ผมถึงกับเผลอปล่อยมือ
ทหารม้าพุ่งเข้าชาร์จหลังจากระดมยิงอย่างนั้นรึ!? พวกศัตรูนั้นยิงห่าลูกธนูเสร็จปุ๊บก็เปลี่ยนเป็นทหารม้าในแนวรบที่สองแล้วพุ่งชาร์จต่อ ผมถึงกับสะบัดไม้คำสั่งด้วยความลนลาน
“พลหอก! ส่งพลหอกมาข้างหน้า!”
ธงคำสั่งโบกสะบัด
แจ็กเกอรี่และเหล่าคนแคระคนอื่นๆต่างตะโกนเรียกให้พลหอกก้าวออกมาข้างหน้าก่อนคำสั่งจะไปถึงทุกคน
ทหารชาวนาต่างตะลึงงันกับเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เหนือคาด แต่พวกเขาก็เร่งขยับทันทีหลังจากโดนหัวหน้าเตะเอาจากข้างหลัง
“อุว๊ากกกก!”
ทหารเดินเท้าของฝ่ายเรากระชับหอกในมือแน่นก่อนจะพุ่งเข้าไปยังที่กำบัง
ก็มีบ้างบางคนที่เผลอทำหอกหลุดมือเพราะความเร่งรีบ
ความผิดพลาดอันไม่น่าดูเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้่งเล่า ผมไม่อาจปกป้องความหวาดวิตกได้ ตอนนี้ทั้งแถวและการบัญชาการคำสั่งต่างเละเทะไปหมดแล้ว!
เหล่านักล่าที่มาอยู่แถวหน้าเพื่อแสดงตัวให้พลธนูขี่ม้าของศัตรูเห็นตอนนี้กำลังถอยกลับ ความอลหม่านเกิดขึ้นหลายจุดทั่วไปหมดเนื่องจากพลธนูที่กำลังถอยและพลหอกที่กำลังไปข้างหน้าได้กระทบชนกัน
มันเป็นช่วงเวลาที่ทุกวินาทีต่างมีค่า พลธนูไม่อาจทนต่อการพุ่งเข้ามาของหอกใหญ่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอัศวินที่เคลือบหอกยาวด้วยออร่า พวกเราต้องเปลี่ยนรูปขบวนแถวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อัศวินของบริททานี่นั้นเข้ามาหาพวกแทบจะในทันทีราวกับสึนามิ
สุดท้ายแล้ว อัศวินก็เข้ามาถึงตัวพวกเรา ม้าของพวกเขาที่ย่ำเร่งฝีเท้ากุบกับพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พวกอัศวินสอดตัวเข้ามาในช่องว่างระหว่างรั้วไม้ทั้งยังเปล่งเสียงตะโกนออกมา
“หน่วยเดฟโฟดิล, พุ่งเข้าไป!”
“แด่องค์ราชินี! แด่เฮนริเอตต้า เดอ บริททานี่!”
อัศวินและพลหอกปะทะกัน เลือดสาดกระจาย หอกที่เคลือบด้วยออร่านั้นแทงทะลุทหารเดินเท้าหลายนาย
ม้าศึกที่แสนป่าเถื่อนที่คละคลุ้งไปด้วยเลือดกลับไม่หวาดหวั่นต่อหอกเลยแม้แต่น้อย
หอกของอัศวินนั้นยาวกว่าหอกของพลหอกเป็นอย่างมาก จึงแทงทะลุทั้งหัวไหล่,คอและอก
ม้าศึกเหยียบย่ำลงไปบนโล่ที่คอยบล็อค ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา พลหอกจำนวนมากล้มครืนลงพร้อมกัน
ตอนนั้นเองที่ผมไม่อยู่เฉยๆอีกต่อไป
“หยุดพวกมันไว้! หยุดพวกมันไม่ว่าต้องใช้อะไรก็ตาม!”
ผมขึ้นขี่ม้าของตัวเองแล้วหุนหันออกไปแนวหน้า เจเรมิตะโกนอะไรบางอย่างจากข้างหลังผมแต่ผมไม่ใส่ใจ
เธอคงจะบอกผมว่า ข้างหน้านั้นมันอันตราย มันน่าขำไม่ใช่รึไงกัน? ผมไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายแท้ๆ ทหารของพวกเราต่างหากล่ะ!
