"ซินเหยา จิงเฉิน พวกหนูสองคนไม่ได้เกินเรื่องอะไรกันใช่ไหม? ซูหยวนบอกว่าพวกหนูตีกันหรอ?" คุณยายเฟยเห็นซินเหยากับจิงเฉินยื่นอยู่ด้วยกันดีๆแต่ก็ยังเป็นห่วงพวกเขาอยู่
"เออ……คุณยาย พวกหนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เมื่อกี้แค่เล่นกันเฉยๆ ทำให้ซูหยวนคิดว่าพวกเรากำลังตีกันอยู่" ซินเหยาจับไปที่จมูกของตัวเอง ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่หวานฉ่ำและถามคุณยายเฟยว่า : "คุณยายทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้คะ? มีเรื่องอะไรรึปล่าวคะ?"
คุณยายเฟยดูไปที่ซินเหยาและจิงเฉิน ทั้งสองดูไม่เหมือนกับคนที่ตีกันเลย จึงได้วางใจลง
"อ๋อ ผักโขมและผักบุ้งที่สวนของยายก็โตได้ที่แล้ว ยายกับซูหยวนสองคนก็กินไม่หมด ถ้าแก่มาก็ไม่อร่อยเสียดายแย่ จึงเก็บมาให้หนูกับจิงเฉินสักหน่อย เพื่อประหยัดเงินพวกหนูที่จะออกไปซื้อผักข้างนอกไปได้บ้าง" คุณยายเฟยพูดกับซินเหยาด้วยน้ำเสียงเมตตากรุณา
ตอนแรกซินเหยาก็กะว่าจะไปเก็บผักที่สวนของคุณยาย แต่ว่าเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน จึงรบกวนให้คุณยายส่งมาถึงที่อีกซะแล้ว
"ขอบคุณคุณยายมากนะคะ" ซินเหยาก็ไม่ได้หยิ่งอะไร รับไว้อย่างหน้าระรื่น แต่เธอก็พูดว่า : "แต่ผักนี้ให้หนูฟรีๆไม่ได้นะคะ คิดซะว่าหนูออกเงินซื้อนะคะ"
"อะไรกันๆ" เมื่อคุณยายเฟยได้ยินซินเหยาพูด ก็พูดกลับทันทีว่า : "นี่เป็นผักที่ยายปลูกเอง ไม่ได้แพงอะไรเลย จะเอาเงินพวกนี้มาให้ทำไมกัน พวกหนูยังเป็นวัยรุ่นกันจึงยังใช้เงินไม่เป็นจริงๆ"
"คุณยายเฟยพูดแบบนี้ไม่ได้นะคะ ถ้าไม่ซื้อที่คุณยาย พวกหนูก็ต้องออกไปซื้อข้างนอกอยู่ดี เสียเงินเหมือนกัน เสียให้คุณยายไม่ดีกว่าหรอคะ"
"เงินนี้ยายไม่เอา"
"ถ้ายายไม่เอาเงินนี้ หนูก็ไม่เอาเหมือนกันค่ะ"
"เด็กคนนี้ทำไมไม่เชื่อฟังแบบนี้นะ ยายจะเอาเงินจากผักเล็กน้อยพวกนี้จากพวกหนูได้อย่างไรกัน ถ้าคนอื่นรู้เข้า คงจะคิดว่ายายหลานบ้านนี้ขีดรูดขูดเนื้อพวกหนูเป็นแน่"
"คุณยาย อย่าพูดแบบนั้นสิคะ ยายก็รู้ว่าพวกหนูมาจากเมืองใหญ่ ยายคิดว่าผักพวกนี้ไม่ได้แพงอะไร แต่ถ้าอยู่ในเมืองมันแพงเอามากๆเลยนะคะ แพงกว่าเนื้ออีก พวกหนูไม่ได้ขัดสนเงินมากขนาดนั้นค่ะ ซูหยวนก็ยังเล็กอยู่ อีกหน่อยถ้าน้องโตมาก็ต้องใช้เงินมาก เงินนี้ถ้าอยู่ในเมืองพวกหนูยังซื้อพริกหยวกสองลูกไม่ได้เลยค่ะ แต่มันสามารถทำให้คุณยายนำไปเก็บสะสมไว้ให้ซูหยวนไว้ใช้ในอนาคตนะคะ เพราะฉะนั้นเงินนี้ยายต้องรับเอาไว้นะคะ ไม่งั้นหนูไม่รับผักของยายไว้จริงๆด้วย"
