บทที่ 360 – สงครามดอกเบญจมาศ ครั้งที่ II (1)
ทางจักรวรรดิ ระดมกำลังทหารราว 30,000 นาย
แทนที่จะบอกว่า จัดกลุ่มองค์กรกันใหม่ พูดว่า จ้างมาน่าจะถูกต้องกว่า
ผมไม่คิดจะส่งสมาชิกคนใดในกองทัพจอมมารแม้แต่ตัวเดียวไปร่วมสงครามครั้งนี้ ผมตั้งใจที่จะไปสงครามโดยใช้แต่ทหารรับจ้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ทหารรับจ้างให้ภาพลักษณ์ว่า มีคุณภาพน้อยกว่าทหารในประเทศ แต่ควาสมจริงแล้วน่ะตรงกันข้ามเลย
เนื่องจากคนส่วนมากในยุคนี้เป็นชาวนากันทั้งนั้น
เหมือนดั่งสุภาษิตที่เขาพูดกันว่า “มีเพียงผู้มีประสบการณ์เท่านั้นที่รู้”
ทหารรับจ้างนั้นใช้ชีวิตอยู่ด้วย การสู้รบมาตลอดเวลาจึงย่อมต้องเก่งกว่า ชาวนาที่ทำไร่ทำนาทั้งปีอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างไรก็ดี……ทหารรับจ้างนั้นราคาแพง
แพง แพงโคตรๆ
ซึ่งราคาต่างกันไปตามประเทศ ค่าจ้างทหารรับจ้างทั่วไปก็ราวๆ 500 โกลด์ต่อปี
ไม่ใช่ 50 โกลด์ 500 โกลด์ต่างหาก
เรื่องนี้สำคัญมาก ผมขอย้ำอีกครั้ง
เอาล่ะ สมมุตินะคุณจะจ้างหน่วยทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งมาสักพักคนที่เป็นทหารเดินเท้าด้วยนะ …… นั่นก็หมายถึง คุณต้องโยนเงินไปถึง 500,000 โกลด์ต่อปีเลยล่ะ !
ถ้าใช้ทหาร
10,000 นาย ผลก็คือ เงินหนึ่งล้านโกลด์หายวับไปในพริบตา
ดังนั้น ที่คุณทุ่มลงไปมิใช่ ทหารแต่เป็นเงินต่างหาก
แล้วแถม ทหารม้ายังราคาแพงยิ่งกว่าทหารเดินเท้าอีก
เอาคร่าวๆก็สองเท่านั้นแหละ
ทีนี้เรามาคำนวนกันดีกว่า
ผมอยากจะจ้างทหารเดินเท้า 20,000 นาย และทหารม้า 7,000 นายเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ 20,000×500 7,000 × 1,000
สรุปแล้ว ผมจะต้องจ่ายเงินถึง 17 ล้านโกลด์ เป็นเงินจ่ายทหารรับจ้างในทุกปี
“ นี่มันแพงเกินไป”
ลาพิสตอบสั้นๆ
ผมไปปรึกษาลาพิสว่า เราจะจัดการกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร
จริงๆผมควรจะไปถามกับคนที่เชี่ยวชาญเรื่อง การเงินอย่างอิวาร์ แต่เธอกำลังวุ่นยุ่งกับการจัดการเงินที่เพิ่งได้มาจากเหล่าอาร์คดยุค
ผมรู้สึกผิดเรื่องนั้นที่โยนงานให้เธอก็เลย เรียกลาพิสมาแทน
“ตอนนี้พวกเราได้เงินมาห้าสิบล้านจากการจัดการกับอาร์คดยุค , แค่นั้นก็คงไม่เป็นไรมั้ง …….”
“
นี่เป็นเงินที่ท่านควรจะใช้เพื่อบริหารจักรวรรดิดังนั้นแล้ว ท่านสมควรจะประหยัดให้มากที่สุดค่ะ ”
ลาพิสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆขณะดีดลูกคิด
“จากการคำนวนของดิฉันแล้ว เราสามารถลดราคาของทหารเดินเท้าเหลือ 300 โกลด์ได้ค่ะ”
“ห้ะ ? ยังไงน่ะ ?”
