ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 251 หารือ
“พี่ต้าจ้วง ขอบคุณที่บอกเรื่องพวกนี้ รอให้ผมมีเวลาแล้วจะลองไปถามดู”
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังหันหลังแล้วเดินกลับบ้าน แต่เขาเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวหลิวต้าจ้วงตะโกนเรียกเขาก่อน
“เสี่ยวกังคำถามที่ฉันถามนาย นายยังไม่ได้ตอบฉันเลย? ตกลงนายชอบพี่หรานหรานของนายใช่หรือเปล่า?”
จ้าวเสี่ยวกังคิดไม่ถึงว่าหลิวต้าจ้วงยังติดใจกับคำถามเรื่องนี้ เขาพูดออกไปโดยตรง “ชอบ ผมชอบมากเลยด้วยพอใจหรือยัง? พี่หรานหรานสวยซะขนาดนั้น นอกเสียจากว่าผมเป็นคนโง่ถึงจะไม่ชอบ พี่ต้าจ้วงเอาแต่ถามเรื่องนี้ ตกลงคิดจะทำอะไรกันแน่?”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง แววตาของหลิวต้าจ้วงลุกวาวเป็นประกายทันที
“แหะแหะ เสี่ยวกัง ฉันขอพูดตามตรง ฉันเคยคิดอยากจะให้นายมีอะไรกับหรานหรานหลายครั้ง นายก็รู้ไอ้นั่นของฉันมันใช้กันไม่ได้แล้ว หรานหรานกลับทำเหมือนเอาแต่เฝ้าสุสาน ฉันทนเห็นไม่ได้”
จ้าวเสี่ยวกังคิดไม่ถึงว่าหลิวต้าจ้วงจะเป็นคนใจกว้างขนาดนี้ ความใจกว้างแบบนี้แม้แต่เขาเองก็ทำไม่ได้
แต่ภายในใจของเขามันกลับเต็มไปด้วยความสงสัย
“พี่ต้าจ้วง ทำไมพี่ต้องเลือกผม? พี่หรานหรานเห็นด้วยหรือเปล่า? แล้วก็พี่แค่อยากจะให้ผมอยู่กับกับพี่หรานหรานแค่นั้นจริงเหรอ?”
เผชิญหน้ากับคำถามที่เป็นชุดของจ้าวเสี่ยวกัง หลิวต้าจ้วงเริ่มไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
“เสี่ยวกัง นายไม่ต้องถามมากขนาดนั้นแล้ว นายตอบฉันมาว่าตกลงหรือไม่ตกลงก็พอ”
“ไม่ตกลง พี่ต้าจ้วง ถ้าพี่รักพี่หรานหรานจริงก็อย่าทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ เธอเป็นผู้หญิงของพี่ ถ้าหากผมอยู่กับพี่หรานหรานจริง ในใจของพี่จะไม่รู้สึกหึงหวงเหรอ พวกเราล้วนแต่เป็นผู้ชาย เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้อยู่แก่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ของพวกเราดีขนาดนี้ ผมไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา”
หลังจากที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังหันหลังเดินกลับบ้านตามทางที่ตัวเองเดินมา
ภายในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสับสนเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าหลิวต้าจ้วงจะมีความคิดที่บ้าบอแบบนี้ แต่เขาก็มักจะรู้สึกว่าหลิวต้าจ้วงและซุนหรานหรานใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย
หลิวต้าจ้วงมองดูจ้าวเสี่ยวกังที่เดินจากไป ภายในใจก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน แต่การปฏิเสธของจ้าวเสี่ยวกังกลับยิ่งทำให้ความคิดที่เคยพูดกับจ้าวเสี่ยวกังมันหนักแน่นมากขึ้น
