ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 22 เธอโดนป๊ะป๋าทำให้ขุนมัวแล้วซิ
บางครั้งอาจจะเป็นเพราะเครื่องแต่งกายสินะป๊ะป๋าใส่สีขาวมันดูอบอุ่นมากเสียยิ่งกว่าใส่สูทสีดำเป็นไหนๆ มันไม่ไ้ด้ดูเคร่งขรึมเหมือนตอนกลางวันเลย
ป๊ะป๋า คุณใส่แบบนี้มาเปิดประตูจะไม่เป็นไรแน่นะ? คุณไม่กลัวว่าเลือดสัตวป่าดุร้ายในตัวฉันจะพุ่งพล่านออกมาแล้วทำเรื่องอย่างว่าหรอกหรอ
ป๊ะป๋า คุณมันเป็นปีศาจร้ายที่ยั่วใจจริงๆ
“เธอสายไปหนึ่งนาที” เย่จิงเฉินมือสองข้างกอดอกมองดูเธออย่างไร้ซึ่งอารมณ์
เจ้าโง่ เธอยังจะกล้าบ้าบิ่นอีกอยู่หรือป่าว?
เธอต้องจากเฉิงหนาน(ทิศใต้)ไปเฉิงซี(ทิศตะวันตก) ต่อแถวซื้อกาแฟและทาร์ดไข่ แล้วค่อยจากเฉิงซี(ทิศตะวันตก)ไปบ้านป๊ะป๋าที่อยู่เฉิงตง(ทิศตะวันออก)นี่มันวนรอบเมืองไปซื้อเลยนะ
แต่เธอให้แท็กซี่ฝ่าไฟแดงสามที่มาเหมือนเป็นเครื่องบินยังไงยังงั้น ถึงได้มาเร็วขนาดนี้นะคุณเธอ
“แต่ฉันพยายามสุดความสามารถแล้ว ฉันต้องนั่นรถจากเฉิงหนานไปเฉิงซีค่อยมาเฉิงตง” ตอนกลางคืนก็ยากที่จะเรียกรถ” ซินเหยากลืนเฮือกน้ำลายคำใหญ่ที่ผสมไปด้วยเลือดลงคอของเธอ
“ทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้สิ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามันก็คือความผิดของคุณ”
โอเคร คุณชนะแล้ว!
“ขอโทษ”
“ครั้งหน้าจะไม่มีอีก”
การกระทำของป๊ะป๋าในครั้งนี้มันทำให้เธอหดหู่สิ้นดี
แต่เพื่องาน เธอต้องกล้ำกลืนฝืนทน แล้วต้องยิ้มออกมาให้ดูเหมือนว่าไม่เป็นไร
ป๊ะป๋าหลีกทางไปด้านข้างเพื่อให้เธอเข้ามา แล้วพูดว่า “เป็นรอยยิ้มที่ทุเรศสิ้นดี”
การกระทำของป๊ะป๋าในครั้งนี้เหมือนมีดที่แทงไปที่ซินเหยา มันทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งนัก
เธอไม่รู้เลยว่าป๊ะป๋าไปได้คำพูดอสรพิษเช่นนี้มาเมื่อไหร่ แต่บอกได้คำเดียวว่าความเจ็บปวดได้คะแนนเต็มไปเลย
ซินเหยานั่งอยู่บนโซฟาแฮนด์แมดอิตาลีของป๊ะป๋าอย่างหน้าสะหล๋อน พิเคราะห์ดูความหรูหราของบ้าน คฤหาสน์หลังนี้ถึงแม้จะไม่เหมือนในละครที่ใหญ่หนึ่งพันเมตรพร้อมมีสวนหน้าบ้าน แต่มันก็ดูวิจิตรตระกาลตาหรูหราหมาเห่ามากยิ่งนัก
แต่ที่แปลกคือ มันมีความเรียบง่ายที่ผสมกับความหรูหรา มีนัยยะอะไรซ่อนไว้เป็นแน่
“หน้าเศร้าเป็นตูดไก่ทำไม ไม่พอใจฉันหรอ?”
ซินเหยา “…….”
