ถังซินเหยาเดินโคลงเคลงเข้าไปหาเยี่ยจิงซิงที่กำลังตกใจกับเรื่องเมื่อกี้อยู่
ถึงแม้จะเดินไม่ตรงก็ตาม แต่เธอถังซินเหยาถ้าจะตีใครสักคนแล้วก็แม่นทุกรอบเลยแหละ
“ไอ้โรคจิต ใครบอกให้……อึก แกมาเอา……เปรียบ……เอาเปรียบฉันห๊ะ นี่แนะ……ตีให้ตายเลย”
ถังซินเหยาใช้ท่าไม้ตายของตัวเอง ท่าไม้ตายที่ผู้ชายทุกคนโดนแล้วต้องเจ็บที่สุด
หลายปีมานี้ลำพังใช้วิธีนี้เธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเทพศิลปะการต่อสู้แล้วแหละ
เยี่ยจิงซิงเจ็บจนวิญญาณเกือบจะหลุดออกไปด้วยแล้ว……ไข่-แตก-แล้ว.
ฟางซวี่เจ๋อที่ได้เห็นฉากนี้พอดี ก็รู้สึกจุกอวัยวะส่วนล่างและรู้สึกเศร้าเล็กน้อยแทน……
หลังจากที่ฟางซวี่เจ๋อได้ยินเรื่องซุบซิบจากเพื่อนเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างเยี่ยจิงซิงกับพนักงานเสิร์ฟ เชื่อมโยงถึงตัวถังซินเหยา เขาก็รู้จุดประสงค์ของเยี่ยจิงซิงเลยทันที ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเป็นฮีโร่ช่วยเธอด้วยซ้ำ
แต่แค่คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของถังซินเหยาที่กลายเป็นหญิงแกร่งเช่นนี้ได้
ถังซินเหยา : เหอะๆ……
ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกอายละเพราะเมื่อกี้เธอทำโหดร้ายเกินไป
นับแต่นี้ไปคงจะเอาภาพลักษณ์ตัวเองที่ดูหวานแหววและใสซื่อกลับมาไม่ได้แล้วล่ะ
“แหะๆ บังเอิญจังนะซวี่เจ๋อ!”ถังซินเหยากำปั้นมือทั้งสองไว้ที่หน้าอกอย่างน่ารัก กระพริบตาไปรอบหนึ่งแล้วมองที่ฟางซวี่เจ๋ออย่างไร้เดียงสา
ถ้าหากไม่ได้เห็นท่าไม้ตายของถังซินเหยาเมื่อหี้ด้วยตาตัวเอง เขาเองคงจะปักใจเชื่อว่าถังซินเหยาเป็นเพียงดอกไม้ขาวใสบริสุทธิ์และไร้เดียงสาไปแล้ว
แต่ความจริงแล้วเธอก็คือดอกไม้กินคนดีๆนี่เอง
“จริงสิ บังเอิญจริงๆเลย” ก็ยังคงตกใจอยู่เล็กน้อย
มึนหัวจัง!
พนักเสิร์ฟคนนั้นไม่ได้โกหกคุณชายใหญ่เยี่ยจริงด้วย สาเกนี้ฤทธิ์แรงจริงๆ
ตอนนี้ถังซินเหยาเองก็เริ่มมีอาการมึนเมาบ้างแล้ว
นัยน์ตาคู่นั้นที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา ประกอบกับแก้มที่แดงของเธอยิ่งสวยจนใครๆก็ละสายตาไม่ได้
“เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่นกับรองประธานเยี่ยเท่านั้นแหละ” ถังซินเหยาอธิบายอย่างนิ่มนวล
ถ้าหากไม่มีเยี่ยจิงซิงที่นอนกุมท่อนล่างของตัวเองและร้องโอดครวญอยู่บนพื้นนั้น คำพูดของเธอตอนนี้คงจะฟังขึ้นหน่อย
“ผมรู้” ฟางซวี่เจ๋อพยักหน้าแล้วพูดว่า : “แต่ผมคิดว่าเราควรพาคุณชายใหญ่เยี่ยไปโรงพยาบาลก่อนน่าจะดีกว่า”
เขายังคิดที่จะเป็นฮีไปเข้าไปช่วยเธอด้วยซะอีก แต่ความเป็นจริงเขาคงคิดมากไปเองแหละ
