ผมถอดผ้าคลุมสีดำที่คลุมไหล่ออก
“…….”
เด็กสาวตรงหน้าผมปิดตา ราวกับยอมรับชะตากรรมตัวเอง
ดูเหมือนเธอจะเข้าใจอะไรผิดไปเพราะเห็นผมถอดเสื้อผ้าออก
ผมหัวเราะขณะที่เข้าไปใกล้เธอ ผมถึงได้เห็นว่า เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าผมนั้นงดงามจนชวนให้หลงไหลคลั่งไคล้ขนาดไหน พออยู่ห่างไม่ถึงก้าว
เอาล่ะ อาจจะชวนให้ลุ่มหลงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของเธอเป็นเด็กสาวก็ได้
ผมดึงไปป์ออกจากผ้าคลุมแล้วสอดมันลงในกระเป๋ากางเกงแทน
ก่อนที่จะค่อยๆวางผ้าคลุมลงบน ร่างกายที่เปลือยเปล่า และขาวซีดของเธอ
“……?”
อิวาร์ ล็อดบรอคเบิกตาขึ้นอย่างระมัดระวัง
เธอมองมาที่ผม ดวงตาของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ไม่คาดฝัน รอยยิ้มเป็นกันเองเผยออกมาที่ปากของผม
“ถือว่าแย่มาก หากข้าปล่อยให้เลดี้ผู้หนึ่งต้องเป็นหวัด”
“……ข้าออกจะแน่ใจแล้วว่า ฝ่าบาทน่าจะปรารถนาร่างกายของเด็กสาว”
“หาาา? ทำไมข้าต้องไปทำอะไรแบบนั้นกันล่ะ? ข้าไม่ใช่พวกชั่วแบบนั้นสักหน่อย”
ช่างเป็นการสรุปที่น่าตลกดีแท้
อิวาร์ ล็อดบรอคถึงกับขมวดคิ้วพอผมตอบแบบนั้น
“ขอประทานอภัย แต่ไม่ใช่ว่าท่านมีรสนิยมชอบเด็กสาวหรือคะ ฝ่าบาท?
ข้าออกจะแน่ใจแท้ๆว่า หลังจากสังเกตมาหลายรั้งถึงความสัมพันธ์ของท่านที่มีกับฝ่าบาทบาร์บาทอสและเด็กสาวที่เป็นข้ารับใช้ของท่าน”
“นั่นมันเข้าใจผิดอย่างแรงเลย”
ปล่อยให้คำพูดให้ร้ายคนอื่นแบบนี้ แพร่กระจายไปทั่วโลกแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย? ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“ข้าชอบสาวที่โตเต็มวัย แต่ถึงนั่นจะเป็นรสนิยมข้าจริง ข้าก็ไม่โง่พอจะลวนลามหัวหน้าบริษัทเคียนคุสก้าหรอก ก็น่าจะชัดเจนอยู่แล้วนี่?”
“อืมม ข้าเข้าใจแล้ว หรือรายงานนั้นจะผิดพลาดกันนะ?”
อิวาร์ ล็อดบรอคแตะคางราวกับมีหนวดอยู่
ผมมองเธอด้วยความฉงนสงสัย พอเธอเห็นดังนั้นก็รู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่จึงหยุดมือ
เธอกระแอมแบบอายๆก่อนจะเอาผ้าคลุมมาห่มให้ดี
“อืม ก็นานพอสมควรเลยที่ข้าไม่ได้ใช้ร่างกายจริง ก็เลยมีบ้างที่เผลอแสดงกิริยาท่าทางแปลกๆไป ขออภัยด้วย”
ไม่ใช่แค่ท่าทางอย่างเดียว วิธีการพูดยังไม่ต่างจากชายแก่
มันก็บันเทิงสำหรับผมดีที่ได้เห็นเด็กสาวตัวน้อยๆพยายามทำตัวเหมือนผู้ใหญ่
“ในเมื่อทุกอย่างลงตัว ข้าก็จะรอรับผิดชอบในฐานะที่ทำให้เจ้าต้องเปิดเผยตัวจริงเช่นนี้
เอาล่ะ เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ว่าแต่เจ้านี่ไม่รู้จักวิธีรับแขกเลยรึอย่างไรกันนะ”
ผมทิ้งตัวลงกับโซฟาใกล้ๆ
“ยังไม่เอาไวน์มาให้อีก! หวังจะให้ข้าสนิทสนมกับเจ้าแบบนี้ได้ที่ไหนกัน?”
