< < 112 > >
สะเก็ดไฟประทุขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การปะทะกันของสองนักดาบคือที่มาของสะเก็ดไฟภายในป่า
“ย๊ากกกกกก!!!”
“อ่อนหัด!”
นักดาบหนุ่ม ‘เรย์’ ถูกซัดจนกระเด็นด้วยแรงอันมหาศาลจากขาของชายแก่ แรงที่ส่งออกมันมากจนไม่อยากเชื่อว่ามาจากร่างของชายที่ใกล้จะตายในเร็ววัน
เรย์กัดฟันกรามแน่น และพุ่งเข้าใส่เกรย์อีกครั้ง—เกรย์กระโดดถอยหลังทำให้จังหวะพุ่งผิดพลาด
ดวงตาของเรย์เบิกกว้าง เพราะภาพที่เห็นคือทักษะการต่อสู้ที่เกรย์สอนเขามาโดยตลอดอย่าง [กระต่ายดวงจันทร์] หนึ่งในเคล็ดวิชาดาบพระจันทร์เสี้ยวของเกรย์
“อย่าให้อารมณ์มีผลกับการต่อสู้ นั่นคือเคล็ดลับของวิชาดาบพระจันทร์เสี้ยว ..เหมือนว่าหนุ่มน้อยจะไม่ได้เรียนรู้อะไรไปเลยสินะ”
ที่พูดก็แค่ยั่วยุ แต่เรย์กลับเลือดขึ้นหน้าเอาง่ายๆ
เรย์พุ่งเข้าใส่เกรย์ซึ่งเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้
อีกเพียงไม่กี่ก้าวทั้งสองก็จะเข้าสู่ระยะโจมตีแล้ว
“[แบ็ต]”
เกรย์พึมพำออกมาพร้อมและพุ่งปะทะกับเรย์ด้วยความเร็วสูง—สุดท้ายดาบของเรย์ก็ส่งไม่ถึงเพราะถูกเกรย์ดันเอาไว้ก่อน
เทคนิคดาบที่จะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายในระยะสั้นๆด้วยความเร็วสูง เป็นเทคนิคขั้นสูงสำหรับป้องกันโดยเฉพาะ ข้อดีคือสามารถตรึงดาบอีกฝ่ายได้แต่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็ทดแทนด้วยวิชาดาบพระจันทร์เสี้ยวได้
“[จันทร์เสี้ยวย้อนกลับ]”
ดาบของเรย์ถูกสละออก—เกรย์พุ่งตัวออกด้วยกระต่ายดวงจันทร์ และฟาดดาบเข้าใส่กลางตัวของเรย์สุดแรง
“—-อั้ก!!!!”
เรย์ล้มลงกับพื้นพร้อมและกระอักเลือดออกมา
..แพ้แล้ว
“เดี่ยวสิหนุ่มน้อย ไม่เร็วไปหน่อยหรือไง”
เรย์ยังคงนั่งนิ่ง กำลังปรับลมหายใจและบรรเทาบาดแผลของตัวเองอยู่ เกรย์รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังไม่หยุดพูดจาดูถูกเรย์
“..ฉันเนี่ยไม่มีตายเอาซะเลยนะ อย่างที่ท่านอาจารย์บอกไว้เลย”
คำยั่วยุของเกรย์มีผลเป็นอย่างมาก ..เรย์ค่อยๆพยุงร่างของตัวเองขึ้นมา
“ผมเอง ..ผมเองก็..ไม่ได้อยากอ่อนแอแบบนี้สักหน่อย” เรย์ขยี้ผมตัวเอง “แต่ว่าผมก็ทำได้แค่นี้แหละ คนอย่างผมน่ะไปได้ไกลกว่านี้ไม่ได้หรอก รู้อยู่แล้วเฟ้ย แต่ว่า ..แต่เพราะลุงนั่นแหละ! ฉันถึงได้คิดว่าตัวเองสามารถไปได้ไกลมากกว่านี้!! เพราะวิชาดาบของลุง ..ทำให้ผมคิดว่าตัวเองเองก็มีคุณสมบัติพอจะไปยืนอยู่ตรงนั้น”
เรย์ตั้งท่าดาบอีกครั้ง ความเจ็บปวดในเวลานี้คงจะด้านชาไปแล้ว
“ที่ผมคิด..แค่เข้าใจผิดไปเหรอ”
เกรย์หัวเราะอัดหน้า
“ไร้เดียงสาจังเลยนะ หนุ่มน้อย”
“เออสิ ..ผมยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ ..พูดถึงเด็ก พูดถึงวัยรุ่นก็ต้องความไร้เดียงสาไม่ใช่รึไง?”