“ไปสิ ไปสิ ฉันมึนหัวนิดหน่อยหน่ะ” ถังซินเหยานั่งลงกุมขมับของเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
รอบนี้เธอไม่ได้แกล้งแต่ว่ามึนหัวจริงๆ
ตำแหน่งที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้ไม่เลว แถวๆนี้ก็มีโรงพยาบาลอยู่หลายที่เลย ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีก็ได้ยกตัวคุณชายใหญ่เยี่ยที่กำลังเจ็บจนจะเป็นลมอยู่แล้วออกไป
ณ ตอนนี้ถังซินเหยามึนถึงขั้นสุดแล้ว
ฉะนั้น เพราะว่าใจร้อนเลยไม่ได้กิน ถ้าหากตาเยี่ยจิงซิงมีคความอดทนอีกนิด คงเสร็จเขาไปนานละ
ถึงแม้ถังซินเหยาจะโหดร้ายขนาดนั้น แต่ก็ไม่อาจทำลายความอยากเป็นฮีโร่ของฟางซวี่เจ๋อได้ เขาหยิบกระเป๋าของถังซินเหยาขึ้นมาจากนั้นก็ประคองเอวของเธอเดินออกไป
ยังไม่ทันได้เดินออกจากร้าน ก็เห็นเงาของเยี่ยจิงเฉินกำลังเดินมาทางนี้แล้ว
“จิงเฉิน นายก็มากินข้าวที่นี่หรอ? เมื่อกี้เกิดอุบัติเหตุกับคุณชายใหญ่นิดหน่อย ตอนนี้ส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้วล่ะ” ฟางซวี่เจ๋อที่กึ่งประคองกึ่งโอบเอวถังซินเหยา ทักทายเยี่ยจิงเฉินอย่างสุภาพเรียบร้อย
เยี่ยจิงเฉินไม่พูดพล่ำทำเพลง ดึงตัวถังซินเหยาจากมือฟางซวี่เจ๋อมาทันที
และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบไม่เป็นมิตรเลยว่า : “เรื่องนั้นนายบอกกับตาเฒ่าที่บ้านโดยตรงเลยก็โอเคล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อรับเธอกลับไป”
ไม่ทันพูดจบ เขาก็ยกตัวถังซินเหยาขึ้นแล้วอุ้มเธอไว้
อุ้มเจ้าหญิงแบบสมบูรณ์แบบด้วยนะ
“ให้ฉันส่งซินเหยากลับไปดีกว่า” รอยยิ้มบนใบหน้าของฟางซวี่เจ๋อจางลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า : “อันหรันไม่เจอหน้านายมาหลายวันแล้ว ถ้าหากนายมีเวลาว่างก็ไปหาออันหรันบ้างก็ดีนะ”
“เรื่องของฉันยังไม่ถึงคลาที่พวกแกต้องมายุ่งด้วย” ตอนนี้คนก็ถึงมือเรียบร้อย เขาเองก็ไม่อยากจะสาธยายต่อไปแล้ว
ฟางซวี่เจ๋อเห็นเยี่ยจิงเฉินอุ้มถังซินเหยากำลังจะจากไป ก็รีบไปสกัดไว้แล้วพูดว่า : “นายจะพาซินเหยาไปไม่ได้”
“หลีกไป” สายตาของเยี่ยจิงเฉินนั้นลึกดำราวกับหมึกที่ไม่สามารถละลายได้
“ซินเหยาเป็นคนของ CK นายจะพาตัวเธอไปไม่ได้”
“คนฉันเอาตัวไปแน่ นายก็รู้หนิว่าไม่มีอะไรที่ฉันเยี่ยจิงเฉินทำไม่ได้” สายตาของเยี่ยจิงเฉินประกายความดุร้ายออกมาครู่หนึ่ง อารมณ์ก็ชวนคนเกรงกลัวด้วย
ฟางซวี่เจ๋อก็ตกใจในพลังงานความน่ากลัวของเยี่ยจิงเฉินจนสติหลุดไปครู่หนึ่ง
สุดท้ายก็ได้แต่มองดูเยี่ยจิงเฉินพาตัวถังซินเหยาออกไป
เยี่ยจิงเฉินพาตัวถังซินเหยามาที่บ้านพักตากอากาศของเขาเอง
