* * *
ดันทาเลี่ยนและลอร่ามีความสุขกันตลอดในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง
จากมุมมองของคนภายนอก อาจพบว่าพวกเขาทั้งสองนั้นเถียงกันเรื่องไร้สาระอย่างการนอนบ่อยครั้งเกินไปในหนึ่งวัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต
พวกเขานั้นย่ำผ่านความขัดแย้งทางการเมืองและสงครามจนกระทั่งได้พบกับสันติอันยาวนานในเวลานี้
แต่ถึงอย่างนั้นความสงบสุขเป็นจุดตั้งต้นของพายุลูกใหญ่
จอมมารลำดับ 71 จอมมารนหน้าใหม่ ที่เพิ่งได้ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วในงานราตรีวัลเพอกีส การปรากฏตัวที่รุ่งโรจน์เป็นอย่างมากทั้งยังเป็นตัวตนที่ทรงอิทธิพลต่อกองทัพจอมมารภายในเวลาปีเดียว
เป็นที่แน่นอนว่า จอมมารผู้มีพลังเกินระดับของตนเองนั้นได้ปรากฏขึ้นแล้ว จอมมารไพมอนที่ตอนนี้ตกต่ำไปบ้าง ทั้งที่เป็นลำดับ 9 แต่อิทธิพลของเธอก็เทียบได้กับท็อป 5 ของจอมมาร
แต่จอมมารลำดับ 71……หลังจากลำดับ 72 อันโดรมาลิอุสถูกฆ่านั่นก็ทำให้เขาเป็นลำดับที่ต่ำที่สุด
แต่กลับมีจอมมารที่อยู่มาเก่าก่อนน้อยตนนักที่หวังจะขยายชื่อเสียงอิทธพลผ่านกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา
ดาวดวงใหม่ได้โผล่ขึ้นมาเป็นครั้งแรกหลังผ่านกาลอันยาวนาน
สังคมปีศาจนั้นให้ความสนใจอย่างมากกับความเคลื่อนไหวของกองทัพจอมมาร ดันทาเลี่ยนออกจะเป็นประเด็นร้อนในหมู่พวกเขา
แต่มันก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน
“แต่…….”
“ดันทาเลี่ยนนี่มันใครวะ?”
มันเป็นเรื่องข้อมูลที่มีน้อยมาก
จนถึงเดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจจอมมารลำดับ 71 ข้อมูลของดันทาเลี่ยนจึงหาได้ยากมาก
ความจริงน้อย ความโม้มาก จึงได้มีข่าวลือจากพวกนักทฤษฏีคบสมคิดไปต่างๆนาๆ โลกปีศาจจึงปั่นป่วนครั้งใหญ่
“จากที่ข้าได้ฟังมานะ เขาเป็นมือขวาของฝ่าบาทบาร์บาทอส แต่จริงๆแล้วน่ะไม่ใช่ลูกน้องหรอก ลือกันว่า ใกล้ชนิดสนิทสนมกันมาก…….”
“เจ้างั่ง! ฝ่าบาทบาร์บาทอสเป็นเลสเปี้ยน ไม่มีทางที่นางจะเอาผู้ชายมาเป็นคนรักอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้ยินว่า เขาน่ะเป็นที่ปรึกษาสูงสุดของฝ่ายที่ราบ เขาเป็นเหมือนมันสมองของฝ่ายเลย”
ข่าวลือเรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างบาร์บาทอสที่รักษาความบริสุทธิ์ไว้ถึง 2,000 ปี และดันทาเลี่ยนทำให้โลกของจอมมารนั้นตื่นเต้นขึ้นมาอีก เนื่องจากบาร์บาทอสนั้นเป็นที่นิยมในหมู่ปีศาจ
ไม่ใช่เธอเป็นที่นิยมในหมู่จอมมาร และหมู่ปีศาจเท่านั้นแต่เธอก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟนจำนวนมากผู้บ้าคลั่ง ที่เป็นเพศชายอีกด้วย
―และแฟนกลุ่มเล็กๆที่เป็นเพศหญิงอีกหน่อย
―กลุ่มที่อยากรักษาความเป็นเลสเบี้ยนของเธอไว้และต้องการปกป้องความบริสุทธิ์ของเธอไว้ตลอดเวลา ไม่แปลกเลยที่จะมีภาพของบาร์บาทอสแขวนในในบ้านของแฟนๆเหล่านั้น
(TTL : แฟนพันธุ์แท้โลลิค่อนอายุ 2,000 ปี แห่งโลกปีศาจนี่เอง)
นี่บาร์บาทอสได้ตกลงปลงใจกับผู้ชายจริงอย่างนั้นหรือ?
