ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 112 งั้นก็ให้ฉันมอบทั้งชีวิตให้คุณดีไหม
"โทรศัพท์ผมพังแล้ว……" เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างเฉยเมย
คนขี้โกหกวันนี้ตอนทานข้าวเย็นเธอเห็นได้ชัดเลยว่าป่ะป๊ะใช้โทรศัพท์มือถือเปิดอ่านอีเมล
"ฉันไม่เชื่อคุณหรอก" ถังซินเหยาพูดโต้แย้ง
ป่ะป๊าพูดไม่จริงใจกับเธอแล้วอนาคตจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขได้อย่างไร?
"มันพังแล้วจริงๆ" เยี่ยจิงเฉินพูดด้วยความจริงใจ
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง จากนั้นเขาก็ปล่อยโทรศัพท์มือถือลงพื้นต่อหน้าถังซินเหยา ดูเหมือนว่าป่ะป๊ายังไม่พอใจเขาเหยียดเท้าออกและเหยียบโทรศัพท์มือถือสองสามครั้งจนหน้าจอแตกละเอียด
ป่ะป๊าทำลายมันกับมือจนเธอไม่กล้ามอง
"คุณดูสิ มันพังแล้วจริงๆ" เยี่ยจิงเฉินพูดและมองไปที่ถังซินเหยาด้วยสีหน้าที่ไม่รู้สึกผิด
ถังซินเหยา……
เหอะๆ มันก็พังจริงๆ แหละ
ป่ะป๊าคนบ้าคลั่งถึงกับยอมลงทุนพังโทรศัพท์มือถือตัวเอง นั้นมันเปรียบเสมือนไตข้างหนึ่งเลยนะ
"ไปกันเถอะ" ถังซินเหยารู้สึกเจ็บปวดกับความไร้ยางอายของเยี่ยจิงเฉิน หนียังไงก็หนีไม่พ้น วนเวียนมาเจอกันครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อเทียบกับการพังของโทรศัพท์มือถือ การเดินจับมือกันในตลาดกลางคืนกับเยี่ยจิงเฉินก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้
จากนั้นถังซินเหยาเปลี่ยนความเศร้าโศกและความโกรธให้กลายเป็นความอยากกินอาหารที่ขายในตลาดกลางคืนทั้งหมด
แม้ว่าจะมีกลิ่นเหม็น แต่เมื่อทานเข้าไปแล้วก็มีกลิ่นหอมเหมือนเคี้ยวหมากฝรั่งจนหยุดกินไม่ได้ เธอแก้แค้นด้วยการยัดหลายๆชิ้นเข้าไปในปากของเยี่ยจิงเฉิน
ฮ่าฮ่า…..กลิ่นกระเทียมและกุยช่ายผัดไข่ตลบอบอวลในปาก
สั่งชานมรสต้นตำรับ ไอศกรีม แซนด์วิชเนื้อและขนมสายไหม สุดท้ายยังสั่งไตย่างห้าสิบไม้เพื่อบำรุงร่างกาย
ให้ยาบำรุงไตแก่ป่ะป๊าสักหน่อย
ผลสุดท้ายคือเป็นความสุขที่มีความทุกข์——เธอกินเยอะจนจุก
พวกเขาเดินกินจนถึงตีสองแต่ตลาดกลางคืนก็ยังคงคึกคัก
ถังซินเหยากินไตย่างไม้สุดท้ายและสะอึกออกมาด้วยความพึงพอใจ เธอคิดเล่นๆ ว่าอยากมีไตเพิ่มอีกอันเพื่อนำไปขายมาซื้อโทรศัพท์มือถือ
"เรากลับกันเถอะมันดึกแล้ว" เยี่ยจิงเฉินใช้ทิชชูเช็ดมือของเขาด้วยท่าทางที่ดูสง่าและน่าเกรงขาม เขาเด่นสง่ามากเมื่ออยู่ในร้านปิ้งย่างข้างทาง
ถังซินเหยาพยักหน้า "โอเค งั้นก็กลับกันเถอะ ฉันก็ง่วงแล้วเหมือนกัน"
เยี่ยจิงเฉินหันหลังเดินไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันกลับมาและพบว่าถังซินเหยายังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
"เป็นอะไร คุณยังไม่อิ่มเหรอ?" เยี่ยจิงเฉินยืนรอถังซินเหยาเดินตามมา
ถังซินเหยาส่ายหัวแล้วพูดว่า "อิ่มแล้ว"
"แล้วทำไมคุณถึงยังนั่งนิ่งอยู่อีก ไปกันเถอะ"
ถังซินเหยาเม้มริมฝีปากของเธอเหมือนกำลังจะร้องไห้มองไปที่เยี่ยจิงเฉิน ราวกับว่าเป็นสุนัขที่ถูกเจ้าของทอดทิ้ง ทำเอาหัวใจของเยี่ยจิงเฉินผู้น่าสงสารก็สั่นไหวเล็กน้อย
"เป็นอะไรหรือเปล่า?"เขาไม่ได้สังเกตถึงความอ่อนโยนที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขาด้วยซ้ำ
"ฮือ……ฮือ " ถังซินเหยากำลังจะร้องไห้เธอหน้าแดงตั้งแต่ใบหน้าจนถึงลำคอ ไม่ใช่เพราะอายแต่เพราะขายขี้หน้าเกินไป "ฉันกินเยอะจนจุก เดินไม่ไหว"
เยี่ยจิงเฉิน……
ถังซินเหยา……
"ท่านประธานจะไม่รังเกียจลูกน้องตัวเองใช่ไหม" ถังซินเหยาถามเมื่อเห็นเยี่ยจิงเฉินไม่พูดในขณะที่มองดูเธอ
จะรังเกียจได้ยัง เธอเป็นคนที่ขี้หลงทาง จำทางไม่ได้เธอจะหลงทางและก็หลงทางจริงๆ
เมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสารของถังซินเหยาทำเอาเยี่ยจิงเฉินถึงกับถอนหายใจ
เขาเดินไปตรงหน้าของถังซินเหยาแล้วค่อยๆ นั่งยองๆ"ขึ้นมาเลย"
เมื่อเห็นเช่นนี้ทุกคนต่างตกตะลึง
ป่ะป๊าต้องการแบกเธอกลับ?