เรย์แสยะยิ้มให้เกรย์ เห็นอย่างนั้นแล้วก็อดหัวเราะอีกครั้งไม่ได้ เกรย์หัวเราะอย่างมีความสุขไม่ใช่เสียงหัวเราะที่มีไว้เยาะเย้ยเรย์ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่มีความสุขจากใจจริง
..ใช่แล้วล่ะ อย่างนั้นแหละ ยิ้มออกมาซะ หัวเราะออกมา
(ว่าแล้วเชียว ..เรย์ ..เธอนั่นล่ะ ..เธอนี่แหละคือก้าวต่อไปของฉัน คนที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของฉันได้มีแค่เธอเท่านั้น)
เกรย์ปัดน้ำตาออก และพูดกับเรย์ด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“ใช่แล้วล่ะ หนุ่มน้อย ..อย่าได้เสียมันไปเด็ดขาด จงโอบความไร้เดียงสาไว้ เพราะความไร้เดียงสาจะนำพาไปสู่การพัฒนาตัวเองที่ยิ่งใหญ่”
มันคือสิ่งที่เกรย์ไม่มี ..เรย์มีสิ่งที่เกรย์ไม่มีอยู่ จึงอยากคาดหวังในดาบที่ไร้เดียงสาของวัยรุ่น
เกรย์ยิ้มให้เรย์อย่างอ่อนโยน
“โค่นฉันซะนี่คือการทดสอบก่อนจบการศึกษา”
เกรย์แทงดาบ ‘มังกรเหล็ก’ ลงกับพื้น ทันใดนั้นดาบก็งอกจากพื้นเป็นร้อยๆเล่ม
“ดาบเล่มนี้มีนามว่า ‘บรามุนต์’ มันคือดาบที่ทำจากหัวใจของมังกรเหล็กในตำนาน สรรพคุณของมันไม่ต้องพูดถึงเลย ดาบเล่มนี้น่ะมีดีไม่แพ้ดาบของผู้กล้าแน่นอน เป็นหนึ่งในดาบที่ทรงพลังที่สุดบนโลก ..ถ้าอยากได้ก็ผ่านการทดสอบซะนะ แน่นอน–ฉันจะอ่อนให้หนุ่มน้อยโดยการไม่ใช้มัน เพราะระดับหนุ่มน้อยไม่มากพอที่จะต้องใช้ข้อได้เปรียบที่ตัวเองมี”
กล่าวจบเกรย์ก็คว้าดาบบนพื้นออกมา พลางคิดกับตัวเองว่าที่ไม่ใช้ก็เพราะใช้ไม่ได้มากกว่า ..ดาบเล่มนี้มันกินพลังชีวิตของผู้ใช้ ถ้าขืนเปิดใช้งานในตอนนี้ ตัวเองน่าจะตายทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรแน่นอน
แค่พูดบลัฟเรย์เท่านั้น การบลัฟคนเป็นของถนัดของเกรย์อยู่แล้ว แม้แต่มังกรเหล็กที่ถูกเขาโค่นก็ตายเพราะอุบายของเขา ..
