ตอนนั้นเองที่หน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏ
「ค่าความชอบของทหาร ทหารจักรวรรดิแฟร้ง มิเชลลี เพิ่มขึ้น 13」
และจากจุดนั้นเอง
「ค่าความชอบของทหารสาธารณรัฐ บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 30 」
「ค่าความชอบชนชั้นสูงของจักรวรรดิฮับบวร์ก อเล็กซานเดอร์ ฟอน บัทตาเวีย เพิ่มขึ้น 2」
「ค่าความชอบของทหารราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย พาเวีย เพิ่มขึ้น 11」
…….
หน้าจอสีฟ้าเต็มไปหมดเหมือนดั่งสึนามิ
แล้วสึนามิที่ว่านั่นก็หลั่งไหลมาตามการแจ้งเตือนตามค่าความชอบที่เพิ่มขึ้นและลดลง มันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนของผู้คนนับแสนนั้นสาดเข้ามาใส่ผมราวกับคลื่น
ดิ-ดิ้ง ดิ้ง ดิ้ง
เสียงซาวด์เอฟเฟ็คดังขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า การแจ้งเตือนนั้นปิดบังการมองเห็น ทั่วทั้งทุ่งราบ รวมถึงท้องฟ้าในทันที
สิ่งที่เข้ามาตรงหน้าทำเอาผมพูดไม่ออกไปเลย แน่นอนล่ะ ตอนนั้นเองที่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ความพึงพอใจนั้นไหลลงสู่ไขสันหลัง ทั่วทั้งร่างกายผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผมรู้สึกเหมือนอยู่ที่จุด สูงสุดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำเอาผมเสียววาบจนถึงหัว
ความจริงที่ว่า ผมนั้นมีอิทธิพลต่อมนุษย์นับ แสนนั้นทำให้ผมใจเต้นรัว ผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า ผมสามารถควบคุมทุกอย่างได้
「ฉากเหตุการณ์นี้ได้ทำลายชิ้นส่วนแห่งโชคชะตา!」
มันยังไม่หมด
「สถานการณ์ระดับ B <ผู้แบกรับความหวังของผู้คน> ถูกทำลายอย่าง ‘รุนแรง’!」
「สถานการณ์ระดับ A <พันธมิตรระหว่างราชวงศ์กับสาธารณรัฐ> ถูกทำลายอย่าง ‘สมบูรณ์’!」
เควสเบรคเกอร์นั่นเอง
นี่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ที่ผมได้ลบตราทาสของลอร่า
ผู้แบกรับความหวังของผู้คนนั้นหมายถึง เจ้าหญิงจักรวรรดิ อลิซาเบธอย่างไม่ต้องสงสัย
เธอนั้นเป็นผู้ปกครองที่คอยแบกรับความหวังของทั้งกับชนชั้นสูง สามัญชน และทาส ไว้บนบ่า เส้นทางการที่จะเป็นนักปกครองแบบนั้นจัดเป็นอุปสรรคใหญ่…….ยอดเยี่ยมไปเลย!
แต่ผมไม่แน่ใจว่า พันธมิตรระหว่างผู้สนับสนุนราชวงศ์และสาธารณรัฐนั้นหมายถึงใคร อาจจะหมายถึงเหตุการณ์ระหว่างจักรวรรดิแฟร้ง์ที่มีกับจักรวรรดิฮับบวร์ก อย่างนั้นหรือเปล่า?
ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่า ทั้งสองนั่นน่ะเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้มนุษย์ทั้งหลายร่วมมือกัน สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ข่าวร้าย…….
‘ผมทำได้แน่’
ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาหน่อยๆ
จอมมารลำดับ 71 ที่มีค่าสแตทต่ำกว่า 100 เป็นขยะในท่ามกลางขยะ ตัวละครที่เอาชนะแรงคนตัดไม้จากหมู่บ้านในภูเขายังไม่ได้ ผมจัดการลากรวมทุกอย่างมาให้ไกลถึงเพียงนี้ด้วยร่างกายอย่างนี้
…….ผมสามารถทำลายเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิอลิซาเบธ ผู้ที่จะกลายเป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปในอนาคตได้! ไม่มีใครหน้าไหนนอกจากดันทาเลี่ยนจะสามารถทำได้อีกแล้ว!