“จ้างทหารรับจ้างส่วนมากจากเฮลเวติก้าค่ะ ”
ผมถึงกับเอียงคอ
“ไม่ใช่ว่า ทหารรับจ้างเฮลเวติก้านั้นแพงที่สุดหรือ ?”
เฮลเวติก้านั้นเป็นสมาพันธ์ของเผ่าต่างๆ
มีทั้งเอลฟ์ และคนแคระ
ด้วยการที่พวกนั้นกลัวการโดนไล่ฆ่าของพวกมนุษย์ ก็เลยหนีขึ้นภูเขาไปแล้วสร้างฐานทัพของตัวเอง
พอนานวันเข้า พวกนั้นก็พัฒนาทักษะความสามารถ แล้วก็สร้างหน่วยทหารรับจ้างขึ้นมา กลายเป็นวิถีชีวิตทำมาหากินของพวกเขา
ผลที่ได้ก็คือ จากประเทศประเทศหนึ่งก็กลายเป็นองค์กรทหารรับจ้างไปแทน
คนแคระเองก็มีพละกำลังมาก สมกับเป็นนักสู้ ส่วนเอลฟ์เองก็เป็นนักล่าโดยสัญชาตญาณอยู่แล้ว
จึงเป็นที่รู้กันทหารรับจ้างจากเฮลเวติก้าเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นทหารรับจ้างที่ดีที่สุด ทั้งพลังการต่อสู้ กำลังใจเข้มแข็ง และที่สำคัญที่สุดภักดีต่อนายจ้าง
ลาพิสหรี่ตามองผม
“พอเป็นเรื่องการเงินท่านนี่ช่างไม่รู้อะไรเลยนะคะ ท่านดันทาเลี่ยน
เป็นไปได้ไหมว่า โครงสร้างสมองของท่านต่างจากคนอื่น ?
ท่านเก่งกาจมากในบางเรื่อง แต่ดิฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมพอเป็นเรื่อง การเงินแล้วท่านกลับอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยเหลือเกิน”
“…….”
ลาพิสเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถด่าผมว่าโง่ได้ …….
ผมทำหน้ามุ่ย
“ช่าย, ข้ามันโง่นัก แต่ถ้าเถอะ แล้วใช้เวทย์มนตร์แบบไหนกันถึง กดราคาได้เหลือ 300 โกลด์ ?”
“สมาพันธ์เฮลเวติก้าเองก็ไม่ได้เข้าร่วมกับเรา ตั้งแต่ตอนที่พวกเราฆ่าอาร์คดยุคเป็นเยี่ยงอย่างให้ดูแล้ว ?
ดังนั้นพวกเขาจึงหวาดกลัวกันอย่างมากว่า เราจะฆ่าล้างพวกเขาด้วยเช่นกัน”
ผมถึงกับเปล่งเสียง “อ้อ” ขึ้นมาทันที ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นมาก่อนเลย
“ถึงพวกเขาจะยอมรับพวกเรา แต่ข้าสามารถขอให้พวกนั้นพิสูจน์ความภักดีได้ !”
“ค่ะ หากท่านไม่ยอมจ่ายเงินพวกเขาเลย พวกเขาย่อมประท้วง
แต่หากยอมจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำที่สมเหตุสมผล ก็จะไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นค่ะ ”
“นี่สินะ สาเหตุที่เธอบอกว่า 300 โกลด์ …….”
ลาพิสพยักหน้า
“ดิฉันตรวจดูราคาแล้ว ที่ฮับบวร์กกับทิวทัน ทหารเท้าคิดค่าจ้าง ประมาณ 500 โกลด์ ให้ราชอาณาจักรคาสทาเลีย อยู่ในช่วงราคา 450 จนถึง 475 โกลด์
ส่วนในบัทตาเวีย ราคา 300 โกลด์เป็นราคาปรกติ ”
“เห ?”
