ทั้งซินเหยาและลูกน้อยทั้งสองของเธอนั่งเข้าไปในรถคันอัลลิมิเต็ดนี้ของซวี่เจ๋อ กลิ่นอายของของหรูหราได้พัดกระทบมาที่ใบหน้าของพวกเขาเข้าอย่างจัง
"ลุงฟางคะ ลุงหล่อมากเลยค่ะ" เข่อหลานนั่งอยู่ในตำแหน่งข้างคนขับและหันไปมองซวี่เจ๋อด้วยความกล้าพร้อมพูดขึ้น
มุมปากของซวี่เจ๋อที่อมไว้ความอบอุ่นหลังจากที่ได้ยินเข่อหลานพูดใบหน้าก็เพิ่มความหล่อขึ้นและพูดกลับว่า : "ขอบใจคำชมของเข่อหลานนะครับ หนูก็น่ารักมากเหมือนกัน"
"หนูรู้ค่ะ หม่ามี๊ของหนูกับพี่ชายบอกว่าหนูเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในโลก" เข่อหลานพูดขึ้นด้วยความภูมิใจในความสวยของตนเอง
นี่เป็นลูกสาวของเธอหรอกหรอ? ทำไมหน้าหนาแบบนี้? เติบโตอยู่ที่ต่างประเทศนานจนลืมความอ่อนน้อมไปแล้วหรือไง
"ใช่เลย เข่อหลานเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในโลกเลยครับ" ซวี่เจ๋อพูด
"คุณลุงฟางคะ คุณลุงก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากๆเหมือกันค่ะ" เข่อหลานพูดปลอบใจซวี่เจ๋อ
"ทำไมถึงไม่เป็นคุณลุงที่หล่อที่สุดในโลกล่ะครับ" ซวี่เจ๋อพูดเหมือนมีความงอนผสมอยู่
"เพราะหนูเคยเห็นลุงคนหนึ่งที่หล่อเหมือนกันกับลุงฟางค่ะ" ที่จริงเข่อหลานรู้สึกว่าลุงคนนั้นหล่อกว่าซวี่เจ๋อเสียอีก อีกอย่างเธอชอบลุงคนนั้นมากกว่าด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเจอลุงคนนั้นเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะงั้นเธอจึงไม่รู้จักว่าลุงคนนั้นชื่ออะไร แต่อย่างไรเธอก็ชอบ
ซวี่เจ๋อและซินเหยาต่างก็ไปไม่เป็นกันทั้งสองฝ่าย
แม่เจ้า! ลูกสาวเธอ กลายเป็นหญิงเจ้าชู้แบบนี้ไปแล้วหรอ
ความเจ้าชู้นี่มันไม่แบ่งแยกอายุจริๆ
ลั่วหลิงไม่ปริปากอันใดออกมา เขารู้ว่าคนที่น้องสาวของตัวเองกำลังกล่าวถึงนั้นทุกคนบนรถนี้ล้วนรู้จักดี
นั่งอยู่บนรถหรูของซวี่เจ๋อแบบนี้ บวกกับที่ลูกน้อยเธอพูด มันทำให้เธอรู้สึกใจหวิวๆจริงๆ
อีกอย่างบวกกับวันนี้ที่ซวี่เจ๋อได้ช่วยเธอไว้ ถ้าเกิดเธอจากไปดื้อๆมันคงจะดูไม่ดีเอามาก
เพราะงั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะไปกินข้าวกับลูกๆของเธอและชวนซวี่เจ๋อไปด้วยกัน
สถานที่กินข้าวคือร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลี เธอเห็นชาวเน็ตแนะนำร้านนี้เอามาก ได้ยินมาว่าเนื้อเกรดดี ราคาน่ารัก อีกอย่างยังสะอาดอีกด้วยมันทำให้เธอไม่ต้องเสียเงินเยอะ และไม่ต้องรู้สึกอึดอัดอีกด้วย
ในส่วนของซวี่เจ๋อไม่ว่าจะกินที่ไหนก็ได้หมด ขอแค่ได้เห็นซินเหยา แม้กระทั้งซินเหยาชวนเขาไปกินหม่าล่าข้างทางเขาก็ยอม และอีกอย่างยังกินได้อย่างเอร็ดอร่อยด้วยนะ สิ่งสำคัญไม่ใช่กินอะไร แต่อยู่ที่ว่ากินกับใครมากกว่า
ซินเหยาคิดมาตลอดว่าอาหารข้างนอกค่อนข้างจะไม่ค่อยสะอาด อีกอย่างยังไม่ค่อยมีโภชนการ เพราะงั้นจึงไม่ค่อยที่จะได้พาลูกน้อยของเธอออกมากินบ่อยนัก เหตุนี้จึงทำให้เข่อหลานรู้สึกดีใจมากที่ได้ออกมากินข้าวด้านนอก
ในส่วนของลั่วหลิงก็ไม่ได้แสดงทีท่าดีใจอะไรออกมา เพราะเขาเป็นคนที่introvertแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
มีหมูสามชั้นสุดโปรด แต่จะมีแค่เนื้อไม่ได้ ซินเหยาจึงหยิบผักมาด้วย
ในจินตนาการมันสวยงามมาก แต่ความเป็นจริงและจินตนาการมันคนละเรื่องกันเลย
เธอมองไปที่เนื้อที่กำลังปิ้งอยู่บนเตาด้วยความสงสัยว่ามันสุกหรือยังไม่สุก?
