เยี่ยจิงเฉินแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของถังซินเหยา การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างนุ่มนวล เขาเลียซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เลียริมฝีปากเธออยู่เช่นนั้นจนเธอรู้สึกจั๊กจี้ จึงเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากเช่นกัน แต่มันกลับทำให้ไปสัมผัสเข้ากับลิ้นของเยี่ยจิงเฉิน
เยี่ยจิงเฉินขบลิ้นของเธอไว้ทันที ดูดเม้มอย่างแรง ไม่ยอมปล่อย
เขาจูบอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งถังซินเหยายอมคลายริมฝีปาก
เขาเอื้อมมือไปหยิบลิปสติกที่ถังซินเหยาใส่ไว้ในกระเป๋า สีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์พูดขึ้น “นี่คือของที่นายซืออะไรนั้นให้เธอเหรอ? ฉันจะยึดมันไว้ หลังจากนี้ถ้าฉันไม่อนุญาตห้ามรับอะไรจากเขาอีก”
ถังซินเหยารู้สึกเจ็บแปลบๆที่แผ่นหลัง ไม่รู้ว่าจะถลอกหรือเปล่า แม้ในใจจะหงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อยากโต้เถียงเยี่ยจิงเฉินให้มากความ
“ซือชิงเห็นว่าปากฉันแตก ฉันเพิ่งใช้มันเอง คุณอย่าไม่มีเหตุผลได้ป่ะ” ถังซินเหยามองไปที่เยี่ยจิงเฉินอย่างไม่พอใจ
เธอไม่เข้าใจ ทำไมตอนนี้ป่าปี้ถึงแล้งน้ำใจ ไร้ความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ และยังทำตัวไม่มีเหตุผล
เยี่ยจิงเฉินก้มลงเลียริมฝีปากของถังซินเหยาอีกครั้ง “จูบให้ความชุ่มชื้นมากกว่าลิปสติกของเขาอีก”
ถังซินเหยาปลายตามองเยี่ยจิงเฉิน “คุณไม่รู้สึกผิดที่พูดแบบนี้เหรอ? ทำไมริมฝีปากฉันจึงแตกล่ะ ไม่ใช่เพราะใครบางคนทำตัวเหมือนสุนัขชอบกัดปากฉันอยู่เรื่อย ครั้งล่าสุดก็ถูกกัดจนแตกอีกแล้ว ฉันเกรงว่าถ้ามั่วแต่หาความชุ่มชื้นของคุณ ชีวิตนี้ปากฉันก็ไม่มีวันดีขึ้นหรอก”
บ้าเอ้ย! ถ้าไม่ใช่เพราะถูกป่าปี้กัดครั้งที่แล้ว ริมฝีปากของเธอก็คงไม่แตกเพิ่มขึ้นมาอีก
“ฉันทำฉันก็ต้องรับผิดชอบ” เยี่ยจิงเฉินจ้องมองถังซินเหยาอย่างจริงจัง
รับผิดชอบเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ? ลูกชายและลูกสาวของคุณยายคนที่ทำให้เขาเกิดมา ไม่เห็นเขาจะไปรับผิดชอบ มิหน่ำซ้ำคงลืมไปหมดแล้ว จะมารับผิดชอบอะไรกับเรื่องเล็กๆแค่นี้
เขาจูบที่ริมฝีปากของถังซินเหยาแล้วพูดว่า “ฉันจะทำให้ริมฝีปากของเธอนุ่มขึ้น”
“เอ่อ…” ถังซินเหยายื่นมือออกไปเช็ดปากด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่ต้อง ปล่อยให้มันแตกไปถือ ฉันไม่ถือ”
ให้ตายเถอะ! ของของคนอื่นนี่เธอไม่ต้องใช้ชงต้องใช้แล้วมั้ง?
“ไม่ต้อง ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ฉันทำลงไป ฉันทำผิด ฉันจะชดเชยให้เต็มที่” เขาหยุดไปชั่วขณะ แล้วพูดต่อว่า “และอีกอย่างริมฝีปากของเลขาแตกเยอะเกินไป ปากแห้งแตก เป็นอะไรที่น่าอายมากเลยนะ”
ไอ้บ้า! หรือว่าจริงแล้วที่เขาไม่ชอบปากแห้งแตกน่าเกลียดของเธอ เพราะเขากลัวขายหน้า?
