* * *
กลุ่มของพวกเราเดินทางไปยังบนถนนของจักรวรรดิ ถนนหินที่สร้างขึ้นมานับพันปีที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโบราณครอบคลุมไปกว่าครึ่งทวีปยังคงถูกใช้อยู่จวบจนทุกวันนี้
ต้องขอบคุณถนนหินพวกนั้นจึงทำให้พวกเราสามารถวิ่งรถม้าได้โดยราบลื่น
ฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ผมประหลาดใจ จักรวรรดิฟรานเคียนั้นไม่ต่างอะไรจากฝรั่งเศสในโลกเดิมของผมเลย
พอผมคิดถึงฝรั่งเศส บ่อยครั้งที่ผมมักนึกถึงทุ่งนาที่แสนสงบสุขและกว้าง แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ผมเห็นผ่านชายแดนกลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
ป่า ป่า และก็ป่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด―
ต้นไม้ผอมแห้งล้อมรอบพวกเราสี่ด้าน มันดูเหมือนงูมากมายถูกแช่แข็งอยู่
ทุ่งโล่งที่ต้นไม้ถูกตัดโค่นไปนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก พอพวกเราไปถึงยอดเขาแล้ว ผมก็สามารถมองเห็นป่ายืดเหยียดออกไปรอบข้างได้อย่างชัดเจน
ผมที่ไม่เคยรู้สึกพิเศษๆกับวิวของธรรมชาติมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับรู้สึกกับมันอย่างมากล้น ผมเรียนรู้ว่า หากปล่อยธรรมชาติไว้เฉยๆ มันจะขยายพันธุ์ในระดับที่น่ารังเกียจสุดๆ
ผมมองจ้องภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
“วิวที่นี่ออกจะต่างไปเมื่อเทียบกับฮับบวร์กนะ”
“นั่นแสดงให้เห็นถึง ความเข้มแข็งของลอร์ดในแดนนี้”
หัวหน้าทหารรับจ้างแจ็กเกอรี่ตอบกลับมา
“สิทธิ์ในการแปรรูปไม้ และเก็บเกี่ยวนั้นโดยมากเป็นของลอร์ด ระดับความสามารถในการแปรสภาพป่านั้นขึ้นกับว่า ลอร์ดเข้มแข็งแค่ไหน และสามัญชนนั้นอ่อนแอเพียงใด ท่านจะได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจเมื่อพวกเราไปที่หมู่บ้าน”
ผมได้ยินการเย้ยเยาะที่แอบแฝงอยู่ในน้ำเสียงของแจ็กเกอรี่
คนแคระผู้นี้น้อยครั้งมากที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวออกมา ดังนั้นมันออกจะสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างมากเมื่อเขาเผยอารมณ์เช่นนี้ออกมา
“มีสามัญชนมากมายที่แข็งตายในฤดูหนาวเพราะไม่สามารถที่จะซื้อถ่านฟืนแม้จะมีถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย
ลูกชายคนที่สองและสามของตระกูลไม่สามารถตัดต้นไม้ได้เพราะลูกชายคนแรกนั้นเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในที่ดินทั้งหมด
ส่วนผู้คนที่แอบหนีภาษีโดยมากแล้วก็จบลงที่ไม่เสียแขนก็เสียขาสักข้างหนึ่ง”
“…….”
แจ็กเกอรี่พ่นลมออกจมูก
“ฤดูหน้ากำลังจะจบและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา เหมือนเช่นเคย บางคนมีชีวิตรอดในฤดูหนาวแต่บางคนก็ไม่
และส่วนใหญ่ที่ตายๆกันไปโดยมากเป็นคนที่ไม่มีสัมพันธ์กับลอร์ด”
“นี่เจ้ากำลังจะบอกว่า มันมีอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อย่างนั้นรึ”
“ใช่ครับ ถูกแล้ว”
หลังจากฟังคำอธิบายของเขาแล้ว ป่าที่รายล้อมก็ดูต่างออกไป มันทั้งผิดปกติและดูแปลกประหลาด กิ่งไม้ทั้งหลายดูเหมือนแขนมนุษย์ที่บิดกลับหลัง
“โว้ว ตรงนั้น”
แจ็กเกอรี่ผู้นำทางชะลอความเร็ว มีกลุ่มที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ไปบนถนนเส้นเดียวกับเรา แจ็กเกอรี่หรี่ตามองพวกเขาก่อนจะพูดขึ้น
“กลุ่มพ่อค้าน่ะครับ มีผู้คุ้มกันราว 10 คน”
“เจ้าคิดว่า จะเกิดการต่อสู้ขึ้นไหม?”
