< < 64 > >
หนิงได้เผชิญหน้ากับผู้อ้างตนว่าเป็นมหามังกรเทียม ขณะนี้เองมหามังกรเทียมตรงหน้าก็ได้สวมใส่อาภรณณ์เทพมังกรอย่าง [นารุคามิ] ซึ่งหนิงที่เป็นของแท้ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าอาภรณ์ที่ว่าคืออะไร
ถึงกระนั้นหนิงก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างไร
“เกริ่นก่อนสู้ล่ะกัน ฉันชื่อ ‘ปีเตอร์’”
“ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย หลีกไป”
หนิงพึมพำอย่างเย็นชาและเดินเข้าหาปีเตอร์โดยไม่หวั่นเกรงพลังที่มหาศาลทัดเทียมมหามังกร
“ก็ได้ๆ จะหลบทางให้ก็ได้ แล้วแกจะไปช่วยใครล่ะ”
“..คนรัก..ไม่ใช่ ยังไม่ถึงขั้นนั้น”
จู่ๆหนิงก็หน้าแดงแจ๋ขัดกับบรรยากาศ
“เป็นพี่สาวที่อยู่ในวัยคลั่งรักนี่เอง จะไปช่วยแฟนหนุ่มเรอะ”
“..หลีกไปได้แล้ว”
หนิงไม่พูดตอบอะไรทั้งนั้น เธอเขินหนักถึงขั้นไม่กล้าพร่ำอะไรไปมากกว่านี้ ปีเตอร์ไม่ใช่พวกชอบจี้จุดชาวบ้านด้วยเลยปล่อยไป
“ถ้านั้นคนอื่นๆนอกจากคนรักของพี่สาว อย่างพวกคนในโรงเรียน พวกเราจะฆ่าทิ้งให้หมดล่ะกันนะ”
จังหวะนั้นหนิงก็หยุดเดิน เธอหันกลับไปมองปีเตอร์ด้วยดวงตาที่ดูน่ากลัว
“..ไอ้พ่อเวรนั่นเคยบอกไว้ว่ามหามังกรของแท้ไร้หัวใจ แต่น่าเสียดายแฮะ ที่เหมือนจะไม่ใช่น่ะ—ว่าแล้วเชียว พวกเราคือตัวตนที่สมบูรณ์เสียยิ่งกว่าของแท้อย่างพวกแก”
“ของแท้ของปลอมอะไรพวกนั้น น่ารำคาญ แกเองด้วย น่ารำคาญ”
หนิงเดินกลับมาหาปีเตอร์ราวกับข่มกัน เธอยกแขกและพุ่งเข้าใส่ปีเตอร์
“–ให้ได้แบบนี้สิ!!!!”
ปีเตอร์ตอบรับการโจมตีของหนิงด้วยการใช้หมัดรับ—สายฟ้าและเพลิงของมหามังกรพุ่งเข้าใส่กันจนเกิดเสียงสีผสมวูบขึ้น
เพียงการปะทะแค่ครั้งเดียวบ้านผู้คนก็พากันถล่มระนาว
ทั้งสองปะทะกันต่ออีกเป็นสิบๆครั้งโดยไม่มีการยั้งแรงหรือระงับความเสียดายรอบๆ นั่นทำให้ตัวเมืองบริเวณที่หนิงและปีเตอร์สู้กันเป็นหลุมเหมือนอุกาบาติพุ่งชน
การสู้ของมหามังกรไม่มีใครได้รับบาดแผล เพราะพลังการรักษาที่ดีที่สุดบนโลก ทำให้ไม่ว่าจะตัวขาดหนังถลอกหรือถูกชิงหัวใจไป เพียงกระพริบตาต่อไป ร่างกายจะกลับมาเหมือนเดิมดั่งไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
ปีเตอร์เรียกตัวเองว่าของปลอมแท้ๆแต่คุณสมบัติทั้งหมดไม่ต่างกับของแท้เลย จริงๆแล้วอาจจะยอดเยี่ยมการด้วยซ้ำ เพราะ [อาภรณ์เทพมังกร] ที่สวมใส่นั่น ทำให้พลังกายและการปลดปล่อยพลังธาตุมันเร็วและแรงกว่าหนิงชนิดทาบไม่ติด
หากการต่อสู้นี้ไม่มีฟื้นฟูร่างกาย หนิงน่าจะตายไปเป็นสิบครั้งแล้ว
ปีเตอร์เตะหนิงจนกระเด็นและอัดสายฟ้าเข้าใส่ร่างหนิงจนตายไปหลายรอบ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! ไม่เอาจริงกว่านี้โค่นฉันไม่ได้หรอกนะ พี่สาวมหามังกร!!”