จ้าวเสี่ยวกังกลับมาถึงบ้านแล้วล้มตัวนอนลงบนเตียงทันที อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับมันรุนแรงมากเกินไป ถ้าหากไม่ได้เป็นเพราะหนิวเกิงซึง เขาคงไม่กล้าลงมาเดินเหินเป็นอาทิตย์แบบนี้อย่างแน่นอน และในตอนนี้เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้ามาก
หลังจากที่หลิวต้าจ้วงกลับถึงบ้าน สังเกตเห็นซุนหรานหรานที่กำลังนั่งถ่ายรูปอยู่ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งพอดี
ชุดกระโปรงยาวรัดรูปที่ซุนหรานหรานสวมเผยให้เห็นรูปร่างส่วนโค้งว้าวของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเอวที่พลิ้วไหวก็ดูมีเสน่ห์เหมือนกับนางพญางูที่อยู่ในภาพวาดกำลังขยับ
ถึงแม้เรื่องแบบนั้นเขาจะไม่ได้เรื่อง แต่เขาก็ไม่อยากให้ซุนหรานหรานต้องเฝ้ารอเขาอยู่แบบนี้
ซุนหรานหรานเห็นท่าทางที่เร่งรีบของหลิวต้าจ้วง เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจภายในใจ แต่เธอก็ไม่อยากให้หลิวต้าจ้วงต้องเสียใจ ดังนั้นจึงทำได้แต่แบกรับมันเอาไว้อย่างเงียบๆ
หลิวต้าจ้วงเริ่มจูบลงไปตามคอสีชมพูของเธออย่างเชื่องช้า ชุดกระโปรงรัดรูปโดนเขาถอดทิ้งโดยตรง
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือช่วงล่างของซุนหรานหรานไม่ได้สวมใส่อะไรเลย ทุกอย่างปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
“หรานหราน คุณสวยมากเลย ผมรู้สึกผิดต่อคุณ”
หลิวต้าจ้วงลูบไล้ขาที่ขาวเนียนของซุนหรานหรานพร้อมกับจูบไปด้วย ในขณะเดียวกันก็มองทิวทัศน์ที่สวยงามตรงหน้าด้วยความผิดหวัง
“คุณพูดอะไรของคุณ ถ้าหากไม่มีคุณฉันคงตายไปตั้งนานแล้ว อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย คุณรีบทำเถอะ เมื่อกี้คุณทำให้ฉันรู้สึกมีอารมณ์แล้ว”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของซุนหรานหราน หลิวต้าจ้วงยื่นหน้าเข้าไปอย่างไม่ลังเลทันที
ไม่นานเสียงครางก็ดังออกมาจากปากของซุนหรานหรานอย่างต่อเนื่อง เสียงครางทำให้จ้าวเสี่ยวกังที่พึ่งนอนลงไปลืมตาตื่นขึ้นมา เล่นจนเขานอนพลิกไปพลิกมา และเขาถึงขั้นรู้สึกเสียใจที่ไม่ตอบตกลงคำขอของซุนต้าจ้วง
ซุนต้าจ้วงได้ยินเสียงของซุนหรานหรานแล้วรู้สึกคึกไปด้วย เขาหยิบท่อนไม้ที่ตัวเองแกะสลักออกมาสวมใส่โดยตรง หลังจากนั้นเริ่มบรรเลงบทเพลงรักกับซุนหรานหรานอย่างเมามัน
ผ่านไปสักพัก ทั้งสองคนนอนหอบหายใจอยู่บนเตียง
ซุนหรานหรานนอนทับอยู่บนตัวของหลิวต้าจ้วนโดยใช้หน้าของเธอแนบกับหน้าอกของเขา กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากร่างกายของเธอทำให้หลิวต้าต้าจ้วนอดไม่ได้ที่จะจูบหน้าผากของเธออีกครั้ง
เมื่อเห็นสีหน้าที่พึงพอใจของซุนหรานหราน หลิวต้าจ้วนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงจ้าวเสี่ยวกัง นึกถึงข่าวลือในหมู่บ้านที่เกี่ยวกับตัวของจ้าวเสี่ยวกัง ถ้าหากเขาลือพวกนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นแบบนั้นผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาจะรู้สึกมีความสุขมากกว่านี้มั้ง?