“ฝ่าบาท หรืออันที่จริงทั้งหมดที่ท่านทำมานี่ก็เพื่อจะได้ดื่มเหล้าบกับข้าหรือ?”
อิวาร์ ล็อดบรอคนั้นมองผมขณะที่ยังเกาะผ้าคลุมด้วยมือทั้งสอง ดูเหมือนเธอจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ดี
“แล้วยังไงกันล่ะ? นี่เจ้าคิดว่า ข้าอยากมาพบร่างจริงของเจ้าเพียงเพื่อที่จะกุมจุดอ่อนอย่างนั้นรึไงกัน?
ข้าบอกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่านี่หน่า ความปรารถนาเดียวของข้าที่มีคือ การได้สนิทสนมกับเจ้า”
ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ข้าเองก็อยากรู้ว่า ไวน์เลิศเลอขนาดไหนกันนะ ที่หัวหน้าแห่งเคียสคุสก้าจะเอามาเสิร์ฟให้กับแขก
อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ ข้าตั้งตารอมันอยู่ล่ะ”
ตั้งแต่วินาทีนั้นเอง
แต่เกมได้เริ่มขึ้นแล้ว
* * *
นี่ออกจะเป็นความจริงที่น่าประหลาดใจ แต่ผมน่ะไม่เคยพบเจอกับ นางเอกจากเกม <Dungeon Attack> เลย !
แน่ล่ะถึง ผมจะเจอตัวละครหญิงมากมายในเกมก็เถอะ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสักคนที่เป็นนางเอกหลัก
(TTL : แล้วทั่นผู้นำอลิซาเบธล่ะ พรี่ดัน! พรี่ไม่นับนางเป็นนางเอกเหรอวะ แฟนคลับอันดับ 1 ของพรี่เชียวน้ะ (ฮา) )
ที่ชวนให้อับอายกว่านั้น ตัวละครล่าสุดที่ผมสร้างความสัมพันธ์ด้วยกลับเป็นฝ่ายตรงข้ามที่คิดฆ่าล้างทำลายตัวละครหลักของเกม……!
ลอร่า เดอ ฟาร์นาเซ่ ที่อยู่ฝ่ายบริททานี่ ผู้ที่แสดงความเกลียดชังต่อตัวเอกอย่างเปิดเผย
บาร์บาทอส,ไพมอน,สิตริ,และกามิกินเองก็เป็นจอมมาร ดังนั้นพวกนี้ไม่มีทางที่จะรู้สึกรักๆใคร่ๆกับใครได้หรอก
(TTL : พรี่พูดงี้ สิตริกับกามิกินโคตรน่าสงสารเลย ออกจะคลั่งรักหัวปักหัวปำพรี่ทั้งคู่!)
ผมที่เคยพิชิตมาทุกรูทของนางเอกที่มีในเกม ดังนั้นผมรู้ดีถึงวิธีจีบพวกเธอ
ซึ่งนั่นก็แปลว่า ผมไม่มีทางที่จะรู้วิธีพิชิตใจผู้หญิงที่ไม่ใช่นางเอกเกมเลยยังไงล่ะ!
ผมจิบไวน์และยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
‘แต่ก็ต้องขอบคุณที่ บาร์บาทอส,ไพมอนและสิตริ มีค่าความชอบค้างแตะถึง 50 หน่วยแล้ว’
<Dungeon Attack> แม่งเป็นเกมระยำ
นางเอกทุกคนจะมี ระดับความชอบที่ล็อคไว้ โดยเป็นระบบอีกชั้นหนึ่ง สรุปก็คือ จะต้องปลดล็อคเควสบางอย่างไปทะลุค่าความชอบจาก 50หน่วย ขั้นต่อไปก็ 99 หน่วย
โดยมีเควสที่จำเป็นต้องทำที่แตกต่างออกไปในแต่ละตัวละครนางเอก
ผู้เล่นก็ต้องไปฟาร์มซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อพิชิตใจนางเอกเกมโดยที่เกมแม่งไม่ให้ข้อมูลห่าอะไรมาเลย
แต่ถึงอย่างนั้น ผมรู้มันทั้งหมดแหละ!
การพยายามไล่เควสของนางเอกหลักของเกมนั้นยากมาก จึงมีไก๊ด์น้อยมากที่ปรากฏในบอร์ด
มีแต่โพสคนคร่ำครวญอยากเห็น ฉากอย่างว่า ให้เร็วที่สุด
ผมรู้มันทั้งหมดแหละ!