ปีเตอร์สะบัดหางที่เป็นส่วนหนึ่งของอาภรณ์เทพมังกรใส่แขนของหนิงจะขาด และสายฟ้าก็เข้าไปขัดการทำงานร่างกายของหนิงจนขยับไม่ได้ ปีเตอร์ใช้ปีกปล่อยสายฟ้าอัดใส่รัวๆก่อนจะใช้หมัดขยี้ร่างของหนิง—จากนั้นไม่นานหนิงก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยสภาพร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือด
“อึก—-!”
หนิงใช้เพลิงของมหามังกรอัดใส่กลางตัวปีเตอร์ ทว่ามันก็ถูกปัดออกด้วยการหักล้างกับสายฟ้าของปีเตอร์
พลังนั้นทัดเทียมกัน การต่อสู้ของทั้งสองเหมือนวัดกันว่าใครจะอัดเข้าการป้องกันอีกฝ่ายได้ก่อน ซึ่งจุดนี้ปีเตอร์นำหนิงขาด อย่างที่กล่าวไว้ว่าทั้งพลังความเร็วของปีเตอร์มันเหนือกว่าหนิงมาก
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนิงยังไม่ได้เอาจริง ..แต่ถ้าเอาจริง สติปรัชญาชัญญะของหนิงจะหายไป เธอจะกลายเป็นแค่มังกรคลั่งไร้สติเท่านั้น มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่หนิงไม่ต้องการ เธอเลยดันทุรังสู้อย่างเสียเปรียบต่อ
“เอาจริงได้แล้วน่า! ฉันยังไม่ได้ลิ้มรสพลังที่แท้จริงของมหามังกรที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดเลยนะเห้ย!!”
ปีเตอร์อัดร่างหนิงจนเหยินครั้งแล้วครั้งเล่า
“มัวลังเลอะไรเล่า!”
“–ถ้าเอาจริง เมืองนี้ได้พังแน่”
“แล้วจะไปแคร์อะไรล่ะพี่สาว!”
ปีเตอร์เตะหนิงลงพื้นและใช้สายฟ้ากดร่างเธอไว้กับพื้น หนิงดิ้นสุดแรงแต่มีแรงกายไม่พอจะสลัด แม้จะเป็นอมตะขั้นสุด แต่ความเหนื่อยล้าก็ใช่ว่าจะหายไป กับหนิงที่เป็นแค่ร่างสถิตของพลังชั่วคราวแล้วด้วยยิ่งแล้วใหญ่
“พี่สาวเนี่ยโง่จังนะ”
ปีเตอร์ลงมายืนกับพื้น และมองหนิงจากที่สูงกว่า
“ถ้าเอาจริงแล้วเมืองจะพัง? ไปแคร์ทำไมเล่า ถ้าไม่รีบผละตัวออกจากการต่อสู้นี้โดยเร็ว คนที่พี่สาวอยากปกป้องได้ตายแน่ๆนะรู้เปล่า”
“..ว่าไงนะ”
หนิงหน้าซีกเผือก ปีเตอร์เห็นเช่นนั้นก็ดีใจ
“รู้สึกจะชื่อ ‘ยุจิ’ ใช่มั้ย คนคนนั้นได้ตายแน่นะ เป้าหมายหลักของพวกเราเป็นวิทยาลัยเวทมนตร์นะ
“ทราบแล้วก็เอาจริงได้แล้ว อยากปกป้องคนรักไม่ใช่รึไง ขืนยังฝืนไม่เอาจริง ระวังจะสายเกินไปนะพี่สาว”
หนิงเงียบไป เธอครุ่นคิดกับตัวเอง
เพราะเธอควบคุมพลังไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเธอใส่สุดแรง คนทั้งเมืองได้พันชีวิตได้ตายแน่จากสะเก็ดเพลิงของเธอ พลังของหนิงมันมากขนาดนี้เลยแหละ
แต่ว่า ..เกิดหนิงลงมือทำ เธอต้องถูกโกรธแน่ โดยยูจิ หรือเรเซอร์ หรืออีกหลายๆคน
นอกเหนือกว่านั้น เธอคงจะโกรธตัวเองด้วย
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่หนิงแคร์อย่างอื่นนอกจากยูจิ เธอแคร์หลายสิ่งในเมืองนี้ เธอรักที่แข่งกินจุ เธอรักกรรมการแข่งกินจุ เธอรักผู้จัดงานแข่งกินจุ นับถือคู่แข่งกินจุหลายๆคน รักเมืองนี้ที่มีอาหารมากมายให้เธอ
เมืองนี้มีการแข่งกินจุที่เธอชอบมากมาย มีคนที่ผ่านมาผ่านไป ทั้งชอบและไม่ชอบเธอเป็นประจำ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าเธอสนุกกับทุกอย่าง
แรกเริ่มหนิงแค่กินถั่วงอกให้มากที่สุด ต่อมาก็ถูกเรเซอร์และเคียวยะพาไปงานกินจุ พอชนะได้ก็โดนลากไปนู่นไปนี่อยู่บ่อยๆจนได้ฉายา ‘เดรสทอยเยอร์ หนิง’ มา นี่คือความภาคภูมิใจแรกของเธอในชีวิต
ต่อมาเธอก็เดินทางสายกินจุ เจอผู้คนมากมาย รู้จักอาหารนานาชนิดรอบตัว ..พักนี้เองก็เริ่มทำอาหาร เริ่มอยากมีร้านอาหารเล็กๆเป็นของตัวเอง เธอเริ่มอยากแบ่งปันความสุขจากการกินแสนอร่อยของตัวเองให้ผู้อื่นบ้างแล้ว
ถัดมาหนิงก็ยื่นใบลาออกจากการเป็นประธานนักเรียน เพราะเธออยากลองชิมอาหารและฝึกให้มากกว่านี้ ถึงจะโดนหลายคนถ้วงไม่ได้ออก แต่หลายคนก็สนับสนุนให้เธอออก
อย่างยูจิที่ช่วยพูดสนับสนุนให้เธอออกจากตำแหน่งที่ไม่ต้องการ ..แม้หลายคนจะขี้บ่นแต่ก็ไม่ได้อะไรมากกัน ไอริสยิ่งตัวดี ยัยนั่นหาเรื่องจะให้เธอออกให้ได้ ดูเหมือนเจตนาไม่ดี แต่—เธอตั้งใจมอบช่วงเวลาเล็กๆในชีวิตให้เธอ
หนิงรู้แล้วว่าอยากทำอะไร ต่อให้มันจะเป็นไปไม่ได้เพราะสายเลือดมังกรที่แสนสั้น แต่เธอก็อยากจะทำสุดแรงในช่วงเวลาสั้นๆของตัวเอง มากสุดเธออยู่ได้อีกแค่ สี่หรือห้าปี และต้องมีลูกและตายในที่สุด
สุดท้ายเธอจึงรักทุกอย่างรอบตัว ที่ทำให้เวลาสั้นๆของเธอนั้นมีค่า
เธอรักยูจิที่มอบรอยยิ้มให้เธอในวัยเด็ก รักเรเซอร์ที่ถึงแม้จะลืมเธอ แต่ก็เป็นคนสำคัญในการช่วยเหลือเธอ และพาเธอสู้ความสุข รักเคียวยะที่ชอบบ่นแต่ก็หางานกินจุมาให้เธอเสมอ รักไอริสที่แม้จะวางตัวเป็นอริกับเธอ แต่ก็ช่วยเธออยู่ลับๆประจำ