‘ส่งใครมาให้ผมก็ได้ทั้งนั้น’
ผมรู้เรื่องราวทั้งภายในภายนอกของตัวละครหลักจาก<Dungeon Attack>
ไม่มีใครที่ไม่มีบาดแผล หากมองสภาพจิตพวกเขาดูให้ดี พวกเขาจะพิกลพิการทางใจเมื่อมีรอยแตกหักเกิดขึ้นสักครั้ง
แม้แต่นักดาบผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวัป ราชินีที่ต่อมาจะรวมราชอาณาจักรบริททานี่กับจักรวรรดิแฟร้งเข้าด้วยกัน หรือลอร์ดแห่งเหล่ามือสังหาร พวกเขาต่างมีจุดอ่อนด้วยกันทั้งนั้น
ตอนนั้นเองก็มีเสียงไม่คุ้นเคยดังมาจากอีกฝ่ายของที่ราบ ผมเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว
“……จอมมารดันทาเลี่ยน ท่านนี่ช่างเจ้าคารมยิ่ง”
ฝ่ายมนุษย์ได้ส่งตัวแทนคนอื่นมาพูดแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่น่าแปลกใจนักหรอก ก็เห็นได้ชัดว่า พวกเขานั้นเสียเปรียบหากยังดื้อรั้นอย่างนั้นต่อ
มันดูเหมือนพวกกองกำลังมนุษย์อยากที่จะเล่นในสนามแห่งนี้ต่อ ผมล่ะสงสัยจริงว่า ใครจะส่งลงมาเป็นมือหวดลูกคนต่อไป
ผมปิดหน้าต่างแจ้งเตือนทั้งหมดในคราวเดียว พอทำแบบนั้นกำแพงสีฟ้าก็หายวับไปและเห็นอีกฝ่าย
เป็นผู้หญิงสวมชุดขาวบริสุทธิ์ ผมของเธอสีทอง ผมจำได้ในทันทีว่า เธอคือ นักบุญกราเซีย(Saintess Gracia)
เธอเป็นNPC ที่จะให้เควสกับตัวละครหลักและปาร์ตี้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่เธอก็ทำงานร่วมกับตัวละครหลักโดยจ่ายผลตอบแทนน้อยมา แล้วอ้างว่านั่นเป็นความปรารถนาของเทพี ผู้เล่นจึงค่อนข้างไม่พอใจเธอ
ตัวอย่างก็เช่น หลังจากที่ตัวเอกกำจัดกองกำลังออเกอร์ เธอก็ให้รางวัลเขาเป็นไอเทมชิ้นเดียว เธอใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะนักบุญของเธอเพื่อให้ผู้กล้าทำงานให้เธอฟรีๆ
ใน <Dungeon Attack> ผู้กล้านั้นเป็นเด็กกำพร้าและทหารรับจ้าง ต่างจากตัวเอกจากเกม RPGs อื่นๆ เขามีความรู้เรื่องโลกนี้ดี ตัวเอกจึงบ่นแล้วบ่นอีกเรื่องการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมนัก แต่นักบุญหญิงกราเซียกลับตอบเขาโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
‘เจ้าได้รับเกียรติในการเห็นใบหน้าอันสูงส่งของข้า มีรางวัลใดที่ยอดเยี่ยมไปกว่านี้อีก?’
……นั่นแหละทำไมผู้เล่นถึงเรียกเธอว่า นังแม่มด ไม่ใช่ นักบุญหญิง
เอาล่ะ เธอได้รับพรจากเทพีแล้วอยู่มาเกือบร้อยปี แสดงรูปลักษณ์ออกมาเป็นผู้หญิงอายุยี่สิบ
ถ้าในฐานะคนปกติ มันคงเป็นเกียรตินั่นแหละที่ได้พบกับเธอ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ส่งนักบุญหญิงมาเป็นมือหวดคนถัดไป
เลือกได้ดีนี่ เธอเป็นนักบวชและมีฉายานักบุญหญิงแค่นั้นก็พอจะทำให้ประหลาดใจแล้ว
ในขณะที่ความภาคภูมิใจของชนชั้นสูงแตกเป็นเสี่ยง ก็คงไม่มีใครดีไปกว่านักบุญที่จะคอยปลอบประโลมใจกองทัพมนุษย์
“นั่นมันนักบุญหญิงกราเซียมิใช่หรือ ผู้เป็นที่รักขององค์เทพี? เหตุใดตัวตนอันสูงส่งเช่นนั้นถึงได้ย่างเท้าเข้ามาเหยียบในสมรภูมิอันเสื่อมทรามนี้ได้?”