ไม่ใช่แค่เพียง นางเอกหลักและนางเอกรองรวมกันทั้ง 72 คน หากแต่ผมยังรู้วิธีพิชิตใจนางเอกที่มีเงื่อนไขบ้าๆบอๆอีกด้วย
อย่างในกรณี เจ้าหญิงจักรวรรดิอลิซาเบธ คุณต้องเอาชนะบาอัล บอสลับให้ได้ก่อน แล้วถึงจะเข้าสู่รูทจบจริงๆของเธอได้
ถึงอย่างนั้น ผมรู้มันทั้งหมดแหละ!
ผมเป็นพวกติดเกมที่ฟาร์มอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะได้เห็นฉากจบที่แท้จริงกับอลิซาเบธ
“ฮ่าฮ่า เหล้านี่รสชาติพิเศษจริงๆ สมกับเป็นเคียนคุสก้า”
“ได้ยินว่าท่านชอบเช่นนั้น ข้าก็โล่งใจ”
แล้วจะปิดบังอะไรผมได้อีกล่ะ?
อิวาร์ ล็อดบรอคที่ตอนนี้ดื่มไวน์คุณภาพเลิศอยู่ตรงหน้าผม
……เป็นหนึ่งในนางเอกหลักที่ผมจำวิธีการปลดล็อคค่าความชอบได้เป็นชุด!
โอ่เอ๋ย องค์เทพี━
มันช่างเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจิตใจไม่สั่นไหว ในฐานะนักบวชแห่งองค์เทพีอาร์เทมิส ผมนั้นได้แต่ยินดีปรีดากับพรและโชคอันประเสริฐที่ได้รับจากเติมเต็มจากโลกใบนี้
ผมนั้นเฝ้ารอโอกาสอย่างนี้นี่แหละ
เอาจริงนะ ไอ้การที่ผมไม่อาจมีเซ็กส์กับนางเอกคนใดของเกมนี้เลยนับตั้งแต่เข้ามาสู่โลกเกมที่ผมรักนั้น เป็นอะไรที่บ้าบอมาก!
“คึ ข้าไม่ได้เมาแบบนี้มานานแล้ว มาๆ เจ้าก็ควรจะดื่มอีกแก้ว!”
“แน่นอน ฝ่าบาท”
ค่ำคืนยิ่งมืด
ผมกับอิวาร์ ล็อดบรอค เรามาดื่มเหล้ากัน
ทั้งจอมมาร ทั้งแวมไพร์มีค่าต้านแอลกอฮอล์ที่สูงมาก พลังการฟื้นฟูนั้นมันป้องกันผลจากการเมา
ดังนั้น จึงเป็นการดวลกันระหว่างพวกเราด้วจิตวิญญาณแห่งการแข่งกัน ขณะที่เทเหล้าลงท้องอย่างกับน้ำเปล่า
อิวาร์ คงคิดว่า ตอนนี้พวกเราแค่กำลังนั่งดื่มกันเฉยๆ
อาจจะพูดคุยเล่นกันสักสามชั่วโมง แล้วเธอก็ประมาท แล้วก็รอดูว่าเมื่อไหร่ผมจะเผยโฉมหน้าจริงออกมา
‘โทษทีนะ อิวาร์ แต่เกมน่ะมันเริ่มไปแล้วน่ะ’
ผมแอบลอบยิ้มในใจ
อุปสรรคแรกเลยสำหรับการพิชิตอิวาร์ ล็อดบรอค แวมไพร์ผู้เป็นนักเชิดหุ่น มี 4 เงื่อนไขที่ต้องทำ
Ο
เงื่อนไขแรก – ผู้เล่นกับอิวาร์นั้นต้องดื่มเหล้าด้วยกัน ‘ตามลำพัง’
เงื่อนไขที่สอง – ผู้เล่นกับอิวาร์นั้นต้องดื่มเหล้าด้วยกันนานเกินกว่า ‘สามชั่วโมง’ ในเกม
เงื่อนไขที่สาม – ต้องเกิดขึ้นอย่างน้อย ‘หนึ่งปี’ หลังจากที่ผู้เล่นได้พบกับอิวาร์ ล็อดบรอค
เงื่อนไขที่สี่ – ผู้เล่นต้องได้ฟัง ‘เรื่องราวนั้น’ จากอิวาร์ ล็อดบรอค เอง
แต่เดิมแล้ว ค่าความชอบที่นางเอกเกมมีจะเพิ่มขึ้นสูงมากหากได้ดื่มเหล้าด้วยกันตามลำพังอยู่แล้ว
ไม่มีทางที่ผู้ชายกับผู้หญิงจะมาดื่มเหล้ากันตามลำพังจะไม่ชอบกันอยู่แล้ว ถูกไหม?