ที่บัทตาเวียราคาถูกจนน่าตกใจ
พอลาพิสเห็นผมมองเธอด้วยแววตาสงสัย เธอก็ตอบกลับมาในทันที
“นั่นเป็นเพราะวิธีการจ่ายมันต่างกันค่ะ
บัทตาเวียจ่ายเงินในรอบ 10 วัน
ในขณะที่ชาติอื่นจะติดไว้ก่อน แล้วค่อยจ่ายรอบ 3 ถึง 6 เดือน ”
“อ้อ เข้าใจแล้ว มันเป็นเรื่องของความเชื่อใจนี่เอง …….”
ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว
บัทตาเวียเป็นประเทศที่มั่งคั่ง ดังนั้นแล้วก็เลยสามารถจ่ายตังได้ตรงเวลา
‘ทำงานซะ แล้วจะได้รางวัลตอบแทน’ นั่นเป็นลักษณะความเชื่อใจต่อกัน
เมื่อเทียบกันแล้ว ชาติอื่นมีความเสี่ยงที่จะเบี้ยวตังต่อให้คุณเสี่ยงชีวิตเดิมพันไปแล้ว
ดังนั้นตามปรกติ ทหารรับจ้างจึงอยากที่จะรับงานของบัทตาเวียมากกว่าและเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมราคาถึงต่ำเช่นนั้น
“เช่นนี้แล้ว ราคา 300 โกลด์ จึงเป็นราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด”
ดวงตาสีฟ้าของลาพิสเปล่งประกาย
“ถึงแม้ท่านกับสาธารณรัฐบัทตาเวียจะไม่ได้ไว้ใจกันมากนักฃ
แต่ท่านเองก็ยังมีสิทธิ์ในการพิสูจน์ความภักดีของพวกเขาค่ะ
ดิฉันเชื่อว่า เฮลเวติก้าเองย่อมต้องเข้าใจเรื่องนี้ ”
“เอาล่ะ !”
ผมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ลาพิส, เราไปหาหัวหน้าของฝ่ายทหารรับจ้างเฮลเวติก้า !
ข้าจะมอบตราองค์จักรพรรดิให้ ถ้าเห็นว่าสมควร เธอใช้ได้เลยนะ ”
“รับบัญชาค่ะ ”
ในวันต่อมา ลาพิสได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนกิจการ
เธอเดินทางไปยังองค์กรเฮลเวติก้าและทำการจัดการกับสัญญาเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์
ผมไม่รู้เรื่องรายละเอียดหรอกนะ ลาพิสเองก็ได้ทำการว่าจ้าง ทหารเดินเท้า ราคา300 โกลด์ต่อนาย ส่วนทหารม้าก็ราคา 600 โกลด์ต่อนาย
แค่นี้ก็เพียงพอจะให้ตะโกนว่า ยะฮู่ว บราโว้แล้ว แต่นั่นมิใช่สิ่งเดียวที่เธฮจัดการ
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เธอไปคุกคามเขายังไง แต่หัวหน้าหน่วยของเฮลเวติก้าคงต้องผวามากแน่ๆ ถึงได้สัญญาว่า จะยอมจ่ายเงินในส่วนของทหารม้า 2,000 นายเอง!
ดังนั้น ผมจึงจ่ายค่าจ้างในส่วนทหารม้า 5,000 นาย ทั้งที่พวกเรา จ้างมาจริง 7,000 นาย
รายจ่ายที่ควรจะต้องจ่ายถึง 17 ล้านโกลด์ สามารถลดลงได้ถึง 9 ล้าน ด้วยฝีมือของลาพิส
เธอสามารถลดคอสได้ตั้งครึ่งหนึ่งแน่ะ !
ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ผมต้องเจียมตัวและรับทราบ
หากเทียบกับลาพิสแล้ว ผมไม่ต่างจากแมลงเม่าใต้แสงจันทร์ ผมเป็นเพียงเด็กน่อยที่หัดแต่งบทกวีต่อหน้าชาร์ล ปิแอร์ โบดแลร์
เนโครแมนเซอร์มือใหม่ต่อหน้าบาร์บาทอส
ผมต้องดูเป็นไอ้งั่งในสายตาลาพิสแน่ๆที่เปลืองเงินไปตั้ง 8 ล้านโกลด์
จงสรรเสริญท่านลาพิส ลาซูลิ ผู้ยิ่งใหญ่ ซัคคิวบัสตาสีฟ้าคราม!