อีกหลายๆคนด้วย เบลลามี โซเฟีย เรย์ กอรี่ ทั้งหมดมีพระคุณกับเธอมากโดยที่เธอไม่รู้ตัว–แต่เธอพึ่งมารู้ตอนนี้นี่แหละ ว่าทุกอย่างคือสิ่งที่เธอต้องแคร์และปกป้อง
จะทำลายไม่ได้เด็ดขาด แต่ถ้าไม่ทำลาย คนที่เธอแคร์ทั้งหมดก็อาจจะตายตามที่ปีเตอร์ว่า
หนิงไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง หัวของเธอมึนไปหมด มาดประธานนักเรียนผู้องอาจได้จางหายไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
ปีเตอร์ตกใจ เขาเบิกตาโพลงกว้าง ในขณะที่กำลังจพูดอะไรออกไป เสียงเตือนก็ดังขึ้นปลายหูของปีเตอร์ เขาสัมผัสหูของตัวเองเพื่อรับฟังข้อความ …ไม่กี่วิที่ได้ยิน ปีเตอร์ก็หน้าซักเผือกแล้วหันหน้าไปทางทิศใต้ของตัวเอง
“—-สโนว์!!!!!”
‘สโนว์’ นี่คือชื่อของมหามังกรเทียมอีกคน ผู้สวมใส่อาภรณ์เทพมังกร [ยูกิคามิ] หรือคนที่กำลังสู้อยู่กับ ‘เรเซอร์ ดราแคล์’ นั่นเอง
****
“พวกของปลอมก็เป็นแค่ของปลอม แกเทียบไม่ได้กับบมหามังกรของจริงเลยสักนิด”
ผมชี้นิ้วด่ามหามังกรเทียมสีขาวตรงหน้า
“ว่ากันว่ามหามังกรไม่ต้องกินอาหาร แต่พวกแกมหามังกรเทียมคงต้องกินสินะ เพราะเป็นแค่เอลฟ์ สิ่งมีชีวิตเซ็กส์จัด”
ขอประทานโทษเอลฟ์ทั่วโลกจากข้อมูลผิดๆของกระผม แต่ทั้งหมดที่กล่าวออกมาคือผมต้องการพูดจายั่วอีกฝ่ายให้มากๆ ไม่ได้มีความประสงค์ดูถูกเผ่าพันธ์พวกคุณแต่อย่างไร โปรดเข้าใจผมด้วย
“ค่ะ พวกเรากินอาหารเหมือนคนปกติ เพราะจำเป็นต้องใช้พลังงาน ต่างกับมหามังกรที่ตัวตนคือมหามังกรอยู่แล้ว นี่คือหนึ่งในความแตกต่างระหว่างของแท้กับของเทียม”
หล่อนตอบตามตรงด้วยวุฒิภาวะที่สวนทางกับสภาพร่าง อีกอย่างที่ตอบมากก็ไม่ค่อยอยากเชื่อด้วย เพราะดูเป็นมิตรไปหน่อย
“กลับบ้านไปดูดนมแม่ไปพวกแกน่ะ สู้กับฉันคนนี้มีแต่จะเสียสารอาหารแล้วปวดท้องร้องโดยไม่จำเป็นนา”
“ค่ะ เรื่องนั้นว่าจะทำหลังทำงานเสร็จ อีกอย่างฉันไม่มีแม่หรอกนะ”
รู้สึกผิดแฮะ แต่ช่วยไม่ได้
“อ่อเรอะ กระจอกๆอย่างแกมาขวางฉันไว้บอกเลยว่าไม่คุ้มค่าแรงหรอก ไสหัวไปซะ”
หากมองจากภายนอก ทุกท่านน่าจะเห็นแค่ภาพของวัยรุ่นปากหมาอวดเบ่งไร้การศึกษากับเด็กน้อยดูฉลาดมีการศึกษาแหงๆ
“ค่าแรงเป็นแค่ปัจจัยภายนอก มันเป็นหน้าที่ค่ะ”