“เอาของมาล่อแบบนี้เนี่ย ..ไม่โรแมนติกเลยนะ อาจารย์”
“นี่แหละการจบการศึกษาของพวกเรา”
เรย์พุ่งเข้าใส่เกรย์ แต่ว่า—ไม่ได้จะเข้ามาประชิดโต้งๆ
“[ดาบประกายแสง]”
“[แบ็ต]”
เปล้ง!!!!!!!!! เสียงปะทะดาบส่งเสียงสุดไพเราะ
คนที่ก้าวเท้าได้เร็วสุดคือผู้ชนะ—และเกรย์ก็เร็วกว่า เกรย์เอียงตัวเหวี่ยงดาบหมายจะสะบั้นแขนของเรย์ แต่เรย์ก็ใช้ [กระต่ายดวงจันทร์] หลบได้ทัน แต่จำเป็นต้องใช้ดาบกันดาบของเกรย์ไว้ทำให้ดาบหัก
ไม่ใช่แค่แรงที่มากกว่า การใช้ดาบของเกรย์ก็ดีกว่าจนตัดดาบของเรย์ได้ทั้งๆที่เกรดของดาบก็พอกัน
ฝีมือต่างกันราวฟ้ากับเหว
เรย์คว้าดาบที่เกรย์สร้างไว้ขึ้นมา และใช้ [จังหวะแตะสายลม] พุ่งตัวมา เกรย์ตอบโต้โดยการตั้งป้องกันปกติ
“ฮึย!!!”
ดาบของเรย์พุ่งเข้าใส่ดาบของเกรย์ เพราะแก่แล้วทำให้ร่างของเกรย์เอียงไปตามแรงของเรย์ แต่ว่านั่น—ก็คือแผนอยู่ดี
“[ลำจันทร์เสี้ยว]”
วิชาดาบขั้นบรรลุของวิชาดาบจันทร์เสี้ยว—-[ลำจันทร์เสี้ยว] เมื่อตัวเองเสียศูนย์เพราะแรงของคู่ต่อสู้ จะทำให้แรงเหวี่ยงดาบมากขึ้นทวีคูณและเค้าเตอร์กลับอย่างรวดเร็ว
มันคือวิชาที่จะทรงพลังขึ้นตามพลังของคู่ต่อสู้
ลำจันทร์เสี้ยวพุ่งตรงไปที่คอของเรย์
“..โห๋”
เกรย์ส่งเสียงอย่างประทับใจ เพราะเรย์สามารถหลบมันได้
“ถ้าดาบของผมเร็วกว่านี้ ผมคงจะหลบไม่ทัน ..”
เกรย์พุ่งถอยออกจากระยะต่อสู้ ..
“..วิชาดาบขั้นบรรลุที่อาจารย์สอนผมทั้งหมด ..ผมใช้มันยังไม่ได้สักอัน อุตส่าห์เสียเวลาฝึกสอนผมตั้งเป็นเดือนแต่ผมกลับใช้ไม่ได้สักที” เรย์ถอนหายใจ “ไม่รู้สึกว่าคิดผิดบ้างเหรอครับ?”
“ไม่เลย ไม่ว่ายังไง ฉันก็อยากได้หนุ่มน้อยเป็นลูกศิษย์อยู่ดี”
“ทำไมต้องเป็นผมด้วย”
“..เพราะถูกชะตาก็พอแล้วนี่ ..ก็อยากพูดแค่นี้หรอกนะ แต่ไม่ใช่แค่ถูกชะตา ฉันคิดว่าคนที่สมควรจะโค่นเทพดาบได้ต้องเป็นคนแบบหนุ่มน้อยนั่นแหละ เพราะอย่างนั้นเลยเลือกหนุ่มน้อย”
เกรย์สัมผัสบริเวณหัวใจของตัวเองพลันแสดงสีหน้าที่ซับซ้อน
“อาจจะเป็นเพราะฉันแก่แล้วก็ได้เลยเลือกเด็กที่ใกล้ที่สุด จะมองอย่างนั้นก็ได้ แต่—ความจริงคือ เวลานี้ตัวฉันได้เลือกหนุ่มน้อย ขอให้อย่าได้ลืมก็พอแล้ว”
“ต่อให้ผมจะใช้วิชาของคุณไม่ได้ก็ตามน่ะเหรอ?”
