ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 4 ผู้หญิงคนนั้นที่ผมไม่รู้จัก
หลัวเหยียนฉีที่กำลังขึ้นไปนั่งที่บนรถคันสีแดง สวมชุดเดรสรัดรูปสีดำ ทำผมลอนและใส่แว่นดำ เป็นผู้หญิงที่มีความโดดเด่นและเพรียบพร้อม
หลัวเหยียนฉีเป้นคนที่น่าหลงใหลมาตั้งแต่เกิด ทั้งเซ็กซี่และทำให้คนหลงเสน่ห์ ยั่วยวนให้มีผู้ชายไม่น้อยเลยที่จะจับจ้องมาที่เธอ
“ลูกรัก รีบไปอ้อนแม่เลี้ยงเร็ว!”พอเห็นหลัวเหยียนฉี ถังซินเหยารีบพูดกับลูกชายและลูกสาวของตัวเอง
ถังเค่อหลานเชื่อฟังหม่ามี้มาก ก็รีบวิ่งเข้าไปอ้อนเกาะแข้งเกาะขาสุดสวยหลัว ตอนที่เดินไปหานั้นก็ลืมพาลั่งหลิงพี่ชายสุดที่รักของเธอไปด้วย
หลัวเหยียนฉีจับแว่นดำที่ปิดไปครึ่งหน้า ไม่ทันไรที่ขาของเธอก็มีเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดูมาเกาะอยู่แล้ว
เด็กทั้งสองคนนั้นน่ารักมาก มีชีวิตชีวามากจนเปรียบได้ดั่งดาราเด็กพวกนั้นบนจอทีวี
หลัวเหยียนฉีเลิกคิ้ว ใจก็เต้นรัว ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดะไร ถังซินเหยาก็เดินเข้าไปอย่างสงบนิ่ง
“ชีชี ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ ฉันคิดถึงเธอจะตายอยู่แล้ว”ถังซินเหยากอดหลัวเหยียนฉีอย่างอบอุ่น
จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยที่หลัวเหยียนฉีเจอกันกับถังซินเหยา
หลัวเหยียนฉีเอามือข้างหนึ่งจับแว่นดำ อีกมือก็ยื่นออกไปชี้ที่หน้าผากของถังซินเหยา ดวงตาที่เรียวยาวเหมือนกับดอกท้อดึงดูดเป็นอย่างมาก แทบจะฆ่าคนได้เลย สวยสง่ากินใจ
“อย่าเล่นไม้นี้ เธอรับปากฉันว่าจะออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับศิลปินของฉัน?”หลัวเหยียนถามเธอ
ถังซินเหยากระพริบตาให้กับลั่วหลิงและเค่อหลาน สองพี่น้องก็รู้ทันทีว่าหมายความว่าอย่างไร
“แม่เลี้ยงคะ แม่สวยมากๆเลยนะคะ”ถังเค่อหลานยอเธอ ใช้สายตาไร้เดียงสาและความน่ารักมองไปที่หลัวเหยียนฉี เธอที่มองอยู่นั้นใจก็แทบจะเหลวอยู่แล้ว
“เด็กน้อยสองคนนี้เป็นใครกันเอ่ย?”สีหน้าของหลัวเหยียนฉีก็ดูอ่อนโยนมากขึ้น
“คนนี้คือหลิงหลิง คนนี้คือหลานหลาน ลูกชายและลูกสาวสุดที่รักของฉันเอง”หลังจากที่ถังซินเหยาพูดจบแล้ว ก็พูดเสริมมาอีกว่า“ลูกแท้ๆนะ!”
หลัวเหยียนฉีตกใจมาก ไม่ใช่หรอกมั้ง?!
ถังซินเหยาและหลังเหยียนฉีรู้จักกันที่เวทีการโต้วาทีระหว่างประเทศ ทั้งสองคนเป็นคนที่มีอิทธิพลในเวทีการโต้วาที ถึงแม้ว่าจะไม่เจอกันมาก่อน แต่กลับรู้สึกได้ถึงสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง คุณกันอย่างคึกคัก
ถังซินเหยาที่อายุเกือบจะยี่สิบสี่ปีนั้นเคยพูดว่าตัวเองมีลูกชายและลูกสาวที่อายุห้าขวบ แต่ว่าในตอนนั้นพวกเธอคิดว่าถังซินเหยาแค่พูดล้อเล่นเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง……
ในตอนนั้นหลัวเหยียนฉีพูดอย่างอวดดีว่า อย่ามาล้อเล่นกันเลย ถ้าเธอมีลูกชาบกับลูกสาว งั้นฉันก็เป็นแม้เลี้ยงของพวกเขาสิ!
คิดไม่ถึงว่า……
หลัวเหยียนฉีมองลั่วหลิงและเค่อหลานที่อยู่ด้านหน้าของเธอ ฉันเชื่อ โตมาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้จะไม่รู้ได้อย่างไร?!
หลัวเหยียนโน้มตัวลงมามองลั่วหลิงและเคิอหลาน ไปจุ๊บทั้งสองคน“น่ารักกันเกินไปแล้วที่รักทั้งหลาย หลังจากนี้ฉันก็เป็นแม่เลี้ยงของพวกหนูนะ เรื่องทั้งหมดให้ฉันจัดการเอง ไปกัน แม่เลี้ยงจะพาพวกหนูไปทานอะไรอร่อยๆ!”
หลัวเหยียนฉีโบกมืออย่างกับเป็นเจ้าถิ่น
“จิงเฉิน นายเป็นอะไร?”
พึ่งจะออกมาจากสนามบิน เยี่ยจิงเฉินก็เห็นถังซินเหยา กระวนกระวายใจมากและควบคุมร่างกายไม่อยู่ อยากจะตามไปมาก แต่ว่ากลับโดนลู่อันหรันห้ามไว้
ตอนที่เขามองไปอีกครังนั้น เธอก็ได้หายไปแล้ว
เยี่ยจิงเฉินเอามือจับอกไว้ เมื่อครู่นี้ที่ความใจสั่นแพร่กระจายออกมาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจแทบจะเป็นตามการฟื้นตัวอย่างมีสติของเขา ก็ค่อยๆสงบนิ่งลงมา เหมือนกับทะเลสาบในใจที่ไม่เคยมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามา
“พวกคุณรู้จักกันเหรอ?”ลู่อันหรันถามอย่างสงสัย
สำหรับเยี่ยจิงเฉินในใจของตัวเองเป็นคลื่นที่ซัดเข้ามาอีกครั้ง และเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะไตร่ตรองเท่าไหร่ก็ตามก็ยังไม่มีวิธีแก้ มองที่ลู่อันหรันแวบหนึ่ง ตอบไปแบบนิ่งๆ“ไม่รู้จักหรอก”
ลู่อันหรันหยุดชะงักไปแล้วคิดถึงเด็กสองคนเมื่อกี้ว่าพวกเขาแทบจะถอดแบบของเยี่ยจิงเฉินออกมา ถ้าหากว่าเธอไม่เข้าใจเยี่ยจิงเฉินดีอยู่แล้ว ก็แทบจะคิดว่านั้นเป็นลูกของเยี่ยจิงเฉิน
พอได้ยินเยี่ยจิงเฉินพูดว่าไม่รู้จัก ลู่อันหรันก็สบายใจขึ้นมา เธอเขาใจเยี่ยจิงเฉินดี เขาไม่ควรค่าที่จะพูดโกหก ในเมื่อเขาพูดว่าเขาไม่รู้จัก งั้นก็คงไม่รู้จักจริงๆ