ตอนนี้เธอได้ค้นพบอีกเรื่องนึงที่สุดแปลกคือ ประธานของบริษัทเยี่ยหวงไม่เพียงแค่เย็นชา แต่ต้องละเอียดทุกระเบียดนิ้ว
ซินเหยาวนรอบเมืองไปหนึ่งแมตช์ แต่กลับเขายังจำเรื่องนั้นได้อีก
“ประธานเย่ แบบร่างพวกนั้นมีตรงไหนที่ต้องแก้คะ” ซินเหยาถาม
“เธออยากชิมไหม?”ประธานเย่พูดเบี่ยงคำถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“อืม งั้นก็เสียดายแทนจริงๆเพราะรสชาติมันไม่เลวเลย ทาร์ดไข่เจ้านั้นน้ำตาลน้อยแครอรี่ต่ำ ถึงแม้กินแล้วก็ไม่อ้วนขึ้นอยู่ดี”
ที่แท้ท่านประธานรักษาหุ่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แต่แค่วิธีของป๊ะป๋ามันดูออกสาวไปหน่อย
ท่านประธานที่อยู่ในละครเหมือนกับว่าเกิดมาก็มีซิกแพค
ทุกวันเพียงแค่พาตัวละครเอกผู้หญิงนั่งรถหรูๆไปเที่ยวชมรอบโลก จูบกันบนบอลลูนที่ลอยอยู่บนนภา โปรยกลีบกุหลาบทั่วสวนหน้าบ้านเพื่อขอนางเอกแต่งงาน ทะเลาะกับนางเอกแบบไม่มีเหตุผล หึง ดีกันใหม่ แตกสลาย ประกอบใหม่ขึ้นอีกครั้ง ความสัมพันธ์ในนั้นมันมีแค่แบบนี้จริงๆ
ถึงแม้จะดูน้ำเน่า แต่นางเอกในนั้นก็ดูเหมือนจะชอบ
ถ้าเทียบป๊ะป๋ากับพระเอกในนั้นนะ แพ้อย่างราบคาบจริงๆ อยากรักษาซิกแพคถึงกับต้องใช้วิธีอดอาหารมาช่วย
พินิจดูแล้ว เธอน่าจะไม่ตำหนิความเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์โกรธแบบไม่มีสาเหตุของป๊ะป๋าอีกแล้ว
เพื่อเลี่ยงจากสมองที่จะแตกออก ซินเหยานิ่งไปชั่วขณะ แล้วถามว่า “เงินที่ใช้ซื้อทาร์ดไข่ กาแฟและค่ารถจะคืนฉันใช่ไหม ”
เย่จิงเฉิงเพียงแค่ดูซินเหยา พร้อมพูดประโยคที่ว่า”ซินเหยา ในหัวของเธอมันมีแต่ขี้หรอ”อย่างเย็นชา
แม่เจ้า สายตาคู่นั้นที่มองมาฉันก็นึกว่าเธอรักฉันแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอพูดกับฉันด้วยถ้อยคำที่สุดแสนจะเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น ฉันคงไม่ใช่นางเอกสินะ
เห้อ……
อีกอย่างในฐานะที่คุณเป็นประธานที่ฐานะค่อนข้างจะรวย คุณหยาบคายแบบนี้ได้หรอ คุณธรรมอาชีพคุณไปไหนหมดแล้วล่ะ?
งั้นฉันจะบอกเองว่าเวลาที่กำลังขี้ควรจะพูดว่าอะไร
ซินเหยาครุ่นคิดและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: คุณใช้คำว่าอุจจาระแทนได้
“อ๋อ งั้นในสมองของเธอคืออุจจาระหรอกหรอ”
คุณพอซักทีเถอะ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นประธานที่แสนจะมีเงิน แต่คุรไม่สามารที่จะมาดูถูกฉัน มาทำให้ฉันขุ่นหมอง อาทิเช่นใช้อำนาจของเงินมาหลอกล่อวิญญาณของฉัน
ซินเหยาดูป๊ะป๋ากินมื้อดึกครั้งนี้เสร็จอย่างเชื่องช้า แล้วก็…….
เสียงหาวที่ดังขึ้นเป็นของป๊ะป๋านั่นเอง เขาอยากจะไปพักผ่อนแล้ว
แมวของคุณแกล้งฉันเล่นหรอ ไหนแบบร่างที่บอกจะให้แก้?
