ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 132 การเติบโตของจ้าวเสี่ยวกัง
จ้าวเสี่ยวกังขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวหวู่ เพราะวิธีนี้แตกต่างไปจากที่คุยกันเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง
เมื่อคืนจ้าวหวู่หมายความว่าให้เอาเงินจ่ายให้หมด และเพื่อปิดปากของทุกคน แต่ตอนนี้จ้าวหวู่จะเพิ่มราคาค่าเช่าที่ดินทางตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด
จ้าวหวู่ไม่ต้องการทำแบบนี้ แต่ผู้นำในเมืองโทรมาติดตามอยู่ ทำให้เขาลำบากใจ และเขาจะต้องเสียสละผลประโยชน์ของจ้าวเสี่ยวกัง
เมื่อเห็นดวงตาที่งงของจ้าวเสี่ยวกัง จ้าวหวู่ก็ทำอะไรไม่ถูก แต่ต่อหน้าทุกคนก็พูดอะไรไม่ได้
"หึๆๆ ในเมื่อพ่อแม่พี่น้องทุกคนไม่เสนอราคา ถ้าอย่างนั้นฉันเริ่มก่อน หนึ่งแสน ฉันเอา และจะจ่ายให้ครบเลย"
ขณะที่เสียงดังออกมา ทุกคนก็มองตามเสียงไป เพราะเงินหนึ่งแสนไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เงินนี้สามารถเอาไปดาวน์บ้านได้เมืองได้สบาย แต่เมื่อทุกคนเห็นว่าเขาคือเฉิงชางซูทุกคนก็ไม่พูดอะไร
เมื่อได้ยินแบบนี้ จ้าวเสี่ยวกังก็ชะงัก เรื่องที่เขากลัวที่สุดก็ได้เกิดแล้ว
จ้าวหวู่ไม่คิดว่าจะมีคนสามารถเอาเงินเยอะขนาดนี้ออกมาได้ในคราวเดียว
เมื่อเขาเห็นว่าเป็นเฉิงชางซูเขาก็เข้าใจทันที อีกฝ่ายหนึ่งเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงในหมู่บ้าน และเขาก็ได้เช่าที่ดินสี่ห้าสิบไร่ หลายปีมานี้ก็เก็บเงินได้ไม่น้อย แต่ว่าจ้าวหวู่รู้สึกว่าอีกฝ่ายคงจะมีแค่หนึ่งแสนเท่านั้น มากกว่านี้คงจะไม่มีแน่
"ตอนนี้เฉิงชางซูของหมู่บ้านเราได้เสนอราคามาแล้ว มีใครให้มากกว่านี้ไหม ถ้าไม่มีฉันจะประกาศให้เขาได้เช่นที่ดินทางตะวันตกแล้วนะ"
หลังจากรอเป็นเวลานาน จ้าวเสี่ยวกังเห็นว่าไม่มีใครเสนอราคาอีก เขาก็มั่งใจเล็กน้อย
แล้วเขาก็พูดว่า"หนึ่งแสนหนึ่งหมื่น"
การเสนอราคาของจ้าวเสี่ยวกังทำให้ทุกคนรอบตัวเขาประหลาดใจ โดยเฉพาะเฉิงชางซู เขาแทบจะชนะแล้ว เขาเคยคิดถึงคนที่จะมาประมูลแข่งกับเขา แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจ้าวเสี่ยวกัง
ก่อนอื่นยังไม่ต้องพูดถึงอายุของจ้าวเสี่ยวกัง ต่อให้เป็นครอบครัวของจ้าวเสี่ยวกังก็คงไม่มีปัญญาเช่าแน่นอน แล้วทำไมถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้
"เสี่ยวกัง บ้านเธอมีเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?อย่ามาพูดมั่วตรงนี้นะ น้าจริงจังนะ"
"หึๆๆ น้าเฉิง ฉันก็จริงจังเหมือนกัน ฉันก็ต้องการจะเช่า น้าก็รู้ สถานะบ้านฉันเป็นยังไง พี่ชายเสีย พ่อกับแม่ของฉันก็ทำงานไม่ไหวแล้ว แม้ว่าพี่สะใภ้จะหม้าย แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอต้องลำบาก อีกอย่างฉันก็ยังไม่แต่งงาน ดังนั้นฉันอยากจะเช่าที่ และหวังให้ที่ดินแห่งนี้มีกำไรและเอาเงินไปแต่งเมีย"
เฉิงชางซูได้ยินจ้าวเสี่ยวกังพูดแบบนี้ก็ชะงัก เมื่อดูหน้าของจ้าวเสี่ยวกังที่จริงจัง แล้วเขาก็ถามอย่างสงสัยว่า"เธอมีเงินหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหรือ?"