“อือ……” ถังซินเหยาถูกเยี่ยจิงเฉินอุ้มไว้ในอ้อมกอด ทั้งตัวเธอก็อยู่ไม่นิ่งเลยสักนิด เธอดิ้นอยู่ในอ้อมกอดแล้วพูดว่า : “ร้อนจัง ทำไมไม่เปิด……อึก……แอร์เล่า”
ชุดสูทที่เยี่ยจิงเฉินสั่งตัดมาอย่างดีถูกถังซินเหยาดิ้นไปมาจนยับยู่ยี่ไปหมด เขายื่นมือไปสะกิดขาของถังซินเหยา แล้วเตือนเธออย่างเข้มงวดว่า: “อยู่นิ่งๆหน่อย”
ถังซินเหยาหมุดหน้าตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของเยี่ยจิงเฉิน มือทั้งสองข้างกอดคอเขาไว้ เงียบสักที
ลมหายใจอุ่นๆจากปากของเธอไปโดนตรงลำคอของเยี่ยจิงเฉิน ทำให้เยี่ยจิงเฉินรู้สึกกระวนกระวายไปทั้งตัว
เขานำตัวถังซินเหยาไปวางไว้บนเตียงห้องรับแขก พอเขาหันตัวจะออกไปก็ถูกถังซินเหยาดึงแขนไว้
มือของถังซินเหยาอบอุ่นและยังนุ่มนิ่มอีกด้วย
“คุณจะไปไหนหรอ? ตอนนี้ฉันอยากเต้นรำ คุณเต้นรำเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” ดวงตาของถังซินเหยานั้นชัดเจนราวกับท้องฟ้าสีฟ้าครามที่เพิ่งถูกทำความสะอาด
“นอนได้แล้ว” เยี่ยจิงเฉินพูดเสียงแข็ง
“ไม่เอา คุณต้องเต้นรำเป็นเพื่อนฉัน” ถังซินเหยาทำปากจู่และมีทีท่าจะไม่ยอมง่ายๆ
เส้นเลือดสีน้ำเงินบนหน้าผากของเยี่ยจิงเฉินพุ่งขึ้น
“นอนดีๆ ห้ามขยับเด็ดขาด”
“คุณไม่อยู่เป็นเพื่อนฉัน วันนี้ฉันก็จะไม่จ่ายค่าค้างคืนให้นะ” ถังซินเหยายังรู้สึกเวียนหัวนิดๆ แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เธอมีความกล้าขึ้นมา เธอพูดอย่างไม่สนใจว่า: “ฉันมีเงิน ถ้าเธอฟังฉัน ฉันก็จะให้เงินเธอ”
เธอถังซินเหยามีชื่อเสียงด้านความขี้งกมาก เป็นเรื่องยากมากที่ใครจะสามารถเอาเงินจากเธอได้
ดังนั้นป๊ะป๋ายอมเถอะ
สายตาเยี่ยจิงเฉินหรี่ลง ค่าค้างคืน?
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขาเป็นอะไรกัน?
ทั้งตัวถังซินเหยาแขวนอยู่ตรงคอของเยี่ยจิงเฉิน ป๊ะป๋าหล่อขนาดนี้ ถึงแม้จะเมาแล้วก็ไม่สามารถกลบเกลือนเสน่ห์บนตัวป๊ะป๋าได้เลย
เธอยิ่นมือไปจับตรงคางของป๊ะป๋า สายตาหรี่ลง สีหน้าท่าทางดุดัน: “เชอะ คุณไม่ใช่ว่าอยากจะได้เงินหรอกหรอ? กลับมากับฉันขนาดนี้ยังทำไม่รู้ไม่ชี้อีก? ไอ้คนเจ้าเล่ห์
ถังซินเหยาตอนนี้ เจ๋งจริงๆ
เยี่ยจิงเฉิน “……”
เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ต้องถามก็ร็ว่าถังซินเหยามองว่าเขาเป็นคาวบอยไปซะแล้ว
อารมณ์ป๊ะป๋า……ไม่ดีมาก
ระหว่างขัดขืนอยู่นั้น กระดุมบนเชิ๊ตขาวก็ถูกปลดออกสองเม็ด เผยให้เห็นถึงไหปลาร้าที่สวยงามรวมถึงผิวที่อ่อนนุ่มกว้างนี้อีก
สีผิวอมชมพู สายตาที่พร่ามัวราวกับอยู่ในน้ำ อ้าปากทำให้เห็นถึงปลายลิ้นสีชมพู ช่างเซ็กซี่จริงๆ
ลูกกระเดือกของเยี่ยจิงเฉินเคลื่อนไปมา และโยนถังซินเหยาลงบนเตียงทันที ตัวเขาเองก็คร่อมลงไปที่ตัวของเธอด้วย……
MANGA DISCUSSION