หน้าที่เอย จำเป็นต้องเติมพลังงานต่างกับมหามังกรเอย ทั้งหมดผมชักจะประติดประต่อได้แล้วสิ ในเมื่อหล่อนตอบตามตรงทั้งหมดแบบนี้ ..มีเป้าหมายอะไรบางอย่างแน่ๆ
“หน้าที่ที่ว่าคือ”
“ถ่วงเวลาคุณไม่ให้ไปวิทยาลัยเวทมนตร์ค่ะ”
แบบนี้นี่เอง
ต้องรีบแข่งกับเวลาแล้วสิเรา ไปช้ากว่านี้ได้ซวยแน่
จริงๆก็อยากเก็บข้อมูลให้มากกว่านี้อยู่หรอก แต่ แต่ แต่ ในหัวมีแต่ ‘แต่’ ไปหมด นี่แหละชีวิตเรา จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องมี ‘แต่’ คอยยับยั้งความคิดไว้ตลอด
พับผ่าสิ
“เอาเถอะ ตลอดการพูดคุยก็ช่วยทางนี้ได้มากเลย ขอบใจมาก ของเทียม”
ผมพูดโดยจงใจเรียกอีกฝ่ายว่าของเทียม ทางเอลฟ์ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเหมือนเดิม
“ด้วยความยินดีค่ะ”
เด็กสาวยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเรากำลังสู้กันแบบเอาตายไปข้าง
‘มาสเตอร์ทีแผนอะไรหรือเปล่าคะ’
มีสิ แผนทายหัวก้อยครั้งใหญ่ด้วย
‘แผนเสี่ยงดวงสินะคะ’
อ่า—ถ้าเป็นไปตามที่คิด จากนี้อีกหนึ่งนาที ฉันคือผู้ชนะ
‘เข้าใจแล้วคะ แผนการณ์ที่ว่า?’
ผมแสยะยิ้มและบอกยูนาในใจทั้งหมด–พร้อมกับปลดปล่อยการตัดมิติสุดแรงเกิด
รอยแยกมิติเกิดขึ้นรอบตัวผม และรอบตัวศัตรูจนเกิดเป็นบล็อคสี่เหลี่ยมขนาด 8×8ตารางเมตร ขึ้น
คู่ต่อสู้ของผมแปลกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะปลดปล่อยน้ำแข็งออกจากร่าง เพราะอาณาเขตุเล็กลงด้วยทำให้เธอสามารถขยายขอบเขตุน้ำแข็งของตัวเองให้ทั่วห้องสี่เหลี่ยม 8×8 ตารางเมตรแห่งนี้ได้
มองในทางกลับกันที่ผมทำมันเหมือนการฆ่าตัวตาย แต่ก็นั่นแหละที่เรียกว่าแผนเสี่ยงดวง
เอาเถอะ ตั้งแต่แรก ทางผมก็เสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ต้องสู้ชนะตัวตนระดับมหามังกรให้ได้โดยเร็วที่สุด ภายใต้เงื่อนไขนี้การชนะโดยไม่เสี่ยงหรือบาดเจ็บเลยเป็นเรื่องยาก จะบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันยังได้เลย เพราะผมไม่ได้เก่งเกินกว่ามหามังกรหรือใครๆนัก
อยากร้องว่าให้สู้กันแบบแฟร์ๆชะมัด
การจู่โจมครั้งนี้จึงเหมือนการแลกดาบเสี่ยงตายครั้งสุดท้ายในศึกนี้ของผม—ถ้าเป็นไปตามคาดผู้ชนะคือผมอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าไม่ใช่ ผมจะแพ้และตายโดยเร็ว
แค่นั้นแหละ
“ยูนา!!!!!!”
‘รับทราบ!!!!’