คุณยายเฟยหลังจากที่ได้ยินซินเหยาพูดเช่นนี้ก็คิดถึงลูกชายและลูกสะใภ้ขึ้นมาทันที จากนั้นจึงค่อยๆเช็ดเงื่อที่ไหลย้อยลงมา และก็ทำตามที่ซินเหยาบอก พร้อมพาซูหยวนกลับบ้านไปด้วย
ก่อนที่จะเดินกลับไปนั้น ซินเหยาเอาหมูสามชั้นและซี่โครงหมูที่ซื้อมาเมื่อเช้าแบ่งให้คุณยายไป เธอเพียงแค่บอกว่าซื้อมาเยอะเกินไป แช่ไปในตู้เย็นนานไปก็ไม่สดและเธอกับจิงเฉินก็ไม่ค่อยชอบ จึงได้เอาให้คุณยายเพื่อให้ซูหยวนได้เพิ่มสารอารให้กับตัวเอง
เรื่องที่เกี่ยวกับหลานรักของเธอเช่นนี้คุณยายไม่เคยจะปฏิเสธอยู่แล้ว
……
เป็นเพราะผักที่คุณยายเอามาให้ตอนเที่ยง ข้าวมื้อเที่ยงนี้ก็ผ่านไปด้วยดี
ซินเหยาเอาแตงกวาหนึ่งลูกออกมาจากครัว ใช้น้ำล้างไปธรรมดา จากนั้นก็กัดไปหนึ่งคำ แตงกว่านี้ทั้งกรอบทั้งหวาน น้ำยังเยอะฉ่ำๆอีก รสชาติก็ดีเยี่ยม
"มื้อเที่ยงนี้ทำซุปซี่โครงหมู หมูสามชั้นผักซอสแดง มะเขือเทศผัดไข่และผัดผักโขมดีกว่า" ซินเหยาเปิดดูผักที่มีอยู่ในตู้เย็น และหันหัวไปถามความคิดเห็นของจิงเฉิน
"แล้วแต่คุณเลย" จิงเฉินตอบกลับ
แตงกวาของเธอยังคาอยู่ที่ปาก จะทิ้งก็เสียดาย จึงคาบไว้ที่ปากและเตรียมตัวทำมื้อเที่ยง
ปากที่คาบแตงกวาอยู่ของเธอมันเมื่อยไปหมด น้ำลายก็แทบจะย้อยลงมาแล้ว มือก็จัดการกับเนื้อพวกนั้นไป มือไม่ว่างจริงๆ
"อ๋อ……" ซินเหยาหันหัวไปดูจิงเฉินที่ยังดูนิตยสารอยู่ที่ห้องรับแขกและพูดอีกว่า : "อ๋อ……"
จิงเฉินเมื่อได้ยินเสียงของซินเหยาถามขึ้นก็หันไปมองแว๊บหนึ่ง เห็นซินเหยามองมาด้วยแววตาใสกริ๊ง จิงเฉินก็มองไปที่ซินเหยาอย่างงงๆด้วย
ซินเหยาเดินเข้าไปหาจิงเฉิน โถมหน้าเข้าใกล้เขา
จิงเฉินขมวดคิ้วขึ้น มองดูซินเหยาอย่างมึนงง
ซินเหยาใช้มือชี้ไปที่ปากที่กำลังคาบแตงกวาของตัวเอง กำลังบอกว่าเธอต้องการจะเอาแตงกวาออกมา
สายตาของจิงเฉินมองไปที่ปากของซินเหยา ปากเธออ้าออกกว้างและคาบไว้แตงกวาอยู่ แตงกวาลูกเขียวๆมันทำให้ปากของเธอที่อมชมพูยิ่งอมชมพูเข้าไปใหญ่ และแววตาของเธอมันวิ้งเอามากๆ
สายตาของจิงเฉินมองไปที่เธอเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจ และหรี่ตาขึ้น