เครื่องปรุงพวกนี้มันใส่ตอนแรก หรือก่อนจะสุกค่อยใส่กันนะ?
สุดท้ายตัดสินใจเนื้อสุก แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ เนื้อพวกนี้มันไหม้หมดแล้ว พอเอาเข้าปากก็มีแต่กลิ่นไหม้เต็มไปหมด
ขม……จัง……
เธอเป็นคนที่ค่อนข้างมีหัวฉลาดเลยนะ แต่ทำไมกับอีแค่ย่างเนื้อถึงทำไม่ได้?
มันเป็นเพียงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นแน่ๆ
เธอก็ได้ย่างไปอีกหลายชิ้น ถ้าไม่สุกทั่วถึงก็ไหม้เสียก่อน ถ้าไม่เค็มเกินก็ไร้รสชาติ
หึๆๆๆๆ…….คิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้หญิงที่ฉลาดอย่างเธอจะปิ้งเนื้อไม่เป็น
ในส่วนของลั่วหลิงก็ปิ้งสำเร็จไปหลายชิ้นแล้ว แต่ก็ตกไปในท้องของเข่อหลานซะเป็นส่วนใหญ่
ปากเล็กๆของเข่อหลานเต็มไปด้วยเนื้อ มันดูมันเยิ้มไปหมด
แก้มนูนป่องของเข่อหลานตอนนี้มันช่างน่ารักจริงๆ
ลูกชายกำลังปิ้งเนื้อให้ลูกสาว ไม่มีเวลาดูแลเธอ
เพราะงั้นซินเหยาจึงทำได้แค่พึ่งคนที่นั่งข้างๆถัดจากเธอให้มาช่วยแล้วแหละ เธอมองดูซวี่เจ๋อที่กำลังปิ้งเนื้อบนเตาอย่างชำนาญ
มือของเขาเรียวยาว กระดูกดูแข็งแรง ผิวกายที่ขาวเนียน
ลักษณะมือแบบนี้มันเหมาะกับการเล่นเปียโนมากเสียจริง มือที่สวยแบบนี้บวกกับลีลาที่บรรเลงวาดลงบนเปียโนมันช่างน่าหลงไหลเสียจริง ซินเหยารู้สึกเข่าทรุดหมดแล้ว
"เอื๊อก……" ซินเหยามองไปที่เนื้อที่ซวี่เจ๋อกำลังย่างอยู่และกลืนน้ำลายลงและพูดว่า : "เนื้อที่คุณปิ้งมันมันดูน่ากินมาก ไม่ทราบว่าฉันจะมีโอกาสไหมที่จะได้ชิมมัน"
หึ……เธอไม่มีวันพูดหรอกว่าเพราะเธอปิ้งเนื้อไม่เป็นถึงได้มาขอกิน
สีหน้าของซวี่เจ๋อดูตะลึงไปสักพัก แต่ยังรักษาความอบอุ่นที่แสดงออกมาอยู่โดยการผงกหัวรับ
เนื้อที่ซวี่เจ๋อปิ้งมันช่างน่ารับประทานจริงๆ แค่ได้กลิ่นก็ทำให้น้ำลายไหลได้แปดศอก
ซินเหยาใช้ตะเกียบหยิบเนื้อมาและนำมาวางไว้บนผักพร้อมนำเข้าปากของตัวเองด้วยความดีใจ
เนื้อที่ซวี่เจ๋อปิ้งแค่ดูภายนอกก็รู้สึกน่ากินจริงๆ
แค่……ภายนอก……จริงจริง…….