ยูนาและผมประสานเสียง ปลดปล่อยมานาขั้นสุดของตัวเองออกมา รอบๆตัวเกิดรอยแยกมิติขึ้นนับไม่ถ้วนภายในห้องสี่เหลี่ยม คู่ต่อสู้ของผมเธอถึงกับตกใจและรีบใช้น้ำแข็งยับยั้งการโจมตีที่จะลามมาถึงเธอ–ความเมพของศัตรูคือน้ำแข็งที่สามารถหยุดได้ทุกสรรพสิ่ง แม้แต่การตัดมิติก็ไม่อาจไม่ถึงตัวเธอได้
การสู้กับเธอคือเรื่องตึงมือและเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยง ขอบเขตุพลังของเธอมันเอาเปรียบมนุษย์ทั่วๆไปอย่างผม หรือกระทั่งยูนาเองก็คิดว่าไม่แฟร์เลย กับคู่ต่อสู้ที่ไม่ใช่มนุษย์น่ะ ไม่แฟร์เลยสักนิด
แต่เพราะผมมียูนาอยู่ การต่อสู้นี้เลยไม่ได้มีแค่แพ้อย่างเดียว ผมสามารถชนะได้ดั่งภาพที่ปรากฏข้างต้น
—-เอ๊ะ
เสียงได้ดังขึ้นพร้อมกับอาภรณ์เทพมังกรหิมะได้สลายไปเหมือนกับระเหย
ร่างของเอลฟ์สาวตรงหน้ากลับมาเป็นดั่งตอนแรก ก่อนที่จะเปิดใช้งาน [อาภรณ์เทพมังกร]
คู่ต่อสู้สุดแกร่งหันซ้ายหันขวาไปมา เธอสัมผัสร่างตัวเอง และพยายามจะเรียกอาภรณ์เทพมังกรออกมาอีกซ้ำๆ แต่ก็ไม่เกิดผม
“..เกิดอะไรขึ้นกัน”
เธอถามผมด้วยแววตาที่เหนือคาดหมาย เป็นครั้งแรกที่การต่อสู้นี้มันเหนือความคิดอีกฝ่าย
ผมที่เวลานี้หายใจหอบได้ตอบกลับอีกฝ่ายด้วยคำเสียงที่สั่นจากการเร่งการตัดมิติซ็ำเป็นร้อยๆครั้ง
“..มิติ..มิติเวลาถูกสะบั้นทิ้งไปแล้ว”
คู่ต่อสู้ผมนิ่งไป เธอเหมือนจะเข้าใจบางอย่างได้ทันทีที่ผมพูด
สมกับเป็นเอลฟ์ที่ดูฉลาดกว่าผมมาก เข้าใจทุกอย่างได้โดยเร็วดี
“อย่าบอกนะว่า สี่เหลี่ยมนี่” เธอพูดพลางจับที่สี่เหลือม 8×8 ตารางเมตรของผม “นี่คือเครื่องมือในการชนะสินะ”
กล่าวจบเธอก็ถอนหายใจเหมือนกับทำใจ
ตรงตามนั้นเลย
ผมสร้างมิติสี่เหลี่ยมขึ้นมา โดยการตัดมิติซ้ำของยูนา จากนั้นเมื่อเกิดมิตินี้ขึ้นมันก็คือ ‘โลกของผม’ โลกที่แยกออกจากโลกภายนอก โลกที่การตัดมิติสามารถส่งไปถึงได้ทั่วโลก 8×8ตารางเมตร
ให้อธิบายโดยย่อก็คือ ผมสร้างมิติ 8×8 ขึ้นมา และตัดเวลาในมิตินี้—ข้ามเวลานั้นแหละ เหมือนเร่งเวลาจาก 10 โมงไปเป็น 11 โมง ผมทำการสะบั้นเวลาในมิติที่สร้างขึ้นจากเบาะแสคำพูดของหล่อนที่กล่าวไว้ว่า
‘ค่ะ พวกเรากินอาหารเหมือนคนปกติ เพราะจำเป็นต้องใช้พลังงาน ต่างกับมหามังกรที่ตัวตนคือมหามังกรอยู่แล้ว นี่คือหนึ่งในความแตกต่างระหว่างของแท้กับของเทียม’