เฮนริเอตต้า เดอ บริททานี่นั้นใช้กลยุทธตบตาและลอบจู่โจมโดยไม่ให้พวกเราตั้งตัวอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน นั่นเป็นสิ่งที่พวกนั้นทำได้ดีตั้งแต่เริ่มสงคราม
หากพวกทหารของเรายังคงหวาดผวาแล้วหนีห่างจากรั้วไม้เมื่อไหร่━ตอนนั้นก็ถือว่า พวกเราจบสิ้นกันจริงๆ
“อย่าหนี!”
อย่างน้อยที่สุดพวกเราต้องคอยป้องกันเครื่องกีดขวางไว้ ผมสั่งใช้เวทย์มนตร์ขยายเสียงที่เตรียมไว้กับสร้อยคอล่วงหน้า เพื่อตะโกนออกไป
เสียงของผมสะท้อนดังทั่วสมรภูมิราวกับเสียงฟ้าคำรณ
“ท่านนักบวช?”
ทหารกลับมองผมด้วยความตื่นตกใจ เจ้าพวกโง่เอ๊ย! ผมควบม้ามาอยู่ด้านหลังของหน่วยพลหอก
“ผู้คนแห่งฟรานเคียเอ๋ย มองไปข้างหน้านั่น! อย่าได้หันหลังถอยกลับมา!”
ทหารที่หันหัวกลับมามอง รีบหันคอกลับไป
มันยังไม่จบ ผมไม่คิดจะปล่อยให้การรบครั้งมันจบลงแบบนี้แน่ เฮนริเอตต้า เดอ บริททานี่
“ฟังข้า! เหล่าอัศวินอาจดูน่าประทับใจ แต่พวกมันก็ไม่อาจก้าวข้ามแนวป้องกันของพวกเราได้
อัศวินพวกนั้นมันจะใช้ออร่าทำลายรั้วพวกเราอย่างไม่ลังเลหากพวกเราออกห่างจากรั้ว
ถ้าเราปล่อยให้มันเกิดขึ้น เราจะแพ้
ทหารเอ๋ย เกาะติดกับแนวรั้วไว้! อย่าให้เจ้าพวกอัศวินมาใกล้กับเรา!”
เกาะติดรั้วไว้! เกาะติดรั้วไว้!
คนแคระสั่งการซ้ำจากสิ่งที่ผมพูดด้วยเสียงอันดัง ไม่ว่าทหารจะเข้าใจที่ผมบอกไปหรือไม่ก็ตามที แต่ดูเหมือนเท้าของพวกเขาก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร่าร้อนกระหายในสนามรบ
โว้ววว! โว้ววว! ทหารต่างตะโกนกู่ก้องพร้อมกับเดินไปข้างหน้า
ทหารรับจ้างคนแคระวิ่งไปยังจุดสั่งการประจำตำแหน่ง
ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป
อัศวินคนหนึ่งอาจฆ่าทหารเดินเท้าไป 5 คน แต่ใครจะสนใจล่ะ? พวกเราก็แค่ส่งไปอีก 5 …10 …20 นาย!
“อั่กกก! ตายซะ!”
“แทงที่ม้า! ให้ไอ้หมูบริททานี่มันชิมรสเหล็กของหอกพวกเราบ้าง!”
“เพื่อความรุ่งโรจน์แห่งองค์พระจักรพรรดิ! เพื่อความรุ่งโรจน์ของฟรานเคีย!”
ที่พุ่งเข้าใส่พวกเรานั้นใช่ว่ามีแต่ทหารม้าอย่างเดียว มีอัศวินมากมายอยู่ในแนวหน้า ส่วนทหารม้าที่ตามหลังก็มิใช่ทหารม้าธรรมดา
หอกยาว 5 เมตรยังคงน่าสะพรึงอยู่ดี แม้จะไม่มีออร่าเคลือบก็ตาม
หอกนั้นไม่ใช่อาวุธที่จะใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณต้องดึงหอกออกมาหลังจากแทงไปแล้วครั้งหนึ่ง
อัศวินและทหารม้าทั้งหลายต้องยอมปล่อยมือจากหอกแล้วชักดาบออกมาใช้แทน ดาบโค้งของพวกเขาเข้าปะทะกันกับหอกของฝ่ายเรา
มันไม่สำคัญแล้วว่า อีกฝ่ายจะเป็นทหารชั้นสูงแห่งบริททานี่หรือเปล่า มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกนั้นที่จะกดดันพลหอกหลังเครื่องกำบังด้วยดาบเพียงอย่างเดียว
ทหารม้าทั้งหลายดูเชื่องช้าลงหลังจากที่เสียแรงในการพุ่งชาร์จไป ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เยี่ยม ทหารม้าที่ไร้ซึ่งความเร็วนั้นไม่ต่างอะไรจากของว่างสำหรับพลหอก!
