ความยืดหยุ่นของเตียงนั้นดีงามมากจริงๆ ถังซินเหยาราวกับลูกชิ้นที่เด้งดึ๋งอยู่บนเตียง
เธอคงต้องยกย่องป่าปี้หน่อยแล้ว สมแล้วที่เป็นคนมีอิทธิพล เตียงนี่มันดีจริงๆ?
ร่างสูงใหญ่และแข็งแรงของป่าปี้โน้มลงมากดทับตัวของถังซินเหยา
เธอมองหน้าอันหล่อเหลาทั้ง360องศาของเยี่ยจิงเฉินที่อยู่ในระยะประชันชิด ทำให้ถังซินเหยารู้สึกว่าหายใจไม่ทั่วท้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวของเธอ
ที่ใจเธอเต้นแรงแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอตกหลุมรักป่าปี้หรอกนะ
แต่ทำไมอัตราการเต้นของเธอต้องเพิ่มความเร็วขึ้นล่ะ ——
แม่เจ้า เธอกำลังจะถูกทำมิดีไม่ร้ายแล้วไง ใจก็ต้องเต้นแรงอยู่แล้วสิ (การอธิบายแบบนี้รู้สึกขาดความมั่นใจจังแฮะ)
เธอยื่นมือไปสัมผัสกับหน้าอกแกร่งของเยี่ยจิงเฉินและเม้มริมฝีปาก พร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : "ประธานเยี่ยคะ ไม่หยุดได้ค่ะ"
เยี่ยจิงเฉินรวมมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว พร้อมกับอีกมือที่ปลดเนคไทที่คอของตัวเองออก และจัดการฉีกเสื้อเชิ้ตของเขาออกอย่างร้อนแรงทำให้เห็นกล้ามเนื้อที่สวยงามและแปดแพ็คของคนสุขภาพดีและสมบูรณ์อย่างเยี่ยจิงเฉิน
"เธอคิดว่าฉันจะหยุดได้หรอ?" เยี่ยจิงเฉินฝังใบหน้าของตัวเองลงไปที่ซอกคอของเธอพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างของถังซินเหยา
ถังซินเหยาที่เห็นแปดแพ็คของเยี่ยจิงเฉินถึงกับน้ำลายไหล
หุ่นของป่าปี้ดีจริงๆ ตอนใส่เสื้อผ้าดูผอม ตอนถอดเสื้อผ้าก็มีกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อของเขามันไม่ได้โอเวอร์เลย ร่างกายสวยงามน่าหลงไหลที่ครอบคลุมกระดูกองเขานั้นดูดีกว่าพวกนักเพาะกายเสียอีก
ถังซินเหยาถึงกับสายตาพร่ามัวไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่กล้าจะมองต่อ
"แล้วถ้าฉันเกิดส่งเสียงดังขึ้นมาล่ะคะ ถ้าร้องเรียกให้คนช่วยจะไม่มีใครมาเลยหรอ?" ถังซินเหยาโค้งริมฝีปาก มองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับถาม
"นี่มันห้องทำงานประธานนะ กระจกห้องเป็นกระจกสั่งทำพิเศษ เก็บเสียงได้ดีมากอยู่แล้ว" สายตาของเขาหยอกล้อกับคำพูดที่มีไหวพริบของเธอ "ดังนั้นไม่ว่าเธอจะร้องจนเสียงหลงก็คงมาช่วยคเธอไม่ได้หรอก"
ป่าปี้ ป่าปี้จะซื่อไปแล้วนะ คิดว่าเธอจะร้องจนเสียงหลงเพื่อให้คนมาช่วยอย่างงั้นหรอ?