“หรานหราน ขอคุยอะไรกับคุณหน่อย”
“อืม…….คุณก็พูดมาสิ ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็ตอบตกลงคุณหมดไม่ใช่เหรอ?”
ได้ยินเสียงที่เย้ายวนของซุนหรานหราน มือทั้งคู่ของหลิวต้าจ้วงเริ่มไม่เชื่อฟังอีกแล้ว
“ก็เรื่องก่อนหน้านี้ที่ผมเคยคุยกับคุณไง หรือไม่คุณลองไปอยู่กับเสี่ยวกังสักสองสามครั้ง ผมอยากมีลูกแล้ว ถ้าเกิดไม่มีลูกพวกเราสองคนจะต้องโดนเยาะเย้ยลับหลังแน่นอน”
เดิมทีมือทั้งคู่ของหลิวต้าจ้วงเล่นจนทำให้ซุนหรานหรานรู้สึกเกิดอารมณ์อีกครั้ง แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขาอารมณ์มันก็หายไปทันที
“หลิวต้าจ้วง ทำไมคุณถึงยังคิดเรื่องนี้อีก? หลายปีที่ผ่านมาพวกเราไม่มีลูกก็ผ่านทุกอย่างมาได้ไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเห็นว่าซุนหรานหรานเริ่มรู้สึกโกรธ หลิวต้าจ้วงก็ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก เพียงแค่พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “หรานหราน ผมรู้ว่าคุณรักผม แต่คุณก็น่าจะรู้ว่าคนสองคนเมื่ออยู่ด้วยกันนานวันเข้า ความรู้สึกที่ไม่มีลูกมันเป็นยังไง เสี่ยวกังเป็นคนดี ผมคิดว่าเขาไม่มีทางพูดอย่างแน่นอน”
ความจริงภายในใจของซุนหรานหรานก็อยากจะตอบตกลงความเห็นของหลิวต้าจ้วง แต่เมื่อนึกถึงหน้าของจ้าวเสี่ยวกัง เธอรู้สึกไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันที
เพราะเธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับจ้าวเสี่ยวกังมาตั้งแต่เด็ก มันมีภาพของฝ่ายตรงข้ามอยู่ในใจแล้ว ถ้าหากลูกยังเป็นของจ้าวเสี่ยวกังอีก เธอไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะรักใครมากกว่ากัน เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงกับเรื่องของเธอและหลิวต้าจ้วง
“พวกเราไปรับเลี้ยงเด็กสักคนไม่ได้เหรอ?”
ซุนหรานหรานพยายามบ่ายเบี่ยงครั้งสุดท้าย เธอรู้สึกว่ารับเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง ยังไงก็ดีกว่ามีลูกกับจ้าวเสี่ยวกัง เมื่อเป็นแบบนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับหลิวต้าจ้วงมันก็จะไม่แย่ลง
“เห้อ รับเลี้ยงผมก็เคยคิด เพียงแต่คุณก็รู้ เรื่องแบบนั้นไม่นานก็จะมีคนรู้ และอยู่ดีๆคุณอุ้มเด็กคนหนึ่งกลับมาแล้วใครจะเชื่อว่าเป็นลูกของคุณ? วิธีที่ดีที่สุดคือยืมเมล็ดพันธุ์มาช่วยคลอด ผมรู้สึกว่าเสี่ยวกังคนนี้ใช้ได้ เขาเป็นคนจิตใจดีและน่าเชื่อถือ สิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นคนมีไหวพริบฉลาดหลักแหลม เขาไม่มีทางเปิดเผยความลับอย่างแน่นอน คุณคิดว่ายังไง?”
เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหลิวต้าจ้วง ซูนหรานหรานรู้สึกลังเลขึ้นมาทันที