หยวนชิงหลิงพลันหันตัวกลับมา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "หากท่านจะด่าว่าหม่อมฉัน ก็ด่ามาเสียเถอะ หากแต่อย่าได้มาลงมือตีหม่อมฉัน หาท่านกล้าตีหม่อมฉัน หม่อมฉันคงหมดหวังในตัวท่านแล้ว หม่อมฉันขอพูดก่อนเลยว่า หม่อมฉันมิได้เป็นคนผลักนางตกลงไปในทะเลสาบ เป็นนางที่บ้าไปแล้วถึงมาผลักหม่อมฉันให้ตกน้ำ อีกทั้งยังใช้แรงกดหัวหม่อมฉันไม่ให้โผล่ขึ้นมาจากน้ำอีก หม่อมฉันอดไม่ได้จึงต้องใช้ปิ่นปักผมทำร้ายนาง ! " หยวนชิงหลิงพลันสูดลมหายใจเข้าจมูกลึกๆ พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เหตุใดนางถึงต้องมาพบเจอสตรีบ้าๆ เช่นนี้ด้วย ?
"หม่อมฉันรู้ดีว่าอย่างไรท่านก็คงไม่เชื่อใจหม่อมฉัน ท่านอ๋องเกลียดหม่อมฉันขนาดนี้. แม้แต่หม่อมฉันหายใจเข้าออกก็ผิดแล้ว ท่านชอบนาง แม้นางจะเท้าเหม็นเพียงใดท่านก็ยังคิดว่ามันหอม "
อวี่เหวินฮ่าวที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ออกด้วยมือทั้งสองข้างนั้น กล่าวออกมาว่า "หุบปาก!"
รอบดวงตาของหยวนชิงหลิงเต็มไปด้วยรอยช้ำสีแดงจางๆ กล่าวออกมาด้วยวาจาขุ่นเคืองว่า "จะตีหม่อมฉันหรือ ? ท่านคิดจะตีหม่อมฉันอีกแล้ว? ทั้งหม่อมฉันและท่านมาตายไปพร้อมๆกันเถอะ!" พูดจบ หยวนชิงหลิงพลันกระโจนเข้าไปหาอวี่เหวินฮ่าวพร้อมกัดลงไปที่ลำคอของเขาอย่างเต็มแรง
"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ !" อวี่เหวินฮ่าวพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ พลางยื่นมือไปจับบนลำคอของตนที่มีเลือดไหลออกมา อวี่เหวินฮ่าวพลันถอดอาภรณ์ตัวนอกออกมาแล้วจึงโยนมาให้หยวนชิงหลิง "เปิ่นหวางจะตีเจ้าเมื่อใดกัน ? เจ้าตัวเปียกโชกไปทั่วเช่นนี้ ถอดอาภรณ์ออกแล้วสวมเสื้อตัวนอกของเปิ่นหวางเสีย "
"ท่านมิได้เป็นคนใจดีเช่นนี้ !" หยวนชิงหลิงหันไปมองอวี่เหวินฮ่าวที่กลังถอดเสื้อตัวนอกออกมา
"ใช่ ! เปิ่นหวางอยากจะฆ่าเจ้า !" อวี่เหวินฮ่าวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นบิดเบี้ยวไปด้วยความโมโหเมื่อมองมาที่หยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงพลันเช็ดหน้าเช็ดตาของตนเอง แล้วจึงกล่าวออกมาว่า "เช่นนั้น ท่านก็พูดออกมาสิ! เหตุใดเอาแต่จะถอดอาภรณ์ของหม่อมฉัน ท่านไปใบ้หรืออย่างไร?"