เยี่ยจิงเฉินยื่นลิ้นของเขาละเลงลงบนไหปลาร้าอันบอบบางของถังซินเหยา เสียงครวญครางถูกพ่นออกมาจากปากของเธอ เสียงของเธอช่างประจบประแจงราวกับเสียงร้องเรียกของแมวน้อยที่เผยให้ถึงความต้องการในตอนนี้
หน้าของถังซินเหยาแดงระเรื่อ เธอแทบจะไม่เชื่อว่านี่คือเสียงที่เธอครวญครางออกมาเอง
เสียงครางของเธอนั้น สามารถไปเป็นพากย์เสียนักแสดงAVของญี่ปุ่นได้เลยนะเนี่ย
เยี่ยจิงเฉินที่ถูกปลุกเร้าอารมร์ด้วยเสียงครวญครางของถังซินเหยาทำให้ร่างกายของเขาร้อนขึ้นมา
"นี่เธอยั่วฉันหรอ? เธอหาเรื่องให้ตัวเองเองนะ" เยี่ยจิงเฉินเลื่อนมือของเขาเข้าไปใต้ร่มผ้าของถังซินเหยาด้วยสัมผัสที่แปลกประหลาดพร้อมกับลูบวนเบาๆบนผิวเนื้อเนียนของถังซินเหยา
ให้ตายเถอะ ไหปลาร้าเป็นจุดอ่อนไหวที่สุดของเธอ
ถ้าเกิดผู้ชายที่หล่อเหลาและชั่วร้ายคนนึงมาทำแบบนี้กับคุณ ลวนลามคุณสาระพัด มันไม่ใช่ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบกลับเสียทุกคนมั้ย
มือของเยี่ยจิงเฉินสัมผัสอยู่ตรงเนินหน้าอกของเธอ ถังซินเหยาถึงกับอ้าปากค้าง
พระเจ้า มือคุณน่ะอย่ากดไปมั่วซั่วได้มั้ย มันจะทำให้หน้าแบนได้นะ
เธอยกมือไปฟาดมือของเยี่ยจิงเฉินที่ปนเปลอกับหน้าอกของเธอพร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงแจ๋ของเธอว่า : "ประธานเยี่ยคะ คุณอย่าเมามัวกับมันเกินไปสิคะ เดี๋ยวนี้ประเทศเราตรวจจับการทำอนาจารนะคะ ตั้งแต่ส่วนคอลงไปล้วนแต่จะทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้ ฉันไม่อยากให้ประธานที่หล่อเหลาอย่างคุณขืนใจ (ต้องหิวกระหายขนาดไหนแม้แต่ประตูยังไม่ปราณีเลย?) แล้วถูกเชิญไปเข้าห้องดำแล้วเข้าฉากภาพยนตร์เรื่องเดือด2เดือดนะคะ"
ป่าปี้พูดด้วยความก้าวร้าว : "ในเมืองบีนี้ยังไม่มีใครทำแบบนั้นกับฉันหรอกนะ"
เธออยากจะกดไลค์ให้ป่าปี้สักสามสิบสองไลค์เลยล่ะ บ้าอำนาจเกินไปแล้ว เธอน่ะหมดหนทางจะแขวะจริงๆ
แต่ว่า…
เธอกลัวน่ะสิ
ภาพยนตร์เรื่องเลือด2เลือดยังขาดนักแสดงหญิงอยู่หนึ่งอัตรา แต่เธอไม่ได้อยากเป็นนักแสดงหรอกนะ ทำไปก็ไม่มีประโยชน์
เยี่ยจิงเฉินปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของถังซินเหยาออก ถังซินเหยาถึงกับรู้สึกถึงความเย็กที่หน้าอกของตัวเอง เสื้อผ้าของเธอถูกเปลื้องออกไปแล้วกว่าครึ่งท่อนในตอนนี้
ให้ตายเถอะ การเคลื่อนไหวของป่าปี้เร็วมาก
"ตอนนี้เป็นเวลางานนะคะ หยุดเถอะค่ะ" ถังซินเหยาบิดตัวและดินสู้เล็กน้อย
จนถูกเยี่ยจิงเฉินกดเธอลงไปอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่นิ่งว่า : "นี่ไงงาน"
ถังซินเหยาและเพื่อนของเธอถึงกับตะลึง หลี่เวยไม่เคยบอกเธอนี่ว่าเป็นเลขาจะต้องXXOOกับเจ้านายด้วย
"ประธานเยี่ยคะ ฉันเรียนมาน้อย คุณอย่าหลอกฉันนะคะ เป็นเลขาจะต้องทำเรื่องบนเตีบยงกับเจ้านายด้วยหรอคะ?"ถังซินเหยาถามด้วยความประหลาดใจ
"นี่เธอไม่รู้หรอ?"
"ฉันคิดมาตลอดว่ามันเป็นแค่เรื่องซุบซิบและเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดของคนอื่นที่เกี่ยวกับอาชีพเลขาน่ะค่ะ"
"ตอนนี้รู้แล้วก็เป็นเด็กดีหน่อยสิ" ตอนนี้เยี่ยจิงเฉินลูบหัวถังซินเหยาราวกับว่าเธอเป็นลูกหมาสัตว์เลี้ยงของเขาพร้อมกับน้ำเสียงที่อบอุ่นของเขา
ถ้าอย่างงั้นหลี่เวยกับเยี่ยจิงเฉินก็…….
