แม่เจ้า เพื่อไม่ให้เรื่องของลูกชายและลูกสาวเธอนั้นหลุดออกไป เธอเลยจึงกลืนคำพูดของเธอลงไปท้งหมดแล้ว จนมันกลายเป็นปุ๋ยในท้องเธอไปหมดแล้วล่ะ
เยี่ยจิงเฉินฟังสิ่งที่ถังซินเหยาพูด เขาก็นึกถึงใบหน้าแดงก่ำและคิ้วโก่งสวยของเธอที่นอนอยู่ข้างกายของเขาขึ้นมา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองมีหนาวมาทิ่มอยู่ในใจ เขาไม่เคยได้จัดการเอามันออกแต่มันติดอยู่อยู่ในนั้นอยู่ตลอดมา
ใบหน้าของเยี่ยจิงเฉินทำหน้าเข้ม แ้แต่คนตาบอดก็ยังมองออก ตอนนี้อารมณ์ของป่าปี้ต้องไม่ดีอยู่แน่
"ประธานเยี่ยคะ ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับหันหลังเดินออกไป
เยี่ยจิงเฉินเดินพุ่งออกมาจากโต๊ะทำงานของเขาแล้วมุ่งตรงไปข้างหน้าของถังซินเหยาทันที
ร่างที่สูงใหญ่ของเขายินอยู่ตรงหน้าของถังซินเหยาในขณะนี้ พร้อมกับมองมองที่ถังซินเหยาเพื่อเป็นการกดดัยเธอ
ให้ตายเถอะ เธอชักจะมีรางสังหรณ์ไม่ดีแล้วล่ะสิ ป่าปี้ต้องโกรธแล้วแน่เลย
ไม่รู้ว่าวันนี้ก่อนออกจากบ้านมาป่าปี้เจอเรื่องอะไรมา
"แรงฉันน่ะใช้ได้เลยนะ เธออยากลองหน่อยมั้ย?"เยี่ยจิงเฉินยื่นมือของเขาเข้าไปโอบเอวของถังซินเหยา ทำให้ร่างของเขาทั้งสองคนนั้นใกล้กันมากขึ้น
เยี่ยจิงเฉินขยับไปใกล้ใบหูของถังซินเหยาพร้อมกับพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เซ็กซี่
ถังซินเหยารับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเยี่ยจิงเฉินที่รดต้นคอของเธอ เธอแทบจะกลายร่างเป็นสสารทีเดียวล่ะ หูของเธอก็แดงมากๆด้วยในตอนนี้
พระเจ้า เหล่าเพื่อนร่วมงานของถังซินเหยาถึงกับตะลึง
เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอกำลังจะแย่แล้วในตอนนี้
ป่าปี้ ป่าปี้โตขนาดนี้แล้วจะมาทำตัวเป็นลูกพี่ใหญแบบบนี้ไม่ได้นะ?
แล้วเธอก็ไม่อยากลองแล้วด้วย แรงของป่าปี้น่ะสุดยอดมากๆจริงๆ ที่โบราณเขาบอกว่าแปดครั้งต่อคืนน่ะป่าปี้ทำมันได้อย่างสบายๆเลยล่ะ แรงเหลือแถมยังไม่น่าจะหมดง่ายด้วย
คำพูดพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอสร้างเรื่องขึ้นมานะ แต่เธอน่ะประสบมากับตัวเองบ้างแล้ว
ถึงสกิลของป่าปี้จะไม่ค่อยเอาไหน แต่เรื่องแรงนี่ไม่น้อยหน้าใครเลย ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้มีพัฒนาขึ้นอีกมั้ยนะ?