ปัญหาก็คือ การเพิ่มค่าความชอบของอิวาร์ ล็อดบรอคนั้นโคตรของโคตรยาก
มันเป็นความจริงที่คุณก็น่าจะเห็นแล้วว่า ค่าความชอบของเธอที่มีต่อผมยังไม่ถึง 20ด้วยซ้ำทั้งที่ ผมรู้จักกับเธอมาเกือบ 3 ปีแล้ว ก็คงพอรู้กันแล้วล่ะว่ามันยากแค่ไหน
แต่ถึงอย่างนั้น
‘ในที่สุดผมก็ได้รับเกียรติให้ได้ดื่มเหล้ากับอีกฝ่ายโดยไม่ขึ้นกับค่าความชอบแล้ว’
ผมควรจะเรียกว่า เป็นกลโกงดีไหม?
ผมสามารถสร้างทางลัดไปสู่ความสำเร็จทั้งที่ปกติแล้ว ต้องทำผ่านระบบเกมที่สุดจะเข้มงวด
ยิ่งนางเอกดื่มเหล้ากับคุณนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มค่าความชอบมากขึ้นเท่านั้น แต่ผมสามารถบรรลุเงื่อนไขนี้ได้โดยง่าย
‘เรามาเคลียร์เงื่อนไขสุดท้ายกันดีกว่า’
ผมจะแกล้งทำเป็นเมา แล้วเล่นไปตามน้ำ
“ข้าจะพูดเพียงเพราะเราอยู่กันตามลำพังหรอกนะแต่……หึหึ จอมมารแม่งก็ไอ้ระยำดีๆนี่เองแหละ มีแต่พวกห่าลากทั้งนั้น”
“ฝ่าบาท?”
“ข้าหมายความตามนั้น เจ้าก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนี่ใช่ไหมล่ะ? ก็ดูเอาสิ
นานแค่ไหนแล้วหลังจบเรื่องกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราครั้งที่ 8
แล้วยังไงล่ะ ข้าก็ยังเป็นจอมมารลำดับ 71 อยู่ แม้จะสร้างผลงานใหญ่ถึงเพียงนี้…….เจ้าคิดว่า นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”
อิวาร์ ล็อดบรอดเม้มริมฝีปากแน่น
มันเป็นเรื่องความละเอียดอ่อนและปัญฆาทางการเมืองที่เธอไม่รู้ว่า ผมนั้นเมาจริงหรือเปล่า
ผมแกล้งทำเป็นเมาแล้วตะโกนออกไป จริงๆก็เมานิดหน่อยอะนะ
“คิดว่า บาอัลแฟร์นักหรือไง? มีแต่ไอ้โง่งั่งเท่านั้นแหละที่คิดว่า มันแฟร์ ข้าไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่เขาไม่อยากเลื่อนระดับให้ข้า
ให้ตายหอะว่ะ จะบาอัลหรือไม่ว่าใครก็ตาม จอมมารแม่งก็เห็นแก่ตัวและเป็นไอ้ระยำที่หยิ่งยโสอยู่ดี……!”
“…….”
อิวาร์ ล็อดบรอคพูดขึ้นอย่างระวัง
“อย่าเศร้าไปเลยค่ะ ก็ยังมีคนอย่างบาร์บาทอสกับสิตริอยู่ใช่ไหม?”
“โอ้? นี่เจ้าไม่ได้ฟังข้าสินะ ข้าพูดว่า พวกมันทุกตัวต่างเห็นแก่ตัวและหยิ่งยโส!”
ผมทำท่าเป็นโกรธขณะที่ยกชูมือซ้ายให้ดู
“เห็นไหมว่า นิ้วข้าหายไปสองนิ้ว? ข้าต้องเสียนิ้วไปเพราะบาร์บาทอสอยากได้”
“อะไรนะ?”