"อ๋อ……" ซินเหยาเห็นจิงเฉินจ้องเธอตาไม่กระพริบ จึงใช้ตาของตัวเองจ้องกลับไป
คุณเอาแตงกวาจากปากฉันออกมา ถึงแม้ว่าคุณจะหล่อ แตงกวาในปากฉันก็ไม่ออกมาหรอก
จิงเฉินยื่นมือไปดึงแตงกวาที่คาอยู่ในปากของซินเหยาออก ปากของซินเหยาหุบไม่ได้เพราะเธอคาบไว้นานเกินไป เธอเงยหน้ามองไปที่จิงเฉิน เห็นว่าถึงแม้สีหน้าเขาจะไม่มีความรู้สึกอะไร แต่หูของเขาก็แดงเอามาก
"ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีก มันจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้" จิงเฉินจับไว้แตงกวาและพูดกับซินเหยาด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ซินเหยาจับไปที่ปากที่กำลังเกร็งของตัวเองและพูดว่า : "เข้าใจอะไรผิด?"
"เข้าใจผิดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่หื่นกระหาย บ้ากาม" จิงเฉินเอาแตงกวาใส่ไปในมือของซินเหยา มองไปที่ซินเหยาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม จากนั้นก็หันหลังและเดินจากไป
ซินเหยาจับไว้แตงกวาและทำหน้างงๆ อะไรกันเนี่ยยยย ! !
เธอก็แค่กินแตงกวาเท่านั้น ทำไมถึงกลายเป็นว่าหื่นกระหายบ้ากามไปได้? เป็นเพราะคุณรวยก็จะสามารถมาหยามกันแบบนี้ได้หรอ?
แตงกวานี้มันทั้งกรอบทั้งหวาน ทิ้งก็เสียดายแย่
เธอเอาแตงกวามาตัดเป็นชิ้นๆใส่จานไว้ พอว่างก็หยิบขึ้นมากิน
หมูสามชั้นผัดซอสแดงยังต้มอยู่ในหม้ออยู่ แต่รสชาติความหอมมันก็ลอยออกมาข้างนอก
"จิงเฉิน ไอ่สัx" ซินเหยาวางผักในมือลง พุ่งเข้าไปที่ห้องรับแขก แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของจิงเฉิน
แม่เจ้า เธอก็แค่กินแตงกวาเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอื่นเลย
ตอนอาหารมื้อเที่ยง จิงเฉินก็ปรากฎตัวที่ห้องรับแขกเอง ซินเหยาเมื่อเห็นจิงเฉิน ก็คิดถึงเรื่องแตงกวา เมื่อคิดถึงแตงกวา ก็คิดถึงเรื่องแตงกวาที่เธอคาบไว้ในปากเรื่องนั้น
ที่จริงก็เป็นเรื่องธรรมดาๆเรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้ อีกหน่อยเธอคงจะไม่อยากเห็นแตงกวาที่ดูบริสุทธิ์แต่แอบแฝงไปด้วยความชั่วร้ายแบบนี้ไปอีกนานมากโข
เธอมองไปที่จิงเฉินด้วยสายตาที่อยากจะคืนความจริงให้ตัวเองและแตงกวาลูกนั้น
แต่เกรงว่าถ้าเธอยิ่งอธิบายก็จะทำให้เรื่องมันยิ่งดูแย่ไปมากกว่าเดิม เพราะงั้นเธอจึงทำได้แค่อดกลั้นเอาไว้
MANGA DISCUSSION