“คุณคิดมากไปแล้ว ผมแค่อยากจะเตือนคุณว่า พรุ่งนี้อย่าลืมเอาข้าวกลางวันเผื่อให้ผมชุดนึง” เยื่ยจิงเฉินอดที่จะหัวเราะไม่ได้
"ฉันไม่เห็นจะสัญญาอะไรกับคุณไว้เลย เตือนบ้าไรของคุณล่ะ……อีกอย่างนะ ทำไมฉันต้องเอาข้าวกลางวันมาให้คุณด้วย อย่าแม้แต่จะคิด! ฮึ "ถังซินเหยาเบิกตากว้างและจ้องมองไปที่เยื่ยจิงเฉิน เธอโกรธมาก
แล้วทำไมลูกชายฉันต้องไปทำข้าวกลางวันให้เขาด้วยล่ะ นั่นลูกชายฉันนะ แม่เจ้า…..
"แล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงชอบจูบคุณตลอด "เยื่ยจิงเฉินถามอย่างใจเย็น
เรากำลังพูดถึงเรื่องข้าวกลางวันอยู่นะ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง อีกอย่างนะฉันได้อยากรู้อะไรเลย เกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ
"ทำไม?" เขาไม่อยากรู้อยากเห็น เขาแค่ให้เกียรติกับเยื่ยจิงเฉินเลยถาม
“ เพราะผมคิดว่าคุณน่าจะคุ้นเคยมากโดยเฉพาะเมื่อผมจูบคุณ เรารู้จักกันมาก่อนใช่มั้ย? ” เยื่ยจิงเฉินกล่าว
ถังซินเหยาใจเต้นเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน
"ไม่ใช่สักหน่อย คุณคิดไม่เองตังหาก "เธอปฏิเสธปากแข็ง
เธอไม่ได้โกหก พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก่อน แต่พวกเขาไม่รู้จักกัน
"ใช่หรือ? ผมเป็นคนที่แสวงหาความจริงมาก ผมจำเป็นต้องให้คนสืบดู "เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างง่ายดาย
“ ฉันคิดว่าเราควรจะคุยกันเรื่องอาหารกลางวันพรุ่งนี้ดีกว่า พรุ่งนี้คุณอยากกินอะไร,ฉันทำแล้วเอามาส่งให้คุณ” ถังซินเหยาพลิกใบหน้าของเธอทันทีจากใบหน้าของหญิงสาวยามราตรีกลายเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ พูดอย่างอ่อนโยน
ให้ตายเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะทำแครอทและตับให้คุณกิน กินให้ตายไปเลย
ผมไม่ชอบกินอะไร คุณก็น่าจะรู้นะ
เธอจะรู้ได้อย่างไร?
"ฉันไม่ … " ดวงตาของงป๊ะป๋าเฉียบคมจน หลอนพูดอะไรในเชิงลบได้เลย: "ไม่ต้องห่วง ฉันจะระหว่างเอง
ไอ่บ้าเอ่ย โตจนป่านนี้ละยังจะเลือกกินอีก
คิดไม่ถึงเลย สุดท้ายป๊ะป๋าก็ขับรถของเธอไป และเธอเองก็ตกลงจะเตรียมอาหารให้กับป๊ะป๋าด้วย
ทำไมป๊ะป๋าถึงร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้เนี้ย?