"หึๆๆ ถ้าฉันสามารถเอาออกมาได้ น้าเฉิงก็คงจะไม่แข่งกับฉันแล้วใช่ไหม?"
เมื่อเห็นรอยยิ้มกะทันหันของจ้าวเสี่ยวกัง เฉิงชางซูก็ชะงัก แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องของจ้าวเสี่ยวกังมากนัก อย่างไรก็ตาม เขายังเป็นเด็กในสายตาของเขา แต่เขารู้เรื่องที่จ้าวเสี่ยวกังเคยทำมาก่อน เด็กที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ฉลาดหลักแหลม และกล้าหาญ เด็กที่กล้าต่อกรกับหวังป้าเทียน เขาจะดูถูกไม่ได้
"หึๆๆ เธอวางกับดักฉันแล้วสินะ เอาแบบนี้ ถ้าเธอให้ฉันหนึ่งหมื่นฉันจะไม่แข่งกับเธออีก ไม่งั้นเราคงต้องประมูลแข่งให้ถึงที่สุด"
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉิงชางซู คนในหมู่บ้านที่อยู่รอบๆก็มองเขาอย่างไม่พอใจต่อการกระทำของเขา
แม้แต่หลิงต้าจ้วงก็ทนไม่ไหวแล้วพูดตรงๆว่า"เฉิงชางซู คุณหน้าไม่อาย แบบนี้ก็เหมือนแกล้งเสี่ยวกังนิ?"
"หึๆๆ หลิวต้าจ้วง แน่จริงก็มาประมูลแข่งกับฉันสิ ฉันมีอำนาจตรงนี้ ใครให้คุณไม่มีละ"
หลิวต้าจ้วงได้ยินแบบนี้ก็โกรธจนอยากจะลงไม้ลงมือ แต่จ้าวเสี่ยวกังที่อยู่ข้างๆได้ห้ามเอาไว้
จ้าวหวู่รู้สึกผิดต่อจ้าวเสี่ยวกังไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้ เมื่อได้ยินเฉิงชางซูพูดแบบนี้ เขาก็ก้าวออกมา
"ฉางซู พวกเราก็อย่าไปคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กๆเลย ที่ดินทางตะวันตกนั้นเสี่ยวกังไม่รู้ แต่ว่าคุณก็ไม่รู้หรือ? ก่อนอื่นถนนไม่ดี กาะเพาะปลูกก็ต้องดูดินฟ้าอากาศ รดน้ำก็ไม่ได้ ถ้าคุณเช่าแล้วมันก็ได้แค่ปลูกต้นไม้ ต้องรอสิบกว่าปีถึงจะมีกำไร ฉันว่าคุณยกให้เสี่ยวกังดีกว่า"
เฉินชางชูไม่คิดว่าจ้าวหวู่จะรู้ถึงความคิดของเขา เขารู้ว่าที่ดินเขาตะวันตกเพาะปลูกไม่ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงปลูกต้นไม้ ดอกเบี้ยในบัญชีของเขาไม่มากเท่ากับการปลูกต้นไม้ ดังนั้นเขาก็เลยมีความคิดที่จะเช่าที่ดินแห่งนี้
แต่ว่าเรื่องที่ทำให้เขาไม่ทำเงิน เขาไม่ยอมเด็ดขาด
"หึๆๆ ท่านหัวหน้า พวกเราต่างก็รู้ดีและไม่ได้โง่ ที่ดินทางตะวันตกไม่ดีก็จริง แต่ถ้าฉันเช่าแล้ว หลังจากผ่านไปสิบปีก็คงจะมีกำไรสามหมื่นห้าหมื่น ฉันแค่ของกับเสี่ยวกังหนึ่งหมื่นก็ถือว่าช่วยเขาแล้ว ไม่ก็ประมูลแข่งกันดีกว่า"