“ลาพิส! เธอนี่สุดยอดที่สุดเลย! ”
ผมวิ่งเท้าเปล่าชั่วขณะที่ลาพิสกลับมาจากเฮลเวติก้า ดึงเธอเข้ามากอดแน่นๆ
ผมเดินเท้าเปล่าจริงๆนะไม่ได้พูดสำบัดสำนวน
ที่ผมไม่ได้สวมรองเท้าเพราะเพิ่งเสร็จกิจกามกับกามิกิน
“นับว่า ข้าได้แต่งตั้งคนที่เก่งที่สุด มีความสามารถที่สุดของข้าเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ !
ไม่อาจมีใครเทียบเท่าเทียบทานได้ ลาพิสสุดยอดที่สุดแล้ว !”
ลาพิสตอบกลับมาสั้นๆขณะที่อยู่ในอ้อมแขนผม
“……ท่านดันทาเลี่ยนคะ , ที่นี่เป็นราชวังหลวงนะคะ เป็นสถานที่ที่ควรแสดงมารยาท”
“จักรวรรดิเป็นส่วนขยายของผืนกายข้า ดังนั้นแล้วอย่าสนใจมารยาทพรรค์นั้นเลย !”
“สาวใช้กำลังเฝ้าดูอยู่นะคะ มันน่าอาย ”
น้ำเสียงของเธอทื่อด้านเหมือนไม่มีความอายปนอยู่เลย
ผมกลับทำเกินเลยกว่านั้นด้วยการแบกเธอขึ้นหลัง แล้วพาแห่ไปรอบราชวัง
แต่พอผมอุ้มเธอขึ้นหลัง เธอก็มองผมเหมือนกับเป็นขยะเปียก
แววตานี้นี่เองที่ทำให้รู้ซึ้งแล้วว่า ทำไมหัวหน้าของเฮลเวติก้าถึงได้หวาดกลัวนัก
ลาพิสช่างเป็นหญิงสาวที่น่ากลัวเหลือเกิน …….
“เธอกลับมาจากเฮลเวติก้านี่ คงเหนื่อยมากใช่ไหม?
อยากได้ไวน์ดีๆสักหน่อยไหม ?”
“การเดินทางของดิฉันนั้นเดินทางผ่านเวทย์เทเลพอร์ท ดังนั้นจึงไม่เหนื่อยล้าแต่อย่างใดค่ะ ”
“เอ้อ ……นั่นน่ะสิ ! แล้วอยากจะนวดหลังสักหน่อยไหม ?
ถึงเห็นอย่างนี้ก็เถอะ แต่ข้าน่ะมีสุดยอดทักษะการนวดจนได้รับคำชมจากบาร์บาทอสเลยนะ ว่าให้เลิกเป็นจอมมารแล้วไปเป็นคนนวดแทนเลยล่ะ ”
“ไม่เป็นไรค่ะ แต่เอ่อ ฝ่าบาทบาร์บาทอสมิได้ชมเชยท่านค่ะ นางเสียดสีท่านค่ะ ท่านดันทาเลี่ยน ”
ผมภูมิใจกับการที่ลาพิสประหยัดให้พวกเราได้ ถึง 8 ล้านโกลด์ ผมเลยอยากทำอะไรให้เธอบ้าง
อยู่ๆผมก็สัมผัสได้ถึงสายตาคน
ผมหันไปก็เห็นเดซี่มองผมด้วยความตื่นตะลึง
ราวกับว่า เธอได้เห็นในสิ่งที่ไม่สมควรเห็นเข้า
ผมรีบเปลี่ยนสีหน้าตัวเองทันทีที่เห็นเธอ
“เจ้ามองอะไรของเจ้า ? มีอะไรอยากจะพูดหรือไง ?”