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาถังซินเหยาไม่ใช่คนที่นิสัยไม่ดีแต่อย่างไร แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของป่าปี้ใจของเธอก็ราวกับถูกปิดกั้นโดยหาสาเหตุไม่ได้
"ฉันขอถอนคำพูดค่ะ ฉันจะไม่ทำงานแทนคุณหลี่เวยแล้ว คุณปล่อยมือของคุณด้วยค่ะ" ถังซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดความสนใจ
"หยุดพูดแล้วก็ฟังฉัน" เยี่ยจิงเฉินปลอบโลมเธอำพร้อมกับกดจูบไปที่มุมปากของเธอ
ถังซินเหยาเริ่มรู้สึกอึดอัดและเธอก็เริ่มขัดขืน
สีหน้าของเยี่ยจิงเฉินเองก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา เขายู่หน้าพร้อมกับมองไปที่ถังซินเหยาด้วยสายตาดุเดือด ทำให้คนอื่นกดดันจนหน้ากลัว
ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ถังซินเหยาคงยอมจำนนต่อจิตสำนึกที่ถูกครอบงำของเยี่ยจิงเฉินไปแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าวันนี้มันเป็นเพราะอะไร ด้วยความเคารพตัวเองของเธอถึงได้ขัดขืนและแสดงการกระทำที่โตแล้วของเธอออกมา พร้อมกับพูดกับเยี่ยจิงเฉินด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้ว่า : "ประธานเยี่ยคะ ฉันเป็นดีไซน์เนอร์จากบริษัทCKนะคะ ถ้าหากคุณยังล่วงเกินฉันอีก ฉันจะพิจารณาเรื่องสัญญาใหม่ค่ะ"
เยี่ยจิงเฉินบีบคางถังซินเหยาด้วยสีหน้าตึง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "อย่ามาจองหองให้มันมากนักนะ ความอดทนฉันมันมีจำกัด"
ก็แล้วยังไง จองหองแล้วยังไง
ต้องพูดอย่างงี้ต่างหากถึงจะถูก : ป่าปี้ ทางที่ดีคุณไม่ควรเอากุ้งฝอยไปตกปลากระพงนะ
เธอรู้สึกว่ากระดูกคางของเธอกำลังจะถูกบดขยี้จนแตก เธอขมวดคิ้ว : "ประธานเยี่ยก็จองหองเหมือนกันนั่นแหละค่ะ"
เยี่ยจิงเฉินมองไปที่คิ้วของถังซินเหยาที่ขมวดอยู่ มือของเขาที่บีบคางของเธอก็ปล่อยออกอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าแก้มของเธอขึ้นสีแดงเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
แต่เขากลับไม่กล้าที่จะง้อเธอ
ความโกรธทำให้เขาทำตัวหยาบคายกับถังซินเหยาลงไป และเขาก็โกรธเช่นกันที่ถังซินเหยาที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จะโกรธก็โกรธซะอย่างนั้น
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นแล้วกล้าทำแบบนี้กับเขาล่ะก็ เขาคงจะจัดการกับเธอคนนั้นไปแล้ว
แต่กับผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างของเขาตอนนี้กลับทำให้เขาแสดงด้านที่นุ่มนวลที่สุดของเขาต่อเธอ ไม่อยากให้เธอต้องทุกข์เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เห็นว่าเธอขมวดคิ้วเท่านั้นก็สามารถส่งผลหัวใจของเขาได้แล้ว ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ผิวบริเวณของเธอที่โดนเขาบีบจนแดงแจ๋ ก็ทำให้ใจของเขาสั่นไหวได้
ถังซินเหยาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกันว่าทำไมวันนี้เธอเหมือนกับกินยาใจร้อนเข้าไปหรืออย่างไร อารมณ์ของเธอถึงได้หงุดหงิดเช่นนี้
เธอไม่รู้เลยว่าทำไมสีหน้าที่นิ่งที่สับสนของเยี่ยจิงเฉิน แค่เห็นสายตาที่คาดเดาไม่ได้ของเขาก็ทำให้เธอหัวร้อนขึ้นมาได้
ช่วงนี้เธอมักจะโดนเยี่ยจิงเฉินกดอยู่บ่อยๆจะทำให้ความอดทนของเธอก็ได้สิ้นสุดตอนนี้แล้ว
"ฉันจะถามอีกรอบนะคะ คุณจะปล่อยฉันมั้ย" ถังซินเหยายกยิ้มขึ้น ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มที่สวยหวาน แก้มบนแก้มของเธอ
MANGA DISCUSSION