“ถ้านั้นก็เบิกตาดูซะให้ดีสิ วิชาดาบของฉันคนนี้ผู้เป็นอาจารย์ของหนุ่มน้อยน่ะ”
เรย์เบิกตากว้าง เขามองใบหน้าของผู้เป็นอาจารย์ก่อนที่จะยิ้มออกมา
“ช่วยแสดงให้เห็นทีครับ ..”
“ได้สิ”
ทั้งสองเข้าปะทะกันอีกครั้ง วิชาดาบทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกมาภายในเวลาอันสั้น ในทุกๆครั้งของการแลกดาบจะมีเทคนิคเฉพาะติดมาด้วยทุกครั้ง
วิชาดาบจันทร์เสี้ยวถูกแสดงออกมาหมดเปลือก ไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังไว้เลยระหว่างทั้งสอง ไม่มีอุบายรึความลับเก็บเอาไว้ เกรย์แสดงพลังทั้งหมดอย่างซื่อตรงตามคำขอของลูกศิษย์ ตลอดการต่อสู้เรย์พยายามจะเลียนแบบวิชาขั้นบรรลุแต่ก็ ..ทำไม่ได้ เลียนแบบไม่ได้ วิชาดาบมันสูงเกินกว่าที่ตัวเองจะทำตามได้
และสุดท้าย ..ก็โค่นเกรย์ได้โดยที่ยังทำตามผู้เป็นอาจารย์ไม่ได้
ดาบของเรย์ทะลุผ่านร่างของเกรย์ไปอย่างง่ายดาย เพียงจังหวะสั้นๆจังหวะเดียว ผู้ชนะก็เปลี่ยนเป็นเรย์ ..เบื้องหลังชัยชนะคือร่างกายของเกรย์ที่ชราเกินไป ในจังหวะดาบทั่วๆไปที่เรย์จะสู้ไม่ได้ จู่ๆแรงของเกรย์ก็หมดและถูกเรย์แทงสวนเข้าใส่จนอยู่ในสภาพผู้แพ้
เกรย์วางคางไว้บนไหล่ของเรย์ ..ส่วนเรย์นั้นแหงนหน้ามองฟ้าด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
เรย์คิดเพียงแค่ว่า ..ไม่อยากชนะด้วยวิธีแบบนี้
****
เรากำลังทำอะไรอยู่กันนะ
ในมือกำดาบไว้ มีเลือดของอาจารย์ติดอยู่ บนไหล่หนักมากพออาจารย์ทิ้งน้ำหนักตัวมาทางฉัน ..ควรจะผลักออกรึเปล่านะ? ก็บ้าแล้ว ถ้าผลักออกอาจารย์ได้ตายจริงๆแน่
..
“เป็นไงบ้างล่ะ อุตส่าห์เอาร่างกายตัวเองเข้าแลกแล้วแท้ๆ แต่ฉันก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี” เรย์หรี่ตาลงมองพื้น “อาจารย์เลือกลูกศิษย์ผิดคนแล้วล่ะ ถ้ามีคนที่อยากฝากเจตจำนงศ์มีคนที่ยอดเยี่ยมกว่าผมเยอะ อย่างเพื่อนของผม ..ถ้าเป็นเขา คงจะใช้วิชาของอาจารย์ได้ดีกว่าผม”
เกรย์หัวเราะพึมพำ เสียงหัวเราะที่แสนจะอ่อนแรงนั้นฉันจะไม่มีวันลืมเลย
“เด็กโง่เอ้ย ..บอกไปตั้งแต่แรกแล้วนี่ว่าฉันไม่ได้ต้องการคนที่เก่ง”
“แล้วตัวผมมีอะไรดี ..ในเมื่อสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะให้คนอื่นทำให้ก็ได้ ..เห็นผมเป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูไรงี้เหรอ? นั่นน่ะน่าเจ็บใจนะ”
เกรย์ส่ายหัวให้
“ฉันอยากให้หนุ่มน้อยสืบทอดเจตนารมณ์ของฉัน”
“ก็บอกแล้วไง ..เรื่องนั้นคนอื่นก็ทำได้ แถมทำได้ดีกว่าผมแน่ๆ เทพดาบกับผมระยะห่างมันมากเป็นอนันต์เลยนะ”
“..ฉันอยากให้วิทีดาบของตัวเองมันดีกว่านี้”