“……ไม่มีค่ะ ”
เดซี่ตอบกลับพร้อมแสดงสีหน้าราวกับอยากจะอั้นไว้ไม่ถอนใจออกมา
“ฉันสมควรเอาไวน์มาจากโกดังไหมคะ ท่านพ่อ?”
“พอรู้ว่า เจ้าพอมีสมองอยู่บ้างก็ทำข้าโล่งใจ
หากเจ้าไม่พูดแนะนำเช่นนั้น ข้าคงเริ่มสงสัยแล้วว่า ในหัวเจ้านั่นเป็นสมองหรือตะกร้ากันแน่ เลิกต้วมเตี้ยมแล้วรีบไปเอาไวน์มา ”
ผมหันกลับไปพูดอย่างเร่าร้อนกับลาพิส
“ลองมาคิดๆดู ดูเหมือนข้ายังไม่เคยให้วันหยุดพักผ่อนกับเจ้าเลยนี่
อยากได้วันหยุดยาวตอนนี้เลยไหม?
เธอน่ะนะ ทำงานไม่มีวันหยุดมาตลอดเลยห้าปี , นี่เป็นโอกาสดีมากเลยนะที่เธอจะได้พัก
ข้าได้สร้างที่พักไว้ที่เนฟเฮมนะ และข้าจะดีใจมากเลยถ้าได้ให้เธอใช้งานบ้านพักหลังนั้น ”
“……เฮ่ออออออ”
ผมได้ยินเสียงเดซี่ถอนใจจากข้างหลัง
ยัยเด็กหม่นหมองสิ้นหวังนี่นะ
คงรู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่สมเหตุสมผลล่ะสิ
นางจะสิ้นหวังกับความไม่สมเหตุกับชีวิตแค่ไหนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ดังนั้นผมจึงปล่อยเธอไว้อย่างนั้นแหละ
(TTL : เดซี่เอ๊ย พรี่ดันเขาควายเผือกเรื่องลาพิสตั้งแต่แรกก่อนน้องเกิดอีก 55555 )
ต้องขอบคุณความสามารถที่เหนือระดับของลาพิส ผมจึงลดการใช้เงินของตัวเองได้เยอะมาก
พอได้กำลังใจฟื้นคืนมา ผมก็สั่งให้ทหารเดินทัพ
ด้วยกำลังทหาร 27,000,และลอร่าเองก็เป็นผู้บัญชาการทหารบก
สุดยอดทหารรับจ้างนำทัพโดยสุดยอดผู้บัญชาการ
* * *
Ο
“ท่านคอลซูลครับ , กองทัพจักรวรรดิเตรียมออกรบแล้วครับ ”
เคิร์ช ชไลเออมาเคอร์รีบมอบรายงานทันทีหลังเข้าออฟฟิศ
อลิซาเบธจิบเบียร์ที่มีรสขมก่อนจะตั้งคำถาม
“ช้ากว่าที่กำหนดไว้ จำนวนของเขาล่ะ ?”
“เราประมาณการไว้ว่า อยู่ระหว่าง สองหมื่นถึง สี่หมื่นครับ ”
อลิซาเบธขมวดคิ้ว
“พิสัยนั้นกว้างไป สองหมื่นกับสี่หมื่นนั้นห่างกันราวฟ้ากับเหว นายพลชไลเออมาเคอร์ ”
“ช่างน่าละอายนักครับ
ถึงพวกเราจะใช้สายลับมากที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจได้จำนวนที่แน่นอนมา……. ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเหตุผลที่ทำให้เราได้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ยากอีกด้วย ”
“เหตุผลรึ?”
เคิร์ซพยักหน้า
“กองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราไม่ขยับเขยื้อนกองทัพเลย ไม่ว่าจะบาร์บาทอสหรือทหารใต้การบัญชาของคนอื่นไม่มีครับเคลื่อนไหวเลย
ท่านครับ ดูเหมือนว่า ฝ่ายจักรวรรดิตั้งใจที่จะออกรบโดยใช้แต่ทหารรับจ้างเท่านั้น ”
“หืมมมมม…….”
