ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 137 : กลัวความมืด นอนด้วยกัน
"อะไรกันคะคุณยาย ซูหยวนน่ารักแถมยังปากหวานขนาดนี้ หนูชอบเด็กคนนี้มากๆค่ะ" ซินเหยายืนขึ้นและพูดต่อว่า : "นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณยายกับซูหยวนก็พักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพวกหนูกลับไปเองก็ได้แล้ว พวกหนูจำทางกลับได้ค่ะ"
ตั้งแต่ที่ออกมาจากบ้านของคุณยายเฟย จิงเฉินก็เงียบอยู่ข้างหลังซินเหยา และจู่ๆก็ถามขึ้นว่า : "เธอจำทางได้หรอ?"
"ฉันจำไม่ได้คุณจำได้รึไง?" ซินเหยาถามกลับ
จิงเฉินนิ่งเงียบไปสักพัก กัดฟันและพูดขึ้นว่า : "ได้สิซินเหยา อยากทรยศกันใช่ไหม?"
ทรยศบ้าไรกัน? คุณกำลังคิดอยู่หรอว่าตัวเองเป็นราชา ถึงคุณจะเป็นราชาฉันก็ไม่กลัวหรอก
"ไม่ใช่นะ ฉันผิดไปแล้ว" ซินเหยายอมรับผิดพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดเรี่ยวหมดแรง
เธอไม่ได้กลัวถ้าเกิดว่าจิงเฉินเป็นราชา แต่เธอกลัวถ้าเขาเป็นอันธพาลที่เอาแต่ใจไม่ฟังเหตุผลใดๆมากกว่า
ซินเหยาไม่ได้เป็นคนที่คุ้นชินทิศทาง อีกอย่างยังเป็นคนที่แบ่งทิศไม่ได้ สำหรับป๊ะป๋าที่เป็นคนแบ่งทิศไม่เป็นหรือป่าวนั้นเธอก็ไม่กล้าถามเหมือนกัน กลัวจะโดนหวดกลับมา
ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะมืดเอามาก แต่ยังดีที่บ้านของคุณยายกับตึกสามชั้นนั้นห่างกันไม่ไกลมาก พวกเขาจึงสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เมื่อซินเหยาเปิดประตูบ้านขึ้นเธอก็พูดกับจิงเฉินว่า : "ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันง่วงมากด้วย มีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุย แค่นี้ก่อนนะ ฝันดี"
ตอนที่พูดเธอไม่ได้หันไปดูสีหน้าของจิงฉินเลย และไม่ได้รอให้จิงเฉินตอบกลับ เธอก็ได้วิ่งหายตัวไปอย่างรวดเร็วแล้ว
เมื่อกลับมาถึงห้อง ก็โถมตัวนอนอยู่บนเตียงที่สุดแสนจะนุ่ม ได้กลิ่นของแสงแดดกับผ้าฝ่ายที่ส่งออกมา
แต่นอนยังไงก็นอนไม่หลับ รู้สึกว่าสองวันมานี้เหมือนกำลังฝันไปอยู่ ทำไมจู่ๆถึงได้เกิดเรื่องพวกนี้และมาอยู่กับจิงเฉินที่นี่ได้นะ?
ตอนนี้ทั้งสองก็หลบอยู่ที่ชนบทภูเขาเขียวสายน้ำใสแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปเมื่อไหร่เหมือนกัน
ที่จริงตอนแรกไม่น่าเห็นแก่เงินจริงๆในการตอบรับหลี่เวยและมาเป็นเลขาของจิงเฉิน อีกอย่างยังไม่น่ากลัวว่าจิงเฉินจะมารบกวนอะไรเธอจึงเอาลูกให้จว๋อเหยียนและฉีฉีดูแลไปโดยไม่ทันคิดอะไรก่อน
ตอนนี้เป็นไงล่ะ เกือบจะเสียชีวิตไปแล้วยังไม่พูด ยังไม่รู้อีกว่าตอนไหนจะได้กลับไปหาลูกน้อยของตัวเองอีก เฮ้อออ
คิดไปคิดมาก็ทำให้เธอรู้สึกง่วงขึ้นมา ในตอนที่เธอกำลังสะลึมสะลืออยู่นั้นก็เหมือนได้ยินเสียงคนเคาะประตูดังขึ้น
เธอสะลึมสะลืมจริงๆ ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็ใส่รองเท้าแตะไปเปิดประตูเสียแล้ว
เมื่อเปิดประตูมา ก็เห็นคนหล่อดั่งเทพบุตรกำลังยื่นอยู่ต่อหน้าเธอ ซินเหยาดูจนหลงไปหมดแล้ว เออออ……เธอสาบานว่าเธอไม่หลงรักคนอื่นไปทั่วนะ แต่แค่ในใจต่างก็ซ่อนความชอบมองคนหล่อไปอยู่นิดๆ
"หล่อมาก……" ซินเหยามองดูจิงเฉินอย่างเจ๋อๆ
จิงเฉินเห็นสภาพซินเหยาที่หลงแบบนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แววตาก็ดูนุ่มนวลขึ้นมามาก
เขายื่นมือออกมา จากนั้นบีบไปที่หน้านุ่มๆรูปทรงไข่ของซินเหยา ซินเหยาเจ็บจนตื่นทันที
จากนั้นก็เห็นป๊ะป๋ากำลังยืนอยู่หน้าประตูและยังบีบไปที่หน้าของเธอ ความเจ็บบนหน้ารู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเขา ความคิดทะลึ้งพวกนั้นจึงได้หายไปด้วย
ซินเหยาสบัดมือของจิงเฉินออก และจับไปที่หน้าที่โดนบีบอย่างเจ็บของตัวเอง พร้อมพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะจอยว่า : "ดึกขนาดนี้แล้ว มีเรื่องอะไร?"