มหามังกรเทียมมีพลังงานขีดจำกัด และต้องเติมมันทุกวันเหมือนมนุษย์ทั่วไป ต่างกับมหามังกรของจริงที่ตัวของมันเป็นก้อนพลังงานอยู่แล้ว
ให้ยกตัวอย่างก็
มหามังกรมีพลังเป็น ‘อนันต์’
มหามังกรเทียมมีพลังเป็น ‘100’ และจะลดลงเรื่อยๆถึง ‘0’ ตามเวลาที่เปิดใช้งาน แต่มหามังกรเป็น ‘อนันต์’ อยู่แล้ว ต่อให้ตัดเวลาข้ามวันข้ามคืนมากแค่ไหน พวกมันก็จะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย วิธีนี้เลยใช้ได้แค่กับพวกของเทียมที่ไม่ได้ไร้ขีดจำกัดเท่านั้น
ยูนาเคยกล่าวไว้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมหามังกรไม่ใช่พลังทำลาย แต่เป็นพลังที่ไร้ขีดจำกัด
ที่ผมทำก็แค่สร้างมิติขึ้นมา และตัดเวลาให้มานาของอีกฝ่ายในโหมดอาภรณ์เทพมังกรมันหมดไปเท่านั้น การต่อสู้นี้ไม่สามารถใช้ได้กับมหามังกรของจริง แต่กับของเทียมน่ะทำได้
บอกตามตรง ว่ามันกินมานาไปเยอะสุดๆเลย สภาพผมตอนนี้เหลือมานาไม่ถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ แต่แค่นี้มากพอแล้วล่ะ สำหรับการโค่นมหามังกรเทียมที่ไร้อาภรณ์เทพมังกร
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และยิ้มอย่างหน่ายใจ
“จบกันแค่นี้แหละ มหามังกรเทียม”
พึมพำจบผมก็พุ่งใส่อีกฝ่ายด้วยความเร็วของนักดาบขั้นสูง และกะจะอัดเพลิงเข้าใส่ร่างให้เป็นธุรีทันที
ตามที่พูดไว้ก่อนสู้ ศัตรูอย่างเธอน่ะ ฆ่าได้จำเป็นต้องฆ่าเสียโดยเร็ว
“—-อึก!”
หล่อนหลับตาปี๋น้อมรับความตายอย่างตรงไปตรงมา ทว่าจังหวะนั้นอัสนีบาตสีม่วงก็พุ่งทะลุผ่านมิติของผม และผ่านร่างของผมและมหามังกรเทียมไป
ผมหลบได้ไม่ยาก แต่ก็อดตกใจกับภาพลักษณ์ที่เห็นไม่ได้
“–มหามังกรเทียมตัวที่สอง?”
ไม่ได้มีแค่ตนเดียว เอาจริงดิ?
“สโนว์!!! กระโดด!!”
เด็กหนุ่มเผ่าเอลฟ์แหกปากสุดเสียง เด็กสาวเผ่าเอลฟ์คู่ต่อสู้เมื่อครู่ของผมพยักหน้ารับและกระโดดตามที่สั่ง
สองมหามังกรกอดกันบินขึ้นฟ้าไป และพ้นจากระยะจู่โจมของผมแล้ว
เห้ยๆ ขอทีเถอะ
–คิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆจริงดิ
ผมกระโดดตามและเร่งการตัดมิติย่นระยะ
ร่างของผมทยานขึ้นฟ้าเป็นจังหวะๆ พร้อมกับรอยกระจกแตกที่ต่อกันยาวเหมือนโลกใบนี้ถูกทุบจนแตก—- เพียงกระพริบตา ผมก็ลอยอยู่ระดับสายตาเดียวกับมหามังกรสายฟ้าที่มาช่วย
“ปีเตอร์ ระวัง!!!”
“บ้าเอ้ย!!!!! ตามมาเร็วเกินไปแล้ว!!!!!!!!!”
