Dungeon Defense (WN) - ตอนที่ 235 การสู้รบของจอมมาร (6)
* * *
การเจรจาต่อรองรอบที่สามมีขึ้นที่เนฟเฮมในวันต่อมา
เหล่าจอมมารในวันนี้ส่งเสียงหนวกหูผิดจากทุกที
จอมมารหญิงทั้งหลายต่างไม่สนใจอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากการพูดคุยเม้ามอยต่อกัน เนื่องจากเรื่องราวลับๆฉาวๆ
“ใช่ๆ ข้าได้ยินมาเหมือนกันว่า เมื่อคืนน่ะดันทาเลี่ยนไปหาคุณกามิกินที่บ้านพักส่วนตัว…….”
“ข้าได้ยินข่าวนั้นมาจากคนที่สนใจใคร่รู้แล้วแอบวางฟามิล่าไว้ที่หน้าประตูบ้านพัก แล้วก็พบว่า ดันทาเลี่ยนออกมาจากบ้านพักตอนรุ่งสาง ข่าวนั่นเป็นความจริงแน่ๆแล้วล่ะ!”
“ความจริงจะเปิดเผยผ่านการเจรจาครั้งนี้เอง…….”
ผมตั้งใจที่จะเข้าไปทางประตูหน้าของบ้านพักกามิกินตอนที่แวะไปหา ก็แน่นอนอยู่แล้ว เป้าหมายของผมคือ ต้องการจะตกเป็นข่าวฉาวรู้รักกับกามิกิน การเติมเชื้อไฟในข่าวนั้นย่อมเป็นประโยชน์กว่า
พวกสังคมไฮโซน่ะ ยิ่งตื่นเต้นคึกคักยามเมื่อรู้ข่าวว่า ฝ่ายเป็นกลางนั้นได้เข้าร่วมกับศึกที่ผ่านมาด้วย
ผู้คนชักเริ่มสนใจแล้วว่า เกิดอะไรกับการที่ผมไปเต้นรำในงานเลี้ยงกับมาร์บาส
และก็มีบางพวกอีกเหมือนกันที่คิดว่า ผมนั้นมีความสัมพันธ์กับมาร์บาส บางพวกก็คิดว่า สิตริก็มีความสัมพันธ์กับผมด้วยเช่นกัน
ในวันแรกของงานเลี้ยงนั้น สิตริเข้ามาหาผมก่อนโดยไม่ลังเลจากนั้นก็ควงแขนผม ไม่มีทางที่จอมมารอื่นจะไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้หรอก
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจด้วยซ้ำกับการที่คนอื่นจะมองผมแปลกๆ ยามที่รับรู้ว่า สตริผู้มีตำแหน่งเป็นถึงตัวแทนของฝ่ายภูเขาจะยกทัพเข้ามาเป็นกองหนุนในการรบด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น
“หากจะนับรวมคุณบาร์บาทอสแล้ว…….”
“ดันทาเลี่ยน คบกี่คนแล้วเนี่ย?”
รอบตัวผมก็มีข่าวสามอย่างนี้
ข่าวแรก ผมกับกามิกินก็รักใคร่กันดี
ข่าวที่สอง ผมมีความสัมพันธ์ลับๆกับมาร์บาส
และข่าวที่สาม ผมกับสิตริใกล้ชิดกันเหลือเกิน
รวมแล้วผมมีชู้รักถึงสามคน ก็ใช่ว่าข่าวลือพวกนั้นจะไม่มีมูลเสียทีเดียว ทั้งสามคนต่างมีหลักฐานยืนยันสนับสนุนอยู่
ชื่อของ ดันทาเลี่ยนจึงเป็นหัวข้อสุดฮอตฮิตที่แพร่กระจายไปทั่วสังคมไฮโซ
แม้ผมจะนั่งลงที่เก้าอี้เจรจา จอมมารหญิงก็ยังคงพูดคุยเสียงดังกันต่อไป
“แหม แหม! เขานั้นมีรสนิยมชื่นชอบทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ การที่เขาได้ทั้งคุณบาร์บาทอสและคุณกามิกินก็พิสูจน์เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่สนเรื่องเพศด้วยสินะ ถึงได้ไปใกล้ชิดกับเซอร์มาร์บาส”
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เธอก็รู้นี้ว่า คุณสิตริจะเป็นยังไง พูดง่ายๆเขาน่ะกว้างขวางมากทั้ง ผู้ชาย,ผู้หญิง,เด็กสาว รวมถึง กะเทยแท้…….”
