อาจจะเป็นเพราะว่าแววตาของธอมันโชกโชนเกินไป จิงเฉินมองไปที่ตาของเธอโดยการโยกย้ายจุดโฟกัสจากนิตยสารไปมอง แค่ก้มหัวลงก็เห็นสภาพเจ๋อๆของเธอที่แววตาเต็มไปด้วยความเซอร์ไพร์ตกใจ เขาเคยเห็นสายตาแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่ามีเพียงสายตาเธอเท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึงความภาคภูมิใจ
"คุณมองอะไรอยู่?" จิงเฉินมองไปที่ซินเหยาและถามขึ้น
"ฉันมองคุณอยู่" ซินเหยาตั้งสติกลับมาได้ สบตาไปที่จับเฉินพร้อมพูดขึ้น
จิงเฉินย้ายระดับสายตาไปมองทางอื่น พูดอย่างไร้ความรู้สึกและเย็นชาว่า : "ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมา คุณยังอยากจะหนุนขาผมไปอีกนานแค่ไหน ขาผมชาไปหมดแล้ว"
ซินเหยาไม่ได้พูดอะไร ยังมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของจิงเฉินใบนั้นอยู่
สายตาของเธอเหมือนแสงเอกเรย์มาก มันสแกนไปบนหน้าของจิงเฉินทุกรูขุมขน เหมือนกับว่าตัวเองค้นพบแผ่นดินแผ่นใหญ่เข้าให้ แววตาของเธอมันเปร่งประกายดั่งดาวบนท้องฟ้าพร้อมมองไปที่จิงเฉิน มันหาได้ยากมากโอกาสแบบนี้ คิดไม่ถึงจริงๆ
หลังจากที่จิงเฉินได้ฟังซินเหยาพูดแบบนั้น เธอเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
ใบหน้าของเขาหนักอึ้งเคร่งขรึมขึ้น ซินเหยาก็สัมผัสมันได้ เธอไม่อยากจะทำให้ป๊ะป๋าหัวร้อนอีกนะ
เธอย้ายหัวของตัวเองออกจากขาของจิงเฉิน ยืนขึ้นมา ตอนนี้รู้สึกว่าความเจ็บปวดของตัวเองเมื่อกี้ป๊ะป๋าได้จัดการเอาออกไปหมดแล้ว
ดูไปที่นาฬิกา ตอนนี้ก็เกือบจะ11โมงแล้ว
"ฉันจะไปเก็บผักที่บ้านคุณยายเฟยสักหน่อย คุณจะไปด้วยกันรึปล่าว?" ซินเหยาตอนนี้อารมณ์ดีเอามาก เหมือนแสงแดดที่กำลังสาดส่องอยู่ข้างนอก
เขาเอาหนังสือนิตยสารเล่มนั้นวางไปบนขาของตัวเอง มืออีกข้างจับไปที่โซฟาเพื่อพยุงตัวเองขึ้น ส่วนอีกข้างก็เปิดไปที่นิตยสาร แสงแดดจากนอกหน้าต่างสีเหลืองอร่ามสาดส่องเข้ามากระทบไปที่ใบหน้าของเขา มันหล่อดุจดั่งเทวดาเทพสววรค์จุติลงมาปานนั้น น่ากินจริงๆ
ซินเหยาน้ำลายไหลออกมายาวสามเมตร ป๊ะป๋าเป็นเนื้อชิ้นดีจริงๆ มันทำให้คนอื่นสามารถคุกเข่าขอร้องความหล่อเหลานี้ของป๊ะป๋าได้จริงๆ
"ไม่ไป" จิงเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"อื่ม" ซินเหยารู้สึกผิดหวังอยู่หน่อยๆ ถ้าเกิดไปเก็บผักกับป๊ะป๋า พอเหนื่อยแล้วก็ยังสามารถที่จะเพิ่มพลังโดยการมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของป๊ะป๋าได้ เฮ้อออ น่าเสียดายจริงๆ