อวี่เหวินฮ่าวคร้านที่จะสนใจนาง พลันหันหน้าไปทางอื่น
หยวนชิงหลิงคันยุบยิบที่จมูกเล็กน้อย พร้อมทั้งจามออกมาหลายครั้งหลายครา เป็นเพราะอากาศที่เริ่มหนาว
หยวนชิงหลิงพลันค่อยๆถอดอาภรณ์ออกมาอย่างช้าๆ "ท่านอย่าหันมามองหม่อมฉันนะ"
"ผีสิ มองเจ้า" อวี่เหวินฮ่าวพลางกล่าวออกมาด้วยท่าทีที่เย็นชา
หยวนชิงหลิงพลางสวมใส่อาภรณ์ตัวนอกของอวี่เหวินฮ่าวด้วยความเร็วสูง และนำอาภรณ์ที่ถูกเปลี่ยนแล้วออกมา. พลันหยิบวิตามินซีออกมาจากล่องยาหนึ่งเม็ดแล้วจึงส่งเข้าปากของตนเอง หลังจากนั้นจึงนำอาภรณ์ที่เปียกออกมาบิดน้ำ พร้อมเช็ดผมของตนเอง แล้วจึงกล่าวออกมาว่า "เป็นหม่อมฉันที่เข้าใจท่านผิดไปแล้ว ? หม่อมฉันคิดว่าท่านจะไม่เชื่อใจหม่อมฉัน"
อวี่เหวินฮ่าวเอนพิงไปที่พนักที่นั่งโดยมิได้เอ่ยอันใดออกมา
หยวนชิงหลิงจ้องมองเขาเล็กน้อย "ท่านเชื่อหม่อมฉันหรือไม่ ว่าหม่อมฉันมิได้ผลักนาง"
อวี่เหวินฮ่าวมิได้เอ่ยอันใดออกมาอีก
หยวนชิงหลิงพลันแลบลิ้นออกมา ความเงียบเป็นดั่งทองคำ นี่เป็นสิ่งที่นางคิดไม่ถึงจริงๆ
หยวนชิงหลิงเช็ดผมของตนเองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงวางอาภรณ์ที่เปียกลง แล้วจึงเอ่ยถามว่า "อาการของหวายอ๋องเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?"
อวี่เหวินฮ่าวเพียงกล่าวว่า "ไม่ดี"
"ไม่ดีถึงขนาดไหนเพคะ"
"ไม่ดีมากๆ " สีหน้าของอวี่เหวินฮ่าวแลมืดมนในทันใด
อวี่เหวินฮ่าวหันมาเหลือบมองหยวนชิงหลิงเล็กน้อย "กล่องยาใบนั้นของเจ้า มียาชนิดใดรักษาเขาได้บ้างหรือไม่ ?"
หยวนชิงหลิงเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก "อาการป่วยของหวายอ๋องนั้น ไม่สามารถรักษาอาการได้"
"นั้นสิ รักษาไม่ได้" อวี่เหวินฮ่าวเพียงกล่าวออกมาพร้อมกับหลับตาลงครู่หนึ่ง แล้วจึงถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ และมิได้เอ่ยอันใดออกมาอีกเลย อวี่เหวินฮ่าวรู้ดีว่า โรควัณโรคนั้นมิสามารถรักษาให้หายได้
หยวนชิงหลิงเอื้มมือไปแตะบนไหล่ของอวี่เหวินฮ่าวด้วยท่าทีลังเลเล็กน้อย "ท่านอย่าได้เศร้าไป ชีวิตล้วนมีเกิดมีตายทั้งสิ้น"
สายตาของอวี่เหวินฮ่าวจับจ้องมาที่หยวนชิงหลิง "เปิ่นหวางทำให้เขาต้องตาย"
หยวนชิงหลิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "ท่านช่วยอธิบายหน่อยได้หรือไม่? อาการป่วยของหวายอ๋องนั้นเกี่ยวข้องอันใดกับท่านกัน?"
อวี่เหวินฮ่าวพลันก้มหน้าลงอธิบาย "สามปีก่อนนั้น หลังจากที่ข้ากลับมาจากรบชนะ พร้อมพานายพลทั้งสามนายและหวายอ๋องไปร่ำสุราด้วยกัน ไม่คาดคิดว่า หนึ่งในนั้นมีคนเป็นวัณโรคอยู่ด้วย ในตอนนั้น ผู้ใดล้วนไม่มีใครรู้เรื่อง แม้แต่ผู้ที่เป็นโรควัณโรคเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน หลังจากร่ำสุราไปได้ไม่นาน เจ้าหกก็ป่วยลง"
วัณโรคปอดเป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรงมาก อีกทั้งการติดต่อก็แพร่กระจายได้ไว โดยติดต่อกันได้ผ่านทางละอองน้ำ ไม่แปลกใจเลยว่า เพียงแค่พูดคุยหรือร่ำสุราด้วยกันนั้นก็จะสามารถติดต่อวัณโรคต่อๆกันได้
"ทั้งสี่คน มีเพียงเขาที่ป่วย เปิ่นหวางและนายพลอีกสองนายมิได้เป็นอันใด "
หลวนชิงหลิงพลันส่งเสียงอื้มออกมาคำเดียว "ความเป็นไปได้นั้น มิได้หมายถึงว่าผู้ที่ร่ำสุราด้วยกันทุกคนจะสามารถติดต่อผ่านกันได้"
"อะไร ?"