ลำดับ 8 กับ ลำดับ 71 มันเป็นช่วงห่างของความรักจนไม่น่าจะเป็นไปได้ ความโรแมนติคระหว่างจอมมารทั้งสองจับใจผู้คนมากมาย
จึงได้มีบางกลุ่มที่อ้างว่า นี่เป็นความรักอันยิ่งใหญ่ในยุคสมัยนี้ และก็มีพวกที่โกรธเกรี้ยวและประกาศว่า สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น
“ไอ้โจรระยำนั่น!”
“มันกล้าดียังไงมาทำให้ฝ่าบาทบาร์บาทอสต้องมลทินมัวหมอง!”
“ข้าจะตัดหำมันออกมา”
นักเขียนโลกปีศาจที่ทรงอิทธิพลก็อาศัยสถานการณ์นี้ เขาเขียนออกมาโดยมีชื่อเรื่องว่า <ตัวข้า, ชายคนแรกของบาร์บาทอส>
เรื่องราวก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าการตัดแปะตำนานทั่วๆไปที่ได้ยินกันตามท้องถนน แล้วมาเปลี่ยนโทนเรื่องนิดๆหน่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นักเขียนทั้งหลายในโลกปีศาจไม่ได้กังวลเรื่องเงินเลยในขณะที่พิมพ์ <ตัวข้า, ชายคนแรกของบาร์บาทอส> ขาย
ปีศาจส่วนใหญ่กลับตื่นตัวกับข่าวซุบซฺบนินทาพวกนั้นมาก
แต่ก็มีบางส่วนที่อยากให้มองสถานการณ์ให้ฉลาดสักหน่อย ถอยห่างจากเรื่องรักๆใคร่ๆบ้าง
“มันไม่มีทางที่ ลำดับ 71 จะมีอิทธิพลขนาดนั้น ลองคิดดูสิ ก็นับตั้งแต่ดันทาเลี่ยนมาร่วมด้วย ฝ่ายที่ราบและฝ่ายภูเขาก็เผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย แกคิดว่านี่มันหมายความว่าอะไร?”
“……จอมมารดันทาเลี่ยนนั้นไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าตัวปลอมที่ฝ่ายที่ราบโยนเพื่อให้ฝ่ายภูเขาโฟกัสไปที่เขาแทนอย่างนั้นรึ?”
“ถูกแล้ว เวลาจะเป็นตัวพิสูจน์เองว่าจริงหรือไม่ ไม่นานนี้หรอก เดี๋ยวดันทาเลี่ยนก็ต้องถูกเซ่นสังเวยแล้ว
ฝ่ายที่ราบจะต้องส่งตัวเขาให้กับฝ่ายภูเขาเพื่อรักษาหน้า สุดท้ายแล้วหมอนั่นก็แค่แมลงเม่าตัวนึง”
สำหรับพวกเขา ความฉลาดนั้นคือการสามารถแสดงความเห็นได้ต่างจากคนหมู่มากดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะโผล่ออกมาพร้อมตรรกะที่คอยสนับสนุนความคิดตัวเองให้ต่างจากผู้อื่น
ความพึงพอใจส่วนตัวนั้นสำคัญกว่าความจริง ดังนั้นแค่เศษเสี้ยวความจริงบางส่วนก็ทำให้พวกเขาพึงพอใจแล้ว
มีปีศาจน้อยตนมากที่จะล่วงรู้ความจริง
พวกนั้นคือ กลุ่มผู้มีอำนาจ และไม่ต้องการเปิดเผยความจริงเพราะเขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เห็นความจริงที่ว่ากับตัว ผู้มีอำนาจนั้นดีว่า จอมมารลำดับ 71 เป็นผู้มีความสำคัญต่อกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา
พวกเขาจึงจริงจังต่อเหตุการณ์ข่าวลือนี้
“ไม่ใช่แค่บาร์บาทอสอย่างเดียวนะ แต่ยังเป็นเพื่อนกับเบเลธและเซปาร์ด้วย พวกเขาสาบานเป็นพี่น้องกับแล้ เขาได้รับเกียรติอย่างสูงมากในฝ่ายที่ราบ”
“แถมเขายังมีมาร์บาสเป็นพวกอีก โอ้ว! ฟังดูไร้สาระชะมัด”
“ไม่ใช่แค่ฝ่ายที่ราบและฝ่ายเป็นกลาง ข้าได้ยินข่าวเรื่อง กามิกิน คนนั้นก็สนใจในตัวเขาด้วย…….”
