ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 166 หวังลี่
ระหว่างทางจ้าวเสี่ยวกังกำลังคำนวณผลกำไรที่เห็ดสนเหล่านี้นำมาให้เขา ประมาณการเห็ดสนที่รับซื้อเมื่อวานนี้ เขาสามารถทำเงินได้หนึ่งหมื่นหยวน
ด้วยการคิดแบบนี้ จ้าวเสี่ยวกังรู้สึกเต็มไปด้วยแรงจูงใจในทันที เพียงแค่มีเงิน เขาสามารถมีกำลังที่จะแข่งขันกับหวังป้าเทียนและหวังเซี่ยงหรุ ไม่ต้องเสียใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
กลับไปที่ถ้ำอีกครั้ง จ้าวเสี่ยวกังรีบขนย้ายเห็ดสนทั้งหมดที่อยู่ในถ้ำไปบนรถ หลังจากนั้นเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาที่เขาขับมาถึงปากทาง ทันใดนั้นมองเห็นร่างที่คุ้นเคยอย่างมาก
หุ่นเพรียวสวยมีเสน่ห์ ลมพัดกระโปรงยาวตัวนั้น ยิ่งทำให้รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่คู่ควรกับหมู่บ้านเล็กน้อยแห่งนี้ ผมสีดำดกที่สวยงามถูกหมัดเอาไว้สูง แขนสีขาวราวกับหิมะถือตะกร้าใบใหญ่ เหยียบรองเท้าแตะคริสตัลคู่หนึ่งเดินไปข้างหน้า
ภายในใจของจ้าวเสี่ยวกังสงสัยเล็กน้อย ร่างนี้แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยอย่างมาก แต่ว่าในชั่วขณะหนึ่งกลับไม่กล้ายอมรับ
ทันใดนั้นตอนที่ขับรถมีการบีบแตรไปหนึ่งที
เสียงแตรดังขึ้น ทำให้อีกฝ่ายตกใจอย่างมาก หลีกทางและหันกลับมามองจ้าวเสี่ยวกังอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่มองเห็นจ้าวเสี่ยวกัง อีกฝ่ายอดไม่ได้ที่จะยิ้มหวานออกมา
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของอีกฝ่าย ลักยิ้มที่น่าหลงใหล และยังมีดวงตากลมโตสดใสคู่หนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าๆเช่นกันและหยุดรถลงมา
"พี่สาวลี่ คุณกลับมาตอนไหนเหรอ? ไม่ใช่ว่าออกไปทำงานเหรอ?"
เมื่อหวังลี่ได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง แววตาอดไม่ได้ที่จะมืดลง ฝืนยิ้มออกมาและพูด :"ไม่ออกไปแล้ว อายุมากแล้ว ในอนาคตเตรียมจะหาสามีดีๆสักคนแล้วแต่งงาน"
หลังจากพูดจบ หวังลี่ใช้ดวงตากลมโตที่สดในของเธอมองไปทางเห็ดสนที่ใส่ในรถของจ้าวเสี่ยวกังเป็นตะกร้าๆและพูด :"ฉันเพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงสองวันก็ได้ยินว่าเด็กอย่างนายลาออกจากโรงเรียนแล้ว นอกจากนี้ยังเริ่มต้นทำธุรกิจ สุดยอดมากเลยนะ"
"ฮ่าๆๆ สุดยอดอะไรกัน นั่นเป็นเพราะว่าฉันไม่อยากทำสวน ไม่อยากรับมือกับอุบายฉวยโอกาสเท่านั้น"
"พี่สาวลี่คุณกำลังจะไปไหนเหรอ? ให้ฉันไปส่งคุณไหม"
ระหว่างที่จ้าวเสี่ยวกังพูดไปด้วย พร้อมกับหลบที่นั่งของรถสามล้อให้หวังลี่นั่งขึ้นไป
มองไปที่ร่างที่แข็งแกร่งของจ้าวเสี่ยวกัง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ชาย หวังลี่รู้สึกเขินอายเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง
ท้ายที่สุดแล้วเธออายุมากกว่าจ้าวเสี่ยวกังแค่สองปีเท่านั้น นอกจากนี้เธอก็โตพอที่จะพูดถึงเรื่องของการแต่งงานแล้ว เธอยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการนั่งกับจ้าวเสี่ยวกังแบบนี้
"เสี่ยวกัง ช่างมันเถอะ ฉันเตรียมจะเข้าไปในเมือง ถ้าฉันขึ้นไปนั่งแล้วกลัวจะทำให้รถสามล้มของนายยางระเบิด"
แม้ว่าหวังลี่จะพูดแบบนี้ออกมา แต่ว่าภายในใจยังคงอยากให้ไปส่ง ท้ายที่สุดแล้วถนนของหมู่บ้านบางจื่อไปยังตัวเมืองมีแต่ลูกรังที่เป็นหลุมเป็นบ่อ นอกจากนี้ระยะทางก็ไกลอย่างมาก อย่างน้อยระยะทางประมาณสิบกิโล
"พี่สาวลี่ ฉันกำลังจะเข้าเมืองพอดี ยิ่งกว่านั้นต่อให้เป็นร่างกายเล็กๆของคุณอีกสิบคนก็สามารถนั่งรถสามล้อนี้ได้ รีบขึ้นมาได้แล้ว เดี๋ยวไปช้ากว่านี้ อากาศจะร้อนแล้วนะ และในหมู่บ้านของพวกเรามีคนไม่มากที่จะเข้าเมืองโดยไม่มีธุระ ถ้าหากคุณพลาดรถของฉันในครั้งนี้อาจจะไม่มีอีกแล้วนะ"
จ้าวเสี่ยวกังเห็นว่าหวังลี่กำลังลังเล ทันใดนั้นลงรถโดยตรง หลังจากนั้นเขาก็มาที่หลังของหวังลี่และดันเอวเรียวของหวังลี่ด้วยมือทั้งสองข้างโดยตรงและผลักอีกฝ่ายขึ้นไปบนรถสามล้อ
"อัยยะ…..เสี่ยวกัง นายโตขึ้นมากแล้วนะ กล้าลงไม้ลงมือกับพี่สาวด้วย"
สัมผัสได้ถึงมือใหญ่คู่ที่อบอุ่นของจ้าวเสี่ยวกัง หวังลี่อดไม่ได้ที่จะตัวอ่อนและถูกจ้าวเสี่ยวกังพาขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง แต่ว่าปากกลับยังคงมีการพูดตำหนิไม่หยุด
มองไปบนใบหน้าของหวังลี่ที่เขินอายจนเหมือนกับผ้าสีแดง จ้าวเสี่ยวกังหัวเราะฮ่าๆๆออกมาโดยตรง
"เข้าใจ ในตอนเด็ก ตอนที่อาบน้ำที่แม่น้ำกับคุณด้วยกัน ล้วนแล้วฉันเป็นคนหน้าแดง ทำไหมตอนนี้คุณถึงเริ่มหน้าแดงแล้วล่ะ"
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง หวังลี่ยิ่งมีความเขินอายอย่างมาก ตีแขนที่แข็งแรงของจ้าวเสี่ยวกังโดยตรงด้วยหมัดสีชมพูเล็กๆ
"นายยังจะพูดอีก นายยังจะพูดอีก ถ้ายังพูดอีกพี่สาวจะลงรถแล้วนะ"
เมื่อเห็นว่าหวังลี่เริ่มโกรธจริงๆแล้ว จ้าวเสี่ยวกังไม่กล้าล้อเล่นอีกต่อไปแล้ว สตาร์ทรถสามล้อโดยตรงแล้วบิดคันเร่งขับเข้าเมืองทันที
ระหว่างทางมีลมพัดเบาๆ พัดจนทำให้ผมที่อยู่ตรงหน้าผากและใบหูของหวังลี่ยกขึ้น ท่าทางแบบนั้นราวกับว่าเป็นเหมือนนางฟ้ายืนอยู่บนหน้าผามีลมพัดปลิวไปตามสายลมในภาพยนตร์เทพนิยาย
แม้ว่าจ้าวเสี่ยวกังเพียงแค่กวาดสายตามองเท่านั้น แต่ว่ากลับอดไม่ได้ที่จะถูกหวังลี่ที่มีเสน่ห์อย่างมากดึงดูดจนทนไม่ไหวต้องมองหลายที
หวังลี่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่หมกมุ่นของจ้าวเสี่ยวกังเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองจ้าวเสี่ยวกังและพูด :"ขับรถดีๆหน่อย นายไม่รู้หรือยังไงว่าตอนที่ขับรถควรระวังเรื่องของสมาธิ"
เมื่อเห็นท่าทางที่หวังลี่เหลือบมอง ทันใดนั้นจ้าวเสี่ยวกังรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่ารักอย่างมาก
"ฮ่าๆๆ ใครบอกให้พี่สาวลี่อย่างคุณดูสวยขึ้นขนาดนี้ล่ะ? ถ้าหากคุณไม่สวย ฉันก็ไม่มีทางมองแน่นอนใช่ไหม?"