เมื่อกลับไปถึง เค่อหลานกับลั่วหลิงลูกทั้งสองคนนอนหลับไปแล้ว
ถังซินเหยาห่มผ้าให้ลูกทั้งสอง และจูบหน้าผากของพวกเขา
ถึงแม้งว่าป๊ะป๋าของพวกเขาจะเจ้าชู้มาก แต่เค่อหลานกับลั่วหลิงก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
ถังซินเหยาตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้นและจูบเค่อหลานและลั่วหลิงเบาๆ: "ลูกๆที่รักอรุณสวัสดิ์จ้าหม่ามี้รักพวกหนูนะ"
“ผมก็รักหม่ามี้ครับ หลานหลานยิ้มแบบโชว์ลักยิ้มอันน่ารัก
“หนูก็รักหม่ามี้ค่ะ ลั่วหลิงหน้านิ่ง
“หลิงหลิง ตอนที่กำลังทำอาหาร เธอช่วยทำเพิ่มอีกหนึ่งที่นะ ถังซินเหยารู้สึกผิดเล็กน้อย เธอคิดว่าเธอเป็นแม่เลี้ยงคนนึ่ง
ในระหว่างอาหารเช้า เค่อหลานดื่มนมจนหมดในหนึ่งลมหายใจ มีเคราน้ำนมติดอยู่บนริมฝีปาก
“หม่ามี้ เมื่อวันก่อนกลับบ้านได้ไปซื้อป๊ะป๋าให้ผมมั้ย? "เค่อหลานเงยหน้าแดงและถามอย่างไร้เดียงสา
ถังซินเหยา "… "
“ทำไมต้องเสียเงินไปซื้อป๊ะป๋าด้วย ถ้าลูกอยากมีป๊ะป๋าละก็ หม่ามี้จะหาให้คนนึ่งแบบฟรีๆไปเลย ไม่ต้องเสียตังแถมเขายังจะต้องไปหาเงินดูเลเราอีก ถังซินเหยาเช็ดเครานมที่ติดอยู่บนริมฝีปากของเค่อหลาน
“เค่อหลานอยากได้ป๊ะป๋าแบบไหน?
“ผมอยากได้ป๊ะป๋าที่หน้าตาดี เค่อหลานมองไปที่ถังซินเหยาด้วยแววตาที่สดใสและถามว่างั้นผมของเลือกเองได้มั้ย?
ได้สิจ้า ถังซินเหยาพยักหน้าอย่างขบขัน
เย้ๆๆๆๆ ดีใจจัง
ถังซินเหยากินอาหารเช้าไปยิ้มไป เค่อหลานนั่งมโนพูดพล่ามอยู่คนเดียวจนหยุดไม่ได้
ตอนที่ผมอยู่ที่สนามบินกับอยู่โรงเรียนผมได้พบกับคุณลุงคนหล่อคนนึ่ง ผมอยากให้เขามาเป็นป๊ะป๋าของผมจังเลย เค่อหลานพูด
ลั่วหลิงมองไปที่หน้าของถังซินเหยา
ถังซินเหยาไม่ได้เอาคำพูดของลูกมาไว้ในใจ “เธอล่าวว่า: "เอาล่ะเมื่อลูกพบกับคุณลุงหน้าตาดีคนนี้ครั้งหน้าขอให้ลุงหน้าตาดีคนนี้เป็นป๊ะป๋าของลูกนะ"
เมื่อถังซินเหยาเห็นคุณลุงหน้าตาดีที่เค่อหลานพูด เธอก็อยากจะกลืนสิ่งที่เธอพูดออกไป
ใครให้เธอพูด!
มันเป็นคำพูดลับหลังอยู่แล้ว
………..
นัดจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าวกลางวันที่เป็นสองกล่องให้เพิ่มเป็นสามกล่อง
เยื่ยจิงเฉินเป็นเศรษฐีที่หน้าค่อนข้างหนาคนนึ่ง คงไม่รู้ด้วยซ้ำอะไรคือความเกรงใจ
ได้กินข้าวกลางวันที่ถังซินเหยาเตรียมไว้ให้ทุกวัน คำว่าขอบคุณก็ไม่มีสักคำ อีกทั้งยังเป็นบ้ามาสั่งให้ถังซินเหยาแยกอาหารที่ตัวเองไม่ชอบออกจากข้าวกล่องทุกวัน
ยิ่งพูดยิ่งเศร้า
เมื่อพูดถึงถังซินเหยานั้น อย่างน้อยเธอก็เป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศอยู่บ้างไม่มากก็น้อยแหละ แต่พอกลับประเทศปุ๊บก็กลายมาเป็นคนแยกอาหารและไม่ได้รับเงินเดือนเลยแม้แต่นิดด
และคงเป็นงานที่ปฏิเสธไม่ได้เลย
"หยิบกระเทียมกับขิงออกมา" เยื่ยจิงเฉินผลักจานไปที่ถังซินเหยาอย่างมั่นใจ
เส้นเลือดปูดบนหน้าผากของถังซินเหยาเพิ่มขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่เปลี่ยนแปลง
เธอหยิบกระเทียมและขิงด้วยตะเกียบอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ยื่นให้ป๊ะป๋า
“ ผักบรอกโคลีก็ต้องหยิบออกมาด้วย” เยื่ยจิงเฉินมองมาแล้วพูด
ถังซินเหยาจับตะเกียบอย่างแน่นมาก แล้วค่อยๆปล่อย แล้วจับแน่นอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ
“ท่านประทานคะ เลือกกินไม่ดีนะ ใส่ใจกับกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพหน่อยสิ, บร็อคโคลีกระเทียมและขิงเนี้ยดีต่อสุขภาพทั้งนั้นเลยนะ "
“แล้วคุณมายุ่งอะไรกับผมด้วยเนี่ย?””
โอ้ยยย ใครมันอยากจะไปยุ่งกับคุณ เธอแค่แนะนำเฉยๆ
ถ้าเขาไม่ใช่ป๊ะป๋าของลั่วหลิงและเค่อหลอนนะ จะเป็นตายร้านดียังก็ไม่มีใครอยากสนใจหรอก
“ไม่ๆๆๆ ฉันแค่ให้คำแนะนำคุณเฉยๆ
"ก็ผมไม่ชอบกินอาหารพวกนี้"
ป๊ะป๋า คุณรู้ไหมว่าเหม็นของความน่ารักมาก?
เขามองเธออย่างน่าสงสาร ปล่อยให้เธอมองใบหน้าที่เหมือนกับลั่วหลิง เหมือนจนไม่มีที่ติ
ลูกของป๊ะป๋าน่ารักมาก ไม่ไหวเลย
“ จริงๆแล้วบรอกโคลีก็อร่อยเหมือนกันนะ”
ถังซินเหยาอมยิ้มแล้วหยิบเนื้อวัวและบร็อคโคลี่ชิ้นหนึ่งป้อนเข้าปากของเยื่จิงเฉิน
"คนดี ไม่เลือกกินนะ"
เยื่ยจิงเฉินอ้าปาก แล้วกินเนื้อวัวกับบร็อคโคลี่ด้วยกัน
“ เป็นไง อร่อยใช่ไหมล่าาา”
“ครั้งหน้าอย่าทำอาหารที่ผมไม่ชอบกินอีกนะ”
ป๊ะป๋าหยิ่งจัง เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูกเลย,
"โอเค คราวหน้าจะไม่ทำแล้ว"
แปลก เธอยังไม่ชินกับนิสัยขี้จู้จี้จุกจิกของป๊ะป๋าเลย
ถังซินเหยากับเยื่ยจิงเฉินกินข้าวคนละคำสองคำ กินจนหหมด
ขนาดเยื่ยจิงเฉินไม่ชอบกินบรอกโคลดี ก็ยังกินลงไปได้ทั้งหมด
เห็นกล่องข้าวป่าวแล้ว ถังซินเหยาก็พอใจเล็กน้อย
ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเยื่ยจิงเฉินนั้น ทำให้ความอคติของถังซินเหยาลดลงไปเรื่อยๆ
ในช่วงแรกๆ ถังซินเหยาซึ่งไม่เต็มใจในการแยกอาหรา ต่อมาเธอก็ไม่ปฏิเสธเลย ความอคติลดลง
โชคดีที่ป๊ะป๋า ไม่ได้ทำอะไรเธออีก
ป๊ะป๋าทั้งดี เป็นทั้งเศรษฐี แถมยังดูหล่ออีกด้วยย!
MANGA DISCUSSION