“ท่านประธานเย่ คุณไม่ได้เป็นคนบอกเองหรอกหรอว่าฉันจะต้องแก้”ซินเหยาถามพรางอมยิ้มมุมปาก
“อ๋อ ตอนที่รอคุณมาผมแก้ให้หมดแล้วล่ะ”
แล้วในเวลาดึกดื่นเช่นนี้คุณให้ฉันวนรอบเมืองไปหมด แล้วมาหาคุณมันยังมีประโยชน์อะไร
“งั้นประธานเย่พักผ่อนเถอะ ที่จริงตรงนี้ยังไงก็เรียกรถกลับไม่ได้”
เสียงก้าวเท้าของซินเหยาชงักลง นึกว่าป๊ะป๋าจะไปส่ง
แต่ความจริงได้ปรากฎว่าป๊ะป๋าเลวร้ายดุดันกว่าที่เธอคิดไว้ซะอีก เพราะว่าป๊ะป๋าบอกว่า"พรุ่งนี้เช้าฉันอยากกินโจ๊กกับไข่เยี่ยวม้าและปาท่องโก๋ เธอสามารถอยู่ที่นี่ต่อเพื่อทำให้ฉันกิน”
ขุนพระ ไอ่บ้ากามนี้ฉันไม่อยู่รับใช้หรอก
“ถ้าไม่ได้กิน อารมณ์ผมก็จะไม่ดี ถ้าอารมณ์ผมไม่ดี ผมก็อาจจะเลือกมาก ซึ่งมันจะทำให้แบบร่างของคุณต้องโดนแก้ เพราะถ้ามองดีๆแล้ว แบบร่างของคุณยังมีที่ติอยู่”
ซินเหยาเธอมั่นใจในการออกแบบของเธอมาก แต่ก็อย่างว่าที่อีกฝ่ายมันเลือกมากเหลือเกิน
เธอคิดในใจว่าถ้าอีกหน่อยเธอไม่อยากที่จะมีปัญหากับป๊ะป๋า ทางที่ดีที่สุดก็คือฟังคำที่ป๊ะป๋าบอก
“ถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ พรุ่งนี้ฉันส่งเธอไปบริษัทแบบฟรีๆ บวกกับค่าอาหารค่ารถที่เธอเสียไปเมื่อตะกี้ก็จะคืนให้ทั้งหมด”
อนิจา ท่านประธานยังมีด้านที่ดีอยู่บ้าง
ตบหน้าหนึ่งฉากแล้วค่อยให้ลูกอมเป็นการปลอบใจ
“ไม่ใช่”
สมมติฐานนี้ไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์เลย ทุกวันท่านประธานตื่นขึ้นมาจากเตียงที่สุดแสนจะใหญ่และหรูหรา ได้เจอสาวๆสุดสวยอีกไม่ซ้ำหน้า แต่ท่านประธานไม่เคยมีความสุขเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเขาแค่ต้องการรักแท้ที่จริงใจกับเขาเท่านั้น
บ้านของท่านประธานรวยซะขนาดนั้น แต่ทำไมกลับไม่มีคนใช้แม้แต่คนเดียว
เหนื่อยใจจัง รู้สึกว่าจะรักอีกครั้งไม่ได้แล้วด้วยสิ
วันรุ่งขึ้นของวันที่สอง
ซินเหยาลุกขึ้นมาจากโซฟา เจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมด
ตั้งแต่ที่เข้ามาอยู่ในวงการออกแบบของอิตาลีและมีชื่อเสียงเธอก็ไม่เคยนอนโซฟาอีกเลย
ตอนนี้นอนมันไม่คุ้นเคยจริงๆ
งั้นก็พิสูจน์ได้ไปในตัวว่าในละครล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
ก่อนที่เธอจะนอน ไม่ใช่ว่าท่านประธานควรที่จะมาห่มผ้าให้ซักผืน หรือให้กอดที่แสนจะอบอุ่นหรอกหรอ รอให้วันรุ่งขึ้นแล้วพบว่าตัวละครเอกผู้หญิงถูกสวมกอดไว้ในอ้อมกอดที่อบอุ่น
เธอหาวไปสองรอบ หางตามีอะไรไหลย้อยลงมาคล้ายจะเป็นน้ำตา
แล้วก็เดินเข้าครัวไปเพื่อเตรียมตัวอาหารเช้าวันนี้
เห้อ ตั้งแต่ที่หลิงๆสามขวบเริ่มฝึกจับช้อน เธอก็ไม่ได้ทำกับข้าวอีก ตอนนี้เหมือนกลับไปที่เดิม ต้องมาทำกับข้าวให้ป๊ะป๋ากินอีก
เวลาเจ็ดโมงครึ่ง เย่จิงเฉินตื่นขึ้นมาอย่างตรงเวลา
ใส่ไว้ชุดนอนเดินลงมาจากข้างบน
เดินถึงหน้าทางลงบันไดกลิ่นของข้าวต้มก็ได้ลอยฟุ้งไปกระทบที่จมูกของเขา เขาเดินลงมา เห็นซินเหยาที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเช้า ใจของเขารู้สึกร้อนรน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเงียบสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซินเหยาเตรียมอาหารเช้าได้เสร็จและกำลังจะขึ้นไปเรียกป๊ะป๋าลงมาพอดี
แต่ก็เห็นป๊ะป๋ากำลังทำท่ามือกอดอก นั่งไขว่ห้าง มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย ดูแล้วอารมณ์น่าจะดีอยู่นะ ก็ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่แล้ว
ซินเหยาเหลือบดูป๊ะป๋าเป็นพักๆ มันเจริญต่อสายตาจริงๆ