"ได้" นี่มันเป็นกฎหมายที่ทำลายสิทธิส่วนบุคคลและทำให้กฎหมายของประเทศดูเสื่อมลงเสียจริงๆ แต่เธอก็ต้องเซ็นต์อยู่ดี
นี่มันเป็นการแกล้งที่ไม่สามารถมีใครเทียบเทียนได้แล้ว ตัวเองรู้อยู่แก่ใจว่าโดนป๊ะป๋าแกล้ง แต่ก็ยังจะทำเป็นใสซื่อและยอสรรเสริญป๊ะป๋าต่อให้เขาแกล้ง มันทำให้หมดแพสชั่นในการใช้ชีวิตต่อไปจริงๆ
ยังมีเขาป่าไม้อุดมสุข ไม่กลัวทุกข์ฟืนหมดไม่มีเผา
ตระกูลเยี่ยเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่รวยเหลือล้น จะไปจัดการกับเขา เธอก็เหมือนแมวที่เพิ่งจะถอนฝันน้ำนมทิ้ง เป็นได้แค่เนื้อปลาอันโอชะที่จะรอให้ชาวประมงนำมายำกิน
เธอไม่สามารถที่จะต่อกรกับจิงซิงโดนไร้คนคอยสนับสนุน เธอจะต้องเป็นแม่ของทายาทเศรษฐีรุ่นที่2
พอเป็นเช่นนั้นก็สามารถที่จะโอนเงินสักร้อยล้านมาฟาดหัวป๊ะป๋าให้นอนราบไปกับพื้นได้
เห็นท่าทางที่ไม่เต็มใจของซินเหยาอย่างนั้นแล้ว จิงเฉินรู้สึกสะใจเป็นอันมาก สำหรับเงินหนึ่งหมื่นในสายตาเขามันไม่ได้มีค่าอะไรเลย
เรื่องนี้ก็ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ซินเหยากลับไป ก็คิดได้ว่า……อีกไม่กี่วันโรงเรียนของลั่วหลิงและเข่อหลานจะมีกิจกรรมสานสัมพันธ์กีฬาสี เธอลืมมันไปได้ไง?
เธอเริ่มที่จะสงสัย เข่อหลานกับลั่วหลิงไม่ใช่ลูกแท้ๆเธอหรือไง? เธอเป็นเพียงแม่เลี้ยงหรือ?
เพราะว่าเธอรู้สึกผิด อาหารมื้อเย็นจึงตัดสินใจทำเองเพื่อเป็นการไถ่บาป รอบนี้เธอทำอาหารที่ลูกน้อยทั้งสองเธอชอบและไม่ใส่วัตถุดิบที่พวกเขาไม่ชอบลงไปอีกด้วย
เข่อหลานนั่งดู《หนูน้อยจอมซ่า มารูโก๊ะจัง》อยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนลั่วหลิงอยู่ในห้องนอนตนเองไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่เหมือนกัน ซินเหยาก็ไม่ได้ไปรบกวนลูกชายเธอ
"สวัสดีครับ อีกสองวันโรงเรียนพวกเราจะจัดกิจกรรมกีฬาสีประจำฤดูใบร่วง คุณจะมาหรือป่าว?"
ตอนที่ข้อความถูกส่งมา จิงเฉินกำลังดูข่าวรายงานเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของจังหวัดเซียงถานอยู่ แต่เมื่อเห็นกล่องข้อความบนจอคอมพิวเตอร์เด้งขึ้นมา ก็วางทุกอย่างบนมือลงทุกอย่าง
ฮือ? โรงเรียนยวี่ยิง? น่าสนใจขึ้นมานะ
"คุณเป็นครูจากโรงเรียนนั้นหรอครับ?" จิงเฉินถาม
"ไม่ใช่ ผมเป็นนักเรียนที่นี่"
"งั้นวันนั้นคุณก็จะเข้าร่วมกิจกรรมใช่ไหม?"
