ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 41
หลิวเฉิงเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าร้านอาหารเผิงไหลและมองไปที่ไกลเป็นครั้งคราว เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน ในมองเต็มไปด้วยไอ้นั่นของจ้าวเสี่ยวกัง โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง พอนึกถึงในตอนนี้เธอก็นึกรู้สึกเสียใจบ้างเล็กน้อย อาจจะรู้สึกดีก็ได้ถ้าหากถูกจ้าวเสี่ยวกังบีบบังคับให้ทำในตอนนั้น
บีบบีบ…….
ทันใดนั้นเสียงแตรดังขึ้น เดิมทีใบหน้าที่สิ้นหวังของหลิวเฉิงเฉิงก็แสดงรอยยิ้มที่ดีใจเหมือนกับดอกไม้ออกมาทันที
จ้าวเสี่ยวกังหยุดรถและเห็นหลิวเฉิงเฉิงยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าร้านอาหารก็ประหลาดใจเช่นกัน วันนี้หลิวเฉิงเฉิงแต่งตัวสวยกว่าเมื่อวานสะอีก กระโปรงยีนส์ตัวเล็กกับเสื้อยืดแขนสั้นตัวเล็กโชว์เรียวขาที่ขาวราวกับหิมะและแขนที่ขาวอย่างมากได้อย่างลงตัว
สิ่งที่ทำให้จ้าวเสี่ยวกังประหลาดใจมากที่สุดก็คือหลิวเฉิงเฉิงวันนี้ยังคงแต่งหน้าแบบบางเบา ถึงจะแต่งหน้าบางเบาแต่ก็สวยอย่างมาก รองเท้าส้นสูงสีดำคู่หนึ่งที่รัดส้นจนเผยให้เห็นถึงความร้อนแรงอย่างหนึ่งออกมา
เชือกสีดำเส้นหนึ่งที่พูดไว้ตรงรอบน่องเล็กๆนั้น ทำให้คนที่มองเห็นมีความรู้สึกอยากจะครอบครองมัน
"ไฮ่ ลุงของเธออยู่ข้างในไหม?"
เมื่อได้ยินวิธีการทักทายของจ้าวเสี่ยวกัง ใบหน้าที่มีความสุขแต่เดิมของหลิวเฉิงเฉิงก็กลายเป็นไม่มีความสุขเล็กน้อย พูดแก้ไขโดยตรง :"ฉันไม่ได้ชื่อว่าไฮ่ ฉันชื่อว่าหลิวเฉิงเฉิง ขอให้เรียกชื่อของฉันหรือไม่ก็……."
ยังไม่ทันรอให้เธอพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังยิ้มและพูด :"เฉิงเฉิงคนสวย ลุงของเธออยู่ข้างในไหม?"
"ฮึ แบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย เขาอยู่ข้างใน นายเข้าไปได้เลย เดี๋ยวถ้านายออกมาฉันมีอะไรบางอย่างให้นาย"
หลังจากพูดจบ หลิวเฉิงเฉิงยกคางแหลมขึ้นด้วยใบหน้าที่หยิ่งเล็กน้อย แต่หันศีรษะไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าไปทางอื่น
เมื่อเห็นท่าทางที่หยิ่งเล็กน้อยของหลิวเฉิงเฉิง จ้าวเสี่ยวกังก็มีความสุขอย่างลึกลับเช่นกัน
"ฮ่าๆๆ เธออย่ามายุ่งกับฉันดีกว่านะ ระวังจะโดนไฟครอบงำนะ เธอลืมแล้วหรือว่าถูกฉันทำจนเธอตกใจวิ่งหนียังไง?"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิวเฉิงเฉิงมองไปที่หน้าท้องส่วนล่างของจ้าวเสี่ยวกังอย่างกล้าหาญ แต่เมื่อเธอมองไปแล้วแบนเรียบไม่เห็นอะไรที่นั่น ภายในใจรู้สึกโล่งอก
"ฮ่าๆๆๆ…..ฉันไม่กลัวหรอกนะ มีปัญญานายก็เข้ามาครอบงำฉันสิ ถึงเวลานั้นนายอย่าถูกฉันทำจนตกใจวิ่งหนีก็พอแล้ว"
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมทัศนคติของหลิวเฉิงเฉิงที่มีต่อตัวเองถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่ว่าต้องยอมรับว่าตอนที่หลิวเฉิงเฉิงยิ้มออกมานั้นมันมีเสน่ห์อย่างมากจริงๆ โดยเฉพาะฟันเสือน้อยคู่นั้นน่ารักเป็นพิเศษ
"ฮ่าๆๆ ฉันจะจำคำพูดที่เธอพูดในวันนี้เอาไว้ หวังว่าเธอคงไม่นึกเสียใจทีหลังนะ"
"ใครเสียใจคนนั้นก็คือสุนัข"
