ถังซินเหยาใช้มือทั้งสองข้างของเธอวางลงบนไหล่กว้างของเยี่ยจิงเฉินเพื่อเป็นที่ยึดให้กับตัวเอง
ตำแหน่งของทั้งสองคนสลับกันแล้วอย่างสิ้นเชิง
ถังซินเหยากดเยี่ยจิงเฉินให้อยู่ใต้ร่างของเธออย่างเจ้าเล่ห์
ให้ตายเถอะ ป่าปี้น่ะไร้ที่ติทั้ง360องศาเลยจริงๆ ไม่ว่าจะมองจากด้านบน ด้านล่าง แนวนอน แนวตั้ง หรือมองจากใต้ร่างของเธอแแบบนี้ก็ยังหล่อเหลามากๆ
เธอเกือบจะร้องไห้เพราะความหล่อของป่าปี้แล้วมั้งน่ะ?
เอ่อ…..ตอนนี่มันไม่ใช่เวลามาทะนุถนอมอ่อนโยนนะ
สองมือของเธอยกขึ้นมาบีบต้นคอเยี่ยจิงเฉินไปแรงๆก่อนจะถามว่า : "คุณจะตกลงมั้ย จะตกลงมั้ยคะ"
เธอน่ะเป็นคนฉลาดๆมากเลยล่ะ ทุกคนคงไม่ได้คิดว่าเธอจะนอนทับเยี่ยจิงเฉินแล้วจูบเขาหรอกใช่มั้ยล่ะ
เมื่อเทียบกันระหว่างเธอกับป่าปี้แล้วความจุของปอดป่าปี้น่ะ เหมือนกับขยะที่มีความสามารถสูบมหาศาลเลยล่ะ แค่ป่าปี้จูบและสูบเอาลมทั้งปอดของเพียงเพียงครู่เดียว เธอก็แทบจะหมดลมหายใจเสียแล้ว
เยี่ยจิงเฉินมองถังซินเหยาที่กดทับร่างเขาอยู่ตอนนี้ด้วยความตะลึง
"ถ้าเกิดฉันไม่ตกลงเธอจทำอะไรฉันได้ล่ะ?" เห็นได้ชัดว่าถ้าเขาออกแรงขยับเพียงนิดเดียวก็สามารถเอาผู้หญิงคนนี้ที่กดทับเขาอยู่ตอนนี้ออกไปได้ แต่เขาเพียงแค่ไม่ทำก็เท่านั้น
เขาไม่ชอบการเข้าใกล้ใครมากๆ แต่ถังซินเหยากลับเป็นข้อยกเว้น
"ฉันก็จะฆ่าคุณไงคะ" ถังซินเหยาเพิ่มน้ำหนักลงไปที่มือของเธอมากขึ้น และพูดไปอย่งโหดเหี้ยมเพราะหวังว่าจะได้ผลตามที่ตัวเองต้องการ
"งั้นก็ลองดูสิ" เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างเย็นชา
ถังซินเหยา : ………..
ป่าปี้ไม่ต้องเท่ขนาดนี้ก็ได้นะโอเค๊?
"ก็อกๆ……" จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลี่เวยโผล่หน้าออกมาเล็กน้อยเพื่อลดความรู้สึกของการมีอยู่ของเธอให้เขาทั้งสองคนพร้อมกับพูดอย่างเขินอายว่า : "ขอโทษรบกวนสักครู่นะคะ ประธานเยี่ยคะ อีกสิบห้านาทีประธานเยี่ยจะมีประชุมสำคัญนะคะ ฉันคิดว่าตอนนี้…..คุณควรจะ…..เตรียมตัวได้แล้วนะคะ"
ถังซินเหยามองตรงไปหาหลี่เวย ทำเอาเธออาบจนแทบจะไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลยทีเดียว
แต่ในเวลานี้หลี่เวยที่เห็นว่าถังซินเหยาและเยี่ยจิงเฉินอยู่ในท่านั้น ใบหน้าของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาจนทำตัวไม่ถูก
"อืม" เยี่ยจิงเฉินตอบกลับไปดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
หลี่เวยเลิกคิ้วก่อนจะถอนหายใจ แล้วรีบปิดประตูอย่างรวดเร็วด้วยความโล่งอก
"จะต่อมั้ย?" เยี่ยจิงเฉินหันหน้ากลับมาพร้อมกับมองหน้าถังซินเหยาอย่างจริงจังและเย็นชา
ต่อบ้าบออะไรกันล่ะ ความไร้เดียงสาและความซื่อของนักออกแบบคนนี้อ้ากกกกกก ! (คุณนี่มันจริงๆเลย)
"ไม่ตอบก็ช่างเถอะ" สักพักถังซินเหยาก็เลิกให้ความสนใจพร้อมกับลุกขึ้นจากร่างของเยี่ยจิงเฉิน
เยี่ยจิงเฉินลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยความอากัปกิริยาที่หล่อเหลาของเขา หล่อซะจนไม่มีเพื่อนคบเลย
"ประธาเยี่ยคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ" เธอจะเป็นบ้าแล้วจริงๆนะ
เมื่อสักครู่เธอผีเข้าแน่ๆถึงได้ไปทับเยี่ยจิงเฉินแบบนั้นได้ หรือเพราะว่าไอคิวของเธอลดลงกระทันหันนะ?