“เอาไปให้คนอื่นทำดีกว่าเยอะ อย่างผมน่ะไปได้ไม่ไกลหรอกนะ เพราะไม่ได้มีพรสวรรค์เท่าคนอื่น ไม่ใช่คนที่คู่ควรกับผู้สืบของดาบมังกรเหล็กหรอก”
เกรย์ไม่ตอบอะไรเรย์ คล้ายจะบอกให้ฉันไปหาคำตอบเอง ..แต่ก่อนที่เกรย์จะหลับตา เขาก็พูดขึ้นมาก่อน
“ถ้านั้นช่วยพยายามเป็นลูกศิษย์ที่คู่ควรให้ทีได้มั้ย ..แค่สักวันทำให้ได้ก็พอ”
จะถือว่านั่น ..เป็นคำขอนะ
“..เข้าใจแล้ว”
“..เรย์”
เป็นครั้งแรกที่เกรย์เรียกชื่อจริงของฉัน
“เธอชนะแล้ว”
กล่าวจบร่างของเกรย์ก็ค่อยๆล้มลงกับพื้น ไม่ผิดแน่ เขาคงจะตายแล้ว
เหลือเพียงแค่ฉันที่ยืนอยู่บริเวณนี้ ..ฉันมองอาจารย์ที่จากไป ทำได้แค่กัดหมัด
“..ชนะอะไรกัน ..ที่ชนะน่ะ–มันอาจารย์ต่างหาก”
เรย์คว้าดาบ ‘มังกรเหล็ก’ ขึ้นมาสะพายและออกเดินได้สามก้าวก่อนที่จะล้มลงกับพื้นตามไปด้วย ..
“..ไม่ไหวสินะ ..ให้ตายสิ ..อาจารย์ ..สักวัน..สักวัน..สักวัน ..ผมต้อง..ผมน่ะ..ผม” เรย์ร้องไห้ออกมาเหมือนกับเด็กน้อย “สักวันผมจะต้องชนะให้ได้”
****
ดาบคือชีวิต วิชาดาบคือศักดิ์ศรี ชีวิตนี้มีเพื่อดาบ ทุกอย่างบนโลกก็เพื่อดาบ
ตัวฉันในฐานะลูกชายของนักดาบ ใช้ชีวิตโดยยึดมั่นความคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งได้พบกับ ‘เทพดาบ’ ที่นักดาบทุกคนหลงใหล
พี่สาวของฉัน— ‘เกรย์’ ได้ท้าดวลเทพดาบในสนามรบ และเธอก็ตายภายในดาบเดียว
ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าแต่อย่างไร กลับกัน มันคือเรื่องที่น่ายินดี ตายด้วยดาบของเทพดาบ ได้ประลองฝีมือกับดาบของผู้บรรลุ มันคือความปารถนาอันสูงที่สุดของนักดาบ ต่อให้จะแพ้ก็ตาม ..ทว่าสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับไม่ใช่การดวลอันทรงเกียรติ
ที่เห็นมีเพียงแค่ ..ใบหน้าของเทพดาบที่เบื่อหน่ายกับโลกใบนี้ เบื่อหน่ายกับพี่สาวของฉันที่ตายไป
คิดว่าพี่สาวฉันตายไปทำไม? ไม่ได้ตายเพื่อให้แกแสดงสีหน้าอย่างนั้นสักหน่อย ..ถ้าเป็นเทพดาบก็อย่าดูแคลงกันด้วยแววตาอย่างนั้นสิ
แกคิดว่าดาบคืออะไรกัน? ราวกับทั้งชีวิตถูกเห็นเป็นเรื่องตลก ความตายของพี่สาวกลายเป็นแค่เรื่องน่าเบื่อหน่ายในสายตาของเทพดาบ ตัวฉัน ..ไม่มีทางยอมรับได้
ด้วยความเคียดแค้นฉันได้จับดาบและวิ่งเข้าใส่เทพดาบอย่างไม่คิดชีวิต และแพ้ภายในดาบเดียวเหมือนพี่สาว แต่ฉันไม่ตาย ..เทพดาบจงใจไว้ชีวิต
เธอกำลังดูถูกกันอยู่ ทั้งชีวิตของพี่สาว ทั้งชีวิตของฉัน ถูกเทพดาบทำเหมือนของไร้ค่า
ภายในอกเต็มไปด้วยไฟแค้น อยากจะโค่นเทพดาบให้ได้ ฉันตั้งใจอย่างนั้นแต่ทำไม่ได้เลยได้แต่พล่ามด่าเทพดาบไม่หยุด แน่นอนว่าเทพดาบไม่ได้สนใจฉันเลย แต่แล้วจู่ๆเธอก็พูดด้วย
“ดาบมีไว้ทำไมกัน?”