“ไม่นะ แม้แต่สิตริ…….”
เขาเป็นเจ้าหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
มันอาจเป็นเรื่องปรกติทั่วไปที่จะผงาดขึ้นมาได้รวดเร็วเพราะความแข็งแกร่ง แต่มันหายากเหลือเกิน แต่มันก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้แต่จอมมารผู้ยิ่งใหญ่อย่างบาอัล ที่ยืนอยู่ในลำดับ 1 ก็เคยเป็นจอมมารระดับล่างเมื่อ 3,000 ปีก่อน
แต่เจ้าหน้าใหม่ผู้นี้ต่างออกไป เขาไม่ได้มีพลังอำนาจหรือร่ำรวยใหญ่โต สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ พลังทางการเมืองของ อิทธิพลทางการเมืองอันเข้มข้น
ดันทาเลี่ยนนั้นมีอิทธพลต่อทั้งฝ่ายที่ราบ ฝ่ายเป็นกลาง และจอมมารที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
“ตะ-แต่ถึงจะอย่างนั้นจริง เขาก็ยังเป็นลำดับ 71 เขาไม่มีทางมีอำนาจมากขนาดนั้นหรอก”
“นี่เจ้าโง่รึเปล่าวะ? ไม่มีเหตุผลใดที่ดันทาเลี่ยนจะไม่ใช้อำนาจของตัวเอง เขาเพียงแต่ใช้มันเป็นสะพานเชื่อมระหว่างกลุ่ม แค่คนเดียวนี้ก็พลิกโอกาสในกองทัพจอมมารได้โดยสมบูรณ์แล้ว!”
“พลังในฐานะปัจเจกของเขาอาจจะน่าสังเวช แต่พลังทางการเมืองของเขานั้นเกินจินตนาการได้
……. หนทางของกองทัพจอมมารเริ่มต้นที่ดันทาเลี่ยน และจบลงที่ดันทาเลี่ยนนับจากนี้”
เขานั้นกลายเป็นตัวตนที่ทรงอิทธิพล พวกเขาต้องสร้างความสัมพันธ์กับดันทาเลี่ยนให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม
ผู้มีอำนาจในแวดวงปีศาจต่างรีบเคลื่อนไหวโดยเร็ว ถึงอย่างนั้นก็ยังคงพบว่า ไม่มีทางที่จะติดต่อกับดันทาเลี่ยนได้เลย พวกเขาจึงกรีดร้อง
“มันเป็นไปได้ยังไงกันที่ไม่มีใครสนิทกับดันทาเลี่ยนเลย!?”
“ก็เขาพึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วเอง คงจะแปลกถ้ามีใครสนิทกับเขา แต่มาคิดๆดูพวกเรากลับหาไม่เจอสักคนนึงด้วยซ้ำ นี่มันแย่แล้วล่ะ…….”
“เร่งหาข้อมูลเร็วเข้า! ไอ้พวกไร้ประโยชน์ทั้งหลาย! ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรกเลย!”
ผู้มีอำนาจทั้งหลายไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ช่วงกลางฤดูร้อนจึงได้พบข่าวว่า ดันทาเลี่ยนได้ติดต่อกับบริษัทเคียนคุสก้าและได้รับการดูแลจากซัคคิวบัสลำดับต่ำที่ชื่อ ลาพิส ลาซูลิ
แม้อิวาร์ ล็อดบรอคจะไม่ทำการบันทึกข้อมูลใดๆเป็นเอกสารไว้เพื่อความปลอดภัยของบริษัทเป็นเวลานับพันปี แต่พวกผู้ทรงอิทธิพลพวกนี้ก็สามารถได้ข้อมูลนี้มาภายในวันหรือสองวันได้อยู่ดี
ถึงอย่างนั้น
“คุณลาซูลิครับ! มีข้อความมาจาก อาร์คดยุคแห่งคาโคลา(Kakola) ได้โปรดเถอะครับ หากเป็นไปได้ พวกปรารถนาที่จะเจอกับฝ่าบาทดันทาเลี่ยนในช่วงเทศการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง…….”