"กลัวความมืด" จิงเฉินขมวดคิ้วขึ้น มองไปที่ตาเธอและพูดขึ้นว่า : "เพราะงั้นวันนี้จะมานอนกับคุณ"
ซินเหยาเหมือนกับโดนฟ้าผ่าไปที่กลางศีรษะ เธอกำลังฝันไปอยู่หรอ
ป๊ะป๋าดึกๆดื่นมาเคาะประตูห้องเธอและบอกว่า กลัวความมืด……โอ้ย……ฮ่าๆๆๆ…….ตลกจริงๆ
ป๊ะป๋าแบบนี้มันไม่เป็นลูกผู้ชายเอาเลยนะ ด้านที่ออกสาวของป๊ะป๋าเธอเห็นมันแล้วล่ะสิ อีกหน่อยจะยังเล่นสนุกด้วยกันได้อยู่หรือป่าว?
นี่คุณกำลังแกล้งฉันอยู่รึเปล่าเนี่ย?
ซินเหยาทำหน้านิ่งๆที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ว่า 'ที่รัก อย่าโวยวายไปหน่อยเลย' และพูดว่า : "กลัวความมืด? ทำไมฉันไม่รู้ว่าเมื่อก่อนคุณกลัวความมืด งั้นที่ผ่านมาคุณนอนยังไง ให้ตัวเองนอนเป็นเพื่อนตัวเองงั้นหรอ?"
แม่เจ้า ฉันเรียนหนังสือมาน้อย อย่ามาหลอกฉันเลย
จิงเฉินมองไปที่หน้าซินเหยาด้วยความมึนงงและพูดว่า : "ใครบอกว่าผมกลัวความมืด?"
ซินเหยา : ……
คุณไม่กลัวความมืด แต่ดึกๆตื่นๆวิ่งมาหน้าประตูห้องฉัน และพูดว่า 'กลัวความมืด' เพราะงั้นคนที่บอกว่าคืนนี้จะนอนกับฉันไม่ใช่คุณ? โดนผีเข้ารึไง? หึหึ…..
"ไม่กลัวก็ดี ลาก่อน" ซินเหยาหันหลังกลับและปิดประตู
แต่ประตูโดนจิงเฉินกันไว้ ปิดไม่ได้ จิงเฉินพูดอย่างจริงจังว่า : "ไม่ใช่ผมที่กลัวความมืด แต่เป็นคุณต่างหากที่กลัว เพราะงั้นผมจึงมานอนเป็นเพื่อนคุณ"
แม่เจ้า คุณนี่มันหน้าหนามากจริงๆ
แต่ว่า……
"ฉันไม่กลัวความมืด" ซินเหยาพูด
กลัวความมืดอะไรกัน นี่เป็นการหยามเธอชัดๆ ขนาดผีเธอยังไม่กลัวเลย จะให้กลัวความมืดนี่นะ? หึหึ
"คุณกลัว" จิงเฉินมองไปที่ตาของซินเหยาอย่างตั้งใจ
ซินเหยาตอนนี้หมดคำจะพูดจริงๆ
ถ้าหากว่าเธอไม่ได้เป็นคนโง่ล่ะก็ ดูหน้าของป๊ะป๋าแบบนี้เธอคิดจริงๆนะว่าเธอกลัวความมืด แต่ว่า……เธอไม่ได้กลัวความมืดจริงๆ
"ฉันไม่ได้กลัวจริงๆ" ซินเหยาจะบ้าตายรายวันอยู่แล้ว
"เอิ่มมม ไม่กลัวก็ไม่กลัว" จิงเฉินปล่อยแรงที่ไหล่ลง ไม่ดื้อดึงต่อไปแล้ว
ซินเหยารู้สึกว่าคืนนี้จิงเฉินแปลกๆไป ไม่ใช่โดนอะไรสิงเข้าให้นะ จิงเฉินไม่ได้ดื้อดึงที่จะนอนกับเธอแล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
"งั้นผมไปก่อนนะ" จิงเฉินพูด
ซินเหยาผงกหัวรับ ไปเร็วๆเถอะ อย่ามาอยู่ตรงนี้ทรมานคนอื่นเปล่าๆ คุณหล่อขนาดนี้ก็ควรจะเป็นชายหล่อที่อยู่เงียบๆสงบๆไป
เมื่อเห็นจิงเฉินหันหลังเดินไปแล้ว ซินเหยาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หันหลังไปกำลังจะเตรียมปิดประตู และหาวออกมา
"หึ (เสียงร้องดัง)……"
เมื่อเสียงลอยออกมา ทำให้ซินเหยากรี๊ดออกมาอย่างตกใจ
เธอไม่ได้กลัวขนาดนั้น แต่ว่าถึงจะเป็นคนที่ใจกล้ามากเพียงใดก็ต้องมีตอนที่ตกใจอยู่บ้าง
ซินเหยาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าทั้งตัวของเธอตอนนี้ก็โถมเข้าใส่อ้อมกอดของใครสักคนสียแล้ว ตอนนี้ปลายจมูกเธอได้กลิ่นของมะละกออ่อนๆบวกกับกลิ่นเย็นๆตลบอบอวลไปหมด
"เอาล่ะๆ ไม่ต้อกลัวนะ ไม่ต้องกลัว" คนที่กำลังกอดเธอยื่นมือออกมาลูบๆไปที่หลังของเธอ น้ำเสียงที่กำลังปลอบมีความอบอุ่นเอามากๆ
ซินเหยาตั้งตัวตรงขึ้นจากอกที่เต็มไปที่ด้วยกลิ่นมะละกอและกลิ่นเย็นๆ พร้อมกับเงยหัวขึ้น จึงทำให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของจิงเฉิน