ฟางซวี่เจ๋อเป็นคนที่อบอุ่นมากๆจนเกินที่จะต้าน
แล้วอีกอย่างเขาก็ยังหล่อเหลาขนาดนี้ รวยขนาดนี้ หล่อขนาดนี้ ดูดีขนาดนี้
เธอเกือบหลงระเริงกับคำสัญญาและอนาคตที่ฟางซวี่เจ๋อวางไว้กับเธอแล้ว
แต่ถังซินเหยาไม่ใช่กาฝากเสียหน่อย ที่จะต้องเกาะพึ่งพาอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ถึงจะมีชีวิตอยู่รอดน่ะ
เธอกลับคิดว่าเธอเป็นเหมือนกับนกอินทรีมากกว่า ที่ต้องการท้องฟ้าแล้วทะเยอทะยานไปในสายลมและสายฝน
"คุณซวี่เจ๋อคะ จริงๆแล้วคุณเป็นคนที่ดีมากค่ะ แต่ว่า…."
"โอเคครับ คุณไม่ต้องพูดแล้วล่ะครับ" ฟางซวี่เจ๋อพูดตัดคำของถังซินเหยาพร้อมกับพูดว่า "อาจจะเป็นเพราะผมมาสารภาพกับคุณกระทันหันเกินไป เลยทำให้คุณตกใจ คุณเลยไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้ ทานข้าวก่อนเถอะครับ ผมให้เวลาคุณคิดดีๆก่อนค่อยมาตอบผมก็ได้ครับ ผมจะรอ"
ถังซินเหยา "…….."
นี่ประธาานฟาง ที่คุณคิดเองเออเองแบบนี้คุณไปเรียนมาจากไหนกัน ฝึกมาจนชำนาญเลยล่ะสิ
คุณพูดขนาดนี้แล้ว จะให้ฉันปฏิเสธยังไงได้ล่ะ
ถังซินเหยาทานข้าวต่อด้วยความใจตัน เธอรู้เลยว่าเธอไม่ควรตอบรับคำเชิญการมาทานข้าวกับฟางซวี่เจ๋อเลย
ร้านอาหารเมืองบีแห่งนี้ทั้งอาหารกลางวันฟรีแล้วก็อาหารเย็นนี่ไม่อร่อยเลยจริงๆ มาทานทีไรก็ไม่แฮปปี้เลยสักครั้ง
เธอรู้สึกว่าอาหารฟรีมื้อนี้ทำให้ใจของเธอหดหู่
เมื่อทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฟางซวี่เจ๋ออาสาจะส่งเธอกลับบ้าน
ฟางซวี่เจ๋อหล่อขนาดนี้ เธอคงจะปฏิเสธไม่ลงหรอก
เมื่อมาถึง ฟางซวี่เจ๋อก็ยิ้มอย่างนุ่มนวลและอบอุ่นจนำเอาเกือบจะละลาย
"ซินเหยา สิ่งที่ผมพูดไปวันนี้ผมตั้งใจทั้งหมดเลยนะครับ คำพูดพวกนี้ผมอยากบอกคุณมาตั้งนานแล้ว แต่คุณสวยมากเกินไปจนทำให้ผมขาดความมั่นใจ และเป็นเพราะคุณสวยมากไป ผมเลยกลัวว่าถ้าผมไม่พูดมันต่อไปผมจะไม่มีโอกาศได้พูดมัน แล้วคุณก็จะไปน่ารักในอ้อมอกของผู้ชายคนอื่น มีผู้ชายคนอื่นปกป้องคุณ แค่นี้การมีอยู่ของผมก็ไม่มีค่าอะไรแล้วครับ คุณลองคิดสิ่งที่ผมพูดไปดีๆนะครับ ผมคนนี้พูดคำหวานๆไม่เป็น มีบางสิ่งที่ผมไม่พูดมันออกไปแต่ผมก็ทำมันเงียบๆนะครับ" ฟางซวี่เจ๋อพูดกับถังซินเหยาพร้อมกับยื่นมือมากุมมือของเธอ
เขาเพียงแค่จับมือของเธออย่างอบอุ่นก็ทำเอาคนอื่นรู้สึกอบอุ่นราวกับเป็นฤดูใบไม้ผลิแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่พอใจ
ถังซินเหยารู้สึกขนลุก ทำตัวน่ารักอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นอย่างงั้นหรอ?
ประธานฟาง คุณแน่ใจนะว่าคนที่คุณพูดถึงคือถังซินเหยาน่ะ?