“พวกเรายังคงไม่ทราบด้วยว่า เหตุใดเขาถึงตัดสินใจเช่นนั้น
ไม่สำคัญว่า ทหารรับจ้างจะใช้งานง่ายแค่ไหน ถึงอย่างไรก็เทียบไม่ได้กับกองทัพปีศาจ ”
อลิซาเบธนิ่งเงียบอยู่นานหลังจากเคิร์ซพูดจบ
เธอยังคงคิดต่อเรื่อยๆจนกระทั่งริมฝีปากแตะกับเครื่องดื่ม
“……เข้าใจแล้ว เขาพยายามจะเรียกคะแนนเสียงจากชาติอื่น , เคิร์ซเอ๋ย ดันทาเลี่ยนสนใจชื่อเสียงที่ได้จากการทูต ”
“ชื่อเสียงทางการทูตอย่างนั้นหรือครับ ?”
อลิซาเบธสยายผมสีเงินของเธอไปอยู่หลังหู
“พวกนั้นไม่ยอมใช้พลเมืองตัวเองเข้าร่วมสงคราม หากแต่ใช้เพียงทหารับจ้าง
นี่มิใช่การสู้รบกันเต็มรูปแบบระหว่างจักรวรรดิฮับบวร์กกับซาร์ดิเนีย
แต่นี่เป็นการดวลกันระหว่างชนชั้นสูงโดยมีเกียรติยศและเงินตราเป็นเดิมพัน …… เขาพยายามสร้างภาพความประทับใจแบบนั้น ”
พอได้ยินดังนั้นแล้ว เคิร์ซเอามือแตะคาง
“นี่ก็หมายความว่า ดันทาเลี่ยนใช้เงินก้อนโตเพื่อจ้างทหารรับจ้างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง
แล้วมันจะส่งผลได้มากขนาดนั้นหรือครับ ?”
“ลองคิดดูให้ดีๆสิ อะไรคือความชอบธรรม ของสงครามในครั้งนี้ ?
นี่ก็เพื่อธำรงรักษาเกียรติชื่อเสียงของ ลอร่า เดอ ฟาร์นาเซ่ ในฐานะชนชั้นสูง
หากจักรพรรดิออกรบ หลังสงครามที่จ้างมาแต่ทหารรับจ้างแล้ว เขาเองก็สามารถรักษาเกียรติของลอร่าได้โดยที่ไม่ต้องฝืนบังคับให้พลเมืองตัวเองต้องเสียสละกับเรื่องนี้
ไม่ว่าจะมุมมองไหน ก็กลายเป็นการดวลอันทรงเกียรติอยู่ดี …….”
อลิซาเบธถอนใจครั้งหนึ่ง
“ความชอบธรรมครั้งนี้มิได้หมายถึงแต่การกระทำการใดๆที่สนับสนุนการกระทำตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น
ความชอบธรรมของฮับบวร์กคราวนี้ถือว่า แข็งแกร่งมาก
แถมการทำแบบนี้ยังเป็นการเตรียมการณ์ล่วงหน้าเพื่อป้องกันการวิพากย์วิจารณ์จากการเมืองระหว่างชาติอีกด้วย ”
“การวิพากย์วิจารณ์จากระหว่างชาติหรือครับ ?”
สีหน้าของเธอหมองลง
“หากพวกนั้นเคลื่อนทัพจอมมาร พวกเราก็สามารถประกาศได้ว่า นี่เป็นการรุกรานของพวกปีศาจ
สิ่งนี้จะมอบความชอบธรรมให้กับราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย
ดันทาเลี่ยนระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเรื่องนั้นขึ้น …….ช่างเป็นชายที่ชั่วร้ายที่สุดถึงที่สุดจริงๆ ”
“แต่พวกเราเตรียมตัวกันมาดีแล้วนะครับ ท่าน ”
“แน่ล่ะ ”
อลิซาเบธลุกจากเก้าอี้
“ถึงคราวที่เราต้องเคลื่อนไหวแล้ว ,เคิร์ท
ให้ทหารของพวกเราไปเตรียมตัวที่ชายแดน
พวกเราอาจไม่ต้องรอกันนานนัก ”
“ครับ ตามบัญชา ครับท่าน ”
MANGA DISCUSSION