“เหล่าสมาคมผู้ให้การสนับสนุนได้สรรเสริญกับความสำเร็จของกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา พวกเราปรารถนาที่จะเชิญฝ่าบาทดันทาเลี่ยนมายังอีเว้นท์ที่จะจัดขึ้นโดยเหล่าผู้สนับสนุน ไม่มากมายเท่าไหร่นัก แต่พวกเราเตรียมของที่จะชดเชยต่อความไม่สะดวกของคุณลาซูลิ”
“มาชิออเนสแห่งนิเรบูดา(Nirabuda) ปรารถนาที่จะให้ลูกสาวคนที่สองของเธอนั้น……!”
“ไม่สิ ดยุคแห่งอุทพาลา(Utpala)”
คำขอร้องพวกนั้นและการให้สินบาทคาดสินบนโถมใส่ลาพิสราวกับสึนามิ
หลังจากถูกปฏิบัติเหมือนเป็นดั่งส่วนเกินของสังคมมาตลอดชีวิตในฐานะเลือดผสม ชีวิตของลาพิสก็พลิกไปในข้ามคืนเดียว
พวกเหล่าผู้ปกครองโลกจอมมารที่ต่างคึกคักกันเข้ามาใกล้ลาพิสราวกับเป็นลูกแกะผู้นอบน้อม
ปีที่ผ่านมาเหล่าตัวตนที่ทรงอิทธิพลไม่กล้าจะมาหาตัวตนที่ต่ำต้อยอย่างซัคคิวบัส จึงได้ส่งตัวแทนมาเอาอกเอาใจลาพิสอย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเสนอให้เธอได้ตำแหน่ง บารอน ก็ตาม ฐานะของสูงส่งขึ้นเนื่องจากเป็นผู้ช่วยใกล้ชิดกับดันทาเลี่ยน
“…….”
ลาพิสกลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เธอนั้นเป็นหญิงมีชาติกำเนิดต้อยต่ำ ต้องใช้ชีวิตอย่างอัตคัต
เธอนั้นได้ใช้ทั้งเหงื่อ เลือดและน้ำตา เพื่อนำพาชีวิตตนมาถึงจุดๆนี้ ในที่สุดสิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดก็เห็นผล…….
อำนาจเท่านี้ไม่เพียงพอจะทำให้เธอเบิกบานใจ เธอยังสามารถไปได้ไกลกว่านี้อีก
ถึงอย่างนั้นลาพิสก็มิใช่คนเช่นนั้น นั่นคือ เหตุผลที่ว่าทำไมดันทาเลี่ยนจึงให้เธออยู่เคียงข้างเขา
แรกๆลาพิสก็แกล้งทำเป็นรับฟังคำขอที่ส่งมาจากผู้ทรงอิทธิพลทั้งหลาย เธอทำให้แน่ใจว่า พวกเขาได้ให้สินบนที่เธอควรจะได้ พวกเขานั้นมอบของต่างๆให้เธอฟรีๆ
เธอก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงลงทุนเททรัพย์สินทั้งหลายแหล่ให้กับเธอด้วยหวังว่าจะสามารถพบดันทาเลี่ยนให้เร็วที่สุด
แต่วันที่พวกเขาจะได้พบกับดันทาเลี่ยนนั้นยังไม่มาถึงง่ายๆ
“คุณลาซูลิ ท่านได้สัญญากับข้าแล้วมิใช่หรือว่า จะให้ได้พบกับฝ่าบาทดันทาเลี่ยนในเดือนนี้!?”