"เดี๋ยวก่อน"
"ประธานเยี่ยมีอะไรอีกหรอคะ?" ถังซินเหยาหันหลังกลับมาถามพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่สวยหวานของเธอ
แต่ในใจเธอกลับรู้สึกกระอักกระอวน : ป่าปี้ คนนิสัยแย่ อย่าซนมากนักจะได้มั้ย ?
"เธอลองบอกเรื่องที่จะให้ฉันรับปากคุณสิ บางทีฉันอาจจะเก็บไปพิจารณาให้ก็ได้นะ ?" มือของเยี่ยจิงเฉินประกบติดประตูโดยทีมีถังซินเหยาที่ถูกกักไว้ในอ้อมแขนของเขา
ถังซินเหยามีความหวังขึ้นมาเล็กน้อยทำให้อารมณ์ของเธอนั้นดีขึ้นมา
เธอใช้มือของเธอผลักร่างของเยี่ยจิงเฉินให้ออกห่างไปเธอ แต่แรงของเธอนั้นกลับไม่ทำให้เขาขยับเขยื้อนตัวไปเลยสักนิด
ดูเหมือนว่าเธอคงต้องใส่ผักโขมลงไปในอาหารเยอะๆแล้วล่ะ เธอจะได้มีแรงมากกว่านี้ไง
"เอ่อ ต่อไปคุณอย่าทำเป็นสนิทสนมกับฉัน……มากเกินไปได้มั้ยคะ" ถังซินเหยาเปลี่ยนวิธีพูดให้มีชั้นเชิงมากขึ้น
จริงๆแล้วเธอแค่ไม่อยากให้เขานั้นเอะอะก็จูบเธออย่างเดียวเท่านั้นเอง ไม่ให้เกียรติเธอเลย
"ทำไมล่ะ?"
"คุณไม่คิดหรอคะว่าเรื่องอะไรบบนี้คุณควรจะทำกับแฟนของคุณหรือไม่ก็ว่าที่เจ้าสาวของคุณไงคะ?"
"เธออยากได้สถานะนั้นหรอ?"
สถานะที่ป่าปี้หมายถึงมันหมายความตามแบบที่เธอเข้าใจใช่มั้ยนะ?
บ้า ใครเขาจะเอาสถานะกัน มโนเกินไปมั้ย?
"ไม่ค่ะ…….."
"เธอน่ะยโสโอหังจริงๆ"
ถังซินเหยาแค่รู้สึกราวกับวามีอัลปาก้านับหมื่นตัววิ่งอยู่ในความคิดของเธอยังไงอย่างงั้น
ป่าปี้ ป่าปี้วางถุงกาวลงก่อน
ถ้าคุณเป็นอย่างงี้ แล้วต่อไปฉันจะกล้าหยอกคุณมั้ยล่ะเนี่ย
"โอเคค่ะ ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรยโสโอหัง" ถังซินเหยาพุดอย่างประนีประนอม
ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าหากคุณจริงจังกันมัน คุณก็จะแพ้
"ถ้าอย่างงั้น ฉันจะออกไปได้รึยังคะ?" ใบหน้าของถังซินเหยายังคงรอยยิ้มสวยหวานไว้
"เธอไม่อยากจูบฉันก่อนออกไปหรอ?"
นี่โรงพยาบาลประสาทที่ไหนปล่อยเขาหลุดรอดออกมาเนี่ย?