แม่เจ้า นี่มันรสชาติอะไรกันเนี่ย? มันรสาติแย่มากกว่าเนื้อที่เธอปิ้งเองเสียอีก มันรสชาติแย่จนหาคำมาเปรียบเทียบไม่ได้เบอร์นั้น
โดยปกติถ้าจะสรรหาคำมาบรรยายว่าสิ่งนี้ไม่อร่อย วิธีพูดที่ง่ายที่สุดก็คือ 'ให้ฉันตายดีกว่ากินสิ่งนี้เป็นครั้งที่สอง'
ซินเหยาคิดมาตลอดว่าคำว่า 'ให้ฉันตายดีกว่ากินสิ่งนี้เป็นครั้งที่สอง'เป็นแค่คำกล่าวเกินจริง แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้
เนื้อที่ซวี่เจ๋อปิ้งถ้าให้กินอีกเธอยอมตายแทนเสียจะดีกว่า
เพราะงั้นซวี่เจ๋อย่างเนื้อได้ไม่อร่อยขนาดนี้มันก็ทำให้ซินเหยาเข่าทรุดได้อีกเหมือนกัน
เพราะงั้นที่ผ่านมาเธอเข้าใจพระเจ้าผู้สร้างผิดมาโดยตลอด ความจริงพระเจ้าผู้สร้างล้วนมีความยุติธรรมทั้งสิ้น พระเจ้าให้ใบหน้าอันหล่อเหลาวัวตายควายล้มกับเขา แต่ในขณะเดียวกันพระเจ้าก็ได้ยึดพรสวรรค์ด้านอาหารของเขาไป
"รสชาติเป็นไงบ้าง? ซวี่เจ๋อถามด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย"
เธอจะยอมบอกซวี่เจ๋อหรอกหรอว่าเนื้อที่คุณปิ้งมามันเหมือนกับการกินกระเทียมและองุ่นพร้อมกัน? อีกอย่างเนื้อที่ปิ้งมามันยังไม่ค่อยสุก เกลือก็ไม่มีความพอดี คุณย่างเนื้อได้แย่ขนาดนี้ที่บ้านคุณรู้หรือป่าว? ที่ทำงานคุณรู้บ้างไหม?
"หึหึ…..รสชาติค่อนข้าง……ไม่เหมือนใคร"
อืม……มันไม่เหมือนใครจริงๆ……ไม่เหมือนใครตรงที่มันแย่มาก ซินเหยาเพียงพูดอยู่แต่ในใจ
คำทุกคำที่อยู่ข้างหลัง 'หึหึ' มันซ้อนความหมายร้อยแปดพันเก้า
"จริงหรอครับ? สายตาของซวี่เจ๋อกระพริบจ้าขึ้น พร้อมส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา"
ไม่ใช่……เพราะงั้นซวี่เจ๋อนายอย่าคิดว่าฉันพูดเรื่องจริง
นายเป็นคนฉลาด เพราะงั้นคงจะดูออกว่าสิ่งที่เธอพูดมันเหมายความว่าอย่างไร เนื้อที่นายปิ้งมามันมีพลังทำลายล้างสูงมากจริงๆ คนธรรมดาอย่างเธอไม่อาจจะรับไว้ได้
แต่ว่าอิทธิพลพลังความรักของซวี่เจ๋อที่มีต่อซินเหยามันได้กลบมิดความฉลาดของเขาไปหมดแล้ว ซวี่เจ๋อเชื่อจริงๆด้วย
เพราะงั้นความจริงไม่ใช่ว่าผู้หญิงเวลามีความรักจะหน้ามืดตามัว ผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรกัน เพราะงั้นในขณะเดียวกันมันก็พิสูจน์แล้วว่าซวี่เจ๋อได้วางมันไว้ในหัวใจของตัวเองอย่างหนักแน่นและถนอมค่าเป็นที่เรียบร้อย.
MANGA DISCUSSION