“……พระเจ้าทรงรู้ว่า นรกมีอยู่บนโลกมนุษย์ ดังนั้นเหล่านักบวชจึงมักไปปรากฏที่ก้นหลม สงครามนั้นเป็นดั่งนรกของโลกมนุษย์ ดังนั้นไม่มีที่ใดที่เหมาะสมกับบุคคลเช่นข้า”
กราเซียหรี่ตาขณะที่ผมทำเป็นรู้จักเธอ เธอพูดต่อไปโดยไม่กังวล
“จอมมารดันทาเลี่ยน ข้าเป็นพยานถึงความสามารถของท่าน มาคิดดูว่า ท่านสามารถผสานเวทย์มนตร์เข้ากับคำพูดแล้วครอบงำผู้พูดฝ่ายเรา
ใครจะไปคาดคิดว่า ท่านจะใช้เวทย์มนตร์ทรงพลังเพื่อคุกคามจิตใจเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิของเรา…….ท่านที่ช่างน่าประทับใจยิ่ง”
“โอ้?”
พวกเขาจะไหลออกไปทางนี้แทนสินะ?
“กำลังจะบอกว่า สิ่งที่ข้าพูดนั้นมันไม่ใช่ ใช่ไหม?”
“ถูกต้องแล้ว”
เธอไม่ได้ใส่จนและยังคำยืนยันคำเดิม นี่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่สูงส่งและมีอำนาจ
แต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการทำให้เจ้าหญิงจักรวรรดิที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆ่าครอบครัวตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ลดเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่ได้รับลงได้ หากคุณไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับโบสถ์น่ะ ทั้งความหน้าด้านและความหน้าตาย เธอจะขุดลึกลงไปยังจุดอ่อนของคุณ เธอคนนี้แหละนักบุญหญิงกราเซียที่ผมจำได้จากในเกม
“ช่างสูงส่งอะไรเช่นนี้ ถึงอย่างนั้นก็ดี โอ นักบุญเอ๋ย ตัดสินใจเลือกให้ฉลาดๆหน่อย ศรัทธาแท้นั้นจะมาได้จากบุคคลที่กระทำการฝ่าฝืนอย่างนั้นหรือ”
“เจือเวทย์มนตร์ลงในถ้อยคำอีกแล้วสินะ
ข้าเข้าใจแล้ว เปล่าประโยชน์ที่จะกระซิบกับข้า องค์เทพีของข้าจักปกป้องข้าเสมอ แผนชั่วร้ายของเจ้ามันไม่ได้ผล”
“คุฮุ”
มันไม่ใช่คำเหน็บแนมที่ผมคาดว่าจะได้รับ จึงเผลอหัวเราะออกมาเอง
“เธอน่ะเป็นพระระดับ 1 เวลาว่างของเธอใช้ไปกับอะไร คอยดูแลหลังให้พวกชนชั้นสูงอย่างนั้นเหรอ?
แหม แหม ตัวข้านี้ในฐานะจอมมาร อาจจะทำลายล้างโลกใบนี้ก็จริง แต่ก็เป็นเพียงการหลอกลวงเพียงชั้นเดียว
ว่าแต่โศกนาฏกรรมและการหลั่งเลือดที่มนุษยชาติจะต้องเจอหลังจากลอกเปลือกชั้นเดียวที่ว่านั้นจะมากแค่ไหนกันนะ?”
“……ความสนุกของเจ้าจบลงแล้ว จอมมาร”
เธอหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋า มันคือกระดุมล็กๆ
“เจ้ารู้หรือไม่ นี่คืออะไร?”
“……?”
ผมขมวดคิ้ว ทำไมเธอถึงได้เอาเจ้าสิ่งนี้ออกมาตอนนี้? ผมบอกไม่ได้ว่าเธอเอามันออกมาจากที่ไหน นี่เธอต้องการจะใช้เจ้าวัตถุชิ้นนั้นเพื่อเปรียบเปรยกับสิ่งที่ดูหรูหราๆขณะพูดอย่างนั้นเหรอ?
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบการพูดแบบนั้นเลย ผมขอแหย่เล่นหน่อยได้ไหม……?