พอเถอะ พอ ถังซินเหยา เธอต้องเป็นผู้หญิง (แปลก) ไปแล้วมั้ยนะ ทำไมถึงนึกภาพเรื่องแบบนั้นแบบนั้นขึ้นมาได้ล่ะ ? แย่จริงๆ
"ไม่ต้องหรอกค่ะ" ถังซินเหยาบิดร่างของเธอไปมา เธอถึงได้พบว่าระหว่างเธอกับป่าปี้นั้นอ่อนโยนต่อกันมามากแล้ว
"เธอไม่อยากลองหน่อยหรอ?" เยี่ยจิงเฉินพ่นลมไปที่ใบหูของถังซินเหยาอย่างตั้งใจ
ความร้อนนั้นราวกับพลังที่มาแผดเผาหลอมละลายร่างของถังซินเหยาจนทำให้เธอถึงกับอ่อนระทวย ถ้าไม่ใช่ว่าเยี่ยจิงเฉินกอดเอวเธออยู่ร่างของเธอคงจะได้ทักทายกับพื้นหินอ่อนนี้แน่
"ไม่ค่ะ" ถังซินเหยากัดฟันพร้อมกับพูดไปอย่างขอไปที
ป่าปี้ การกระทำเมื่อกี้มันอะไรกันแน่ ตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนระทวยไปหมดแล้วนะ ไม่เหลือแรงเลยแม้แต่น้อย
"ทำไมล่ะ?" เยี่ยจิงเฉินถาม : "เธอไม่สงสัยหรอ?"
มาถามว่าทำไมอะไรกันเยอะแยะแบบนี้มีที่ไหนกันล่ะ ? จะถามว่าทำไมสักแสนรอบเลยหรอ?
"ไม่สงสัยค่ะ เพราะฉันรู้ว่าแรงของประธาานเยี่ยเยอะมากๆอยู่แล้ว" ถังซินเหยาคว้าตัวของเยี่ยจิงเฉินเอาไว้พร้อมกับพูดอย่างจริงใจไปว่า : "ถึงแม้ว่าจะทำสิบ…..เอ่อ…..ไม่สิ ถึงจะเป็นฟางอี้เฉิงรวมตัวกันเป็นร้อยเป็นพันคนก็เทียบกับประธาานเยี่ยไม่ได้หรอกค่ะ" (ฟางอี้เฉิง : แม่เจ้า ถึงแม้เขาจะเป็นเหมือนแค่สัตว์ที่ร้ายๆ แต่เขาก็ไม่ควรโดนดูถูกแบบนี้มั้ย?)
เยี่ยจิงเฉินทั้งขำทั้งโกรธพร้อมกับขบเข้าที่ติ่งหูของถังซินเหยาแล้วพูดกับเธอว่า : "งั้นหรอ? เธอรู้ได้ยังไงล่ะ?"
ไม่น่าเลย เธอเคยลองมากับตัวเองแล้วไง เธอจะไม่รู้ได้ยังไง คำพูดนี้พูดได้แค่ในใจเท่านั้นแหละ เยี่ยจิงเฉินคงจำเรื่องคืนนั้นเมื่อหกปีที่แล้วไม่ได้หรอก สำหรับเธอแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรหรอก แต่ใจของเธอกลับเศร้ากับมันอยู่เรื่อย
เธอไม่เพียงแค่รู้นะว่าป่าปี้น่ะสมรรถภาพแรงดี แต่ยังแม่นมากอีกด้วย
เพียงแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้เธอกำเนิดเจ้าสองก้อนเค่อหลานและลั่วหลิงท่ีน่ารักออกมาได้
แล้วก็อย่ามากัดหูเธอนะ โอเค๊?
หูของเธอมันเป็นจุดที่อ่อนไหวมากๆ กัดอีกครั้งเธอคงกลั้นไม่อยู่แน่ๆ
ต่อไปยังจะหยอกล้อเล่นกับป่าปี้ได้อยู่มั้ยนะ?
