ชาวนาตัวน้อยดีเลิศ - ตอนที่ 75 ความงามภายใต้แสงจันทร์
จ้าวเสี่ยงหลิงเป็นคนที่มีชื่อเสียงในด้านชีวิตลำบากของหมู่บ้านบางจื่อ ตอนเด็กเพราะว่าพ่อแม่กินเห็ดมีพิษเสียชีวิตไป ได้พึ่งปู่กับย่าเลี้ยงจนเติบโต ตอนเรียนนั้นผลการเรียนดีเยี่ยม แต่ปีที่เตรียมสอบเข้ามหาลัยเพราะปู่กับย่าไปทำสวนแล้วเกิดดินถล่ม ทำให้เขาตัวคำเดียวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เธอแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สามีของเธอเสียชีวิตภายในไม่กี่วันหลังจากการแต่งงาน แม้จะบอกได้ว่าเธอเป็นคนโชคไม่ดี แต่เธอเป็นคนที่เกิดในหมู่บ้าน คนหมู่ในหมู่บ้านก็พยายามช่วยเธอตลอด
เธอทำนาเพียงลำพัง และแบกน้ำเพียงลำพัง จากเด็กหญิงตัวเล็กๆกลายเป็นเด็กสาวร่างกายแข็งแรง แม้ว่ามุมมองของผู้คนมากมายในหมู่บ้านจะเปลี่ยนไปในหนึ่งปี แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เธอ เพราะทุกคนเห็นถึงคนที่อยู่กับเธอแล้วเกิดความโชคร้าย ไม่มีใครอยากเอาชีวิตไปล้อเล่น
สำหรับชื่อเสียงที่ไม่ดีของซ่งยวี่ชิง พ่อแม่ของเป็นของจ้าวเสี่ยวกังเป็นคนปล่อยข่าว แต่จ้าวเสี่ยวหลิงนั้นเป็นของจริง
ว่ากันว่าเด็กๆที่ยากจนความคิดจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่า จ้าวเสี่ยวหลิงก็เป็นเช่นนี้ พ่อแม่เสียตั้งแต่เด็ก หลายๆเรื่องเธอเข้าใจมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน แม้แต่เรื่องความสัมพันธ์ของชายหญิงก็เป็นเช่นนี้
ตอนที่เธอเรียนอยู่เธอก็เริ่มอ่านหนังสือผู้ใหญ่แล้ว และแม้กระทั้งเก็บหอมรองริบใช้เงินสองสลึงเพื่อไปดูหนังร้อนแรงแบบนั้นด้วย
หลังจากแต่งงานกัน เธอกับสามีก็จัดถึงเจ็ดยก นอกจากยกแรงที่รู้สึกเจ็บปวดแล้วนั้น ที่เหลือเธอรู้สึกถึงความผ่อนคลายที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความรู้สึกนั้นทำให้เธอลืมทุกอย่างไปชั่วขณะหนึ่ง ความเศร้าโศกทั้งหมดก็หายไป แต่วันรุ่งขึ้นที่เธอต้องมากพบกับความจริง เธอก็รู้สึกหดหู่อีกครั้ง เธอรู้สึกว่าสิ่งที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธออาจจะเป็นการได้อยู่กับสามีของเธอในเวลากลางคืนและทำเรื่องนั้นด้วยกัน
แต่หลังจากที่ได้ทำติดต่อกันหลายครั้งในหลายวัน เธอมีความสุข แต่สามีของเธอไม่ไหว
แม้ว่านั้นจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้สามีเสียชีวิต แต่เธอรู้สึกว่าเธอเป็นคนทำให้สามีหมดแรง เพราะครั้งสุดท้ายในวันที่สาม เธอเห็นสามีของเธอถึงกับเลือดกำเดาไหล แต่สามีเธอไม่ได้พูดเรื่องนี้
หลังจากที่โดนไล่กลับมา เธอก็รู้ว่าหลังจากนี้ชีวิตของเธอจะเป็นยังไง เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่ดีต่อไป เธอตั้งใจทำงาน ทำงานสุดชีวิต แต่ทุกคืนต้องพบกับความเหงา โดยเฉพาะเมื่อเคยได้เจอกับความสุขแบบนั้นแล้วกลับต้องมาเหงา เลยทำให้เธอคิดถึงมาก