“..เพื่อ..เพื่อพิสูจน์ตัวเอง”
“การฆ่าคนคือการพิสูจน์ตัวเองเหรอ ..เจ้ามาสนามรบก็เพื่อฆ่าคน พิสูจน์ตัวเองโดยการฆ่าคนเหรอ?” เทพดาบหรี่ตามองสนามรบที่มีแต่ซากศพ “ถ้าหากอยากพิสูจน์ก็จงไปเวทีประลองซะ สนามรบไม่มีเกียรติยศอะไรให้เจ้าหรอก”
..ใบหน้าที่เก็บความรู้สึกเอาไว้ของเทพดาบ ทำให้ฉันมองเทพดาบเปลี่ยนไป ฉันไม่คิดว่าเธอเป็นเทพดาบแล้วด้วยซ้ำในเวลานี้ เพราะที่เห็นมีเพียงแค่เด็กสาวธรรมดาเท่านั้น
“..แล้วพี่สาวฉันล่ะ ..พี่สาวฉันตายไปทำไมล่ะ”
“คิดว่าผู้คนมาสนามรบเพื่ออะไรล่ะ?”
เป็นครั้งแรกที่เทพดาบจ้องตาฉันตรงๆ
“แน่นอนว่าเพื่อ—ปกป้อง”
คำพูดของเทพดาบนั้นเปลี่ยนวิทีดาบของฉันต่อจากนี้โดยสมบูรณ์ ..ฉัน ‘ซิกฮาร์ด’ ..หลงใหลในดาบที่มีไว้เพื่อ ‘ปกป้อง’ สิ่งสำคัญ ..หลงใหลในดาบของพี่สาวจึงได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเพื่อไม่ให้ลืมเธอเป็น ‘เกรย์’
ดาบมีไว้เพื่อปกป้องฉันยึดถือแนวคิดเช่นนี้มาโดยตลอด จวบจนกระทั่งชีวิตนี้จะดับสูญก็ยังคงแกว่งดาบเพื่อปกป้องต่อไป แต่ต่ว่าฉันก็รู้ดี ..ว่าดาบของตัวเองไม่สามารถปกป้องเธอคนนั้นได้ ..ถ้าดาบเล่มนี้ไม่ไหวก็คงต้องตัดใจ แต่ว่า—ฉันจะไม่จากไปอย่างสูญเปล่าเด็ดขาด
เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้พบกับ—เด็กคนหนึ่ง และส่งต่อความตั้งใจไปให้เขา ..คนที่จะปลดปล่อยเทพดาบได้ไม่ใช่ยอดมนุษย์หรือว่าผู้มีคุณธรรมหรอก ที่ต้องการก็แค่–คนธรรมดาเท่านั้น
ต่อให้เด็กคนนั้นไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เพราะดาบของฉันมันจะส่งต่อไปเรื่อยๆจนกว่าดาบเล่มนี้จะเอาชนะ—จะปกป้องเทพดาบได้
เรื่องราวของฉันได้จบไปแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นเรื่อวราวของผู้สืบทอด ..แต่ว่า ..ในส่วนลึกของจิตใจ ..ฉันอยากเจอหน้าเธอสักครั้งก่อนตายชะมัด อยากเฝ้ามองในวันที่เธอได้ถูกปลดปล่อยเหลือเกิน ..อยากอยู่ข้างเธอจนถึงบทสรุป