“ข้าไม่เคยเจอพวกบ้ากามขนาดนี้มาก่อนเลย!”
“น่าประทับใจอะไรเช่นนี้!”
การที่ได้รับปฏิบัติว่าเป็นพวกลามกบ้ากามเป็นดั่งการได้รับยกย่องสรรเสริญในโลกปีศาจ พวกจอมมารหญิงต่างจับจ้องมองผมด้วยสายตาชื่นชมแปลกๆ
แต่ไม่หรอก ผมไม่ได้เป็นไอ้พวกโรคจิตลามกอะไรขนาดนั้น
ไม่นับจอมมารสามตน มีเพียงตนเดียวที่ผมร่วมเตียงด้วย
เอาล่ะ ถ้าระบุให้ชัด พวกเราทำกันในสวน จึงไม่เคยร่วมเตียงกันสักครั้ง
กามิกินจัดเป็นคู่นอนที่ดีคนนึงเลยล่ะ
เธอมักจะขบริมฝีปากอดกลั้นพยายามที่จะไม่ครางออกมา เธอคงคิดมั้งว่า ผมจะแฮปปี้ดี๊ด๊าหากได้ยินเสียงครางของเธอ
แต่ขอโทษนะ นั่นเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่เลยล่ะ
ผมน่ะไม่ใช่พวกประเภทที่จะตื่นเต้นเวลาได้ยินเสียงครางของคู่ขาเพราะเทคนิคจองผม หากจะมีอะไรที่ทำให้ผมเร้าใจขึ้นมาได้ก็คงจะมีแต่การเห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างทรมาน และยิ่งพยายามที่จะข่มกลั้นไม่ร้องครางออกมามากกว่า
อ่าาาาาห์ กามิกินพยายามอย่างสุดกำลังที่จะอดทนข่มมันไว้!
(TTL : เลื่อนขึ้นไปอ่านอีกรอบ
‘ผมไม่ได้เป็นไอ้พวกโรคจิตลามกอะไรขนาดนั้น’
……เหรอวะ! )
ไฟปรารถนาของผมกลับยิ่งร้อนแรงขึ้น ยามเมื่อมีป้อมปราการที่ไม่อาจเจาะเข้ามาตั้งอยู่ต่อหน้านักยุทธศาสตร์
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พวกเขาจะไม่ทุ่มเททุกอย่างที่มีทั้งชีวิตเพื่อพิชิตมันอย่างนั้นหรอกรึ?
ผมเองก็ไม่ต่างกัน
เกือบชั่วโมงแล้วที่เรามีเซ็กส์กัน ผมแน่ใจว่า เธอถึงจุดสุดยอดไป หกถึงเจ็ดรอบ แต่กามิกินไม่ยอมครางออกมาตลอดที่ร่วมรักกัน
คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย เธอยังอดทนไหว ความอุตสาหะของเธอช่างน่านับถือยิ่ง
ตอนนั้นเองที่ผมถึงกับแสดงสีหน้าอึ้งออกมาขณะพูดกับเธอ
‘น่าประทับใจเหลือเกิน จอมมารเลขหลักเดียวนี่ผิดกันจริงๆ
ไม่สิ แม้กับไพมอนเองก็ยังขาวไม่เท่า’
‘……ไพมอน? อย่าบอกนะว่า นายก็ไปทำกับนางด้วย?’
‘ใช่’
โกหกน่ะ
‘ข้าขอถามกลับบ้าง เธอคิดว่า สิตริเองจะกล้าให้ความช่วยเหลือข้าไหม แม้มันจะขัดต่อเจตจำนงของไพมอนน่ะ?’
‘…….’