"ก็ได้ อย่างนั้นนายหมายความว่าเมื่อก่อนฉันไม่สวยใช่ไหม ตอนนี้ค่อยเปลี่ยนไปใช่ไหม?"
สำหรับมุมมองของหวังลี่ที่มีต่อจ้าวเสี่ยวกังกลับไม่ได้ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนน้องชาย ทั้งสองคนเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างกัน ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้ว ความรู้สึกที่หวังลี่มีต่อจ้าวเสี่ยวกังเหมือนญาติคนหนึ่ง
จ้าวเสี่ยวกังมองดูหวังลี่ที่แกล้งทำเป็นโกรธและปากจู๋ อดไม่ได้ที่จะอึ้งอยู่พักหนึ่ง
โดยเฉพาะความแวววาวระยิบระยับที่แสงแดดส่องลงมาที่ปากเล็กๆ นั้น จ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่อยากจะกระโจนเข้าไปเลียดูหนึ่งทีว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างไร
"พี่สาวลี่เป็นเทพธิดาในดวงใจของฉันตั้งแต่เด็ก จะไม่สวยได้อย่างไร เพียงแต่ตอนนี้ใกล้จะกลายเป็นรูปลักษณ์นางฟ้าแล้ว ดังนั้นฉันจึงมองจนอึ้งไง"
เมื่อได้ยินคำอธิบายของจ้าวเสี่ยวกัง หวังลี่หัวเราะออกมาโดยตรงและตัวสั่น ในเวลาเดียวกัน มือเรียวที่ขาวราวกับหิมะคู่หนึ่งก็ตบเอวของจ้าวเสี่ยวกังไปหนึ่งที
"เด็กอย่างนายเถียงเก่งจริงๆเลยนะ นานขนาดนี้แล้ว นิสัยไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว สามารถพูดจนทำให้สาวๆมีความสุขได้มากขึ้นเรื่อยๆ"
"ฮ่าๆๆ คุณพูดแบบนี้แสดงว่าเข้าใจฉันผิดอยู่นะ ฉันเพียงแค่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงสวยเท่านั้นเองนะ เหมือนกับสาวสวยอย่างพี่สาวลี่แบบนี้ไง ให้ฉันต่อล้อต่อเถียงไปตลอดชีวิตฉันก็สามารถทำได้"
เมื่อหวังลี่ได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกังอดไม่ได้ที่จะตะลึง มองดูใบหน้าที่แน่วแน่หันหน้าเข้าหาสายลม ภายในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย
"หาเรื่องโดนตีหรือยังไง กล้าพูดเล่นกับพี่สาวแบบนี้ ไม่อยากจะอยู่กับฉันแล้วใช่ไหม?"
หวังลี่พยายามซ่อนความเขินอาย ใช้มือบีบต้นขาของจ้าวเสี่ยวกังโดยตรง
แม้ว่าความแรงของมือจะไม่แรงเท่าไหร่ แต่จ้าวเสี่ยวกังก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน
ทันใดนั้นตะโกนพูด :"พี่ลี่ เจ็บ เจ็บ เจ็บนะ"
"ฮึ เจ็บก็ถูกแล้ว ดูสิว่าหลังจากนี้ไปนายยังกล้าล้อเล่นแบบนี้กับฉันอีกไหม"
ดูเหมือนว่ามือของหวังลี่ยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว แต่ว่ายิ่งมีการออกแรงมากขึ้น
ระหว่างที่จ้าวเสี่ยวกังจับที่จับของรถสามล้อเอาไว้แน่น พร้อมกับพยายามหลบไปด้วย
"พี่ลี่ ไม่กล้าแล้ว ฉันไม่กล้าแล้ว คุณรีบปล่อยฉันได้แล้ว"
ระหว่างที่จ้าวเสี่ยวกังเจ็บปวดอย่างมากไปด้วย พร้อมกับบอกให้รีบปล่อย
ทันใดนั้น หวังลี่รู้สึกได้ถึงความแปลกอย่างหนึ่ง เธอรู้สึกว่าสัมผัสโดนแท่งอย่างหนึ่งที่แตกต่างออกไป เพียงแค่มีการออกแรงเล็กน้อย ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเย็นของจ้าวเสี่ยวกัง
ซู…….