ป่าปี้ คุณมันคนใจดำ หลังจากนี้อย่างหวังเลยว่าจะเล่นสนุกได้อย่างมีความสุข
“วางใจเถอะ หลังจากนี้ฉันจะจูบเธอมากขึ้น” เยี่ยจิงเฉินจูบถังซินเหยาซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับคำพูดอบอุ่น
จูบเยอะขึ้นกับผีนะสิ! ป่าปี้ เลิกก่อกวนได้แล้ว
“เอาล่ะๆ ท่านประธานคุณเลิกก่อกวนได้แล้ว ยางเส้นใหม่คงเปลี่ยนเสร็จแล้ว บางทีพวกเขาคงกำลังหาเราอยู่ อย่าทำให้ธุรกิจล่าช้า” ถังซินเหยาไร้ซึ่งเรี่ยวแรง คลื่นสมองของเธอกับเยี่ยจิงเฉินไม่ใช่คลื่นความถี่เดียวกัน และเธอก็ไม่ได้คาดหวังเชื่อมต่อคลื่นทั้งสองที่แตกต่างกันขนาดนี้
ยังโชคดีที่เยี่ยจิงเฉินยังต้องทำงานต่อ สำหรับเรื่องการจูบเขาเอาจริงเอาจังอย่างมาก
เขาถอยหลังไปสองก้าว ในที่สุดถังซินเหยาก็ได้รับอิสรภาพ และรู้สึกเจ็บที่ด้านหลัง
“ท่านประธานเยี่ย ฉันกลับก่อนนะ” ถังซินเหยาขยับไหล่ตัวเอง
เยี่ยจิงเฉินกำลังเล่นกับลิปสติกที่อยู่ในมือ จากนั้นกำมันแน่น และหยิบลิปสติกที่อยู่ในมือตัวเอง “เอาลิปสติกไว้กับฉัน หลังจากนี้ถ้าปากแตกอีก ก็ค่อยมาหาฉัน จะได้ไม่ต้องเปลืองเงิน”
เฮ้ย! คนเหลือขออย่างคุณ รู้ด้วยเหรอว่าอะไรที่เรียกว่าเปลืองเงิน?
แม้ว่าในใจจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็พยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย
เยี่ยจิงเฉินพึงพอใจเป็นที่สุด เดินไปข้างๆถังซินเหยา หมุนไหล่เธอหันมาแล้วประจบจูบอีกครั้ง
เดิมทีริมฝีปากของเธอเป็นสีชมพูระเรื่อ แต่ตอนนี้มันบวมและแดง ราวกับว่าทาลิปสติก
ใบหน้าของถังซินเหยาเคร่งขรึม เธออยากจะโยนร่างของเยี่ยจิงเฉินทิ้งไว้ในป่า ฝั่งไว้ในป่านี้ให้รู้แล้วรู้รอด หลีกเลี่ยงไม่ให้เขาออกไปสร้างหายนะให้คนอื่น
เธอหยิบลิปสติกสีแดงออกมาจากกระเป๋า แล้วทาลงบนริมฝีปาก
เธอไม่อยากให้ใครเห็นว่าเธอและท่านประธานเยี่ยเข้าไปในป่าด้วยกัน แล้วขากลับออกมา ริมฝีปากของเธอก็บวมแดง
เมื่อถึงตอนนั้นในสายตาของทุกคน เธอและเยี่ยจิงเฉินก็จะกลายว่าทั้งคู่กำลังคบชู้กันอยู่
หลังจากซือชิงเห็นถังซินเหยาและเยี่ยจิงเฉินเข้าไปในป่า หัวใจข้างในก็กำลังดิ้นอย่างเจ็บปวด
เขายืนสูบบุหรี่อยู่ข้างถนน ในห่อเหลือบุหรี่เพียงแค่มวนเดียว เยี่ยจิงเฉินออกมาจากป่าอย่างชีวิตชีวา ซือชิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเองก็พูดได้ไม่เต็มว่าตอนนั้นภายในใจรู้สึกเช่นไร
เขารอคอยอย่างกระตือรือร้น ถังซินเหยาค่อยๆเดินออกมาจากป่าอย่างช้าๆ