มหามังกรสายฟ้าที่รู้สึกจะชื่อปีเตอร์าสะบัดปีกหนึ่งข้างมากันไว้ ทางผมลงมือเด็ดปีกของปีเตอร์ที่ว่าด้วยสถานการณ์ระยะใกล้ที่ได้เปรียบ
ปีกของมหามังการสายฟ้าล่วงลงพื้นไปข้างหนึ่ง และบินอย่างสะเป๊ะสะป๊ะ แต่ก็ยังบินได้อยู่ การโจมตีแค่นี้ไม่น่าเอาพวกมหามังกรลงได้หรอก ต่อให้ทีเผลอหรือสถานการณ์ช่วยให้ซัดได้อยู่ฝ่ายเดียว
ต่อไป–ปีกอีกข้าง
ขณะที่ผมกำลังจะเด็ดปีกอีกข้างทิ้งเสีย เจ้ามหามังกรสายฟ้านั่นก็ตะโกนร้องสุดเสียง
“[ปลดอาภรณ์เทพมังกร!!!!]”
อาภรณ์เทพมังกรวูบหายไปเหมือนกับของเพื่อนตัวเอง ร่างของปีเตอร์ล่วงหล่นพื้นก่อนที่เสียงตะโกนจะดังขึ้นอีกครั้ง
“[อาภรณ์เทพมังกร]-[นารุคามิ]”
แบบนี้นี่เอง เล่นเปิดปิดเพื่อฟื้นฟูปีกกับหลีกการโจมตีของผมสินะ
แสงสีม่วงวูบขึ้นพร้อมกับร่างมหามังกรที่ฟื้นคืนเต็มร้อย ปีเตอร์อุ้มเอลฟ์ที่ชื่อสโนว์ลอยไป—ผมตัดมิติย่นระยะอีกรัวๆ
ปีเตอร์หันกลับมามองผมและกู่ร้องสุดเสียงเร่งสปีดการบินของตัวเอง จน————————————พ้นระยะจู่โจมของผมอย่างสิวเสียด
สองมหามังกรปล่อยให้ผมลอยอยู่กลางอากาศอย่างเดียวดาย ร่างของผมหล่นลงพื้นเสมือนคนกระโดดร่ม
“น่าเสียดายชะมัด”
ผมช้าไปหน่อย ถ้าตามความคิดของเจ้ามหามังกรปีเตอร์นั่นได้เร็วกว่านี้ ผมคงจะเด็ดปีกมันทิ้ง และจัดการตัวปัญหาสองตัวได้พร้อมๆกัน
โชคอุตส่าห์ช่วย สร้างสถานการณ์เล่นศัตรูอยู่ฝ่ายเดียวในระยะประชิดได้แล้วเชียว ตลอดการต่อสู้กับสโนว์ผมแทบประชิดหล่อนไม่ได้เลย ทำให้การตัดมิติแสดงประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าประชิดร่างได้การต่อสู้ก็จะราวๆเมื่อครู่นี่แหละ
‘ทำได้ดีแล้วคะมาสเตอร์ เป้าหมายเดิมคือการเร่งไปช่วยคนในวิทยาลัยเวทมนตร์อยู่แล้วด้วยไม่ใช่หรือคะ’
นั่นสินะ ตามนั้นเลย
ผมตัดมิติอีกครั้ง ส่งตัวเองมายืนบนพื้นเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้ลอยอยู่กลางอากาศ
“..ว่าก็ว่าเถอะ ในนิยายไม่มีพวกมหามังกรเทียมสักหน่อย”
ผมข่มตาหลับลง ครุ่นคิดถึงอีเว้นต์ที่ไม่ควรมีอยู่ในหน้ากระดาษ ก่อนลืมตาอีกครั้ง
“ไปกันเถอะยูนา”
ผมสลัดความคิดฝุ้งซ่านเวลานี้ไปก่อน และรีบมุ่งไปรวมกลุ่มกับทุกคน
MANGA DISCUSSION