ทำเป็นพูดดี ขอแค่เห็นเธอมีความสุข แค่สักวันเธอจะปลดปล่อยตัวเองได้ก็พอแล้วอะไรกัน ..ถ้าคิดอย่างนั้นจริง ฉันคงไม่ทำตามข้อเสนอของเธอตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเกิดหนุ่มน้อยไม่โผล่มาฉันคงจะทำตามที่เธอต้องการ อยู่ข้างเธอและโค่นเธอในสักวัน ..ทั้งๆที่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
ฉันอยากช่วยเธอ ฉันอยากอยู่กับเธอ สองอย่างนี้มันปนอยู่ในใจมั่วชั่วไปหมด ..จนกระทั่งหนุ่มน้อยได้มาขวางฉันไว้ ฉันถึงได้สติ ..ได้ตระหนักว่าเป้าหมายตั้งแต่แรกของตัวเองคืออะไร และได้รู้ว่าตัวเองขาดคุณสมบัติมากเพียงใด
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ..นี่เราตกหลุมรัก ..แกนน่อนเขาขนาดไหนกันนะ แล้วตกหลุมรักเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
คนแก่คนนี้ลืมไปหมดแล้วล่ะ ..
ความเสียใจอย่างสุดท้ายคือฉันอยากจะเจอหนุ่มน้อยให้เร็วกว่านี้ ..สักปีก็ยังดี แต่ช่างมันเถอะ แค่ได้เจอคนอย่างหนุ่มน้อยก็พอแล้ว ..
ก่อนที่จะตาย ความทรงจำแสนล้ำค่ามากมายได้ไหลเข้ามาในหัว
ความทรงจำแสนมีค่าของ ‘ซิกฮาร์ด’ หรือว่า ‘เกรย์’ นั้นมีมากมายซะเหลือเกิน
****
ตอนไหนกันนะที่ฉันได้ตกหลุมรักแกนน่อน ..
เกรย์ได้นึกย้อนกลับไปในห้วงลึกของความทรงจำ
เรื่องเกิดขึ้นในวันธรรมดาวันหนึ่งของทั้งสอง ในฐานะศิษย์-อาจารย์
“เกรย์ สิ่งนั้นคือ?”
“..หืม? อ่า ไอศครีมครับ เป็นที่นิยมในวัยรุ่นช่วงนี้เลยนะครับ ผมเองก็เคยกินอยู่แต่รู้สึกไม่ถูกกับของเย็นเท่าไหร่”
พออธิบายแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่แกนน่อนกลับเงียบ พอเกรย์แอบชำเลืองมองก็พบเห็นใบหน้าที่ ..แปลกจากทุกทีของแกนน่อน
“ซื้อสักชิ้นจะเป็นอะไรรึเปล่านะ?”
เทพดาบก็แค่ชื่อประดับเท่านั้น ..
“ท่านอาจารย์เองก็มีมุมน่ารักเหมือนกันสินะครับ”
“ถอนคำพูดซะเกรย์”
“แค่ชมเองครับ ทำไมต้องโกรธกันด้วยเนี่ย!?”
ก็แค่เรื่องทั่วๆไป อะไรล่ะนั่น ..เป็นการตกหลุมรักที่ธรรมดาซะจนหมดอารมณ์เศร้าเลย
ฉันถอนหายใจทั้งๆที่ตายไปแล้ว ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งๆที่ตายไปแล้ว
MANGA DISCUSSION