กามิกินถึงกับหุบปากเงียบ เป็นที่รู้กันทั่วว่า สิตรินั้นเป็นหมาผู้ซื่อสัตย์ของไพมอน นั่นแหละสาเหตุที่ว่า ทำไมพวกฝ่ายภูเขาถึงได้ดันตัวสิตริ ข้ารับใช้ของไพมอนขึ้นมาแทนตำแหน่งของนาง
ในความเป็นจริงแล้วนั้น ไพมอนยังคงคอยควบคุมฝ่ายภูเขาอยู่ และสิตริเองก็มิได้เป็นอะไรไปมากกว่าหัวหน้าหุ่นเชิด
ดังนั้นแล้วผู้ที่ให้การช่วยเหลือฝ่ายที่ราบในการรบครั้งนี้จะเป็นใครอื่นไปได้อีกหากมิใช่ไพมอน
เธอย่อมต้องคิดแบบนี้แน่!
ผมทำให้กามิกินเข้าใจผิดไปว่า ผมนั้นเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ เพื่อจะได้ยากต่อการคิดคดทรยศผมในภายหลัง
การทำร้ายดันทาเลี่ยนนั้นหมายถึง การตั้งตนเป็นศัตรูทั้งกับ บาร์บาทอส,มาร์บาส รวมถึงไพมอนด้วย ผมจะดีใจมากหากเธอคิดแบบนั้น
‘คุณกามิกิน สนใจจะเดิมพันอะไรเล็กๆน้อยๆกับข้าไหม?’
‘เดิมพัน?’
‘อันที่จริง ข้าออกจะมั่นใจในทักษะลีลาของข้ามา แต่ถึงอย่างนั้น คุณกามิกินเองก็เป็นดั่งกำแพงป้อมที่ยอมล้มลงมาโดยง่าย ซึ่งนั่นทำให้ข้าไฟติดขึ้นมาแล้วล่ะ’
ผมยกนิ้วชี้ขึ้นหนึ่งนิ้ว
‘ขอเวลา หนึ่งชั่วโมง…….ใช่แล้ว ง่ายๆเลย หากคุณกามิกินนั้นร้องขอให้ข้าหยุดในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ นับเป็นชัยชนะของข้า’
กามิกินแสดงสีหน้าแปลกๆ
‘เป็นที่แน่นอนว่า ข้าย่อมต้องแพ้หาก เธอทนได้ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงดังกล่าว’
‘แล้วเราจะเดิมพันด้วยอะไร?’
‘หืมมม ไม่เพียงแต่พวกเราจะประกาศดินแดนที่เป็นของเธอคืนกลับไปให้ แต่ฝ่ายเราจะเพิ่มดินแดนที่เดิมเป็นของคุณอกาเรสให้ด้วยนะ’
เธอครุ่นคิดสักพักหนึ่ง
ตอนนี้น่ะ กามิกินได้ครอบครอง ภูมิภาคซิเลเซีย(Silesia)และหากเธอได้รับโมราเวียที่ถูกอกาเรสตีชิงคืนกลับไป พื้นที่ที่เธอมีก็จะกลายเป็นสองเท่า มันช่างเป็นดีลที่หอมหวานเสียเหลือเกิน และก็เพราะเหตุนั้นนั่นแหละเลยยิ่งทำให้กามิกินยิ่งต้องระวัง
‘แล้วหากข้าแพ้ล่ะ?’
‘ขอให้มาเล่นกับข้าอย่างนี้บ้างเป็นบางเวลา หากเป็นไปได้ก็อย่าปฏิเสธคำขอร่วมเตียงของข้าเลย’
‘…….’