“ข้าไม่รู้จัก มันไม่ใช่ของที่ค้าคุ้นเคย”
“สิ่งนี้ก็ไม่คุ้นเคยต่อข้าเช่นกัน นั่นเป็นเพราะมันอาติแฟคที่ราคาแพงอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่คนรวยในทวีปเท่านั้นจะมีครอบครองไว้ในมือได้”
นักบุญวางกระดุมนั่นไว้บนฝ่ามือแล้วเปิดออก
“เวทย์มนตร์ที่รู้จักในชื่อว่า เมโมเรีย(Memoria)ถูกร่ายไว้บนสิ่งนี้ มันเป็นอาติแฟคที่จะบันทึกเสียงและฉากเหตุการณ์รอบข้าง ไม่ใช่เพียงแต่ตัวเวทย์เท่านั้นที่ร่ายยาก
หากแต่ยังต้องอยู่ในขนาดที่เหมาะสมด้วย จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างมันขึ้นมาโดยปราศจากความช่วยเหลือจากอาร์คเมจ”
ผมส่ายหัว ผมเข้าใจแล้วว่ามันคือไอเทมอะไร แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเอามันออกมา
“นักบุญ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังการสอนเวทย์มนตร์”
“ไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้น จอมมาร สิ่งนี้ไม่ใช่ไอเทมใหม่ มันเคยถูกใช้มาก่อนแล้ว พอเดาได้ไหมว่าใครเป็นเจ้าของ?”
“ข้าต้องขออภัย แม้ข้าจะเป็นจอมมารแต่ข้าก็ยากจนเหลือแสน”
ผมยักไหล่
“ชีวิตข้าห่างไกลจากของราคาแพงพรรค์นั้น”
“มันมาจากพ่อคนหนึ่ง”
“หืมม?”
นักบุญกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พ่อที่มีลูกชายเพียงคนเดียว ลูกชายของเขานั้นมีพรสวรรค์หากแต่ขาดประสบการณ์ คนเป็นพ่อจึงพยายามบังคับให้ลูกชายเขาออกไปเจอกับประสบการณ์ในโลก
แต่ถึงอย่างนั้น คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่ห่วงลูกของตน? เขามอบอาติแฟค เมโมเรียให้กับลูกชาย เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง”
“…….”
“นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างล่วงหน้าหรือเปล่า? โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น ลูกชายของเขาได้ตายในดินแดนอื่น สาเหตุการตายเป็นปริศนา มีโอกาสที่เขาอาจถูกจู่โจมโดยเหล่าโจร และศพของลูกชายของเขานั้นก็พบอยู่ในเส้นทางเดินป่า…….”
เธอหรี่ตาลง
“ถึงอย่างนั้น ลูกชายของเขาก็ฉลาด เขาไม่ลืมของขวัญที่พ่อของเขาให้เขาจึงได้เปิดการใช้งานเมโมเรียอาติแฟคในวันสุดท้าย
เขาอาจจะตาย แต่เขาก็ได้ทิ้งหลักฐานว่า ทำไมเขาจึงตาย ต้องขอบคุณสิ่งนี้ ทำให้พ่อของเขารู้ว่า ใครฆ่าลูกชายของเขา”
ความรู้สึกแย่ๆไหลผ่านตัวผม
นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ลูกชายของเขาชื่อ แจ็ค อแลนด์”
―ในตอนนั้นเอง
สมองของผมหยุดทำงาน
ความรู้สึกแย่ๆจากหัวไหลลงสู่ไขสันหลัง เหมือนมีเส้นสีดำแดงมามัดรอบกระโหลกตรึงสมองผมไว้
แจ็ค อแลนด์
พ่อค้าทาส แจ็ค―
ทำไมชื่อเจ้าโง่ อ่อนต่อโลกถึงถูกยกมาพูดถึงที่นี่?
นักบุญหญิงมองผมด้วยแววตาเย็นชา
“สิ่งนี้มันเกิดขึ้นประมาณเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เกิดการจราจลขึ้นในเมืองเวอรืเนีย ทางเหนือสุดของซาร์ดิเนีย มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปลุกปั่นของกิลด์ทหารรับจ้าง เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ผู้คนมากมายเสียชีวิตและชีวิตพังจากไฟครั้งนั้น”
อย่าบอกนะ
ไม่สิ มันไม่มีทางเป็นไปได้
“ลูกชายของเขา ศพของแจ็ค อแลนด์ ถูกพบในป่าใกล้กับเวอร์เนีย ร่างของเขานั้นพบว่าพิงใกล้หิน หินก้อนนั้นเต็มไปด้วยเลือดของแจ็ค
ยิ่งไปกว่าน้ัน บนหินก้อนนั้นยังมีข้อความเขียนไว้ว่า…… ‘แก้แค้น’ มันเขียนด้วยเลือด”
ความหนาวยะเยือกไหลลงไขสันหลังผม
มันมีข้อความพวกนั้นเขียนไว้บนหินด้วยรึ?