“โอ้ นักรบผู้ทรงเกียรติแห่งฟรานเคียน, ดูนั่น!”
ผมรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างในร่างกายผมพวยพุ่งขึ้นมา
“ไอ้ห่าระยำบริททานี่นั่นแม่ง หำน้อย! หำพวกมันอาจจะยาว แต่แทงสองทีแม่งก็แตกแล้วเห็นไหม บุตรแห่งฟรานเคียเอ๋ย! แสดงให้ไอ้แตกไวพวกนั้นเห็นหน่อยสิ ว่าลูกผู้ชายตัวจริงมันเป็นยังไง!”
เหล่าทหารอยู่ๆระเบิดหัวเราะออกมา พวกเขาไม่ได้ขำออกมันตลก
ผมจงใจจะทำให้พวกเขาเค้นหัวเราะ ขำออกมาจนสุดปอด จึงทำให้ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดจะหนีในขณะที่สหายกำลังถูกฆ่าโดยอัศวิน
นี่เป็นพลังของทหารเดินเท้าที่รวมกลุ่มชิดกัน หากรูปขบวนพวกเรากางขยายออกจะถูกพวกทหารม้าชาร์จทำลาย
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังมีผู้คนอีกนับร้อยนับพันที่อยู่ด้านหลังของทหารที่ล้มตายลงไป
หากหนึ่งในสิบคนนั้นล้มลง ที่เหลือก็จะเดินเข้ามาแทนที่
หากหนึ่งในสิบคนนั้นตายลง ที่เหลือก็จะเข้ามาประจำการแทน
เมื่อมีพันธมิตรพรรคพวกรอบตัวหนาแน่นก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นป้อมปราการที่ไม่อาจเจาะได้ แถมพวกเรายังมีเครื่องกั้นอีก…….
พลธนูบนหลังม้าของบริททานี่ และทหารม้าที่พุ่งชาร์จเข้ามาก็น่าประทับใจอย่างมากระดับที่บอกได้เลยว่า พวกนั้นได้รับการฝึกฝนและทำตามคำสั่งจากราชินีเฮนริเอตต้าเป็นอย่างดี
พวกนั้นคงฝึกยุทธวิธีนี้มานับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่จะมาถึงที่ราบนักบุญเดนิส แต่มันก็แค่น่าประทับใจ ทหารอาสาสมัคร 10,000 นายของพวกเราก็อดทนได้อย่างดีเยี่ยม
“ท่านเสี่ยงเกินไปแล้วค่ะ! เกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไรคะ!?”
เจเรมิที่เป็นผู้นำกลุ่มมือสังหารถึงกับถอนใจขณะที่มาอยู่ใกล้ๆผม
ผมปิดเวทย์มนตร์ขยายเสียงก่อนจะพูดกับเธอ
“เจเรมิ, ส่งหน่วยของเธอไปจัดการพวกอัศวิน! ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วหากเราจัดการพวกอัศวินได้
ฟันขาม้าศึก แล้วที่เหลือให้พลหอกจัดการ”
“ไม่ค่ะ หากฉันไปแล้ว ท่านจะถ่ายทอดคำสั่งอย่างไรกันคะ?”
“อย่าห่วง ผู้บัญชาการของเจ้ามีผู้ช่วยอยู่แล้ว”
ผมรบเร้าให้เจเรมิรีบไปลงมือ
“ทหารอาสาสมัครทั้ง 10,000 นายที่นี่ ณ ทุ่งราบนักบุญเดนนิสแห่งนี้ เป็นผู้ช่วยของข้า!”
“……อ๊าาาา เอาจริงเหรอคะเนี่ย! นี่มันยุ่งเหยิงไปหมด
เอ้าก็ได้! ฉันต้องไปใช่ไหม ได้ๆ!?”