เขาคอยสังเกตอย่างระมัดระวัง ถังซินเหยาใบหน้าเรียบเฉย แม้กระทั่งรอยยิ้มเล็กๆ ก็ดูไม่ออกว่าเธอโกรธหรือดีใจ
เรื่องบางเรื่อง เขาก็ไม่อยากคิดลึกเกินไป
ถังซินเหยามองไม่เห็นเขา เธอเดินตรงไปที่รถ
เขาบีบบุหรี่ในมือแน่น เดินไปหาถังซินเหยาทันที
พื้นถนนราบเรียบแต่ไม่รู้ว่าก้อนหินโผล่มาจากไหน เขาสะดุดหินก้อนนั้นแล้วพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อถังซินเหยาเห็นชายหนุ่มกระโจนเข้ามาหาเธอ เธออยากหลบแต่ไม่ทันเสียแล้ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นกระโจนเข้าใส่ ทับเธอแนบเข้ากับกระโปรงหน้ารถ ทั้งสองร่างกายแนบชิดติดกัน และริมฝีปากของเขาก็แนบอยู่บนใบหน้าเธอ
ซือชิงทับถังซินเหยาอยู่บนกระโปรงหน้ารถ หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างช่างนุ่มนวล ร่างกายบอบบางอ่อนนุ่ม แต่ก็ไม่ได้แบนราบไปซะหมด ชั้นไขมันบางๆที่ติดอยู่บนกระดูกทำให้เธอมีสัดส่วน ดังนั้นเธอจึงหุ่นดีมากๆ ส่วนที่ควรบางก็บาง ส่วนที่ควรใหญ่ก็ใหญ่
กลิ่นน้ำหอมจางๆของถังซินเหยา ทำให้ซือชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เมื่อเกิดความปรารถ ส่วนล่างที่อยู่ใต้ท้องน้อยก็เปลี่ยนไป
ถังซินเหยาที่ใกล้ชิดแนบแน่นกับซือชิงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบนร่างกายของชายหนุ่ม ทันใดนั้นใบหน้าของถังซินเหยาก็เคร่งขรึมขึ้น แม้อาการเจ็บที่หลัง ก็ดูเหมือนว่าจะด้านชาไปแล้ว เมื่อการเสียดที่ได้ลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ
ซือชิงรู้ว่าเรื่องนี้กะทันหันเกินไป แต่กลิ่นหอมที่อยู่ในอ้อมกอด ผู้ชายคนไหนจะเต็มใจปล่อยไปได้
“อือ…ผู้จัดการซือ ดีจังเลยค่ะ”
“ผู้จัดการซือจูบฉันหน่อย”
“ซือชิง ฉันจะใช้โอกาสนี้สารภาพกับคุณ ที่รักของเลขาถัง”
“ผู้จัดการซือ ถ้าเป็นผู้ชายก็คงสายเกินแก้แล้ว เลขาถังคนสวยคนนี้เป็นของคุณแล้ว”
ชายหนุ่มไม่อยากเชื่อ เวลานี้คือเวลาทั้งหมดที่พวกเขาจะได้ร่วมสนุกกัน
ถังซินเหยาคิดอยากจะตัดขาที่สามของชายหนุ่มทันที ที่เข้าไปใกล้น้องสาวที่เร่าร้อนของเธอ
คำพูดเร่าร้อนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าผุดออกมาจากก้นบึ้งในหัวใจของซือชิง เขามองที่ใบหน้าขาวราวกับหยกของหญิงสาว กลิ่นหอมอ่อนๆที่อยู่ในอ้อมแขน หัวใจของซือชิงกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ กระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข
มองไปที่ริมฝีปากแดงตรงหน้า ซือชิงอยากลองลิ้มรสหวานนั้นสักครั้ง…
MANGA DISCUSSION