จำได้วันมีอยู่วันหนึ่งตอนเที่ยงตอนที่เดินผ่านบ้านซุนหรานหราน เมื่อได้ยินเสียงครางของซุนหรานหราน เธอก็แอบมองจากรูประตูด้วยความสงสัย หลิวต้าจ้วงกำลังใช้แตงกวาทำให้ซุนหรานหราน หลังจากนั้นเธอก็ได้เดินเข้าสู่ทางช่วยเหลือตัวเอง
หลังจากทำงานเสร็จทุกวัน เธอมักจะช่วยตัวเองตอนที่อาบน้ำ
อื้อ…..หือ……
อื้อ……หือ……
แตงกวาในมือของเธอเริ่มเร็วขึ้น แต่เธอยังไม่รู้สึกถึงความรู้สึกที่ได้รับจากสามีของเธอ
จ้าวเสี่ยวกังไม่คิดว่าพี่หลิงที่ปกติสายตาเย็นชาจะมีด้านนี้ด้วย ความรู้สึกนี้ก็เหมือนกับครั้งแรกที่เขาเห็นพี่สะใภ้ใช้แตงกวาช่วยเหลือตัวเอง
แสงจันทร์สาดส่องลงมาที่ลานบ้าน และค่อยๆตกลงมาบนผิวเรียบๆจ้าวเสี่ยวหลิง เพราะต้องทำงานใต้แสงแดดมานานแม้ว่าผิวจะไม่ได้ขาวเหมือนซ่งยวี่ชิง แต่ภายใต้แสงจันทร์สาดส่องยิ่งทำให้ผิวเธอดูดี ผิวสีแทนแบบนั้นเติบไปด้วยความงามที่มีเสน์ห์
ไฟสองดวงที่อยู่ด้านหน้าของจ้าวเสี่ยวหลิงเคลี่อนไหวไม่หยุดด้วยมือของเธอ เสียงที่ดึงดูดนั้นทำให้ส่วนล่างของจ้าวเสี่ยวกังหยู่ไม่สุข
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประตูบ้านของจ้าวเสี่ยวหลิงยังคงเป็นประตูไม้แบบโบราณ และรอยร้าวที่ประตูมีขนาดใหญ่มาก จ้าวเสี่ยวกังไม่จำเป็นต้องก้มหัว เพียงแค่ยืนมองก็เห็นอย่างชัดเจน
จ้าวเสี่ยวหลิงทำอยู่ตั้งนาน มือของเธอเริ่มเมื่อย แต่ยังไม่มีความรู้สึกแบบนั้น เธอก็เลยกังวลขึ้นมา ยิ่งกังวลความรู้สึกแบบนั้นยิ่งไม่มี
อ๊ะ……
เสียงนี้ของจ้าวเสี่ยวหลิงเกือบทำให้จ้าวเสี่ยวกังที่อยู่ข้างนอกพุ่งเข้ามา แต่ยังดีที่เขาทนเอาไว้
จ้าวเสี่ยวหลิงขมวดคิ้วและดึงแตงกวาออกจากด้านล่าง เมื่อเห็นว่าแตงกวาแห้งเล็กน้อย เธอจึงค่อยๆ เหยียดลิ้นออกมาแล้วเลียเข้าไป ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็บีบไปที่หน้าอกของเธอ
จ้าวเสี่ยวกังไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็จ้าวเสี่ยวหลิงกลืนแตงกวาเข้าปากของเธออย่างช้าๆและคายออกดูแล้วช่างร้อนแรงจริงๆ
เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าการกระทำของจ้าวเสี่ยวหลิงถ้ามาใช้กับของใหญ่ของเขาคงจะสบายมากแน่ๆ
น้ำลายของจ้าวเสี่ยวหลิงยังคงห่อแตงกวาในมือของเธอต่อไป จนกระทั่งแตงกวาเปียก เธอเอามันออกจากปากของเธอ แล้วค่อยๆใส่เข้าไปด้านล่างอีกครั้ง
คราวนี้รู้สึกสบายขึ้นเยอะ และยังหล่อลื่นมากอีกด้วย
อ้า…อ้า……
ด้วยความเร่งในการเคลื่อนไหวของมือเธอ เธอค่อยๆมีความรู้สึก แต่จะให้ถึงความรู้สึกมีความสุขแบบนั้นยังไม่ถึง
จ้าวเสี่ยวกังโดนการกระทำของจ้าวเสี่ยวหลิงทำให้ร่างกายเขารุ่มร้อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นฉากนั้น จิตใจที่สงบแต่เดิมก็กระสับกระส่าย
อะแฮ่ม…
"พี่หลิงอยู่บ้านหรือเปล่า?"