เธออยากจะฆ่าเขาด้วยจูบของเธอจริงๆเลย
แต่เห็นได้ชัดว่าป่าปี้เป็นคนที่ดื้อรั้น ถ้าไม่ตอบตกลงล่ะก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาจะกลายร่างเป็นปีศาจตนไหนอีก
เธอใช้มือโอบกอดต้นคอของป่าปี้เอาไว้ก่อนจะขยับริมฝีปากของตัวเองไปจูบที่มุมปากของป่าปี้ แล้วก็กัดริมฝีปากล่างนั้นอย่างดุเดือด จนกลิ่นคาวคลุ้งจางๆเธอจึงคลายฟันของเธอออก
ดวงตาของเยี่ยจิงเฉินนั้นทั้งมืดและทั้งสว่างในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าเหลลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เขาเลื่อนมือมาจับริมฝีปากของถังซินเหยาพร้อมกับกดริมฝีปากหนักลงไปที่ปากของเธอและดูดดื่มเอาลมหาายใจของเธออย่างรุนแรง
สามนาทีหลังจากนั้น ปากของถังซินเหยาทั้งแดงและบวมเต่ง มิหนำซ้ำแก้มทั้งสองข้างของเธอก็ขึ้นสีแดงระเรื่อรวมถึงสายตาคู่นั้นที่พร่ามัวและขาที่อ่อนระทวยของเธอ เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของเยี่ยจิงเฉินอย่างลุกลี้ลุกลน ท่าทางของเธอช่างดูแล้วคงจะร้อนรุ่มไปทั้งตัวเลยทีเดียว
ในฐานะที่หลี่เวยคนที่ขี้เม้าท์นั้น สายตาทั้งคู่ของเธอนั้นราวกับตาสับปะรด
"คุณซินเหยา คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าคุณจะมมีด้านที่ร้ายๆแบบนี้ด้วย" หลี่เวยใช้ไหล่ของเธอชนเข้าที่ร่างของถังซินเหยาก่อนจะยักคิ้วแล้วก็เม้าท์เรื่องที่เกิดขึ้น
เธอหมายถึงเรื่องที่ถังซินเหยาทับอยู่บนตัวของเยี่ยจิงเฉินเมื่อกี้นี้สินะ ถังซินเหยารู้อยู่แล้วล่ะ
"อันนั้น……ถ้าฉันจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดล่ะคะ ฉันกับประธานเยี่ยไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันหรอกแบบนี้ คุณจะเชื่อมั้ยคะ?" ถังซินเหยาถอนหายใจไปหนึ่งครั้งพร้อมกับพูดอย่างยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
หลี่เวยเหล่ตามองไปที่ถังวินเหยาพร้อมกับพูดกับเธอว่า : "เชื่อสิคะ ฉันเชื่ออยู่แล้ว"
หืม อย่ามาดูถูกไอคิวของเธอนะ ไม่รู้หรอว่าไอคิวของเธอน่ะเพิ่มขึ้นแล้วน่ะ
ท่าทีของเธอน่ะมันเห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่เชื่อ เธอยินยอมที่จะให้หลี่เวยไม่เชื่อ
"ฉันกับประธานเยี่ยไม่ได้มีอะไรจริงๆค่ะ นั่นมันก็แค่เรื่องสุดวิสัยก็เท่านั้น" ถังซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
โอเค แม้แต่ตัวเธอยังโน้มน้าวไม่ได้เลย
"จริงๆแล้วฉันอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้นะคะ…….เมื่อกี้" เธอลองแก้ตัวอีกครั้งอย่างไม่ถอดใจ
"ฉันเข้าใจค่ะ คุณไม่ต้องอธิบายหรอก วางใจได้เลยค่ะ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ปากของฉันน่ะมันเข้มงวดมากค่ะไม่มีทางพูดอะไรเรื่อยเปื่อยแน่นอน" หลี่เวยพูดอย่างเข้าอกเข้าใจเธอ
ไม่สิ เธอเข้าใจเรื่องอะไรกัน? หรือเลขาหลี่มโนไปเองอีกแล้วนะ?
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก เยี่ยจิงเฉินกลับมาสู่สภาวะนักธุรกิจมือโปรพร้อมกับร่างสูงที่แต่งตัวอย่างสุภาพเรียบร้อย
"ไปกัน"
หลี่เวยหยิบสมุดโน้ตของเธอขึ้นมาทันที พร้อมกับตามเยี่ยจิงเฉินไป
เหลือเพียงถังซินเหยาที่อารมณ์ปั่นป่วนโกลาหลอยู่คนเดียว
พระเจ้าช่วย จะไม่ให้ฉันอธิบายเรื่องนั้นหน่อยไม่ได้หรือยังไง
MANGA DISCUSSION