"หม่อมฉันเพียงกล่าวว่า หวายอ๋องช่างโชคร้ายเหลือเกิน" หยวนชิงหลิงแสดงสีหน้าออกมาด้วยความเศร้าโศก ทว่า เพียงแค่อาการจามออกมาเพียงครั้งเดียว ก็ทำลายบรรยาเศร้าหมองโดยหมดสิ้น
"อาภรณ์ด้านในเหตุใดถึงไม่ถอดออกมากัน?"อวี่เหวินฮ่าวพลันขมวดคิ้วลง
หยวนชิงหลิงพลันย่นจมูกลงเล็กน้อย "ชั่งเถอะเพคะ เปลี่ยนอาถรณ์บนรถม้าไม่ค่อยสะดวกนัก อีกไม่นานก็ใกล้จะถึงจวนแล้ว"
"จะเขินอายทำไมกัน? ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเสียหน่อย"
"หม่อมฉันก็ไม่ได้กลัวว่าท่านจะมอง" อย่างไรนี่ก็มิใช่ร่างกายของนาง
อวี่เหวินฮ่าวพลันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วจึงหลับตาลง
"หม่อมฉันรู้สึกอยากอาเจียนเพคะ" จู่ๆ หยวนชิงหลิงพลันรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา "น้ำในทะเลสาบช่างเหม็นเสียจริง"
ในช่วงเวลาที่ดิ้นรนอยู่นั้น ก็ได้ไปกวนดินโคนใต้น้ำเข้า. เมื่อน้ำในทะเลสาบกับดินโคลนใต้ก้นทะเลสาบผสมกัน หยวนชิงหลิงจึงได้กินเข้าไปสองสามอึก ฉู่หมิงฉุ่ยก็กินเข้าเช่นกัน เมื่อกลับมาครุ่นคิดดูแล้ว เพื่อที่จะใส่ร้ายนาง ฉู่หมิงฉุ่ยต้องลงทุนถึงเพียงนี้เลยหรือ?
อวี่เหวินฮ่าวตบที่บ่าของตนเองสองสามครั้ง. "เข้ามาพิงเปิ่นหวางแล้วก็หลับตาพักผ่อนเสีย"
หยวนชิงหลิงรู้สึกไม่คุ้นชินกับท่าทีอันอบอุ่นของอวี่เหวินฮ่าว! หากแต่ ภายในรถม้าที่โครงเครงเช่นนี้ หากมีคนให้เอนพึงบ้าง ก็คงจะรู้สึกสบายไม่น้อย
หยวนชิงพลันยิ้มออกมาด้วยความสดใส พลางกล่าวด้วยอารมณ์ที่ซาบซึ้งว่า "ขอบพระทัยเพคะ"
หัวที่ค่อยๆพิงลงไปอย่างช้าๆนั้น กำลังจะพิงเข้ากับไหล่ของอวี่เหวินฮ่าว เขากับขยับตัวห่างออกไป หัวหยวนชิงหลิงที่กำลังลอยอยู่ในอากาศนั้น ก็ตกลงบนเบาะนั่งที่แข็งๆบนที่นั่งรถม้าแทน
อวี่เหวินฮ่าวพลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆว่า "เจ้ากัดข้าก่อน"
หยวนชิงหลิงพลันโมโหขึ้นมา แล้วจึงลุกขึ้นมานั่งตัวตรงพร้อมขยี้หัวของตนเอง "ท่านคิดเล็กคิดน้อยเกินไปแล้ว"
เหตุใดถึงเปลี่ยนมาเป็นคนเลวเช่นนี้ได้กัน?
"มีแค้นย่อมต้องชำระ"
"หยาจื้อจักเอาคืนแน่" แต่เดิมตอนที่อยู่ในน้ำก็ถูกฉู่หมิงฉุ่ยกดหัวอยู่แล้ว ในยามนี้ เขายังตั้งใจให้นางตกลงไปอีก ช่างไม่มีประโยชน์เสียจริง
อวี่เหวินฮ่าวเมื่อเห็นหยวนชิงหลิงลูบหัวนางอยู่ตลอดเวลานั้น จึงนึกขึ้นมาได้ว่า นางกำลังเจ็บหัวอยู่ พลันจับนางให้เข้ามานอนพักบนต้นขาของตนเอง "ข้าดูบาแผลเจ้าหน่อย"
หยวนชิงหลิงพลันดิ้นไปมา อวี่เหวินฮ่าวจึงเคาะไปที่ไหล่ของนางทั้งสองข้าง "อย่าดิ้น"
ใบหน้าของหยวนชิงหลิงพลันถูกฝังอยู่ที่ตรงกลางระหว่างขาของอวี่เหวินฮ่าว.ล ท่านี้มัน
นิ้มมือที่เย็นเฉียบ ค่อยๆเกลี่ยผมของหยวนชิงหลิงออก เมื่อเห็นว่าบาดแผลด้านบนเป็นรอยการจับที่รุนแรงแล้ว จึงเห็นเป็นรอยนิ้วได้ชัดเจนมาก. บาดแผลมิได้รุนแรงมากมายแต่อย่างใด ทว่า การที่ถูกเล็บมือของคนจับกดบนหัวเช่นนี้ ก็ทำให้พอมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงพลันขยับใบหน้าออกมา พร้อมกับซูดลมหายใจเข้าไป ก็ถูกอวี่เหวินฮ่าวกดหัวลงอีกครั้งหนึ่ง "อย่าดิ้น ให้ข้าเช็ดคราบเลือดที่ขอบแผลก่อนเสีย"
น้ำในทะเลสอบสกปรกเป็นอย่างมาก บาดแผลที่อยู่บนหัวจึงมีตะกอนดินโคลนติดเต็มไปหมด. อีกทั้งยังสยายผมเช่นนี้ จึงได้กลิ่นตะกอนดินโคลนเหม็นๆขึ้นมา หยวนชิงหลิงอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้น ใบหน้าที่ซีกขวาของนางไปโดนในช่วงตรงนั้นของอวี่เหวินฮ่าวเข้า มันกำลังขยายตัวใช่หรือไม่ ?
อวี่เหวินฮ่าวหยิบอาภรณ์ที่เปียกของหยวนชิงหลิงขึ้นมาเช็ดที่ขอบบาดแผลอย่าระมัดระวัง อีกทั้งยังอ่อนโยนเป็นนอย่างมาก เขาทำเพื่อให้แน่ใจว่า ผมถูกแยกออกมาจากบาดแผลหมดแล้ว ยามที่เช็ดผมนั้นก็มิได้มีเส้นผมเส้นใดหลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย
หยวนชิงหลิงค่อยๆหยุดการดิ้นไปมาลง แล้วจึงนอนลงบนตักเขาด้วยความเชื่อฟัง มืออีกข้างวางลงข้างกาย มืออีกข้างที่ไม่มีที่วางนั้น ก็ค่อยๆขยับเข้าไปโอบกอดเอวของอวี่เหวินฮ่าวไว้อย่างระมัดระวัง ใบหน้าที่อยู่ในท่าที่ไม่ค่อยเหมาะสมนั้น นางก็ค่อยๆขยับกายเล็กน้อย เพื่อให้ใบหน้าสามารถหายใจได้อย่างคล่องแคล่ว ทว่า ทุกอย่างยังอยู่ในท่าเดิม
การกระทำที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ อวี่เหวินฮ่าวที่กำลังเช็ดบาดแผลด้วยความระมัดระวัง กลับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง สายตาพลันมืดลง
หยวนชิงพลันรู้สึกได้ว่าช่วงตรงนั้นกำลังอุ่นขึ้นและกำลังขยายตัว หยวนชิงหลิงพลันลุกออกมาอย่างรวดเร็ว "พอแล้วเพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋อง"
อวี่เหวินฮ่าวจึงปล่อยนาง พร้อมกระแอมกระไอภายในลำคอ "อื้ม"
บรรยาภายในรถม้าจึงดูน่าอึดอัดมากยิ่งขึ้น มือของหยวนชิงหลิงที่กำลังบิดเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่นั้น จึงหันมาแอบอยู่อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าซีกขวาของนาง ราวกับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มิรู้ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนหรือว่าสาเหตุอย่างอื่น
อวี่เหวินฮ่าวที่มองเห็นใบหน้าของหยวนชิงหลิงเป็นเช่นนั้น ผมของนางที่ดูยุ่งเหยิง ใบหน้าที่ราวกับปุยเมฆ ริมฝีปากที่แดงสวยนั้น แววตาที่แสดงถึงอาการไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนตาที่เป็นแพกำลังสั่นไหวื คิ้วทรงสวยที่ได้รูปถูกปกคลุมไปด้วยความเปียกปอนของน้ำ ส่วนเว้าส่วนโค้งที่เผยออกมาเมื่อตอนเปียกน้ำนั้นราวกับสีใสๆของปีกแมลงปอ แม้ว่าโดยรวมนางจะขาดชีวิตชีวาไปบ้าง ใบหน้าที่ซีดแผืดราวกับกำลังตกใจอะไรบางอย่าง. กับทำให้อวี่เหวินฮ่าวรู้สึกว่าช่างน่าดูเป็นอย่างยิ่ง
สมองของอวี่เหวินฮ่าวราวกับหยุดทำงานไปในทันที ริมฝีปากที่แห้งเผือด ราวกับว่าช่วงล่างของเขากำลังมีไฟลุกโชน พร้อมกับหัวใจของตนเองที่กำลังเต้นรัว
MANGA DISCUSSION