ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 39
ซ่งยวี่ชิงก็รับรู้ถึงความรู้สึกแปลกๆแบบนั้นแล้ว เธอรู้ว่าถ้าหากไม่ไปกินข้าว เกรงว่าจ้าวเสี่ยวกังต้องทำอย่างเองจริงๆแน่นอน
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังปล่อย ซ่งยวี่ชิงกดึงจ้าวเสี่ยวกังไปแล้วให้จ้าวเสี่ยวกังกินข้าวพร้อมกับเธอ
"พี่สะใภ้ ที่บ้านฉันยังมีอีกเยอะ อันนี้เอามาให้พี่กิน ถ้าฉันกินแม่จะต้องดึงหูของฉันจนขาดแน่ๆ"
หลังจากพูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็ทำท่าถูกดึงหูและทำหน้าเจ็บปวด ทำให้ซ่งยวี่ชิงหัวเราะไม่หยุด
"กินพร้อมกับพี่เถอะ พี่ไม่บอกแม่หรอก จะกลัวอะไร"
"หึๆๆ ถ้าฉันกิน พี่ไม่ต้องบอกหรอก ฉันจะบอกเอง พี่สะใภ้รีบกินเถอะ ฉันแค่มองดูก็พอแล้ว"
หลังจากได้ยินแบบนี้ ซ่งยวี่ชิงก็วางช้อนซุปลงและแสร้งทำเป็นโกรธและพูดว่า "ถ้าเธอไม่กินพี่ก็จะไม่กินเหมือนกัน"
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นท่าทางของซ่งยวี่ชิง ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีก เขากลัวว่าเดี๋ยวซ่งยวี่ชิงโกรธขึ้นมาเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง เขายิ้มและพูดว่า "พี่สะใภ้ พี่กินก่อนเลย ฉันจะไปเก็บเห็นสนที่ป่า ไม่ดูพี่แล้ว"
หลังจากที่จ้าวเสี่ยวกังพูดจบและกำลังจะออกไปข้างนอก ทำให้ซ่งยวี่ชิงนึกไม่ถึง
"หรือว่ารอให้พี่สะใภ้กินเสร็จแล้ว พี่สะใภ้ไปกับคุณด้วย"
เมื่อเห็นซ่งยวี่ชิงยังคงห่อผ้ากอซ จ้าวเสี่ยวกังจะให้เธอไปได้ยังไง
"พี่สะใภ้ รอพี่รักษาตัวให้ดีก่อน ถ้าพี่ไปตากแดดเดี๋ยวอาจจะติดเชื้อได้"
หลังจากพูดแล้ว จ้าวเสี่ยวกังก็จากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ซ่งยวี่ชิงอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงง
ความห่วงใยของจ้าวเสี่ยวกังที่มีให้เธอเรื่อยมา ทำให้ซ่งยวี่ชิงรู้สึกว่าเธอไม่สามารถจากเขาไปได้แล้ว จ้าวเสี่ยวกังอายุน้อยกว่าตัวเองสองปี แต่ดูแลเธอได้ดีเหมือนกับคนที่อายุมากกว่าเธอหลายปี
เมื่อกลับถึงบ้าน จ้าวเสี่ยวกังก็เห็นว่าพ่อแม่ของเขาเกือบจะกินข้าวเสร็จแล้ว
จ้าวโหย่วเทียนมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของลูกชายและมองไปที่หลี่กุ้ยเฟิน ผู้อาวุโสทั้งสองยิ้มแล้วจึงกินต่อไป
จ้าวเสี่ยวกังล้างมือและนั่งลงอย่างรวดเร็วเพื่อทานอาหาร แต่ไม่มีใครพูดอะไร ทำให้เขารู้สึกมีอารมณ์และรู้สึกแปลกๆ
"พ่อ แม่ วันนี้เป็นอะไร ทำไมไม่พูดเลย? ปกติแล้วถ้าฉันกลับมาต้องถามเรื่องโน้นเรื่องนั้นไม่ใช่หรือ หรือไม่กินบอกให้กินข้าวอะไรแบบนี้?"