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังได้ยินคำพูดนี้ก็อึ้งอยู่กับที่ ต่อจากนั้นหัวใจก็พองโตขึ้นมา หลิวเฉิงเฉิงคนนี้กำลังบอกใบ้ให้เขา แม้ว่าเขาจะไม่มีความคิดเกี่ยวกับหลิวเฉิงเฉิงในตอนแรก แต่ว่าเห็นได้ชัดอย่างมากว่าเนื้อที่น่ากินส่งมาถึงที่แล้ว ในตอนแรกเขาไม่มีความคิดอะไรเพราะว่าหลิวเฉิงเฉิงมองเขาด้วยความรังเกียจ เขารู้ว่าต่อให้ตัวเองพยายามมากแค่ไหนก็ไม่มีทางทำสำเร็จอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่หลิวเฉิงเฉิงพูดแบบนี้ ใบหน้าก็แดงก่ำด้วยความเขินอาย ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเธอแอบมองที่เป้าของจ้าวเสี่ยวกังเป็นครั้งคราว แม้ว่าของเล่นอันใหญ่นั้นจะไม่ได้เงยหัวขึ้นมา แต่ว่ากลับสามารถเห็นได้ชัดอย่างมากถึงก้อนเนื้อที่นูนโตตรงนั้น
เมื่อนึกถึงถ้าหากตัวเองมีอะไรกับจ้าวเสี่ยวกังแบบนั้นจริงๆ หลิวเฉิงเฉิงหุบขาที่ขาวราวกับหิมะทั้งสองข้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ
การกระทำของหลิวเฉิงเฉิงนี้ย่อมไม่รอดสายตาของจ้าวเสี่ยวกังแน่นอน เพียงแต่เขาคิดว่าเป็นเพราะปฏิกิริยาสัญชาตญาณของหลิวเฉิงเฉิงภายในใจจึงทำแบบนี้ออกมา คิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าหัวใจของหลิวเฉิงเฉิงจะกระเพื่อมถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว
"ฮ่าๆๆ ฉันขอไปขายเห็ดสนก่อนนะ ตอนที่ออกมาค่อยทำให้เธอเสียใจทีหลังสักหน่อย"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังแบกตะกร้าไม้ไผ่ที่เต็มไปด้วยเห็ดสนเข้าไปในครัวโดยตรง
หลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆในครั้งที่แล้ว ทุกคนในห้องครัวล้วนรู้จักจ้าวเสี่ยวกังชายหนุ่มผู้กล้าหาญคนนี้แล้ว โดยเฉพาะพลังอันดุเดือดของจ้าวเสี่ยวกัง และการตัดสินใจที่สมเหตุสมผลในการต่อสู้ทำให้คนในห้องครัวชื่นชมจ้าวเสี่ยวกังเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินว่าจ้าวเสี่ยวกังมา หลิวต้าโถวไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว รีบมอบงานที่อยู่ในมือให้ลูกศิษย์ทำต่อ ครั้งที่แล้วเขายังไม่ได้ขอบคุณจ้าวเสี่ยวกังดีๆเลย สำหรับจ้าวเสี่ยวกังนั้นเขาชื่นชมอย่างมาก เมื่อคืนทั้งคืนเขายังคงคิดว่าจะตอบแทนจ้าวเสี่ยวกังอย่างไรดี ในที่สุดเช้านี้เขาก็คิดหาวิธีได้แล้ว
"พ่อครัวหลิว เห็ดสนเหล่านี้ฉันล้างเสร็จหมดแล้ว คุณลองตรวจสอบดูหน่อยไหม"
เมื่อเห็นหลิวต้าโถวเดินออกมา จ้าวเสี่ยวกังเข้าสู่หัวข้อหลักโดยตรง
"ฮ่าๆๆๆ…..เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ สำหรับเรื่องการทำงานของนายฉันไว้ใจอย่างมาก ฉันมีคำถามข้อหนึ่งต้องการถามนายสักหน่อย คำถามนี้สำคัญอย่างมาก"
เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังอย่างมากของหลิวต้าโถว จ้าวเสี่ยวกังก็ไม่กล้าละเลยพูดโดยตรง :"พ่อครัวหลิวคุณมีคำถามอะไรถามมาได้เลย ฉันสัญญาว่าจะบอกคุณทุกอย่างที่ฉันรู้"
"เอ่อ นายไม่ต้องจริงจังขนาดนั้น เป็นเรื่องดี เป็นเรื่องดี"
"ฉันอยากถามสักหน่อยว่านายไปเอาเห็ดสนมากขนาดนี้มาจากไหน? ถ้าหากมีเยอะล่ะก็ ฉันอยากจะแนะนำให้เจ้านายทำธุรกิจกับนายเพื่อให้นายได้เงินก้อนใหญ่"
เมื่อได้ยินหลิวต้าโถวพูดแบบนี้ทำให้จ้าวเสี่ยวกังเริ่มสงสัยขึ้นมา
"เห็ดสนของพวกเรานั้นมีเยอะมาก เพียงแต่คนที่ยินดีไปเก็บเห็ดสนนั้นมีเพียงไม่กี่คน ส่วนใหญ่เพราะทุกคนต้องไปทำงานที่สวน เห็ดสนแม้ว่าจะมีราคาอย่างมาก แต่ว่ากลับไม่ยืนยาว"
"อ้อ เพียงแค่มีเยอะฉันก็สบายใจแล้ว เจ้านายของพวกเราเปิดร้านสาขาอยู่หลายแห่ง ในช่วงนี้เห็ดสนขาดตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะเห็ดสนที่นายเอามาขายนั้นอร่อยเป็นพิเศษ นอกจากนี้รสชาติของเห็ดสนยังมีความสดและอร่อยกว่าหมู่บ้านอื่นอย่างมาก ฉันต้องการให้นายเป็นนายหน้าผู้ซื้อเพื่อสร้างความแตกต่าง นายคิดว่าเป็นยังไง?"