กามิกินก็คงรู้ถึงเทคนิคที่ผมโชว์ให้เธอเห็นในชั่วโมงที่แล้ว
เธอคงตัดสินใจได้ไม่ยากว่า จะทนต่อไปได้อีกชั่วโมงหรือไม่
และหากเธอยังเลือกที่จะทนต่อไป จุดอ่อนไหวต่อการสัมผัสจะยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ รางวัลมันช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน
หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เธอก็จะได้รับดินแดนมากมายคืนกลับมา ขอแค่เธออดทนไว้ได้แค่เพียงหนึ่งชั่วโมง
ในขณะที่ ราคาของการพ่ายแพ้นั้นไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นเลย
เธออาจดูถูกดันทาเลี่ยนอยู่ในใจ แต่การที่หลับนอนกับเขาทุกครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น
‘ก็ได้ มันก็ง่ายดี’
กามิกินเปล่งเสียงหึออกมา
‘อย่าคิดจะผิดสัญญาเชียวนะ เจ้าหนู’
‘ข้าไม่ผิดสัญญาเพราะท่านเป็นลำดับ 4 หรอกน่า’
ผมก็แค่โกง
โกงด้วยการควักขวดเล็กที่เปล่งแสงประกายออกมา
‘ถ้าเช่นนั้น ขอให้เพลิดเพลิน’
เจ้าสิ่งนี้คือ <ยาเสน่ห์ชนิดพิเศษที่ผลิตโดย เจเรมิ> ผมเคยใช้มันเพื่อพิชิตเดซี่ในอดีต เพียงหยดเดียวบนลิ้นนั้นก็จะเปลี่ยนร่างทั้งร่างให้กลายเป็นจุดที่อ่อนไหวไวต่อสัมผัส
ผมไม่อยากบอกเลยว่า เกมมันเริ่มยังไงดี
สามสิบนาทีผ่านไป
‘ฮิก, ฮ่าาาห์……อึกก, อ่าาา…….’
กามิกินนอนทอดตัวอยู่บนผืนหญ้า เหยียดแขนขาแล้วตัวงอราวกับตุ๊กตาที่แตกสลาย ดูเหมือนเธอไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้ เช่นเดียวกับหัวไหล่และก้นที่ขยับงอไปเอง ผมกระแทกด้านหลังของกามิกินขณะที่เห็นภาพตรงหน้าไม่ต่างจากปลาที่กระเสือกกระสนดิ้นรนหาน้ำ
เพียงแค่สัมผัสจากฝ่ามือของผมเบาๆก็เพียงพอที่ทำให้กามิกินทรมานจนกรีดร้งออกมา ทั่วทั้งร่างกายของเธอนั้นไม่อาจทนความอ่อนไหวได้อีกต่อไป
‘แหม ข้านี่ก็ เมื่อครู่เธอน่ะถึงจุดไปอีกแล้วใช่ไหม? แค่ข้าใช้มือแตะเบาๆก็ดูเหมือนเธอจะกลายเป็นมาโซคิสม์ที่สุดแสนจะเกินเยียวยา
ตัวข้า ดันทาเลี่ยนผู้นี้ ถึงกับประหลาดใจจริงๆ’
‘ฮึกก……อึกก……!’
‘เอาล่ะ ตอนนี้ยังเหลืออีก หนึ่งขวด อ้าปากสิ’
กามิกินมองผมด้วยใบหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตา ผมถือขวดยาปลุกเซ็กส์ไว้ในมือ
‘อีกขวด , เหลือ……?’
‘แน่นอน ข้านั้นมีสุดยอดนักปรุงยาเป็นลูกน้อง แค่เพียงหยดเดียวเท่านั้นก็จะทำให้ร่างทั้งร่างของคนๆหนึ่งกลายเป็นจุดที่อ่อนไหวได้ทันที
แต่ถึงอย่างนั้น สมแล้วที่เป็นคุณกามิกิน เธอน่ะไม่เหมือนพวกนั้น แม้จะดื่มไปอีกขวดก็ไม่เป็นไร!’
ผมแสยะยิ้ม
แม้แต่ว่าที่ฮีโร่อย่าง เดซี่ ก็ยังพ่ายแพ้แก่หนึ่งหยด ส่วนกามิกินก็ดื่มมันไปทั้งขวด
สมองของเธอน่าจะไหลเป็นน้ำแล้วมั้ง การที่พูดออกมารู้เรื่องนี่นับว่า น่าประทับใจสุดๆ สมกับเป็นจอมมารลำดับสูงจริงๆ
‘แหม แหม ข้านี่ คงจะแพ้แล้วแน่ๆเลย ข้าถึงได้ร้อนใจขนาดนี้ ดังนั้นแล้ว คุณกามิกิน ข้าจะดีใจมากหากเธอน่ะยอมดื่มอีกขวด’
‘…….’
‘หรือเธอ ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ …….อย่าบอกข้านะว่าเธอ’
ผมเขย่าขวดเบาๆ ของเหลวสีม่วงในขวดไหลไปมาตามแรงมือ
‘เจ้ากำลังขอให้ข้าหยุดแค่เพียงเท่านี้หรือ?’
