“ไม่เป็นไร ผมจะทำให้คุณเห็นความตั้งใจที่ผมมีต่อคุณให้จงได้” ซวี่เจ๋อพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ลดละความพยายาม
ซินเหยาแค่อยากจะตอบกลับว่า : หึๆ
ถ้าเกิดว่าเป็นเมื่อหกปีก่อนเธอคงตอบตกลงไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้มัน…….
เธอไม่ใช่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่เธอเป็นแม่คนแล้ว
ถ้าเกิดว่าความลับลั่วหลิงกับเข่อหลานถูกเปิดเผยออก มันจะเกิดเรื่องโกลาหลขนาดไหนขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย เพราะงั้นเธอจึงปฏิเสธไป เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสีย
“ยอมแพ้เถอะ คุณไม่มีโอกาสน้ันหรอก” ซินเหยามองไปที่ดวงตาของซวี่เจ๋อและยังคงตอบกลับอย่างหนักแน่น
ในรอยยิ้มของซวี่เจ๋อตอนนี้มันซ่อนความรู้สึกที่สุดแสนจะขมขื่นไว้มากมาย และได้พูดขึ้นว่า “ทำไมผมต้องมาลิ้มลองความรักแบบนี้ที่มันไม่มีวันผลิดอกออกผล ทั้งชีวิตนี้ผมมีแค่หัวใขดวงเดียวเท่านั้น แต่ผมกลับมอบมันไปให้คุณหมดโดยที่ผมก็ยังไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน หัวใจของผมมันมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นเท่านั้น มันสามารถที่จะใส่คุณเข้าไปได้คนเดียวจริงๆ เพราะงั้นผมจึงต้องโผยบินเข้าไปในใจของคุณ ถึงแม้ว่าผมจะรู้ตอนจบว่าผมนั้นเปรียบเหมือนแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ แต่ผมก็เต็มใจที่จะลองสักตั้ง และตอนนี้ผมไม่สามารถที่จะออกมาจากกองไฟนั้นได้อีกต่อไปแล้ว ”
ท่านประธานฟาง ตอนคุณอยู่มหาลัยคุณไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินหรอกหรอ
ตอนนี้เรื่องเล็กประสิวที่มันเกิดขึ้นคุณยังจัดการไม่ได้ คุณไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่คุณเรียนมาหรอ
คุณเล่นพูดคำที่ซึ้งกินใจออกมาขนาดนี้ คุณจะแย่งอาหารของเด็กที่เรียนสายวรรณกรรมมาหรือยังไงกัน
“ขอโทษนะคะ” ซินเหยายังคงใจแข็งปฏิเสธซวี่เจ๋อไป ถึงแม้ว่าเขาจะทำให้เธอรู้สึกใจเต้นมากขนาดไหนก็ตาม
เธอพึ่งรู้ว่าความจริงใจเธอนั้นแข็งเหมือนดั่งหินภูผา
หน้า2
ซวี่เจ๋อไม่ได้มีทีท่าว่าจะบังคับเธอขนาดนั้น เพียงแค่พูดว่าเขาจะไม่ยอมแพ้แน่นอน
เมื่อพูดจบ เขาก็ขับรถจากไป
เหลือไว้แต่ซินเหยาที่ต้องรู้สึกถึงความยุ่งเหยิงของความรู้สึกของตัวเอง ตัวเธอดีขนาดนี้จริงๆหรอ?