“เว้นแต่อีกฝ่ายจะสติไม่ดีครับ”
พวกเราจงใจเข้าหาพวกเขาอย่างช้าๆ
กลุ่มพ่อค้านั้นเริ่มตื่นตระหนกในขณะที่เห็นพวกเราไกลๆ
และยิ่งตึงเครียดยิ่งขึ้น โดยบางคนในกลุ่มพวกเขานั้นวิ่งเข้าป่า ส่วนบางคนก็ไปยืนที่ริมถนน
เจเรมิพูดขึ้นทันทีที่เธอเห็นอย่างนั้น
“ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวเราค่ะ”
“ปกติอยู่แล้ว พวกเราเป็นกลุ่มนักสู้ห้าสิบนาย”
แจ็กเกอรี่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงล้อเลียนขณะที่อธิบายในเรื่องที่เห็นกันได้ชัดๆอยู่แล้ว เจเรมิยิ้มอย่างสดใส
“เจ้ารู้ตัวบ้างไหม? ว่าทำตัวได้น่ารำคาญได้เก่งมาก”
“พอเหอะ หูของข้าจะเน่า ถ้ามีเอลฟ์มาชมข้า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องชมให้บ่อยขึ้นแล้วล่ะ”
ทั้งสองต่างเร่งม้าไปพลางทะเลาะกันไปพลาง ผมตามหลังทั้งสองไปพร้อมกับทหารทั้งหมด
แจ็กเกอรี่พูดถูก หากพวกเรามีทหารระดับสูงมากมาย มันง่ายมากที่จะถล่มดินแดนสักแห่งหนึ่งในราบ พวกเรานั้นก็ไม่ต่างจากฝันร้ายสำหรับพ่อค้ากลุ่มนั้น
จึงไม่แปลกใจที่พ่อค้ากลุ่มนั้นจะต้องหวาดกลัวกับขนาดของกลุ่มพวกเรา
ชายแก่ที่เป็นเหมือนตัวแทนของกลุ่มมาหาและทักทายพวกเรา
“ขอพรแห่งเออเมสจงมีแก่ท่าน”
ชายแก่มิได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาส่งถุงเงินให้ด้วยความเคารพอย่างสูง พูดง่ายๆก็คือ เขาจ่ายค่าผ่านทาง
“อื้ม”
แจ็กเกอรี่รับเงินขณะที่ยังอยู่บนม้า เขาเขย่าถุงเงินจนได้ยินเสียงเงินกระทบกันดังกรุ้งเกร้ง เขากำลังยืนยันว่า มีเงินมากแค่ไหนอยู่ในถุงนั่น เขาเขย่าถุงเงินเกือบหกครั้งก่อนที่จะผงกหัวอย่างพึงพอใจ
“ขอพรแห่งเออเมสจงมีแก่ท่านด้วยเช่นกัน”
“ขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรของพวกท่าน”
พ่อค้าแก่นั้นโค้งคำนับจนสุดตัวเพื่อแสดงความขอบคุณต่อพวกเรา
แจ็กเกอรี่พูดขึ้น
“เจ้ามีชีวิตรอดมาได้ก็เพราะฉลาด แล้วเจ้ามีอะไรที่อยากได้อีกไหม?”
“หากไม่เป็นการล่วงเกินมากเกินไป ผมขอถามได้ไหมว่า เจ้านายของท่านกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด?”
“พวกเราตอบรับคำเชิญจากองค์จักรพรรดินีโดวาเจอร์ เดอ เมดิชี (Dowager, de’ Medici)
พ่อค้าถอนใจออกมา
“โอ้ ลูเทอเทีย ปาริสสิโอรุ่ม* ถูกกำหนดให้ต้องโชกไปด้วยเลือดอย่างนั้นหรือ?”
“หากเป็นไปได้ ข้าขอแนะนำให้พวกเจ้าหลีกเลี่ยงการทำธุรกิจที่ลูเทอเทีย ปาริสสิโอรุ่ม ”
พ่อค้าถอนใจดังออกมาอีกครั้งขณะส่ายหัว
“ผมคิดว่าจะพอมีเวลาขายอาวุธในปารีส…….ดูเหมือนสวรรค์จะไม่อนุญาต ไม่สิ คำแนะนำของเจ้านายท่านมีค่านับพันโกลด์ ขอบคุณมากขอรับ”
“หืม”
แจ็กเกอรี่มองรถม้าของพ่อค้า ใบหน้าของเขาราวกับว่านึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
เขาเข้ามาใกล้และกระซิบกับผม
“ฝ่าบาทอาจจะเร็วไปสักหน่อย แต่จะดีกว่าไหมหากตั้งแค้มป์ที่นี่ในคืนนี้?”
“ดูเหมือนเจ้าจะมีไอเดียอะไรอยู่”
“แน่นอนครับ เป็นไอเดียที่ดีเลยล่ะ”
แจ็กเกอรี่พยักหน้าอย่างจริงจัง เขานั้นเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างที่เดินทางไปทั่วทั้งทวีป จึงรู้อะไรมากมาย ดังนั้นผมเต็มใจให้ทำอย่างนั้น
แจ็กเกอรี่ย้อนกลับไปหาพ่อค้าและพูดขึ้น
“หากไม่มีปัญหาอะไร พวกเราจะซื้ออาวุธของพวกเจ้า”
ดวงตาของพ่อค้าเบิกกว้าง
“จริงหรือครับ?”
“แน่นอน พวกเราจะต้องไปเจอกับจักรพรรดินีโดเวเจอร์อยู่แล้ว การมีอาวุธมากขึ้นมันก็ต้องดีกว่า”
“…….”
พ่อค้าลูบเคราตนเอง เขาตั้งใจถึงข้อเสนออย่างหนัก แจ็กเกอรี่รอสักครู่ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เจ้าไม่ต้องรีบตัดสินใจหรอก”
“ท่านหมายความว่า อย่างไร?”
“พวกเรากำลังจะตั้งแคมป์พัก เจ้าจ่ายค่าผ่านทางแล้ว ดังนั้นพวกเราจะคุ้มครองพวกเจ้าเอง เจ้าใช้เวลาช่วงกลางคืนครุ่นคิดให้ดีเถอะ”
“……ช่างเป็นการรักษาน้ำใจกันอย่างยิ่ง ข้าซาบซึ้งบุญคุณท่านมาก”
พวกเราตัดสินใจตามที่แจ็กเกอรี่บอกที่ให้ตั้งแคมป์กับกลุ่มของพ่อค้า พ่อค้าแก่คนนั้นตะโกนบอกกับเพื่อนร่วมทางว่า มีกลุ่มอัศวินที่จะคอยคุ้มครองพวกเขาในค่ำคืนนี้
พอพวกเขาทำอย่างนั้นแล้ว กลุ่มคนที่หลบซ่อนในป่าก็ค่อยๆโผล่ออกมา
“ไอ้ห่าเอ๊ย! ข้าอุตส่าใจดีกับพวกแก! แต่ดันเป็นไอ้ชั่วที่ไม่รู้บุญคุณคนอีก!”
ชายแก่ดึงแส้ขึ้นมาแล้วหวดหลังพวกเขา
“อี๊! ยกโทษให้ผมด้วย!”
“พวกเราจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว!”
พวกเขานอนหมอบเพื่อขอให้ยกโทษให้ คนงานบอกส่วนแอบหนีไปตอนที่เห็นกองกำลังของพวกเราเข้ามาใกล้ แบบนี้ค่าแรงของพวกเขาคงโดนหักเกินครึ่งแน่ๆ
พวกเราเลิกสนใจพวกนั้นแล้วมาตั้งเต๊นท์ของตัวเอง ทหารรับจ้างนั้นตั้งเต๊นท์ขึ้นอย่างแคล่วคล่องว่องไว พวกเขาจัดค่าที่พักเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง สมกับเป็นทหารแนวหน้าจริงๆ
โดยมากแล้วสำหรับทหารรับจ้างต้องใช้เวลาประมาณ สองถึงสามชั่วโมงกว่าจะตั้งค่ายได้เรียบร้อย
ช่วงเย็นวันนั้นเอง
ผู้นำในกลุ่มต่างมารวมตัวกันหน้ากองไฟ พวกเราต่างก็แบ่งบรั่นดีที่เก็บไว้ให้ดื่มกินกัน เสียงกระซิบพูดคุยดังมาจากกองไฟกองอื่นรอบตัวเรา
แจ็กเกอรี่พูดขึ้น
“ข้าขออนุญาตอธิบายว่า ทำไมข้าถึงแนะนำให้พวกเราตั้งค่ายที่นี่”
“อนุญาต”
“ขอบคุณท่านมากครับ ฝ่าบาท ท่านรู้สถานการณ์ภายในของจักรวรรดิฟรานเคียหรือไม่?”