“ต้องขออภัยด้วยค่ะ”
ลาพิสตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“กองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรายังคงทำสงครามกันอยู่ ฝ่าบาทดันทาเลี่ยนยังคงยุ่งอยู่กับสงครามนั้น เขาไม่มีโอกาสที่จะมาเยี่ยมเยียนโลกปีศาจเลย”
“เดือนที่แล้ว และสองเดือนก่อนเธอก็พูดแบบนี้!”
สีหน้าของหมาป่าเงินที่ถูกส่งมาเป็นตัวแทนของอาร์คดยุคแห่งนรกบูดเบี้ยวอย่างมาก
“ตอนนี้มันเริ่มฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แล้วเมื่อไหร่กันที่เราจะได้เจอกับฝ่าบาทดันทาเลี่ยน? ระบุมาให้ชัดๆเลย”
“ดิฉันวางลำดับของท่านไว้ช่วงกลางเดือนกันยายนค่ะ”
“คฮ่าาาา”
ปากของหมาป่าสีเงินกระตุก
เดือนมิถุนานั้นเป็นเดือนแรกที่ส่งคำร้องขอพบ แต่สัญญาที่ว่ากลับโดนเลื่อนไปอีก 3 เดือน ไม่ใช่กลุ่มหรือสองกลุ่มในโลกปีศาจที่ต้องการพบดันทาเลี่ยน
พวกเขานั้นต่างกระตือรือร้นที่จะสานสัมพันธ์กับดันทาเลี่ยนก่อนใครเพื่อน ต่ก็ยังโดนซัคคิวบัสตรงหน้าแกล้งเอา
‘ถึงแม้ใบหน้าของนางจะไร้อารมณ์ แต่ข้าแน่ใจว่าในตัวนางต้องมีงูพิษนับไม่ถ้วนแน่ๆ!’
กล้าดียังไงที่เป็นเลือดผสมต่ำต้อยจะมองด้วยความหยามเหยียดต่อชนชั้นสูงหมาป่าสีเงิน ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะฉีกปาก กระชากคอเธอด้วยซ้ำ แต่เขาทำไม่ได้ อีกฝ่ายก็มีดด้วยเช่นกัน
หมาป่าสีเงินจึงกลืนความโกรธของตนลงไปก่อนจะพูด
“เข้าใจแล้ว กันยายน! โดยไม่มีการผิดนัด! พวกเราจะพบกับฝ่าบาทไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม!”
“ค่ะ ดิฉันขอเป็นตัวแทนท่านดันทาเลี่ยน เพื่อขอบคุณต่อการอดทนรอของท่าน”
ลาพิสนั้นโค้งคำนับ
การเคลื่อนไหวของเธอนั้นชัดเจนและเปี่ยมด้วยความเคารพ ทำให้หมาป่าเงินนั้นกลับต้องหยุดแผ่รังสีฆ่าฟัน เขาเอากล่องทองคำที่เตรียมไว้ก่อนหน้าออกมา กล่องทองคำที่บรรุไว้ด้วยอัญมณีมากมาย
“นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆที่มาจากความจริงใจของท่านอาร์คดยุคที่ปรารถนาจะมอบให้กับฝ่าบาทดันทาเลี่ยน”
“ขอบคุณมากๆค่ะ ฝ่าบาทต้องดีใจเป็นแน่”
ลาพิสนั้นไม่หวั่นไหวแม้จะมีเงินมากมายกองอยู่ตรงหน้า เธอรับกล่องนั้นมาง่ายๆ
หมาป่าเงินนั้นเอียนหน่ายท่าทีของซัคคิวบัสแล้ว เขาถอนใจขณะที่ออกมาจากออฟฟิศของลาพิส เขารู้สึกแปลกๆว่า แม้จะเป็นกันยายนก็อาจจะไม่ได้พบกับดันทาเลี่ยน…….
