยวกัง จากนั้นแสร้งทำเป็นว่าน่าสงสารและเดินเข้าไปในบ้าน
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นท่าทางที่น่าสงสารของหลี่ชุ่ยฮวา เขาแทบอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและดูแลเขา ไม่ต้องพูดถึงซ้งยวี่ชิงสะใภ้ใจดีของเขา
มองไปที่รถสามล้อที่ประตู จ้าวเสี่ยวกังก็เข้นรถสามล้อเข้าไปในลานของ จางฟู่กุ้ยโดยตรงแล้วทักทาย
ในตอนแรกจ้าวเสี่ยวกังจะให้เงินจางฟู่กุ้ยหลายร้อย แต่เมื่อนึกถึงศักดิ์ศรีของจางฟู่กุ้ย เขาก็ลบความคิดนี้ออกไป แค่พูดทักทาย แล้วก็จากไป
ส่วนเรื่องที่จางฟู่กุ้ยจะทำอะในห้อง จ้าวเสี่ยวกังก็ไม่ได้สนใจอะไร
จางฟู่กุ้ยมองหลังของจ้าวเสี่ยวกัง มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก แต่เมื่อนึกถึงคนที่เป็นต้นเหตุอย่างหวังป้าเทียนและสวี่เอ่อหนิว สายตาของจางฟู่กุ้ยก็เกิดความแค้นขึ้นมา และมือที่ทำงานอยู่ก็เร็วขึ้น
จ้าวเสี่ยวกังนึกถึงคำสัญญาของหลี่ชุ่ยฮวา ในใจก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเขาจะได้จัดการพี่สะใภ้ที่เขาโหยหามานาน เขาแทบอยากให้ถึงตอนกลางคืนเลยทันที
เมื่อเขากลับบ้าน จ้าวเสี่ยวกังคว้าไม้และวิ่งตรงไปยังบนภูเขา ฮัมเพลงไปตลอดทาง ตั้งตารอการมาถึงของค่ำคืน
ทันทีที่เขาเดินออกจากทางเข้าหมู่บ้าน จ้าวเสี่ยวกังได้พบกับจ้าวหวู่ที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับไปที่หมู่บ้าน
"น้าจ้าว นี่จะประชุมอีกแล้วเหรอ?"
"ใช่ มีการประชุมในเมืองตลอด เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาชนบทใหม่ เราอยู่ในชนบทนี้มาหลายปีแล้ว เราจะสร้างใหม่ได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉันเหรอ?"
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวหวู่ จ้าวเสี่ยวกังก็ผงะแล้วเขาก็หัวเราะ
"น้าจ้าว การพัฒนาชนบทใหม่ไม่ได้หมายถึงการสร้างบ้านใหม่ แต่เป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ เช่น ไม่ทำสวน แต่ปลูกผัก ปลูกผลไม้ หรือพัฒนาด้านอื่นๆ"
จ้าวหวู่ตบหัวของเขาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังและตระหนักได้ในทันใด
"ฉันก็ว่า บ้านในหมู่บ้านเราเยอะขนาดนี้จะสร้างใหม่ได้ยังไง ที่แท้ความหมายเป็นแบบนี้ ตอนนั้นฉันก็ไม่กล้าถามผู้นำ ก็เลยแกล้งเข้าใจ โชคดีที่ได้พอกับคุณ ไม่งั้นคืนนี้ฉันนอนไม่หลับแน่ๆ"
"หึๆๆ น้าจ้าว อย่าถ่อมตัวเลย หมู่บางจื่อแห่งนี้มีน้าเป็นผู้นำตั้งแต่ที่ฉันจำความได้ หลายปีมานี้คนในหมู่บ้านยังเลือกน้า แสดงว่าน้าก็ยังมีความสามารถ"
จ้าวหวู่ได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังก็ดีใจไม่น้อย และก็พอใจจ้าวเสี่ยวกังไม่น้อย