สำหรับความคิดของหลิวต้าโถว จ้าวเสี่ยวกังไม่ใช่ว่าไม่เคยคิด เพียงแค่นึกถึงเขาเป็นเพียงแค่นักศึกษาที่เพิ่งจบมาใหม่ของหมู่บ้าน ไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในมือของเขาไม่มีเงินไปซื้อ ถ้าหากมีเงินเกรงว่าเขาคงทำไปนานแล้ว
"ลุงหลิว ความคิดนี้ฉันก็เคยคิดเหมือนกัน เพียงแต่คุณแน่ใจเหรอว่าเจ้านายของพวกคุณจะสามารถกินเห็ดสนที่ฉันไปซื้อมาอย่างมากได้ ต้องรู้ว่าเพียงแค่ฉันไปรับซื้อมามันก็ไม่ใช่น้อยๆแบบนี้แล้ว มีโอกาสเป็นได้อย่างมากว่าจะส่งมาเป็นลำๆรถเลยนะ"
เมื่อได้ยินจ้าวเสี่ยวกังเรียกตัวเองว่าลุงหลิวอย่างกะทันหัน ภายในใจของหลิวต้าโถวแอบพูดว่าจ้าวเสี่ยวกังอยู่เป็น เดิมทีหลิวต้าโถวยังรู้สึกว่าจ้าวเสี่ยวกังยังเด็กอย่างมากน่าจะไม่เข้าใจวิธีการพูดแบบนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเสี่ยวกังจะทำให้เขาประหลาดใจโดยตรง นอกจากนี้เปิดปากพูดก็เป็นลำๆรถเลย ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ อย่างนั้นเขาเป็นคนที่เป็นคนแนะนำเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าของจะต้องได้รับผลประโยชน์อย่างมาก
"ฮ่าๆๆ….สบายใจได้ นายมีเท่าไหร่พวกเราก็สามารถรับเอาไว้ได้หมด นอกจากนี้นายสบายใจได้เลย พวกเราจำเป็นต้องทำสัญญากัน ไม่มีทางพูดปากเปล่าแบบนี้กับนายแน่นอน"
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังได้ยินว่าจะมีการเซ็นสัญญา ภายในใจก็รู้สึกโล่งอกเช่นกัน แม้ว่าเขาอายุจะน้อย แต่เรื่องต่างๆนั้นกลับเข้าใจอย่างมาก แม้ว่าจะไม่เคยกินเนื้อหมูแต่ก็มักจะเห็นหมูวิ่งไปมา ท้ายที่สุดแล้วเขาไม่เพียงแต่เคยกินเนื้อหมูแต่ยังเคยเห็นหมู่วิ่งอีก
"ฮ่าๆๆ ลุงหลิว ในเมื่อคุณมีการเตรียมการละเอียดขนาดนี้แล้ว ถ้าหากฉันยังไม่ทำจริงๆ เกรงว่าจะต้องเสียใจกับการปลูกฝังที่ลุงหลิวมีต่อฉันอย่างแน่นอน รอให้ฉันสามารถหาเงินก้อนแรกได้สำเร็จแล้ว จะต้องฉลองกับลุงหลิวอย่างแน่นอน"
แม้ว่าตอนที่จ้าวเสี่ยวกังพูดอาจจะเป็นแค่ฉากบางหน้าเท่านั้น แต่ว่าเมื่อเข้ามาอยู่ในใจของหลิวต้าโถวแล้วกลับดีใจเป็นพิเศษ
"ดีดีดี……เห็ดสนนี้ไม่จำเป็นต้องชั่งแล้ว อีกสักพักฉันจะจ่ายเงินราคาหนึ่งพันหยวนให้โดยตรงเลย ตอนนี้นายช่วยตามฉันไปที่ชั้นสามเพื่อพบเจ้านายของพวกเรา เรื่องของสัญญานายไปคุยกับเธอได้เลย ถึงเวลานั้นนายอย่าไกล่เกลี่ยล่ะ เจ้านายเป็นคนที่ไร้กาจอย่างมากเลยนะ"
หลังจากพูดแบบนี้จบ หลิวต้าโถวก็พาจ้าวเสี่ยวกังขึ้นไปบนชั้นสาม