ลาพิสมองหมาป่าสีเงินก่อนที่จะกลับไปเช็คราคาของข้าวของในหีบ ลาพิสนั้นได้วิเคราะห์อัญมณีอยู่บ่อยๆในช่วงเร็วๆนี้ ดังนั้นทักษะการประเมินอัญมณีของเธอค่อนข้างจะชำนาญ ลาพิสสวมถุงมือเพื่อประเมินเพชรแต่ละเม็ด
“แซฟไฟร์, เพชร……และเหรียญทอง ประมาณ 2,000 โกลด์”
รวมแล้วก็ถือว่าเยอะเอาการ ลาพิสผงกหัวให้ตัวเอง
เธอกำลังอยู่ในเกมชักเย่อกันระหว่างผู้ทรงอิทธิพลในโลกปีศาจ ผู้ปกครองไม่เพียงแต่อยากจะพบดันทาเลี่ยนเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาต่างอยากพบก่อนคู่แข่งอื่นด้วยซ้ำ ลาพิสใช้ประโยชน์จากความต้องการนั้น แผนของเธอเป็นดังนี้:
ดิฉันสามารถพาท่านไปพบกับดันทาเลี่ยนได้ แต่ถึงอย่างนั้นดิฉันไม่ทำมันฟรีหรอกค่ะ ดิฉันจะไม่ยอมให้ได้พบกันได้โดยง่าย
ส่งเงินมาค่ะ
ใครให้มากกว่าก็ได้ก่อน ท่านจะให้10,000 โกลด์หรือคะ? ไม่พอค่ะ ครั้งนี้ท่านให้ 20,000 โกลด์หรือคะ? ก็ยังไม่พออยู่ดีค่ะ เงินค่ะ เสนอเงินมาอีกค่ะ
พูดอีกอย่างก็คือ ลาพิสทำกับผู้มีอำนาจในโลกปีศาจเป็นเหมือนม้าแข่งแล้วให้พวกเขาแข่งกัน
ผู้ปกครองรู้ว่า ลาพิสกำลังทำอะไรอยู่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเสนอสินบนอย่างสิ้นหวังโดยไม่ให้แพ้กับคู่แข่งอื่น
ลาพิสปิดกล่องแล้วด้วยกระดาษหนังจากกระเป๋าของเธอ และเขียนมันด้วยปากกาขนนก
“ตอนนี้ 80,000 โกลด์แล้ว……ควรจะพอได้แล้วล่ะ”
ผ่านมา 3 เดือน เธอทำเงินได้รวมทั้งหมด 80,000 โกลด์จากเหล่าผู้ทรงอิทธิพล!
เธอเก็บเงินพวกนั้นไว้ให้ดันทาเลี่ยน
‘นี่เป็นโอกาสทำเงินแล้ว เป็นโอกาสสำคัญในขณะที่ทุกคนประเมินคุณค่าของฝ่าบาทดันทาเลี่ยนไว้สูงเกินจริง’
ลาพิสรู้ดีถึงนิสัยสุดเกียจคร้านของดันทาเลี่ยน ดังนั้นเธอจึงรู้ดีกว่าใครว่านี่เป็นโอกาสทองนับตั้งแต่คุณค่าของดันทาเลี่ยนแตะขึ้นสูงเหนือคุณค่าจริงที่มีในกองทัพพันธมิตร
‘ดังนั้นดิฉันจะสูบเลือดพวกเขาให้แห้ง’
ดวงตาสีฟ้าของลาพิสเป็นประกาย
จิตวิญญาณพ่อค้าของเธอลุกเป็นไฟ
ไม่นานต่อจากนั้น ตัวแทนจากผู้มีอิทธิพลหลายต่อหลายก็มาที่ออฟฟิศของเธอ คราวนี้เป็นคนแคระ คนแคระตะโกนเอะอะโวยวาย
“คุณลาซูลิi! ไหนสัญญากันแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าจะได้เจอฝ่าบาทดันทาเลี่ยนในเดือนนี้น่ะ!?”
“ดิฉันต้องขออภัยค่ะ ฝ่าบาทดันทาเลี่ยนนั้นได้รับคำสั่งลับจากกองทัพพันธมิตรเสี้ยวจันทรา ดังนั้นตอนนี้เขา…….”
เธอคิดกับตัวเองในขณะที่กำลังรับมือกับคนแคระ
‘เอามาอีก 20,000 โกลด์เสียดีๆ’
ขณะที่เธอกำลังแก้ปัญหาอยู่ ลาพิสก็พูดขึ้นอย่างสบายๆแบบนั้นในใจ
เหล่าผู้นำในโลกปีศาจต่างต้องสั่นกลัวเมื่อเจอความชั่วร้ายของซัคคิวบัสระดับต่ำเข้า
MANGA DISCUSSION