“มันอาจจะเป็นหลักฐานแสดงความรักหรืออะไรสักอย่าง เธอเองก็อยากจะได้รับคำสัญญาที่พิสูจน์ว่า นางเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับข้า
นิ้วข้ากระเด็นไปสองนิ้วก็ด้วยเหตุผลเห็นแก่ตัวแบบนั้นแหละ ได้ยินมาว่า นางเอกไปอัดเป็นสร้อยคอ แล้วสวมมันไว้ตลอด”
ผมคว้าขวดไวน์มาดื่มจากปากขวด
(TTL : ไงล่ะ! ฟันนิ้วเอง มอบให้เอง ยกมาด่าเอง นักเลงพอ! ……. ไอ้เหรี้ยพรี่ดัน! ฝัฝ! (ฮา) )
“คึก แล้วข้าจะทำอะไรได้? บาร์บาทอสก็ไม่ต่างจากเจ้านายข้า……. ข้าไม่อาจต้านนางได้ หากนางอยากได้นิ้วมือข้า นิ้วเท้าข้า หรือแม้แต่ดวงตา ข้าก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมยกให้…….พวกแม่งก็เห็นแก่ตัวเหมือนกันหมดแหละ ทุกตัวเลย…….”
“……ฝ่าบาท ท่านก็พูดเกินไป”
สีหน้าของอิวาร์ นั้นหมองหม่น
ผมสัมผัสได้ว่า อีกฝ่ายเริ่มจะกินเบ็ดทีละน้อยทีละน้อยแล้ว
“พูดเกินไปอย่างนั้นรึ? ไร้สาระ! ถ้าข้าเลือกได้ข้าไม่อยากเกิดมาเป็นจอมมารหรอก จอมมารเนี่ยนะ! แบกรับความฝันอุดมคติของเผ่าปีศาจส้นตีนเหอะ!”
ผมบ่นออกมา
“เผ่าห่านี่มันผิดสามัญสำนึกมาตั้งแต่แรกแล้ว ความฝันอุดคติใครคนนั้นก็ไปทำเองสิวะ
…….นั่นต่างหากที่ทำให้อุดมคติถึงมีค่ามีความหมาย จอมมารแม่งผิดพลาดตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมากแล้ว
พวกแม่งเป็นเหมือนความผิดปกติของโลกใบนี้……ไม่ว่ายังไงก็เหอะ”
“…….”
“เอาจริง ความแตกต่างระหว่างปีศาจกับมนุษย์ ก็อยู่ตรงที่จอมมารอ่านอารมณ์ได้กับอ่านอารมณ์ไม่ได้ ก็แค่นั้น……. พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าไม่มีจอมมารอยู่แล้ว มนุษย์และปีศาจก็ไม่ต่างกันเลย━”
“ฝ่าบาท!”
อิวาร์ ล็อดบรอคตะโกนออกมา
“หากท่านพูดมากไปกว่านี้ มันจะเกินเลยไปแล้วนะ!”
“……อย่างนั้นเหรอ? ข้าเกินเลยไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ผมยิ้มอย่างขมขื่น
“แต่มันเป็นเรื่องจริงน่ะ ตัวข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จอมมารนั้นมีไว้ทำไม
…….พวกเราเป็นทั้งนักการเมือง ทั้งวางแผน ทั้งแก่งแย่งชิงดีกัน ปลุกระดมฝูงชนไม่ต่างจากนักการเมืองอื่น ……. ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่พวกเรา ทำ อย่างนั้นเองหรือ ข้าคนเดียวที่ทำเกินเลยไปอย่างนั้นหรือ……?”
คอของผมนั้นตกพับ
“แต่ ก็จอมมารเองไม่ใช่หรือที่ทำเกินเลยไปน่ะ? ปีศาจและมอนสเตอร์นับไม่ถ้วนต้องมาล้มหายตายไปเพราะถ้อยคำไร้สาระของจอมมาร…….อิวาร์ ล็อดบรอค ต่อให้ข้าเมาอยู่ ข้าก็กล้าพูดได้ว่า ฝ่ายไหนทำเกินไปกันแน่…….เห็นกันชัดๆอยู่แล้วนี่……..”
ชั่วขณะแห่งความเงียบงันเข้ามาแทนที่ เราสองคนต่างดื่มไวน์กันโดยไร้ถ้อยคำ
ผมสงสัยจังเลยน้า ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?
ผมได้ยินเสียง อิวาร์ ล็อดบรอคนั่งลง
“……ฝ่าบาท ท่านคิดเช่นนั้นจริงๆหรือ?”
กู๊ด!
ผมถึงกับยิ้มแฉ่งอยู่ในใจ
(TTL : ร้ายกาจฉิบหาย เอาคำพูดตั้งข้อสงสัยของไพมอนที่มีต่อการดำรงอยู่ของจอมมารมาขายฝันอิวาร์! )
MANGA DISCUSSION