ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 65 ผู้หญิงไร้ยางอายที่แทงข้างหลัง
นอกจากออกไปงานเลี้ยงครั้งแรกแล้ว ยังเกือบเอาตัวเองดื่มหนักจนไปติดหนี้ก้อนโตตั้งสิบแปดล้าน(แทบจะร้องไห้แล้วนะ) เป็นเลขาของเยี่ยจิงเฉินมันก็ดีอยู่หรอก เธอมีคุณสมบัติมากพอ
ไม่มีเรื่องอะไรทั้งเช้า แต่พอถึงตอนเที่ยงที่กำลังจะทานข้าวนั้น มีคนมาสองคน–ชายหนึ่งหญิงคู่หนึ่ง
แต่ว่าชายกับหญิงคนนี้ ดูเหมือนคุ้นหน้าคุ้นตายังไงก็ไม่รู้!
เหมือนกับว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน ที่ไหนกันนะ?
“ซินเหยา……”
“ซินเหยา ทำไมเธอมาอยู่นี่ได้?”
ตอนที่ชายหญิงสองคนนั้นเห็นถังซินเหยา สีหน้าคือตกใจมาก
รู้จักกันจริงๆด้วย ยิ่งกว่านั้นยังเรียกถังซินเหยาอย่างสนิทสนม
เธอจำพวกเขาไม่ได้แล้ว ถ้าหากให้พูดความจริงกับพวกเขา พวกเขาจะเสียใจไหมนะ?จะเสียมารยาทไปไหม?
“อ๋อ พวกคุณนี่เอง ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว พวกคุณเป็นยังไงกันบ้าง?”ถังซินเหยาก็เงียบไปสักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย
เธอยิ้มออกมาอย่างสดใจ ทำให้เห็นลักยิ้มที่น่ารักของเธอ ฟันหมาที่ปรากฏของทั้งสองคน เพิ่มความฉลาดหลักแหลมให้ความน่ารักของเธอ และยังเพิ่มความจริงใจ
ไม่ว่าจะใครก็ดูไม่ออก จริงๆแล้วเธอจำทั้งสองคนที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้เลยว่าเป็นใคร
“พวกเรามีความสุขดี ซินเหยาจริงๆแล้วพวกเราคบกัน พวกเรารักกันด้วยใจจริง และไม่ได้อยากทำร้ายเธอ แต่ว่าฉันหวังว่าเธอจะสนับสนุนนะ”ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าถังซินเหยาอย่างทุกข์ทรมานใจ จับแขนผู้ชายคนนั้น ดูเหมือนว่าสนิทสนมกันมาก สีหน้าของเธอทั้งน่าสงสารและใส่ซื่อ“ ถ้าเธอจะโทษก็โทษฉันเถอะ ฉันชอบเขามากจริงๆ เธออย่าเกลียดเขาเลย”
ฉันตกใจไปเลย นี่มันอะไรกันเนี่ย
ผู้หญิงแปลกคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความไร้ยางอายมาอย่างรุนแรง
“อ๋อ”ถังซินเหยาตอบออกไปอย่างไม่สนใจ
สาวน้อย ดูละครมากเกินไปสินะ อย่าลืมไปรักษาตัวล่ะ
ผู้ชายพยุงผู้หญิงที่แขนออกไปอย่างฝืนๆ มองถังซินเหยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโอหัง
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นมอง ก็จับมือขึ้นมา บนหน้ายังคงทำหน้าตาน่าสงสารอยู่ เพียงแต่ว่าในสายตารู้สึกว่ามีประกายแห่งความโกรธแค้นเข้ามา พิสูจน์แล้วว่าเป็นคนไร้ยางอายจริงๆ
“ซินเหยา ทำไมตอนนั้นอยู่ดีๆถึงหายไปเลยล่ะ เธอรู้ไหมว่าฉันตามหาเธอน่ะมันยากลำบากแค่ไหน?”ผู้ชายคนนั้นเดินมาดึงแขนที่ขาวนวลของถังซินเหยา ทำสีหน้าอย่างจริงใจ“ที่ผ่านมานี้เธอไปอยู่ที่ไหน?ทำไมถึงไม่ติดต่อกันมาบ้าง?”