"เพราะว่าประธานเยี่ยหน้าตาดีค่ะ" ถังซินเหยาพูดออกไปตามความจริง : "ประธานเยี่ยหล่อขนาดนี้ ต้องแรงดีแน่ๆ"
อย่าถามเธอนะว่าเพราะอะไร เพราะโลกใบนี้มันมองกับแค่ที่ใบหน้าไงล่ะ
"แรงดีหรือไม่ดีก็ต้องลองดูก่อนสิถึงจะรู้" เยี่ยจิงเฉินพูดเสียงต่ำก่อนที่จะโน้มตัวเข้าไปกอดเอวคอสของถังซินเหยาแน่นขึ้น
"อย่าค่ะ……" ถังซินเหยาแทบจะร้องไห้แล้ว : "ประธานเยี่ยคะ ฉันไม่ไม่อยากรู้เลยสักนิดค่ะ ไม่ต้องลองแล้ว ตอนนี้เป็นเวลางานนะคะ คุณอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ"
แม่เจ้า เธอเพียงแค่โลภมากไปนิดหน่อยก็เท่านั้น อยากมาทำงานแทนหลี่เวยไม่กี่วันเพียงแค่เพ่อเงินก็เท่านั้นเองนะ
เธอเป็้นเลขานะ ไม่ใช่คู่นอนของประธายเยี่ยสักหน่อย
"อย่ากังวลไปเลย ไม่มีใครเข้ามาหรอกถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาเห็นหรอก" เยี่ยจิงเฉินปลอบประโลมถังซินเหยาด้วยคำพูดของเขา
ถังซินเหยาขัดขืน : ฉันทำหน้าที่เป็นนักออกแบบแล้วก็เลขาอยู่นะ? อย่ามองฉันเป็นคนเห็นแก่เงินนะ
"ประธานเยี่ยคะ ฉันเป็นนักออกแบบแล้วก็เลขาคุณนะคะ" ถังซินเหยาไม่กล้าดื้น พร้อมกับพยายามพูดกับเยี่ยจิงเฉินด้วยความใจเย็น
"ฉันก็ไม่ได้ว่าเธอไม่ใช่นักออกแบบแล้วก็เลขานี่ ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่เอาเรื่องเงินมามาเกี่ยวข้องหรอก"
ไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยว? แล้วที่เธอมาทำหน้าที่เลขาแทนล่ะ?
ถังซินเหยาแทบจะล้มตัวคุกเขาขอเหตุผลจากเยี่ยจิงเฉิน
ตอนนี้ไม่ใช่ว่าอยู่ในตำแหน่งเลขางั้นหรอ ที่จะได้รับเงินก้อนโตหรือไม่ก็โอกาสเลื่อนตำแหน่งหลังจากที่ยอมนอนด้วยกันอ่ะ
แม่เจ้า นี่เธอจะต้องเสียตัวฟรีๆงั้นหรอ ไม่เห็นจะมีข้อดีตรงไหนเลย
อ่า……..ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อดีเลยสิก็ยังดี ป่าปี้ไม่ได้มองเธอว่าเป็นเลขาประจำ
อืม แต่คนอย่างเธอหาได้ง่ายนักหรือไง?
เมื่อเทียบกับชื่อเสียงกับความสนใจ เธอก็คงเลือกฝั่งความสนใจมากกว่าอยู่ดี
"ประธานเยี่ยคะ คุณใจเย็นๆก่อนนะคะ ฉันว่าคุณไม่ควรหายใจแรแบบนี้นะคะ ถ้าทำอีก ไม่งั้นคุณจะรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังต้องการ ความต้องการมันเหมือนกับปีศาจ ดังนั้นอย่าเลยนะคะ" ถังซินเยหาดิ้นพร่า พยายามออกแรงของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ป่าปี้หายใจเข่าลึกๆอย่างให้ความร่วมมือไปสองครั้ง
เขายิ้มเยาะใส่ถังซินเหยาด้วยใบหน้าที่หล่อเหล่าไร้ที่ติแสนเซ็กซี่ของเขาพร้อมกับพูดกับเธอว่า : "อืม"
ถังซินเหยาแทบจะร้องไห้โฮกับรอยยิ้มร้ายๆนั้นของป่าปี้แล้ว จะหล่อเกินไปแล้วนะ
"หอมมาก" เยี่ยจิงเฉินสูดลมหายใจเพื่อสูดเอากลิ่นกายของถังซินเหยาเข้าไปลึกๆสองทีก่อนจะคอมเมนท์
ถังซินเหยา : ……..
ป่าปี้ ป่าปี้เป็นบ้ากามหรือไง?
ความจริงมันช่างน่าหดหู่จริงๆเลย รอให้ลั่วหลิงและเค่อหลานโต่แล้วเธอจะบอกกับลูกๆของเธอยังไงกันนะ ว่าป่าปี้ของพวกเขาไม่ได้แค่เป็นคนร้ายๆแต่ยังเป็นคนหื่นกามอีกด้วย
เธอไม่สามารถทำให้จิตใจแย่ไปกว่านี้แล้วนะโอเค? เศร้าอ่ะ?
ตอนที่เธอกำลังพูดอยู่ เยี่ยจิงเฉินได้เตะประตูห้องพักของเขาออกเสียแล้ว
เขาโยนร่างบางของถังซินเหยาลงบนเตียงคิงไซส์สไตล์อิตาเลี่ยนที่สั่งทำพิเศษไปแล้ว ณ ตอนนี้………..
MANGA DISCUSSION