ทำตัวน่ารักอะไรกัน เธอทำท่าทางบ่งบอกว่าเธอไม่ใช้วิธีนี้หรอก
แล้วทำเป็นพูดว่าชอบเธอ เมื่อวานยังให้ผู้ชายคนอื่นพาเธอไปด้วยอยู่เลย? สามีของลูกพี่ลูกน้องของประธานฟางไง ทนไม่ได้แต่ก็เชื่อใจกันมากเกินไปแล้วมั้ง?
เห็นได้ชัดเลยว่าคุณป่าปี้ไว้ใจฟางซวี่เจ๋อไม่ได้
ถังซินเหยาค้นพบว่าฟางซวี่เจ๋อไม่เพียงแค่อบอุ่นแต่เขายังเป็นคนที่พูดอะไรไม่ดีแล้วมักจะเป็นไปตามนั้น
ผู้หญิงใจหยาบของตระกูลเยี่ย……..เอ่อ…….ไม่ใช่สิ ควรจะเรียกว่าเยี่ยไท่ไท่คนปากร้ายเธอมาจับผิดเธอที่บริษัทวันที่สองแล้ว
ผู้หญิงตรงหน้าดูแลรักษาผิวพรรณตัวเองอย่างดี ดูแล้วราวกับสาวอายุยี่สิบเจ็ด ยี่สิบแปดยังไงอย่างงั้น
หน้าตาดี เต็มไปด้วยความสง่างามและเสน่หา ดูไม่ออกเลยว่าเธอมีลูกแล้วที่เป็นเยี่ยจิงซิง
เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ รวมทั้งกระเป๋าของเธอล้วนแล้วแต่มาจากสินค้าจากที่วางจำหน่ายในงานแฟชั่นโชว์ปีนี้ของปารีสทั้งนั้น แพรวพราวระดับ24Kจนเกือบทำเอาสายตาของคนอื่นๆอิจฉากันเลยทีเดียว และมันก็ดูเว่อวังอลังการมากไปด้วย
"เธอคือถังซินเหยาใช่มั้ย?! "เยี่ยไท่ไท่เดินตรงเข้ามา น้ำเสียงของเธอหยิ่งผยอง เธอเสยหน้าของเธอพร้อมกับใช้จมูกของเธอมองมา
นี่เป็นความสามารถใหม่ของพวกคนรวยหรอ? ใช้จมูกมองคนอื่นได้ด้วย!
"ใช่ค่ะ คุณไท่ไท่มีอะไรรึเปล่าคะ?!" ใบหน้าของถังซินเหยายิ้มหวานอย่างเป็นมิตร เสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินการทักทายที่แสนโอ้อวดของผู้หญิงคนตรงหน้ากับหลี่เวย
"ฉัน………."
"ถ้าหากคุณไท่ไท่มีเรื่องอะไรก็สามารถไปหาเลขาหลี่ได้เลยนะคะ ฉันไม่ใช่พนักงานของเยี่ยหวงค่ะ และฉันก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรคุณได้ด้วย ขอโทษจริงๆนะคะ ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ ขอตัวค่ะ!" ถันซินเหยาพูดตัดคำของเยี่ยไท่ไท่
การพูดเองเออเองแบบนี้เรียนมาจากฟางซวี่เจ๋อเมื่อวานนี้เลยล่ะ
ในฐานะที่เป็นนักออกแบบที่มีฝีมือ การเรียนรู้ทักษะใหม่ถือเป็นการเรียนรู้เพิ่มไปด้วย (≧▽≦)
เมื่อพูดจบเธอก็ยิ้มด้วยความรู้สึกผิดแล้วก็หันหลังเดินออกมา
"เธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ยัยคนชั้นต่ำ!!!" เยี่ยไท่ไท่หยุดถังซินเหยาโดยไม่นึกถึงภาพลักษณ์ที่สวยงามของเธอ
โถ่…..ดูสาวสวยตรงหน้าฉันคนนี้สิ ทิ้งภาพลักษณ์ที่สง่างามของตัวเองแล้วก็เผยธาตุแท้ที่ไร้ความปราณีที่น่าอายของเธอออกมาเสียแล้ว
คำพูดพวกนี้ดูไม่ค่อยเหมือนกับผู้ดีในหนังเลยแฮะ
ที่เธอทำอย่างงี้มันดูแย่มากๆจริงๆ
ถังซินเหยาเดินผ่านเยี่ยไท่ไท่ไปโดยไม่หยุดฝีเท้าของเธอ
"นี่ ฉันบอกให้เธอหยุดไง หูหนวกรึไง? ไม่ได้ยินหรอ?!" เยี่ยไท่ไท่พูดกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ จนแทบจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว
"คุณเรียกฉันหรอคะ? ฉันชื่อถังซินเหยานะคะ แต่ฉันได้ยินคุณพูดว่ายัยคนชั้นต่ำ ฉันคิดว่าคุณไท่ไท่เรียกเพื่อนของตัวเองซะอีกค่ะ" ถังซินเหยายิ้มพร้อมกับดวงตาใสดวงโตของเธอ ดูแล้วทั้งไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ ทำให้คนมองทนไม่ไหว
อยากหาเรื่องฉันดีนัก น่าโกรธจริงๆเลย
หลี่เวยเมื่อเห็นว่าความขัดแย้งของทั้งสองคนนั้นเพิ่มทวูคูณขึ้นเรื่อยๆจึงรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันที : "คุณผู้หญิงคะ ถ้าหากคุณมีเรื่องอะไรกับถังซินเหยาล่ะก็ สามารถเข้าไปคุยกับเธอในห้องประชุมได้นะคะ เพราะคุยตรงนี้มันจะเป็นการรบกวนคนอื่นน่ะค่ะ"
จริงๆแล้วเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีอะไรกับเยี่ยไท่ไท่หรอกเพียงแต่เธอแค่ไม่อยากทำให้ถังซินเหยารู้สึกไม่ดีก็เท่านั้น
"เธอหลบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ นี่มันบริษัทของฉัน และมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเลขาอย่างเธอ!" เยี่ยไท่ไท่ใช้สายตาของเอกวาดมองหลี่เวยพร้อมกับพูดอย่างดูถูก
หืม…..บริษัทนี้เป็นของเจ้านายของฉันนะโอเค๊? พูดอย่างกับว่าบริษัทเป็นของตัวเองอย่างงั้นแหละ หน้าไม่อาย!
ถ้าไม่เห็นว่าคุณคือคุณแม่ของเจ้านายของเราล่ะก็แม้แต่ประตูบริษัทคุณก็ไม่มีสิทธิเข้ามาหรอกนะ
"คุณเวยเวยคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ถังซินเหยามองเห็นความหวังดีของหลี่เวยพร้อมบอกใบ้ว่าไม่ให้เธเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วย
เธอไม่ใช่พนักงานของเยี่ยหวง แต่ผู้หญิงปากร้ายคนนี้ก็ทำให้เธอและถังซินเหยาไม่มีทางเลือก หลี่เวยยังต้องทำงานที่เยี่ยหวงอยู่ การมีปากเสียงกับเยี่ยไท่ไท่แบบนี้ถือว่าสุ่มเสี่ยงแต่ก็ดีเหมือนกัน
"คุณไท่ไท่คะ ถ้าคุณมีเรื่องอะไรกับฉันก็เข้าไปในห้องประชุมเถอะค่ะ ตรงนี้คือห้องของท่านประธานมีคนเข้าๆออกๆพลุกพล่าน ถ้าคนอื่นเห็นจะน่าอับอายไม่ใช่หรอคะ?"ถังซินเหยายิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน
เยี่ยไท่ท่ครุ่นคิด คิดว้าถ้าตัวเองมามีปากเสียงกับไม่มีสถานะตรงนี้ มันคงเสียภาพลักษณ์แน่ๆ
เธอจึงเดินล่วงหน้าตรงไปยังห้องประชุมด้วยท่าทางองอาจทันที
หลี่เวยยกนิ้วให้ถังซินเหยาพร้อมกับพูดว่า : "สุดยอดมากค่ะ ระวังตัวด้วยนะคะ ตอนนี้บอสของเราไม่อยู่ด้วย ฉันเอาใจช่วยค่ะ"
ถังซินเหยายกมือขึ้นมาทำท่าโอเคพร้อมกับยกคิ้วข้างขวาขึ้นพูดว่า : "วางใจได้เลยค่ะ ก็แค่การรับมือกับคนอย่าคุณเหล่าไท่ไท่เอง จิ๊บจ๊อยมากๆค่ะ"
"ถ้าคุณไท่ไท่เธอมาได้ยินเข้า เธอเล่นงานคุณแน่ค่ะ" หลี่เวยผู้ถูกถังซินเหยาหยอกเล่น
MANGA DISCUSSION