"งั้นฉันไปเก็บผักก่อนนะ คุณอยู่บ้านรอไปก่อนนะคะ" ซินเหยากำชับจิงเฉิน จากนั้นก็พูดขึ้นต่ออีกว่า : "ถ้าเกิดคิดถึงฉัน ก็สามารถไปหาฉันได้ที่บ้านคุณยายเฟยนะคะ ไม่ไกลจากนี่ คุณยืนอยู่ตรงที่ประตูก็น่าจะเห็นฉันได้"
"คุณคิดไปเองแล้วแหละ" มืออีกข้างของจิงเฉินที่กำลังเปิดนิตยสารอยู่นั้นก็ชะงักไปชั่วขณะ แต่จากนั้นก็เปิดมันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซินเหยากดไลก์ให้ตัวเองไป32ดอก
เธอนี่มันสุดยอดกระเทียมดองจริงๆ อีกหน่อยก็ไม่ต้องกลัวว่าป๊ะป๋าจะมาแกล้งหรือเสียมารยาทำเรื่องอย่างว่ากับเธออีกแล้วสินะ
อารมณ์ของเธอตอนนี้เหมือนกับท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งสดใสเป็นหมื่นลี้มากๆ แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทางก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เวลาไปเก็บผักก็ต้องมีตระกร้าอะไรหรือป่าว อีกอย่างเมื่อเช้าก็พึ่งไปซื้อเนื้อมา น่าจะเอาไปให้คุณยายเฟยสักหน่อย ซูหยวนก็กำลังอยู่ในวัยเจริญอาหาร ไม่สามารถที่จะขาดผักหรือเนื้อไปได้เลย
เธอหันหลังกลับไป เห็นจิงเฉินกกำลังจับไปที่โซฟาเพื่อพยุงตัว และเดินทีละก้าวอย่างยากลำบาก
ก้าวทุกก้าวของเขา เขาต้องขมวดคิ้วขึ้นหนึ่งครั้ง ส่วนมือก็ไม่เอาออกจากโซฟาเลย ภาพนั้น……มันทำให้ซินเหยาปวดใจจริงๆ
เธอรีบวิ่งเข้าไปหา ใช้มือข้างหนึ่งพยุงไปที่มือของจิงเฉิน ส่วนมืออีกข้างก็โอบไปที่เอวของเขา และพูดว่า : "ขาคุณเป็นอะไรหน่ะ?"
จิงเฉินรู้สึกถึงแขนที่นุ่มนิ่มแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง เขาสะดุ้งขึ้น และหันหัวไปเห็นใบหน้าอันสะสวยของซินเหยา เขาขยับตัวออกเหมือนไม่ต้องการความช่วยเหลือ ใบหน้าที่เย็นชาตอนนี้ของเขาทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคิดอะไรอยู่
"ขาผมชา" จิงเฉินพูด
ที่แท้ก็ขาชานี่เอง ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเขินอะไรรึปล่าวจึงหาข้ออ้างมาบังหน้า
ไม่ผิดค่ะ ตอนที่เธอหนุนไปที่ขาของจิงเฉินและมองขึ้นไปดูเขา เธอเห็นได้ชัดว่าหูเขาแดงไปหมด คิดไม่ถึงจริงๆน้าาา……ป๊ะป๋าก็มีมุมนี้เหมือนกัน ชอบแกล้งคนอื่นไปมา แต่เมื่อโดนเตาะไปสักหน่อยก็เขินเป็นเหมือนกันสินะ อิๆ