ถังซินเหยาก็รีบสะบัดมือออกมาและถูมือกับด้านหลังของเสื้อผ้าอย่างรังเกียจ
คุยกันกับพวกเขาขนาดนี้สรุปแล้วพวกเขาเป็นใครกัน?
“เรื่องตอนนั้นจริงๆแล้วมันเป็นการเข้าใจผิด ฉันจริงจังกับเธอนะ เงินสิบล้านนั้นหลังจากนั้นฉันก็คืนให้คุณชายหลินแล้ว”เงินสิบล้าน……คุณชายหลิน?
ถังซินเหยาแค่รู้สึกว่าในสมองของเธอนั้นอยู่ดีๆก็รู้สึกสับสนขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดี เม้มปากแล้วเม้มอีก ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอเอามันทิ้งไปแล้วเหมือนทิ้งไว้ในถังขยะ
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นแฟนคนแรกที่ไม่เอาไหนของถังซินเหยาที่เธอไม่รู้ว่าลืมไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เหมือนกับว่าชื่อ……ฟาง……ฟางอี้ฟาง……ฟางอี้ชิง……ฟางอี้เฉิง……หรือว่าฟางฟางเฉิงกันนะ?
แฟนคนแรกยังเทียบไม่ได้กับคนที่ขายตัวไปสิบล้าน ความทรงจำนั้นยังคงชัดเจน
แต่ว่ายัยคนไร้ยางอายคนนั้น……ยัย……โสเภณี……ยัย……ตอนนั้นเธอเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียน เหมือนจะชื่อว่าจ้าวหลิน
ไม่ใช่เพราะเธอเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ยอมเสียสละหรอกนะ แต่เป็นว่าเธอเป็นคนที่มาแทงข้างหลัง
วันนี้ที่ได้มาเจอรักครั้งแรกกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอยู่ด้วยกัน สถานการณ์แบบนี้มันช่างน่ารำคาญจริงๆ เธอไม่มีแรงมาต่อล้อต่อเถียงแล้ว
จริงๆแล้วเธอไม่อยากจะมาเจอกับแฟนคนแรกที่พยายามเอาเธอไปแลกกับเงินสิบล้าน ไหนจะไปคบกับรุ่นพี่รุ่นน้องของเธอลับหลัง และยังไม่รู้สึกละอายใจเลย เธอทำหน้าอย่างจริงจัง“ขอโทษนะคะว่าทั้งสองท่านมาที่เยี่ยหวางนี่มีธุระอะไรเหรอคะ?”
“พวกเรามาหาประธานเยี่ย”ฟางอี้ชิง……หรือว่าฟางอี้เฉิงแฟนคนแรก พูดออกมา
“พวกคุณได้นัดล่วงหน้าก่อนไหมคะ?ถ้าไม่ใช่อน่างนั้นคงต้องขอโทษด้วยนะคะ”ถังซินเหยาพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
จ้าวหลินทำสีหน้าอย่างเห็นอกเห็นใจ“ซินเหยา งั้นก็ถือว่าเป็นความผิดของฉันที่คบกับเฉิง เธอก็จะทำแบบนี้กับเขาไม่ได้นะ ถ้าหากเธอไม่ถือสาอะไร ฉันยอม……ยอม……”
เธอยอมอะไร เธอก็พูดให้มันจบสิ พูดออกมาไม่จบแบบนี้ หรือว่าจะทำให้คนอื่นเป็นบ้าเหรอ
“เหยาเหยา เธออย่าเป็นแบบนี้สิ เธอโทษฉันมาเลยเถอะ อย่าไปโทษหลินหลินเลย”ฟางอี้เฉิงเอื้อมมือไปในอ้อมกอดจ้าวหลินด้วยสี
แย่แล้วสิ อย่าใส่ร้ายคุณย่าไปเรื่อยได้ไหม?ไม่อย่างงั้นก็อย่าเรียกอย่างสนิทสนมขนาดนี้ เธอกับพวกเขาไม่ได้สนิทกัน
คุณย่าไม่ใช่แค่สวย แต่ยังมีความรู้ความสามารถ ไม่เข้าใจพวกบ้าสองคนนี้เลย โตมากกับการกินขี้กันเหรอเนี่ย?
“ถ้าพวกคุณไม่ได้นัดล่วงหน้า ก็เจอประธานเยี่ยไม่ได้หรอก”ถังซินเหยาพูดออกไปอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่รอยยิ้มบนหน้ายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
แย่แล้ว ป่าปี้เป็นประธานที่มีเกียรติสูงสุด เป็นปากฉลามเหรอที่อยากจะเจอก็เจอเหรอ?
“เธอมีสิทธิอะไรที่มาพูดแบบนี้กับเฉิง?”มุมของจ้าวหลินที่ฟางอี้เฉิงมองไม่เห็น ยิ้มให้ถังซินเหยาด้วยรอยยิ้มที่ยั่วยุ ต่างกับความอ่อนหวานเมื่อกี้อย่างกับคนละคน
ถังซินเหยาเป็นคนค่อนข้างที่จะใจเย็น นี่เป็นคุณสมบัติของโสเภณีไร้ยางอาย เธอเข้าใจได้
“อ๋อ ใช่สิฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยใช่ไหม?ฉันเป็นเลขาของท่านประธาน ตารางงานของประธานฉันเป็นคนกำหนดทั้งหมด”
“เฉิงเป็นผู้จัดการใหญ่ของเตียนเฟิงกรุ๊ป ฉันเป็นเลขาของเฉิง พวกเรามาคุยเรื่องธุระกิจกับประธานฟาง”จ้าวหลินทำหน้าตาน่ากลัว“ดังนั้น ซินเหยาหยุดความโกรธแค้นของพวกเรามาขวาง อย่าทำให้กระทบกับบริษัทของเราทั้งสองเลยนะ”
ความโกรธแค้นส่วนตัวของน้องเขย?เธอจำความเลวของพวกเขาสองคนแทบจะไม่ได้แล้ว(ออกเสียงว่า‘Bitch’หมายความว่าเลวทราม)แล้วความแค้นส่วนตัวนั้นมันจะมาจากไหน?
ไหนจะยังเตียนเฟิงกรุ๊ป?ชื่อก็ดูสูงส่งดีนะ แต่ว่าการแสดงออกมาของเธอมันไม่เคยได้ยินมาก่นเลยนะ
ยิ่งกว่านั้นเมื่อครู่นี้เธอพูดว่าจะมาร่วมมือกับเยี่ยหวาง?
เครื่องหมายการค้าของเธอนี่ล้อเล่นกันเหรอ?บริษัทที่แบจะไม่มีชื่อเสียงยังกล้าที่จะมาร่วมมือกับเยี่ยหวางอยู่เหรอ?
“อ๋อ เตียนเฟิงกรุ๊ปเหรอ ขอโทษด้วยนะเดือนนี้ไม่เห็นว่าพวกคุณนัดเอาไว้เลย”ถังซินเหยาพูดอย่างไม่แยแสว่า“ถ้าอยากมาคุยเรื่องธุรกิจ คงต้องนัดไว้ก่อนนะคะ ประธานเยี่ยยุ่งมาก ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่ไม่สำคัญ เขาไม่สนใจหรอกค่ะ”
ดังนั้นบริษัทปกติธรรมดานี้ของพวกคุณก็อย่าคิดว่ามีอำนาจเลย
พวกคุณสามารถไปได้แล้วค่ะ
“ฉันรู้ว่าคุณอิจฉาฉัน เกลียดฉันที่แย่งเฉิงไป ดังนั้นถึงกลั่นแกล้งพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นยังไง เฉิงก็เป็นผู้ชายที่เธอรัก เธอพูดแบบนี้ออกมากับเขาได้ยังไง ตั้งใจจะทำลายธุรกิจของเขา”จ้าวหลินทำสีหน้าโกรธแค้นแล้วชี้ไปที่ถังซินเหยา