เธอดีขนาดนี้ ตัวเธอเองยังไม่รู้นะเนี่ย
ยืนอยู่ในจุดเดิม สายตาทอดมองรถที่กำลังหายวับไป ความรู้สึกตอนนี้มันคิดอะไรเต็มไปหมด
ทันใดนั้นมือถือในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น เมื่อมองดูสายที่โทรเข้ามา ความรู้สึกที่เงียบสงบของเธอนั้นก็ได้หายวับไปเช่นกัน
“ท่านประธานเยี่ยคะ เวลาตอนนี้มันคือเวลาเลิกงานแล้วนะคะ ฉันไม่มีทางกลับไปบริษัทโดยเด็ดขาดค่ะ” ซินเหยาพูดบุกก่อน เพื่อไม่ให้ป๊ะป๋ารุกเธอก่อนได้
“สวัสดีครับ นี่ใช่เบอร์คุณแม่สาวแมวป่าหรือป่าวครับ” เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นหูได้ออกมาจากมือถือ
พระเจ้า แม่สาวแมวป่า
ใครมันบ้าขนาดนี้นะ ตั้งชื่อได้เห่ยขนาดนี้
“ไม่ใช่คะ คุณโทรผิดแล้วคะ” ซินเหยาตอบกลับอย่างหนักแน่น
ตอนที่เธอกำลังจะวางสายนั้น เสียงรีบร้อนของอีกฝั่งก็ดังขึ้น “เดี๋ยวครับ เดี๋ยวครับคุณแม่สาวแมวป่า ตอนนี้ท่านประธานเยี่ยเมามาก คุณมารับท่านหน่อยได้หรือป่าวครับ”
“ก็บอกว่าคุณโทรผิด ไม่มีชื่อแม่สาวแมวป่าชื่อนี้”
ไม่รู้ว่าใครมันบ้ามาตั้งชื่อแบบนี้กันนะ
“แต่ว่ามือถือของท่านประธานเมมชื่อคุณไว้คนเดียวนะครับ” เขาพูดด้วยความลำบากใจ
เดี๋ยวนะ! เขาบอกว่าเป็นท่านประธานเยี่ยหรอ
คงไม่ใช่ประธานเยี่ยที่เธอรู้จักหรอกมั้ง
“ประธานเยี่ยคนไหนคะ คงไม่ใช่เป็นประธานบริษัทเยี่ยหวงคนนั้นนะคะ?”
“ใช่ครับ เขาเอง”
แม่เจ้า เป็นไอ้ประธานบ้านั้นจริงด้วย ไม่ยอมหยุดหลอกหลอนจริงๆ
“ฉันไม่สนิทกับเขาค่ะ คุณสามารถโทรหาเลขาของเขาได้” ทำไมเธอถึงต้องไปรับเยี่ยจิงเฉินไอ้ตาบ้านั้นด้วย เธอไม่ไปหรอก
แต่ว่าในมือถือของเขามีแค่เบอร์คุณแม่สาวแมวป่าคนเดียวนะครับ
“ก็บอกแล้วไงไม่ใช่แม่สาวแมวป่า ฉันคือ ถังซินเหยา ซินเหยาาา”
“โอเครครับคุณซินหยา งั้นคุณซินเหยาว่างมารับหรือป่าวครับ?”
“ไม่ว่าง”
หึ……เธอไม่ไปหรอก
“ถ้าไม่มานะ ฉันจะตัดเงินเดือน เสียงของจิงเฉินดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์
ซินเหยา : ……
ไม่ใช่บอกหรอกหรอว่าเขาเมาหัวราน้ำไปแล้ว เมาแล้วยังจะพูดคำที่เจ้าเล่ห์ขนาดนี้ออกมาได้หรอ เมาแล้วจะรู้หรอว่าเงินคือจุดอ่อนของเธอหรอ
“แม่สาวว……คุณซินเหยาครับ คุณดูสิครับ……”
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เขาคงจะไม่เรียกเธอว่าแม่สาวแมวป่าอีกนะ
“เดี๋ยวฉันไป ฉันไปก็ได้ ให้เขารอยู่ตรงนั้นแหละ”
แม่เจ้า พนักงานคนนั้นชื่ออะไรนะ ถ้ารู้ล่ะก็รับประกันได้ว่าแม่จะตีให้หลังหัก
หลังจากที่รู้ว่าผับนั้นยู่ที่ไหน เธอก็กลับบ้านไปดูลูกทั้งสองของเธอก่อนว่าหลับไปหรือยัง จากนั้นก็หยิบกุญแจรถและขับไปหาจิงเฉิน
ผับนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสินิ ดูไปดูมาก็เหมือนเพชรชั้นหนึ่งที่กำลังตั้งตระง่านสูงตรง นี่คงเป็นที่ที่คนรวยชอบรวมตัวกันสินะ