"คุณจะแบกฉันกลับเหรอ?" ถังซินเหยาถามอย่างไม่แน่ใจ
เยี่ยจิงเฉินเป็นคนหยิ่งผยองที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แต่ตอนนี้เขาย่อตัวลงตรงหน้าของเธอ
"ถ้าคุณไม่รีบคุณจะเสียใจ” เยี่ยจิงเฉินไม่ได้หันกลับไปมองเธอแต่เพียงแค่พูดเบา ๆ
ถังซินเหยายังคงลังเล รู้สึกว่าแค่ให้คนหยิ่งยโสอย่างเยี่ยจิงเฉินแบกเธอกลับไปจะกลายเป็นความโชคดีของเธอ
เธอปีนขึ้นไปบนหลังที่ปลอดภัยของเยี่ยจิงเฉินอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า "เอ่อ…… แบบนี้มันจะดีหรือคะ"
เยี่ยจิงเฉินยืนขึ้นแล้วฟังคำพูดของถังซินเหยา เขาลูบมือของเธอทำให้เธอตกใจจนกอดคอเขาแน่น
"ถ้าอยากกลับไปดีๆ ก็เป็นเด็กดีและอย่าขยับตัวเยอะ" เยี่ยจิงเฉินให้ถังซินเหยาขี่หลังของเขา
ระหว่างทางกลับถังซินเหยาวางแขนของเธอไว้ที่รอบคอของเยี่ยจิงเฉิน และวางหน้าของเธอบนไหล่ของเยี่ยจิงเฉิน เธอยังรู้สึกไม่สบายท้อง
"ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้" ถังซินเหยาหลับตาลงเล็กน้อยรู้สึกได้ถึงลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านแก้มของเธอและอากาศดูเหมือนจะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ไม่รู้จัก
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ให้เธอขี่หลังหรืออากาศและสิ่งแวดล้อมของที่นี่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอจมดิ่ง
เยี่ยจิงเฉินเดินไปทีละก้าวอย่างต่อเนื่อง ถังซินเหยาไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกแม้แต่น้อย
"แค่พูดปากเปล่าว่าขอบคุณจะมีประโยชน์อะไรใครๆ ก็พูดได้" เยี่ยจิงเฉินพูดไปอย่างชิลๆ ไม่ได้คิดอะไร
"อืม……แต่…… " ถังซินเหยาฟังคำพูดของเยี่ยจิงเฉินจึงเอ่ยปากถาม"แล้วท่านประธานต้องการให้ฉันทำอะไรแทนคำขอบคุณคะ?"
"ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก ถึงเวลาจะบอกเองว่าคุณควรทำยังไง" เยี่ยจิงเฉินตอบ
"งั้นก็ให้ฉันมอบทั้งชีวิตให้คุณดีไหม" บางทีบรรยากาศในวันนี้ดีเกินไปทำให้ถังซินเหยาไม่ทันระวังเผลอพูดประโยคนี้ออกมา
"คุณคิดอย่างเพ้อฝัน" เยี่ยจิงเฉินตอบ
แม้ว่าเสียงของเยี่ยจิงเฉินจะดูทุ้มและเซ็กซี่ แต่ถังซินเหยาก็ยังคงชินต่อการได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแสของเยี่ยจิงเฉิน
ถังซินเหยารู้สึกอายเล็กน้อย"ฮ่าฮ่า……ฉันล้อเล่นนะคะท่านประธาน แค่ล้อเล่นนิดหน่อยเองไม่ได้เหรอคะ ไม่สนุกเลยอะ"
เมื่อกลับไปถึงที่โรงแรมถังซินเหยาก็รู้สึกง่วงนอนสุดๆ แล้ว
แต่ท้องของเธอยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เธอง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น
นอนอยู่บนเตียงนอนด้วยความงุนงง เธอมักจะรู้สึกว่ามีมือที่อ่อนนุ่มมากลูบที่ท้องของเธอ
ถังซินเหยารู้สึกกระสับกระส่ายอย่างมากในคืนนั้นและทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมาเธอจะรู้สึกได้ถึงมือที่อ่อนโยนบนหน้าท้องของเธอ