แจ็คตายหลังจากเอาหัวโขกกับก้อนหิน เขาฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากไม่อาจสู้กับผมได้หรือแม้แต่รักษาความเชื่อของตัวเองได้ เขาเลือกที่จะฆ่าตัวตายแทนที่จะเสียความเชื่อนั้นไป
นั่นคือ สิ่งที่ผมเชื่อ จึงตัดสินใจปล่อยศพเขาไว้อย่างนั้น และราคาของความนับถือ ผมคิดว่า การกระทำของเขานั้นช่างงดงาม
―นี่เธอกำลังจะบอกว่า มันได้เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ?
เขาทิ้งหลักฐานการตายไว้ตรงนั้นด้วย!?
แจ็ค อแลนด์―ไอ้โง่บ้าอุดมการณ์คนนั้นเนี่ยนะ!?
“เขาต้องการแก้แค้นไปเพื่อสิ่งใดกัน? เดี๋ยวจะได้เห็นคำตอบกันชัดๆ
นับเป็นโชคดีที่ศพของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อาติแฟคเมโมเรียนั้นถูกซ่อนไว้เป็นเหมือนกระดุมบนเสื้อผ้าโดยไม่เสียหาย พ่อของเขาจ้างนักเวทย์มาสำรวจศพและถอดรหัสอาติแฟค
……จอมมารดันทาเลี่ยน ไม่สิ นักสมุนไพรโลลิต้า”
“……!”
“และสิ่งนี้คือ วาระสุดท้ายของเขา”
ภาพปรากฏออกมาจากอาติแฟคที่วางบนฝ่ามือของนักบุญหญิง
หน้าจอนั้นใหญ่พอจะให้ทั้งกองทัพฝ่ายจอมมารและกองทัพมนุษย์เห็นได้อย่างชัดเจน
– อุว้ากกกก, อ๊ากกกก! แว๊กกกกกกกกกกกกก⎯⎯⎯!
สิ่งแรกที่ดังออกมาจากวิดีโอคือ เสียงแหลมทลายหู
ฉากรอบข้างนั้นว่าง
– อั่ก! อุ่กกกกก! อ๊ากกกกก! ฮว้ากกกกกกกก!
– อ่าาา แจ็ค……นี่มัน ช่างน่าเศร้าใจยิ่งนัก
– อุ่กอั่กกกก! อ๊ากก! โลลิต้า!? โลลิต้ากกกก!?
– ฉันถามนายถึงสามครั้ง เอาจริงๆนะ สามครั้ง ความใจกว้างนั้นมีจำกัด มันเป็นคำขอที่ไม่ควรถูกปฏิเสธ
แล้วภาพของผมก็……ปรากฏ
ตัวผมที่กำลังเหยียบไปบนตัวแจ็ค
– ข้าเข้าใจนะว่า มันเจ็บ แต่นายก็เสียงดังเกินไป
เฮ้ย แจ็ค! แจ็ค! ได้ยินไหม หา?
ข้าซาบซึ้งใจนะ ที่เจ้าเงียบเสียงลงได้บ้าง
เสียงดังไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แจ็ค! หุบปากโว้ย!
ถ้าแกยังเมินเฉยต่อคำขอของข้าอีก คราวนี้จะฟันแขนซ้ายแกด้วย
เข้าใจไหม? ข้าจะแยกส่วนตรงไหล่ซ้ายของแก
– อุก,ฮึก……กะฮึก……!
– ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก,แจ็ค ทำได้ดีมาก ถ้าแกยังทำได้ต่อไป จะไม่ต้องมีการนองเลือด ข้าสัญญาเลย
ฉากเหตุการณ์นั้นเลื่อนไหลไป
ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้าดูมัน
– ลองคิดดูให้ดีๆสิ แจ็ค มันเรียบง่ายมากเลยนะ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ปฏิเสธการค้าขายปกติที่ทำในสมาคมพ่อค้าล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงเลือกทำอะไรที่สุดโต่งขนาดนั้น? ลองถามคำถามนี้กับตัวเองดู แล้วจะได้คำตอบที่เป็นธรรมชาติที่สุด
– ตำแหน่ง……นายอยู่ตำแหน่งที่ไม่สามารถซื้อขายถูกกฏหมายได้……?
– นายเข้าใจดีแล้ว ความจริงแล้ว มันยากมากเลยนะ สำหรับข้าที่จะเข้าเมืองอย่างถูกกฏหมาย
– แกไม่ใช่พ่อค้า……โลลิต้า!