ผมส่ายหัว
“ข้าไม่รู้ จงอธิบายมา”
ผมเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแค่คร่าวๆเท่านั้น นั่นก็เนื่องจากหนังสือบอกเล่าเรื่องราวของ <Dungeon Attack> แต่ผมไม่แน่ใจสักเท่าไหร่นักจากข้อมูลเกมเพียงอย่างเดียว
ผมได้ทำให้เกิดการระดมพลกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทราครั้งที่ 8 ไว้ขึ้นนับสิบปี ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันมีผลกับโลกอย่างไรบ้าง
“ในตอนนี้ จักรวรรดิฟรานเคียแบ่งออกเป็นสองฝ่าย จักรพรรดิและจักรพรรดินีโดวาเจอร์ ทั้งคู่ต่างเป็นขัดแย้งกันและทรงอำนาจด้วยกันทั้งคู่
และสิ่งที่ฝ่าบาทต้องรู้คือ พวกเราจะไปร่วมมือกับจักรพรรดินีโดวาเจอร์”
“ทำไมเป็นเช่นนั้นล่ะ?”
“จักรพรรดินีนั้นชื่นชอบในแนวคิดของสาธารณรัฐ”
แค่เหตุผลนั้นเพียงเหตุผลเดียวก็เพียงพอแล้ว
“จักรพรรดินีโดวาเจอร์ แคทเธอรีน เดอะ เมดิชี(The Empress Dowager, Catherine de’ Medici) ไม่ได้เกิดที่ฟรานเคีย แต่เธอถูกส่งตัวมาแต่งงานกับตระกูลดยุคในราชอาณาจักรซาดิเนีย
ราชอาณาจักรซาดิเนียแสดงตัวว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เมืองต่างๆที่อยู่ตามชายแดนนั้นต่างมีสิทธิมีอำนาจในการปกครองที่เข้มแข็ง
ไม่ใช่ว่า แนวคิดสาธารรัฐนั้นเป็นอุดมคติที่ไม่คุ้นเคยขององค์จักรพรรดินีโดวาเจอร์หากแต่ยังเป็นอุดมการณ์ที่เธอใกล้ชิดอีกด้วย
ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นสมาชิกของ <กองทัพปลดแอก> ของพวกเราก็ตาม”
ทุกอย่างดูเข้าใจได้ขึ้นมา
นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมพอรู้ผ่าน <Dungeon Attack> ด้วยเช่นกัน จักรพรรดินีโดวาเจอร์นั้นวางตัวเป็นผู้สำเร็จราชการสามสมัยมาจนถึงบัดนี้แล้ว
องค์จักรพรรดินั้นตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ดังนั้นจักรพรรดินีโดวาเจอร์จึงขึ้นมากุมอำนาจชั่วคราว
จักรพรรดินีโดวาเจอร์นั้นมีพรสวรรค์ บริหารประเทศชาติได้ดี แต่ทว่า…….
“จักรพรรดิหนุ่มไม่พอใจแม่ของเขา”
ปัญหาก็คือ แม่และลูกมีความสัมพันธ์ต่อกันที่เลวร้าย
“จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เฮนรี่ ที่ 3 นั้นยังเด็กอยู่ ต่างจากพี่ชายที่ตายไปด้วยโรคระบาดก่อนหน้านี้ เขานั้นทั้งสุขภาพดีและร่าเริง เขาจะอายุ 18 ปีในปีนี้”
“ดังนั้นเขาจึงต้องการรวบอำนาจแล้วขับเคลื่อนประเทศชาติด้วยตัวเองอย่างนั้นสินะ?”