เจเรมิเกาหัวตัวเองก่อนตะโกนให้คนข้างหลังได้ยิน
“พวกบ้าแห่งหน่วยแผลแดง ได้เวลาไปฆ่าไอ้ลูกหมูนั่นแล้ว! เชือดหำไร้ประโยชน์ของพวกมันจนถึงโคนกัน!”
หน่วยของมือสังหาร 20 คน หายไปโผล่ในแนวหน้าทันทีที่เจเรมิพูดจบ
เจเรมิเหยียบผืนดินแล้วชักมีดจากสะโพก เธอไม่แม้แต่จะพูดคำลา
เสียงที่โกรธจัด,เสียงของโลหะกระทบกัน,เสียงกรีดร้องจากความพ่ายแพ้และเสียงเชียร์จากผู้ได้รับชัยชนะดังลั่นไปทั่วผืนดิน กองทหารของบริททานี่พยายามที่จะผลักดันเราให้ถอยไปอย่างสุดกำลัง
กองทัพของพวกเราก็พยายามอย่างมากเช่นกันที่จะดันพวกนั้นไปให้ห่างจากรั้ว
ทันทีที่เหล่ามือสังหารปรากฏกายขึ้น อัศวินบริททานี่หลายคนที่กวาดล้างทหารของพวกเราด้วยดาบโค้งก็กลับหล่นลงจากหลังม้า
“พวกอัศวินร่วงแล้ว! แทงมัน! แทงมันเดี๋ยวนี้!”
“อ๊าาาาา! ทุกคนโถมเข้าไป!”
อัศวินบางคนเข้ามาแทรกในรูปขบวนของพวกเรา โดยเขาถูกพวกเราล้อมไว้ พลหอกของพวกเรานั้นเป็นดั่งไฮยีน่าที่รุมทึ้งเหยื่อเมื่อเห็นโอกาสให้ทิ่มแทง
หอกและขวานมากมายระดมเข้าใส่อัศวินทันทีที่ร่วงลงกระแทกพื้น อัศวินบางคนก็ตายทันทีโดยไม่อาจลุกขึ้นยืนได้สำเร็จ
ภาพเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำแล้ว มือสังหารที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางพลหอกออก ได้ฟันขาม้าศึกก่อนจะปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเหล่าทหาร
ผมไม่ได้บอกอะไรเขาเขา แต่ดูเหมือนคนแคระเองก็พอเข้าใจว่า สมควรที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของมือสังหาร
นี่ พวกนั้นจะเข้าใจรึยังนะ ว่าตอนนี้น่ะถึงทำอะไรไปก็เปล่าประโยชน์แล้ว?
“ถอยทัพ! ถอย!”
หนึ่งในหน่วยทหารของบริททานี่หันหัวม้ากลับ
พอมีสักหน่วยหนึ่งเริ่มถอยหนี ทหารม้าทุกหน่วยต่างก็ทำแบบเดียวกัน เสียงตะโกนเชียร์จากพวกพ้องดังขึ้นไปทั่วทุ่งราบทันทีที่พวกเรารู้ว่า ตั้งรับพวกอัศวินได้สำเร็จ
ชนะแล้ว! พวกเราได้รับชัยชนะจากการรบครั้งแรก ทั้งชาวไร่ชาวนาสามารขับไล่อัศวินและทหารม้าแนวหน้าไปได้
“โว้ววววว! ความรุ่งโรจน์แด่ฟรานเคีย! อวยชัยแด่องค์จักรพรรดิ!”
“ไอ้ชิบหายหมาระยำฝ่ายบริททาน!”
พวกทหารม้าต่างหนีออกไปช่องทางเดียวกับที่แทรกตัวเข้ามา พลธนูของพวกเรายังคงยิงใส่จวบจนสุดช่วงเวลาสุดท้ายราวกับไม่อยากให้พวกนั้นหนีไปสำเร็จ สิ่งนี้เองที่เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่า พวกเขานั้นสู้กันอย่างเต็มที่โดยไม่ห่วงเรื่องราคาค่าธนู
“ข้าขอถามทุกท่าน บุตรหลานแห่งฟรานเคีย!”
ผมตะโกนถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“พวกท่านภาคภูมิใจในจักรวรรดิหรือไม่!?”
ทันทีที่ถ้อยคำเหล่านั้นออกจากปากผม เหล่าทหารหาญกลับตะโกนกู่ก้องเฉกเช่นกับการคำรามของสัตว์ป่า
“ถูกแล้ว! พวกเราต่างภาคภูมิใจในประเทศชาติ เจ้าพวกหมูจอมละโมบพวกนั้นมันมาเหยียบย่ำประเทศชาติของพวกเรา……พวกท่านยอมได้หรือ!?”
– ไม่! ไม่! ไม่!
ทหารทั้งหลายต่างร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่!’
“ดังนั้นสมควรไหมที่เราจะเอาเจ้าหมูสกปรกมาเชือดทิ้งเสีย!?”
– เชือดมัน! เชือดมัน! เชือดมัน!
“ถูกต้องแล้ว เชือดมันซะ! อย่าได้ลังเล! เชือดมันทิ้งให้หมด!”
บทพูดที่ผมตะโกนนั้นผมด้นสดเอาหมดแหละ ใช่แล้ว มันโอเคแหละหากจะโยนบทที่เตรียมไว้ทิ้งไปในสถานการณ์แบบนี้
ทหารนับ 10,000 นาย ต่างรวมกันกลายเป็นฝูงชนฝูงเดียว และถูกกลืนไปกับความกระหายเลือดในสนามรบ
ไม่สิ พวกเรานั้นกลายเป็นคลื่น คลื่นที่จะกวาดชำระผ่านสนามรบด้วยความอลหม่าน!
“เชือดมันอย่าได้หยุดมือ การฆ่าล้างนั้นไม่เพียงพอ!
ให้พืชทุกต้นหญ้าทุกกอของฟรานเคียได้เติบโตขึ้นด้วยเลือดของศัตรู!
สลักเข้าไปในหัวใจของพวกมันว่า จุดจบแบบใดที่ทวยเทพได้เตรียมไว้ให้สำหรับไอ้พวกป่าเถื่อนที่เที่ยวปล้นชิงจักรวรรดิ!
นักรบแห่งฟรานเคียเอ๊ย แสดงประวัติศาสตร์ที่พวกเราเป็นดั่งป้อมปราการของจักรวรรดกันเถิด!”
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตะโกนออกสุดเสียง
“ที่นี่ ขณะนี้ พวกเราจะเป็นผู้ชนะ!”
ทหารทุกคนต่างตะโกนขึ้นอย่างมีกำลังใจ
แฟรงจงยืนยง! แฟรงจงยืนยง!
เสียงตะโกนนั้นดังขึ้นจากปีกซ้าย แผ่ผ่านไปยังปีกกลาง และปีกขวา ดังกระหึ่มทั่วหมอกยามเช้า
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า กองทัพของพวกเรานั้นสามารถหยุดการชาร์จของทหารม้า การลอบจู่โจมอันแสนจะมั่นใจของราชินีเฮนริเอตต้านั้นพังทลายลง!
แต่ถึงอย่างนั้นเสียงฝีเท้าม้าก็ยังเข้ามาใกล้ จากอีกฟากของทุ่งราบ
ผมระงับหัวใจที่ตื่นเต้นลงเมื่อมองจ้องไปยังภาพตรงหน้า พลธนูบนหลังม้า ที่มากว่าพันนาย เข้ามาใกล้พวกเราอีกครั้ง
“คึ”
ผมรู้แล้วว่า กลยุทธต่อไปของเฮนริเอตต้าคืออะไร
ราชินีผู้นั้นวางแผนที่จะระดมยิงใส่เราอย่างไม่หยุดหย่อนสลับระหว่างพลธนูบนหลังม้ากลับพลหอกบนหลังม้า ซ้ำแล้วซ้ำแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น พวกเราก็หยุดมันได้ตั้งแต่ชุดแรก
สุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไประหว่างหอกของบริททานี่กับโล่ของฟรานเคีย?
ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นเต็มที่แล้ว ผมสั่งให้พลธนูเคลื่อนไปอยู่แนวหน้าอีกครั้ง วันนี้ต้องเป็นวันที่แสนเหนื่อยล้ายาวนานอย่างแน่นอน…….
MANGA DISCUSSION