"ใช่"
"ผมไป แต่ว่าช่วงนี้ผมมีงานต้องไปต่างจังหวัดนิดหน่อย งานกีฬาสีคงต้องเลื่อนจัดไปอีกประมาณครึ่งเดือน" จิงเฉินตอบกลับอย่างเต็มอกเต็มใจ
เขาจำได้ว่าคณะกรรมการของโรงเรียนยวี่ยิงเคยเชิญเขาไปเข้าร่วม โรงเรียนนั้นจิงเฉินก็ถือหุ่นอยู่ประมาณร้อยละ45 เป็นกิจการที่ค่อนข้างแวววาวโอ่อ่ามากทีเดียว เพียงแต่ว่ากิจกรรมก่อนๆของโรงเรียนเขาไม่เคยออกงานเลย แต่ครั้งนี้เขาเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว
"ได้ งั้นผมจะรอคุณ" ลั่วหลิงรู้ว่าฐานะตำแหน่งของจิงเฉินคืออะไร เพราะงั้นเลยไม่คิดสงสัยอะไรที่เขาพูด
"คุณไม่ใช่บอกหรอว่าคุณเป็นลูกชายผม เรียกป๊ะป๋าสักคำดูซิ"
"ป๊ะป๋า"
จิงเฉิน : ……
ตอนแรกอยากจะแกล้งอีกฝั่งสักหน่อย แต่อีกฝั่งกลับไม่ได้ซับซ้อนตรงไปตรงมาแบบนี้ ติดกับง่ายๆ มันไม่ได้ฟีลของการแกล้งจริงๆ
"ใช่แล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยของเยี่ยหวงรัดกุมแน่นหนามาก เพราะงั้นสัญญาที่ให้ไว้กับคุณคงจะต้องลากยาวอีกสักพัก"
หึ……ระบบรักษาความปลอดภัยของเยี่ยหวงเป็นผลงานชิ้นเอกตอนจบหมาลัยของเขาเลยนะ หลายปีมาไม่เคยมีแฮกเกอร์คนไหนที่จะสามารถแฮกเข้ามาได้เลย เพราะงั้นมันเป็นความภาคภูมิใจของจิงเฉินอย่างเหลือล้น
ความจริงจิงเฉินอยากพูดอะไรต่ออีกนิด แต่อีกฝั่งตอบกลับมาว่า : "แม่ผมเรียกไปกินข้าวแล้ว ค่อยคุยกันครั้งหน้า"
จิงเฉิน : ……
ซินเหยาคีบขาไก่ให้ลูกน้อยทั้งสองของเธอคนละน่อง บนโต๊ะมีแต่อาหารที่เด็กทั้งสองชอบ มันไม่เหมือนกับโต๊ะเมื่อก่อนที่มีแต่กับข้าวเพียงสองอย่างที่พวกเขาไม่ชอบกิน
เข่อหลานกินอย่างเอร็ดอร่อยมีความสุข ปากเล็กๆของเธอเต็มไปด้วยความันเยิ้ม
ซินเหยาไม่ได้รู้สึกอยากอาหารขนาดนั้น แค่ข้าวเปล่าถ้วยเดียวก็ไม่ไหวอยู่แล้ว
"พวกหนูสองคนกินให้เยอะๆ เดี๋ยวหม่ามี๊มีเรื่องที่จะคุยกับพวกหนูหน่อย" ซินเหยาคิดตริตรองคำนี้ในสมองอยู่นานมากกว่าจะพูดออกมาว่า : "คือ อีกสองวันก็จะถึงวันกีฬาสีโรงเรียนของพวกหนูแล้วใช่ไหม"
ปากของเข่อหลานที่ยังมีข้าวอยู่เต็มพูดออกมาอย่างไม่ชัดว่า "ช่ายคาา อีกม่ายนานนก็จะ……"
ลั่วหลิงคีบเม็ดบัวให้เข่อหลานเอาเข้าปาก เข่อหลานถึงจะเงียบลงมาได้
"ขอโทษพวกหนูจริงๆนะ คือหม่ามี๊ต้องไปต่างจังหวัดทำงาน" ซินเหยาพูดอย่างรู้สึกผิด
ลั่วหลิงคีบเนื้อปลาให้ซินเหยาอย่างเข้าอกเข้าใจ และยังเอากระดูกปลาออกให้เธออย่างละเอียดใจ และคีบใส่ถ้วยของซินเหยา พร้อมขัดจังหวะที่ซินเหยาพูด : "อ๋อ เมื่อกี้คุณครูพึ่งแจ้งพวกเราว่างานกีฬาสีเลื่อนเวลาจัดออกไป"