‘…….’
‘ข้าน่ะ ไม่อยากจะว่าอะไรหรอกนะ แต่ต่อให้เธอขอให้ข้าหยุด ข้าก็จะเลิกใช้ยาตัวนี้ หากข้ายังเพลิดเพลินต่อการเฝ้าดูคุณกามิกินทนทรมานต่อไป ข้าก็ออกจะชั่วร้ายไร้เมตตามากเกินไปหน่อยแล้วล่ะ?’
แต่เอาจริงๆ ผมล่ะโคตรเพลินเลยล่ะ
‘ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้คุณกามิกิน พูดประโยคนั้นกับข้าสิ
ว่าได้โปรด อย่าให้ข้าดื่มมันเลย ได้โปรดเถอะ’
‘……ข้าจะดื่ม’
กามิกินมองผมด้วยแววตาดุดัน
‘ข้าไม่ใช่พวกกระจอก ข้าไม่มีทางแพ้ให้กับของแบบนั้น’
‘โอ้! ช่างน่าเหลือเชื่อ ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ยอดเยี่ยมจริงๆ!’
ผมเปิดจุกขวด
‘ถ้าเช่นนั้นก็ตามที่เธอขอมา ข้าจะจัดขวดที่สองให้โดยไวเลยล่ะ’
ผมเทของเหลวในขวดเข้าสู่ร่องปากของกามิกิน
เจเรมิใช้เงินไปกว่าพันโกลด์เพื่อสร้างพวกนี้ขึ้นมาหนึ่งขวด มันไม่มีทางสูญเปล่าอยู่แล้ว
ผมไม่มีทางใช้มันกับจอมมารลำดับ 4 หรอก หากผมคิดว่า มันจะสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ ว่าแต่ ผมควรใช้เจ้านี่ในนามของเทพีหรือเทพองค์ใดดีล่ะ?
‘……!’
ไม่นานนัก สีหน้าของกามิกินยิ่งบูดเบี้ยวหนักขึ้น
๊อ๊าาา อั่ก อ้ากกก
เสียงร้องครางดังเป็นช่วงๆจากริมฝีปากงาม
เสียงครางกลับยิ่งดังขึ้นเมื่อต้องลมเย็นที่ผ่านมาในสวน สัมผัสของเธอนั้นอ่อนไหวแม้แต่กับลมเบาๆ
‘ฮ่าาา อู่วววว……อึกกกก…….’
‘น่าประทับใจเหลือเกิน ท่านยังคงอดทนได้เป็นอย่างดี ประทับใจในเจตจำนงของเธอมากๆ ขอให้รักษามันไว้ให้ดีนะ ต่อจากนี้ คุณกามิกินจ๋า อ้าปากหน่อย’
‘ห้ะ, ห้ะ……?’
กามิกินมองผมด้วยแววตาอันพร่ามัน เหมือนเธอกำลังถามผมผ่านสายตา ผมยิ้มกว้างออกมา
‘ข้ายังมีเหลืออีก 6 ขวดน่ะ’
แววตาของกามิกินสั่งเทา
‘อาาาา……?’
‘คุณกามิกินช่างเป็นผู้หญิงผู้หลงผิดไปว่า มันจะจบแค่ตรงนั้น แต่ข้ายังใส่ไม่สุดเลย
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบเจอกับคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้’
‘เดี๋……ยว’
‘โอ้ ได้โปรดเถอะ เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! เธอกำลังจะบอกว่า มันไม่มีทางได้ผลกับเธอใช่ไหมล่ะ ใช่ไหม?
อย่างที่คิดจริงๆ สำหรับคุณกามิกินแล้วเนี่ย มันอ่อนไปจริงๆนั่นแหละ ดังนั้นขอให้ข้าได้แสดงความจริงใจและความนับถือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มที่ด้วยเถอะ’
ผมเทอีกขวดลงไปในปากของเธอก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรทั้งนั้น
ส่งท้ายจากผู้เขียน
Q: ‘คนพรรค์นี้’ เนี่ยนะเป็นตัวเอกของเรื่อง?
A: ใช่, ‘คนพรรค์นี้’ นี่แหละที่เป็นตัวเอกของเรื่อง