เฉิงชางซูทำท่าเหมือนคนรวยและไม่กลัวใคร
แต่สำหรับทุกคนที่เฝ้ามองอยู่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีคนรวยกว่าเขา แต่ที่ดินทางตะวันตกแห่งนั้นไม่สวย แม้ว่าเฉิงชางซูจะเอาไว้ปลูกต้นไม้ คนอื่นๆก็ไม่เห็นด้วย สามปีแรกต้องดูแลดีๆ รดน้ำใส่ปู๋ย ไม่งั้นก็ตายหมดแน่นอน และไม่ได้กำไรแน่นอน
จ้าวเสี่ยวกังเห็นท่าทางของเฉิงชางซูแบบนี้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธมาก แต่การกระทำของเฉิงชางซูทำให้เขาไม่พอใจ แต่ว่าถ้าไม่แข่งกันให้หนึ่งหมื่นก็ถือว่าคุ้มค่า
"น้าเฉิง ต้องรักษาคำพูดนะ ฉันจะให้น้าหนึ่งหมื่น น้าก็ไม่ต้องแข่งกับฉัน"
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวเสี่ยวกัง เฉิงชางซูก็ดีใจมาก ไม่ต้องเสียแรงก็ได้ตั้งหนึ่งหมื่น เหมือนกับแมงดา เขาจะไม่ดีใจได้ยังไง
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ หลิวต้าจ้วงก็มองจ้าวเสี่ยวกังอย่างไม่เชื่อสายตา" เสี่ยงกัง อย่าทำแบบนี้ เธอแข่งกับเขาเลย พี่จะให้เธอยื่มสองหมื่น"
เมื่อมองดูท่าทางโกรธของหลิวต้าจ้วง จ้าวเสี่ยวกังยิ้มเล็กน้อย: "พี่ต้าจ้วง พี่ใจร้อนแล้ว ฉันให้น้าเฉิงหนึ่งหมื่นยังจ่ายน้อยกว่า ทำไมต้องไปสู้กับน้าเฉิงให้ถึงที่สุดล่ะ อีกอย่างต่อไปจะมองหน้าน้าเฉิงยังไง"
คำพูดของจ้าวเสี่ยวกังทำให้ทุกคนที่อยู่มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
ก่อนหน้านี้ในสายตาของทุกคนจ้าวเสี่ยวกังเป็นหมาบ้า ถ้าใครยั่วเขาเขาจะกัดไม่ปล่อย แต่วันนี้คนพูดของจ้าวเสี่ยวกังทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาใจกว้าง รู้เรื่อง และฉลาด . .
จ้าวหวู่มองจ้าวเสี่ยวกังอย่างลึกซึ้ง และเรื่องอยากจะยกลูกสาวจ้าวถิงถิงให้จ้าวเสียวกังก็ชัดเจนยิ่งขึ้น
หลิวต้าจ้วงไม่คิดว่าจ้าวเสี่ยวกังจะพูดอะไรแบบนี้ เมื่อนึกถึงความใจร้อนของตัวเองไม่สักครู่ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเด็กอีก
"น้าเฉิง ฉันพูดคำไหนคำนั้น แต่ไม่รู้ว่าน้าเฉิงจะกลับคำพูดหรือเปล่า ถ้ารักษาคำพูดจริง เงินหนึ่งหมื่นนี้ก็จะให้น้า และอย่าแข่งกับฉัน"
หลังจากพูดแบบนี้ จ้าวเสี่ยวกังก็หยิบเงินหนึ่งหมื่นออกมาถุงดำ