"พอแล้ว แกไปที่บ้านนางนั่นพวกเรายังมีอะไรต้องถามอีก?ส่วนเรื่องกินข้าวโตขนาดนี้แล้วยังต้องให้พวกเราสอนแกอีกหรือ? รีบกินเร็วเดี๋ยวฉันกับแม่แกจะไปรดน้ำ ส่วนที่ดินและสระบัวก็ให้แกไปจัดการเองแล้วกัน ถือว่าเป็นเงินสนับสนุนแก เรื่องอื่นฉันช่วยอะไรไม่ได้แล้ว"
หลังจากที่จ้าวโหย่วเทียนพูดจบ เขาก็วางชามและตะเกียบลง มือไขว้หลังถือพัดพัดตัวเองแล้วก็เดินออกไป
หลี่กุ้ยเฟินมองไปที่จ้าวเสี่ยวกัง จากนั้นก็เก็บถ้วยทิ้งไว้ให้จ้าวเสี่ยวกังกินข้าวคนเดียว
ซุปไก่ที่อร่อย แต่เมื่อโดนคำพูดของพ่อชุดนี้เข้าไป ทำให้เขาถึงกับกินไม่ลง
ไม่นาน เขาก็ทานอาหารเสร็จ และเมื่อเขาเก็บโต๊ะเสร็จ เขาเห็นพ่อแม่ของเขาถือไม้ค้ำและเตรียมรดน้ำ
"พ่อครับ วันนี้อากาศร้อนมาก พ่อกับแม่พักก่อนค่อยไปดีกว่า"
"ไอ้เด็กนี่ อย่างเราต้องดูดินฟ้าอากาศอีกหรือ ถ้าไม่ไปรดน้ำในสวนอีกปีหน้าพวกเราไม่มีเงินซื้อเนื้อกินแน่ๆ"
หลังจากพูดจบ จ้าวโหย่วเทียนก็แบกถังแล้วเดินออกไป
หลี่กุ้ยเฟินก็พูดก่อน จากนั้นก็ตามไป
"เห็ดสนพวกนี้ขายได้ก็รีบขาย ถ้าขายไม่ได้ก็ตากให้แห้ง อย่าใส่ตะกร้าเดี๋ยวแตกง่าย"
หลังจากที่พ่อแม่ไป จ้าวเสี่ยวกังก็รีบทำความสะอาดเห็ด เขาจำได้ว่าถ้าล้างเห็ดให้สะอาดจะทำให้ราคาสูงขึ้น
หลังจากล้างเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็สะอาด เมื่อเขากำลังจะไปบ้านของซุนหรานหรานเพื่อขอยืมมอเตอร์ไซค์ เขาได้ยินเสียงครางของซุนหรานหรานจากลานข้างๆ
เมื่อฟังอย่างดีๆแล้ว เสียงซุนหรานหรานจริงๆ เมื่อคิดถึงหลิวต้าจ้วงและซุนหรานหรานทำอะไรแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ เขาก็เลยสงสัยมาก
เขาค่อยๆปีนกำแพง แม้ว่าแดดแรงจนทำให้กำแพงร้อนมาก แต่ก็ห้ามใจที่อยากดูของจ้าวเสี่ยวกังไว้ไม่ได้
หลิวต้าจ้วงกับซุนหรานหรานก็เร้าร้อนกันในห้องแล้ว แต่ว่าในห้องร้อนเกินไป หลิวต้าจ้วงก็เลยอุ้มซุนหรานหรานมาที่ลานหน้าบ้าน แล้วอาบน้ำพร้อมกับทำเรื่องแบบนั้น
เดิมทีซุนหรานหรานปิดปากไว้ ไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะพ่อกับแม่ของจ้าวเสี่ยวกังยังอยู่บ้าน ถ้าพวกเขาได้ยินมันก็จะไม่ได้เท่าไหร่
เมื่อเธอได้ยินการสนทนาระหว่างจ้าวเสี่ยวกังและจ้าวโหย่วเทียนเธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
จ้าวโหย่วเทียนและหลี่กุ้ยเฟินไปแล้ว ในบ้านมีแค่จ้าวเสี่ยวกังเท่านั้น ตอนนี้เธอก็เลยไม่สนใจอะไรอีกต่อไป
หลิวต้าจ้วงรู้สึกถึงความตื่นเต้นของซุนหรานหราน และการเคลื่อนไหวของมือของเขาก็รุนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งทำให้ซุนหรานหรานองออกมาอย่างทนไม่ไหว
"ผัวขา เขาจะเอา รีบมาเร็วๆ"
หลิวต้าจ้วงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้จับเอวที่เรียวยาวของซุนหรานหรานและพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา:"หราน…หราน…ฉันอยู่ที่นี่"
อ้า……
อ้า……
ซุนหรานหรานร้องตอบสนอง แต่เธอกับรู้สึกเศร้ามากขึ้น เมื่อนึกถึงความรู้สึกที่จ้าวเสี่ยวกังทำเธอ ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในตัวของเธอเป็นเพียงแค่เข็มเล็กๆเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
จ้าวเสี่ยวกังโผล่ครึ่งหัวมาดูฉากที่น่าสนใจในลาน
เห็นซุนหรานหรานโน้มตัวลง มุ่ยสะโพก มือของเธอถูกหลิวต้าจ้วงจับไว้ จ้าวเสี่ยวกังที่มองดูท่าทางเย้ายวนของเธอ ก็มีเหงื่อออกและหน้าแดง
โดยเฉพาะคู่นั้นของซุนหรานหราน ขาว สดใส และพราวเล็กน้อยภายใต้แสงแดด
"ผัวขา….ใช้แรงอีก…อ้า…อ้า…"
ซุนหรานหรานร้องตอบสนอง แต่ว่าซุนหรานหรานกลับไม่มีความรู้สึก เธอกลับนึกถึงความรู้สึกกับจ้าวเสี่ยวกังมากกว่า
เธอมองไปที่บ้านของจ้าวเสี่ยวกังด้วยความลุ่มหลง และในขณะที่เธอหันศีรษะ เธอก็เห็นจ้าวเสี่ยวกังโผล่หัวอยู่ที่กำแพง และเผยให้เห็นดวงตาที่แอบมองคู่นั้น
"อืม…ผัวขา…แรงหน่อย…"
เมื่อเห็นจ้าวเสี่ยวกังแอบมอง ซุนหรานหรานก็ตื่นเต้นในทันที และในขณะเดียวกันก็มีการแสดงออกที่เย้ายวนมาก
ค่อยๆกัดริมฝีปากล่างของเธอ มีเสียงที่เย้ายวนใจมากในจมูกของเธอ และดวงตาที่พร่ามัวเหล่านั้นฉายแสงที่มีเสน่ห์และมองไปทางจ้าวเสี่ยวกังอย่างจงใจ
เมื่อจ้าวเสี่ยวกังเห็นท่าทางของซุนหรานหราน ข้างล่างของเขาก็ทรมานขึ้นมา
เขาอดคิดไม่ได้ ค่อยๆปีนลงมา แล้วเดินออกไปพร้อมกับตะกร้าเห็ดสน