เหมือนเรื่องของพี่เทียนสุดท้ายก็รักน้องเมยยังไงยังงั้น เธอยังรู้สึกสงสัยอยู่เลยว่านี่มันเป็นนิยายรักในจินตนาการรึปล่าว
ว้าวซ่า ป๊ะป๋าน่ารักเกินไปแล้ว
ป๊ะป๋า คุณน่ารักขนาดนี้ นอกจากฉันก็อย่าไปบอกใครเชียวหล่ะ
"ฉันนวดให้คุณเอง เลือดจะได้เดินไปเลี้ยงส่วนขาได้ เดี๋ยวก็ดีขึ้น" มือซินเหยาข้างหนึ่งโอบไปที่เอวของจิงเฉิน ส่วนอีกข้างก็กำลังโน้มต่ำไปที่ขาสองข้างที่ดูแข็งแกร่งของเขา
หรือว่าตอนเช้าอาจจะเป็นเพราะว่าซินเหยาทำให้จิงเฉินตกใจกับเรื่องอย่างว่านั้นไปหน่อย เมื่อจิงเฉินเห็นซินเหยาแบบนี้จึงหดถอยไปข้างหลังหลายก้าวทันที ขาของเขาตอนนี้ก็ชาอยู่แล้ว จะออกแรงเดินก็ลำบากไม่น้อย ข้างหลังก็เป็นโซฟา ขาที่ชาของเขาชนเข้ากับโซฟาอย่างจังและล้มลงไป
ซินเหยากอดอยู่ที่เอวของจิงเฉินอย่างแน่น จนกระทั้งเขาล้มลงบนโซฟาเธอก็ยังไม่ได้เอามือออก
ล้มลงไปพร้อมกับจิงเฉิน ตัวของเธอจึงทับไปบนร่างของจิงเฉินอีกครั้ง
ซินเหยาทับอยู่บนร่างของเขา รู้สึกว่าข้างล่างมันแข็งเอามาก ทุกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ หุ่นดีจริงๆนะป๊ะป๋า
เธอลุกขึ้นมาจากตัวของจิงเฉิน มือสองข้างวางอยู่บนหน้าอกของเขา ลูบไปลูบมาอยู่หลายดอก โอ้ย……หุ่นดีจริงๆ กล้ามเนื้อแน่นๆของป๊ะป๋ามันทำให้คนน้ำลายไหลแปดศอกจริงๆนะ ><
กล้ามเนื้อของป๊ะป๋าตอนนี้มันอยู่ในจุดที่พอดีมาก โอ้ยยยย
"คุณจับอะไรหน่ะ?" จิงเฉินหน้าบึ้งและมองไปที่ซินเหยาที่กำลังลูบจับไปบนตัวของเขาอยู่ ลูบจนไฟร้อนในตัวของแผ่ซ่าออกมาหมด จิงเฉินจึงจับไปที่มือของซินเหยาอย่างแน่น
ซินเหยามองไปที่หูของจิงเฉินที่ตอนนี้มันแดงเอามาก ป๊ะป๋าเขินจริงๆหรอ!?
"ไม่มีอะไรนี่คะ ฉันแค่ทดสอบตรวจดูให้แน่ชัดว่านอกจากขาคุณแล้วยังมีส่วนไหนที่ชาด้วยรึปล่าว" ซินเหยานอนไว้บนตัวของจิงเฉิน เงยหัวขึ้นพร้อมพูดอย่างจริงจัง
"ไม่มี" จิงเฉินกัดฟันพูด : "นอกจากขาแล้ว ก็ไม่มีส่วนไหนที่ชาแล้ว"
"อ๋อ……" ซินเหยารู้สึกผิดหวังและเสียใจอยู่เล็กน้อย พูดขึ้นอีกว่า : "งั้นฉันช่วยนวดขาให้คุณเองค่ะ"
งือออ ไม่ได้ลูบอีกสักนิดสักหน่อยก็ทำให้เศร้าเสียดายจริงๆ ตอนนี้เธอกระจ่างแล้วว่าทำไมป๊ะป๋าชอบทับอยู่บนตัวเธอและแกล้งเธอนัก ที่แท้ความสนุกของคนที่ทับกับคนที่ถูกทับมันก็ต่างกันแบบนี้นี่เอง
ก็เหมือนกับการที่เราเห็นเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ความรู้สึกของการไม่อยากซื้อกับการมีเงินแต่ไม่อยากซื้อมันต่างกัน
MANGA DISCUSSION