เมื่อนึกถึงกายกภารกิจฟาร์มบนภูเขาให้แก่จ้าวเสี่ยวกังเขาก็รู้สึกผิดไม่น้อย เพราะคนอายุมากอย่างเขายังจะทำให้เด็กหนุ่มแบบนี้ลำบาก เขาไม่สบายใจจริงๆ
"เสี่ยวกัง สัญญาที่ดินในหมู่บ้านของเราใกล้จะหมดแล้ว แต่ยังมีอีกหลายสิบไร่บนภูเขาทางทิศตะวันตกที่ไม่ได้เช่า คุณสนใจที่ดินภูเขาหลายสิบไร่นั้นไหม แม้ว่าถนนจะไม่สะดวก เดินแต่ที่ดินยังอุดมสมบูรณ์ ถ้าคุณเต็มใจ น้าจ้าวจะให้ราคาที่ถูก ทำได้ตามเอกสารที่ทางการออกให้ นอกจากนี้จะให้เงินอุดหนุนที่ดินบางส่วนจากทางรัฐ เพื่อไม่ให้ใช้เงินมาก เป็นไง? น้าเปิดประตูหลังให้แล้วนะ"
จ้าวเสี่ยวกังไม่คิดว่าจะมีเรื่องดีๆแบบนี้ ทำให้เขาตื่นเต้นทันที สายตามองไปที่จ้าวหวู่
"น้าจ้าว น้าช่วยฉันขนาดนี้ฉันคงตอบแทนอะไนน้าไม่ได้ แต่เมื่อน้าพูดแบบนี้ ฉันจะเช่าแน่นอน แค่น้าพูดออกมา อย่าว่าแต่สิบไร่เลย กี่ร้อยไร่ก็เอา ."
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังพูดเช่นนี้ เขามีความมั่นใจมาก ทำให้จ้าวหวู่ชะงัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจ้าวเสี่ยวกังถึงมั่งใจแบบนี้
"เสี่ยวกัง บนภูเขานั้นราคาไม่เหมือนกับฟาร์มภูเขนะ ที่บนภูเขานั้นฉันจะไปตรวจสอบอีกที ดูแล้วไม่น่าจะถูกร้อยไร่ ถ้าถึงฉันจะให้คุณเช่าสิบปีในราคาห้าหมื่นเป็นไง. ?"
จ้าวหวู่รู้ว่าห้าหมื่นสำหรับครอบครัวจ้าวเสี่ยวกังนั้นคงจะลำบาก แต่นี่ก็ถือว่าลดให้สุดๆแล้ว
"ได้เลย น้าจ้าว ฉันเชื่อน้า น้าพูดยังไงก็ทำแบบนั้น คืนนี้ฉันจะไปบอกพ่อแม่ วันนี้น้าก็ไปดูก่อนว่ามีกี่ไร่กันแน่ คืนนี้ฉันจะไปคุยกับน้าที่บ้าน."
จ้าวหวู่ไม่คิดว่าจ้าวเสี่ยวกังจะตอบตกลงง่ายแบบนี้ แต่ว่าเข้าชอบใจวิธีการแบบนี้ของจ้าวเสี่ยวกัง
"เด็กดี เรื่องนี้ให้น้าจัดการให้ ฉันของไปเตรียมตัวแก่ คุณก็ตั้งใจแล้วกัน แม้จะไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย แต่น้าก็เฝ้ามองให้คุณได้ดี ตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านครั้งต่อไป จะเสนอให้คุณดีไหม?"
คำพูดนี้ของจ้าวหวู่นั้น ทำให้จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง
"หึๆๆ น้าจ้าว อย่าล้อเล่นเลย หัวหน้าหมู่บ้านต้องน้าเท่านั้น ฉันก็จะตั้งใจดูแลสวนของฉันก็พอแล้ว"
"ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กน้อย ถ่อมตนมากกว่าฉัน โอเค ฉันจะกลับไปก่อน อย่าลืมมาหาฉันตอนกลางคืนนะ"
หลังจากพูดแบบนี้ จ้าวหวู่ก็รีบกลับขึ้นมอเตอร์ไซค์ของเขา และในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกดีใจกับสิ่งที่ จ้าวเสี่ยวกังพูดก่อนหน้านี้