“ถูกต้องครับ”
จักรพรรดิหนุ่มแห่งฟรานเคียนั้นมาถึงช่วงที่ดีที่สุดของชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นประเทศชาติกลับหมุนรอบตัวจักรพรรดินีโดวาเจอร์ผู้ที่มีอำนาจมาสามรัชสมัย
จักรพรรดิเองก็ไม่ได้มีผู้สนับสนุนหรือข้ารับใช้ที่ทรงอิทธิพลดังนั้นจึงทำได้แต่แสดงความไม่พอใจต่อสถานการณ์เช่นนี้
“มีอีกปัญหาหนึ่ง จักรพรรดินีโดวาเจอร์นั้นใจกว้างต่อศาสนาและความเชื่อ ดังนั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงหากผู้หญิงจะตัดสินใจขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศชาติ
ด้วยเหตุนี้ แม้จะอยู่ติดกับสาธารณรัฐบัตตาเวียแต่ฝ่ายนิยมระบอบกษัตริย์และฝ่ายนิยมสาธารณรัฐจึงเคยอยู่ร่วมกันดี”
เคยอยู่ ใช้คำพูดในรูปอดีต แสดงว่าตอนนี้พวกเขาไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว
“ตัวจักรพรรดิเองไม่เหมือนแม่ของเขาสินะ ข้าเข้าใจแล้ว”
“แน่นอนครับ”
แจ็กเกอรี่แนบริมฝีปากไปที่ขวดบรั่นดี
“ก่อนเฮนรี่ที่ 3 จะกลายเป็นจักรพรรดิแห่งฟรานเคีย พระองค์ก็ได้ขึ้นครองบัลลังค์ เครือจักรภพโพลิช-ลิทัวร์เนีย ช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่างที่ท่านทราบ ชนชั้นสูงของโพลิช-ลิทัวร์เนียนั้นมีอำนาจมาก”
“พวกเขาเป็นประเทศที่ใกล้ชิดกับชนชั้นสูงของประเทศสาธารณรัฐ ข้ารู้ดี”
เครือจักรภพโพลิช-ลิทัวเนียนั้นเป็นประเทศที่ราชสกุลใช้ชีวิตอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ย
จึงเป็นที่รู้กันว่า ช่วงนั้นพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 ใช้ชีวิตลำบากยากแค้นแค่ไหนตอนที่อยู่ในชาติอื่นโดยไม่อาจพูดสิ่งที่อยากพูดได้
เหล่าขุนนาง ชนชั้นสูงต่างต้องการปกป้องอำนาจของตนไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพพระราชาด้วย และเมื่อพระราชาต่างต้องตัดสินใจ ก็จะมอบให้เป็นหน้าที่ของสภาชนชั้นสูง
เขาน่ะเป็นพระราชาแต่ในนาม ไม่ได้เป็นอะไรมากเกินไปกว่าหัวหุ่นตุ๊กตา สาธารณรัฐนั้นดูจะเป็นแนวคิดที่น่าหวาดผวามากสำหรับจักรพรรดิหนุ่มน้อยที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน…….
“จักรพรรดิองค์ก่อนหน้าหรือก็คือ พี่ชายที่ตายด้วยโรคระบาด ณ ตอนนั้นเฮนรี่ที่ 3 กลับมาในทันที โดยออกจากเครือจักรภพโพลิช-ลิทัวร์เนียเพื่อที่จะกลับมาสืบทอดบัลลังค์แต่ถึงอย่างนั้น…….”
“แนวคิดนิยมสาธารณรัฐก็แพร่กระจายไปทั่วฟรานเคียแล้ว”
เขาเป็นสายเลือดของจักรพรรดิ ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่มากพอ ยังไม่มีการยืนยันถึงความสามารถของเขาแต่เขาก็ยังหนุ่มยังแน่นอยู่จึงยังมีไฟแรง
แม้อย่างนั้นเขาก็ไม่ได้มีอำนาจเช่นจักรพรรดิหรือราชาตัวจริง เขาเป็นเพียงจักรพรรดิหุ่นโชว์ ดังนั้นแล้วจักรพรรดิหนุ่มจึงพุ่งความโกรธไปยังพวกนิยมสาธารณรัฐและลุกขึ้นทวงอำนาจคืนจากแม่ของตน
“สงครามกลางเมืองได้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเกิดขึ้น”
“อืมม”
“แม้จักรพรรดินีโดเวเจอร์จะเป็นคนนอกสายเลือด ทั้งพระสวามีของเธอก็ตายไปนานแล้ว ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้อุทิศทั้งชีวิตให้กับจักรวรรดิฟรานเคีย
ความจริงแล้วเธอเป็นหนึ่งในคนที่สร้างและรักษาสภาพของจักรวรรดิในปัจจุบันนี้ไว้ เธอจึงโกรธมากที่ลูกชายของตนพยายามทำลายประเทศ”
ผมหัวเราะออกมา ช่างเป็นความแตกแยกในครอบครัวที่น่าประทับใจเสียจริง
“ด้วยเหตุนี้ องค์จักรพรรดินีโดวาเจอร์จึงเรียกทหารที่อยู่ใกล้ลอร์ดและกลุ่มทหารรับจ้าง
จนถึงตอนนี้ทหารในชาติต่างก็มารวมกันอยู่ที่เมืองหลวง,ฝ่าบาท พวกเราจะเข้าร่วมสงครามกลางเมืองกับกลุ่มพวกนั้น”
—-
*Lutetia Parisiorum
ภาษาละติน แปลว่า ปารีส
MANGA DISCUSSION