รุ่มร้อนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป เขาไม่ต้องการที่จะมองแบบนี้อีกต่อไป เขาพร้อมที่จะริเริ่ม
จ้าวเสี่ยวหลิงยังคงช่วยเหลือตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงของจ้าวเสี่ยวกังก็ทำให้เธอตกใจ รีบดึงแตงกวาออกมา แล้วถามอย่างไม่แน่ใจว่า"ใครอ่ะ?"
ในหมู่บ้านบางจื่อมีคนไปหากันในช่วงเวลาดึกแบบนี้น้อยมาก อีกอย่างเธอยังเป็นแม่หม่าย และเป็นตัวซวย
"พี่หลิง นี่ฉันเอง จ้าวเสี่ยวกัง"
เมื่อได้ยินว่าเป็นจ้าวเสี่ยวกัง ความรู้สึกที่จางหายไปของจ้าวเสี่ยวหลิงก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเธอก็รีบเข้าไปในบ้านเพื่อสวมเสื้อผ้า
"เสี่ยวกังเรอะ รอสักครู่ ฉันจะเปิดประตูให้คุณเดี๋ยวนี้"
เมื่อจ้าวเสี่ยวหลิงเข้าไปในบ้านเพื่อสวมเสื้อผ้า จู่ๆเธอก็นึกถึงเรื่องที่มักพูดถึงในหมู่ผู้หญิงในหมู่บ้าน ของของจ้าวเสี่ยวกังนั้นใหญ่มาก มีอยู่ครั้งหนึ่งมันพุ่งออกมาต่อหน้าหลี่ชุ่ยฮวา ยังว่ากันว่าของของจ้าวเสี่ยวกังนั้นไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นของม้า
แต่ส่วนใหญ่จะพูดกันว่าถ้าโดนของจ้าวเสี่ยวกังเข้าไปจะรู้สึกอย่างไร มีบางคนบอกว่าต้องตายแน่ๆ บางคนบอกว่าต้องฟินมากแน่ๆ แต่ส่วนใหญ่บอกว่าฟินมากแน่นอน
จ้าวเสี่ยวหลิงมักจะใช้ชีวิตอย่างประหยัดมาก แต่คืนนี้เธอตัดสินใจแต่งตัวดีๆหน่อย
ในไม่ช้าเธอก็เดินไปที่ประตูและเปิดประตูให้จ้าวเสี่ยวกัง
ทันทีที่เขาเปิดประตู จ้าวเสี่ยวกังได้กลิ่นสบู่มะละกอจากอีกฝ่าย และในเวลาเดียวกัน ภายใต้แสงจันทร์ เขาก็เห็นชุดของจ้าวเสี่ยวหลิงในเวลานี้
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกซักจนโปร่งใสเล็กน้อย สายสีขาวที่รัดบั้นท้ายที่แข็งแรงไว้แน่น และเธอได้ใส่รองเท้าแตะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจ้าวเสี่ยวหลิงยังไม่ได้ชัดร่างกายให้แห้ง และไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน เสื้อขาวตัวนั้นรัดตัวของจ้าวเสี่ยวหลิงแน่น
"เสี่ยวกัง เข้ามานั่งก่อน เดี๋ยวฉันจะเอาน้ำให้ดื่ม"
จ้าวเสี่ยวหลิงต้อนรับดีมาก ดีจนจ้าวเสี่ยวกังทำตัวไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าเขาจะมาให้จ้าวเสี่ยวหลิงช่วยหรือจ้าวเสี่ยวหลิงจะให้เขาช่วย
เมื่อเห็นจ้าวเสี่ยวหลิงบิดสะโพกที่กระชับและแน่นของเธอพร้อมหยิบหม้อชาออกมาแล้วเทให้กับจ้าวเสี่ยวกัง
"เสี่ยวกัง มาหาฉันดึกแบบนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"
ทันทีที่พูดจบ จ้าวเสี่ยวกังก็รู้สึกว่าเป้าของเขาร้อน…