ซินเหยา : ……
เธอไม่ได้ฝันไปอยู่ใช่ไหม เทวดาดลบันดาลเธอจริงๆ ถ้าเกิดเธอไปซื้อหวยครบชุดคงจะถูกชุดใหญ่ไปแล้ว
ในเมื่อเรื่องในใจได้ไขออกแล้ว เธอก็มีความอยากอาหารขึ้นมาทันที
เรื่องทุกอย่างไม่สามารถที่จะมาทำลายเวลาอาหารได้
ตอนกลางคืนก่อนที่เข่อหลานและลั่วหลิงจะเข้านอน ซินเหยาก็ได้นำนมอุ่นไปให้ลูกทั้งสองเธอดื่มก่อนเข้านอน
ใบหน้าอันสะสวยของเข่อหลานตอนนี้ไปไม่ถูกจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้หม่ามี๊ของตัวเองถึงได้ดีแปลกๆขนาดนี้ เธอคิดว่าเธอกำลังดื่มยาพิษอยู่หรือป่าว
สีหน้าของลั่วหลิงก็หนักอึ้งเหมือนกัน เพราะเขาก็ไม่ชอบรสชาติของนม
"ดื่มสิคะ ถ้าไม่ดื่มงั้นลูกจะเป็นเด็กแคระไปตลอดนะ" ซินเหยาพูดและดูพวกเขากลืนนมในแก้วลงไปหมดก่อนถึงจะวางใจ
เข่อหลานดื่มไปได้ครึ่งแก้วน้ำตาก็ไหลรินลง มันน่าสงสารจริงๆ
"แอ๊บให้น่าสงสารก็ไม่มีประโยชน์ ดื่มลงไป" ซินเหยาพูดอย่างดุ
ทำไมกิริยาท่าทางของหม่ามี๊มันไม่เหมือนกับตอนกินข้าวเมื้อกี้เลย เอาความอบอุ่นที่ไม่บังคับกินของที่ไม่ชอบเมื่อกี้กลับคืนมาเดี๋ยวนี้นะ
เข่อหลานเห็นว่าแผนแอ๊บแบ๊วอ้อนใสของเธอไม่ได้ผล จึงทำได้แค่ปิดจมูกและดื่มมันลงไป
ส่วนของลั่วหลิงต่างออกไป เมื่อดื่มนมหมดแก้วก็ปิดปากไว้ไม่พูดท่าทางไม่เต็มใจ
ถ้าเกิดรู้ว่าหม่ามี๊จะเป็นแบบนี้ เขาไม่น่าบอกหม่ามี๊เลยว่างานกีฬาสีเลื่อนออกไป
เมื่อเห็นลูกทั้งสองดื่มนมหมดแก้วอย่างเชื่อฟัง ซินเหยาก็ยิ้มออกมาด้วยความเปรมปรีดิ์ และจูบไปที่ใบหน้าอันอ่อนนุ่มของทั้งสอง และบอกให้เข้านอน
"ฮัลโล ฉีฉีนางฟ้าผู้เลอโฉมตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่คะ เธอไม่ได้ติดต่อกลับมานานแล้วนะ" ซินเหยาโทรหาฉีฉี
เหยียนฉีลำบากลำบนทุลักทุเลในการออกมาจากวงเหล้า ท่าทางดูเย็นชา และเห็นตัวหนังสือที่วิ่งอยู่บนมือถือคือชื่อของซินเหยา รับสายนั้นและพูดว่า : "มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ฉันยุ่งมากตอนนี้"
เมื่อได้ยินเสียงที่เย็นชาแทบจะเป็นน้ำเเข็งของเหยียนฉีแล้ว จึงรู้ว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยจอยนัก จึงได้พูดว่า : "คือฉันมีงานต้องไปต่างจังหวัดนิดหน่อย เพราะงั้นอยากให้เธอหาป้าแม่บ้านสักคนให้ฉันหน่อยเพื่อจะมาดูแลลูกน้อยของฉันสักระยะตอนฉันไม่อยู่"
MANGA DISCUSSION