– ฟันนิ้วก้อยซ้ายของเขา
– รับทราบค่ะ
เสียงกรีดร้องน่ากลัวดังขึ้นอีก การทรมานยังคงดำเนินต่อไป การย่างเนื้อ เสียงกรีดร้อง และการคุกคาม ฉากที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจทนดูต่อได้
ตัวผมในจอนั้นยังคงรักษาท่าทางสบายสุดๆ แจ็คนั้นกลิ้งไปมาบนพื้นเพราะเจ็บปวดจากแขนที่หายไป
– ความจริงที่ว่าแกขายสมุนไพรที่รักษาโรคระบาดได้ คึกกก ! นั่นก็โกหกด้วย!
– ใช่ดิ! ถูกแล้วนี่! แกมันไอ้ระยำที่อัญเชิญมอนสเตอร์นั่นออกมาในโรงประมูล!
– เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ*
– เพลิงไหม้นั่นก็ด้วย!
– ตอนนี้สมองนายทำงานได้ตามปรกติแล้ว
“…….”
ผมกลายเป็นไอ้โง่ไปในทันที
ในมุมหนึ่งของสมองมันกรีดร้องขึ้นมา ผมไม่ควรจะยืนเฉยๆแล้วปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ผมควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อปกปิดเรื่องนี้ แต่เสียงกรีดร้องมันดังไปไกลแล้ว
– เราได้ข้อสรุปเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เจ้าได้พูดมาเมื่อนาทีที่ผ่าน ข้าคือ ปีศาจ,จอมหลอกลวง,ไอ้ระยำที่สุดในโลก,คนคลั่งและไอ้เย็oแม่ที่สมควรไปลงนรกเสีย ข้าขอน้อมรับทั้งหมดนั่น ข้าเชื่อว่า มันจะดีกว่าหากเราจะมาคุยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
“……ทั้งหมดนี่คือ สิ่งที่ เวทย์มนตร์เมโมเรียได้บันทึกได้”
วิดีโอถูกปิดตัวลง นักบุญหญิงกราเซียพูดด้วยน้ำเสียงเย็น
“เจ้าได้ลอบวางเพลิงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แถมเจ้ายังโกหกเป็นนิสัย ทั้งยังโหดร้าย กระทำการทรมานทารุณโดยไม่กระพริบตา
เจ้าน่ะช่างสมกับเป็นจอมมารจริงๆ การกระทำที่เป็นไปอย่างโหดร้ายทารุณยิ่งกว่ามอนสเตอร์ตัวใดๆ เหนือกว่าสัตว์ป่าตัวไหนๆ เพียงเพื่อให้เป้าประสงค์ของตนสำเร็จ”
“…….”
“นั่นคือ ตัวตนของเจ้า จอมมารดันทาเลี่ยน!”
ผมไม่อาจพูดอะไรได้ ชื่อของชายผู้หนึ่ง หมุนวนจากสมองไปถึงลำคอ รอยยิ้ของไอ้พ่อค้าทาสอ่อนหัดนั่นมันกลับแจ่มชัด
แจ็ค…….
แจ็ค
แจ็ค อแลนด์!
แกเองสินะ ที่เป็นศัตรูกับผม?
ไม่ใช่อลิซาเบธที่เป็นสุดยอดนักปกครองแห่งทวีปนี้―หรือบาอัล จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นชื่อที่ไม่มีปรากฏแม้แต่ในเกม ไอ้พวกฝันหวานอย่างแก―
แกเป็นศัตรูของข้า แกเป็นศัตรูของดันทาเลี่ยน!?
—–
*หากย้อนกลับไปดูตอนที่ฆ่าแจ็ค คือ ตอน 28-29
จะพบว่า มีการตัดต่อบิดเบือนเหตุการณ์ส่วนนี้ไป เพราะจริงๆ ดันทาเลี่ยนจะปฏิเสธว่า เรื่องขายสมุนไพร ไม่ได้โกหก ขายจริงๆ แต่มีการตัดคลิปส่วนนี้ออก แล้วใส่บทพูดสรุปของดันทาเลี่ยนที่บอกว่า
“ เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก ข้ายอมรับ”
ให้กลายเป็นว่ายอมรับว่าดันทาเลี่ยนโกหกทั้งเรื่องขายสมุนไพร และเรื่องลอบวางเพลิงด้วย
MANGA DISCUSSION