บรรยากาศที่นี่ไม่ได้เหมือนบาร์ทั่วไปที่จะรู้สึกมืดอโคจรขนาดนั้น มันดูเงียบสงบอยู่นะ
นักธุรกิจหลายคนมากที่สามารถเห็นได้จากนิตยสารเท่านั้นต่างก็มาที่นี้กัน
สายตาของซินเหยาอันแหลมคมไม่นานก็เจอจิงเฉินที่กำลังเมาหัวราน้ำไปกองอยู่ที่พื้นจนเจอ
ถึงแม้ว่าป๊ะป๋าจะเมาขนาดนี้ แต่ความเซ็กซี่ของเขาไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น เธออยากจะกรี๊ดให้กับความยั่วยวนของเขายิ่งนัก
“ประท่านเยี่ย” ซินเหยาเดินไปหาและไปนั่งอยู่ตรงข้างๆเขา
จิงเฉินหันขึ้นมาดู มันเหมือนกับใบหน้าในความมืดมิดที่มีความลึกลับซ่อนอยู่ มันช่างพิศวงน่าค้นหา มันสามารถที่จะดูดกลืนคนเข้าไปได้ทั้งคน ใครมองใครก็ท้องได้จริงๆ
“ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” พูดเสร็จก็เทเหล้าแก้วหนึ่งให้เธอ
ซินเหยามองไปที่แก้วเหล้าใบนั้น แม่เจ้า นี่มันแก้วเหล้าที่เทจากมือของจิงเฉินเองเลยนะ
รู้สึกว่าเหล้าแก้วนี้มันดูแพงสูงสง่าขึ้นมาทันที
เธอหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา ชิมไปหนึ่งกึก รสชาติก็ไม่เลว
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอหนักๆ ที่จริงแล้วจิงเฉินก็ล้มลงซบไปที่ไหล่ของเธอนั่นเอง
กลิ่นตัวของจิงเฉินที่มีความเย็นสดชื่นหน่อยๆ ลมหายใจของเขามันกระทบไปที่ลำคอของเธอ มันทำให้เธอขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ความชาที่ส่งผ่านมาจากห้องหัวใจได้ส่งต่อไปให้ทั่วร่างกาย ตอนนี้เธอรู้สึกได้แต่ความชา
“หึ……” จิงเฉินหัวเราะออกมาอย่างเซ็กซี่ “เดตเสร็จแล้วหรอ”
แม่เจ้า ป๊ะป๋าตอนนี้เมาแล้วนะ แต่ทำไมสัมผัสไม่ได้ถึงร่องรอยของความเมาเลยล่ะ
“อื่ม ” เธอตอบกับด้วยเสียงโทนต่ำ รู้สึกว่าไปไม่ถูกจริงๆ
“ได้พูดชัดเจนแล้ว?”
“อืม”
“ต่อไปไม่ต้องไปยั่วชายอื่นอีกนะ”
แม่เจ้า ยั่วยังงั้นหรอ!?
ป๊าป๋า ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนรวย แต่คุณจะมาเข้าใจเธอผิดๆแบบนี้ไม่ได้นะ
เห็นว่าเธอไม่ตอบ จิงเฉินเลยเอามือกอดเข้าไปที่เอวของเธอและถามว่า “ได้ยินไหม?”
ได้ยินหาพระแสงมึ..หรอ ไม่ได้ยินโว้ย
มือของเขาสอดใส่เข้าไปในเสื้อของซินเหยา มันค่อยๆลามไปที่อื่น ซินเหยาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ผมพูดกับคุณอยุ่ คุณยังจะกล้าหัวเราะหรอ?” จิงเฉินเบิกตาที่ร้อนโชนนั้นออกมา และมองไปที่ซินเหยา
“คุณไม่ใช่เมาแล้วหรอค่ะ” คนเมาไม่น่าจะพูดคำเหล่านี้ออกมาได้นะคะ
ตูดของซินเหยาได้ขยับห่างจากที่เก่ามากขึ้น เธอไม่ยอมนั่งใกล้ไอ้บ้าโรคจิตคนนี้หรอก
จิงเฉินพูดขึ้นว่า : ”อีกหน่อยห้ามไปไหนมาไหนกับซวี่เจ๋ออีกนะ ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
MANGA DISCUSSION