ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 171 กลับบ้านแม่ไปอีกครั้ง
"เรื่องนี้มีอะไรให้ต้องปิดบังกัน?" หยวนชิงหลิงเปลี่ยนเรื่อง "เรื่องชายารองจบไปแต่เพียงนี้หรือ? เสด็จพ่อไม่ได้พูดอะไรหรือ?"
"เสด็จพ่อคงมีความคิดอะไรอยู่ในใจ ทรงไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย" อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
หยวนชิงหลิงลุกขึ้น "หากเสด็จพ่อไม่ได้พูดอะไร พวกเราก็ไม่สนใจเสียดีกว่า"
นางโก่งคอตะโกนเรียก "ตัวเป่า ไปเดินเล่นกันเถอะ"
ตัวเป่าพุ่งตัวออกมา หยวนชิงหลิงสั่งลู่หยาว่า "เจ้าไปเป็นเพื่อนข้าหน่อย"
ลู่หยารับคำแล้วจึงตามหยวนชิงหลิงไปที่สวน
เมื่อเห็นว่าอวี่เหวินฮ่าวไม่ได้ตามมา หยวนชิงหลิงก็ลดเสียงลด "จริงสิ ลู่หยา รอบเดือนของข้า… ปกติข้าสามเดือนมาครั้งหนึ่งหรือ?"
"พระชายา ท่านไม่รู้หรือเจ้าคะ?" ลู่หยาถามอย่างข้องใจ
"รู้สิๆ" หยวนชิงหลิงโบกมือ "ท่านอ๋องไม่รู้ เดิมข้าคิดจะปิดบังเขา จริงสิ พวกเจ้ามาเดือนหนึ่งครั้งหรือ?" นางจงใจถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องประจำเดือน
"เพคะ ต่างก็เดือนละหนึ่งครั้ง" ลู่หยากล่าว
หยวนชิงหลิงคิดไม่ถึงว่าเจ้าของร่างเดิมจะประจำเดือนมาไม่ปกติ เฮ้อ เกือบไปแล้วเชียว
"พระชายาเชิญหมอมาบำรุงร่างกายหน่อยดีไหมเพคะ?" ลู่หยาถาม ตอนนี้พระชายาของท่านอ๋องทุกพระองค์ต่างก็เสาะหาตำรับยามาบำรุงร่างกายกันทั้งนั้น เพื่อที่จะได้มีทายาทสืบต่อไปในเร็ววัน
หยวนชิงหลิงโบกมือ "ผ่านไปสักระยะค่อยบำรุงก็แล้วกัน"
นางคิดว่าอายุเพียงสิบเจ็ดก็มีลูกออกจะไร้มนุษยธรรมไปสักนิด ก่อนหน้านี้คิดว่าเจ้าของร่างยังไม่เคยมีประจำเดือนจึงรู้สึกว่าบังเอิญ ดูแล้วต่อไปนางคงต้องระวังให้มากขึ้น แต่เรื่องนี้นางจะระวังอย่างไรได้?
ตอนนี้เป็นยุคที่ไม่มีการคุมกำเนิด อีกทั้งคนผู้นั้นก็ยังขยันหมั่นเพียรเสียเหลือเกิน ช่างยากเย็นเสียจริง
อวี่เหวินฮ่าวตามมาแล้ว ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับตัวเป่ามั่นคง สามารถเล่นด้วยกันได้แล้ว ความกลัวสุนัขที่เคยมีจึงค่อยๆ หายไป
หยวนชิงหลิงเห็นพวกเขาเล่นกันอย่างเบิกบานจึงเข้าไปเล่นด้วย นางขว้างกิ่งไม้กิ่งหนึ่งออกไป ตัวเป่าก็รีบวิ่งตามไม้นั้นไป นางจงใจแกล้งโยนไปทางอวี่เหวินฮ่าว ตัวเป่าก็กระโจนเข้าใส่เขาอย่างจังและงับไม้นั้นไว้ คาบกลับมาให้หยวนชิงหลิง อวี่เหวินฮ่าวก็โยนไม้ไปให้นาง แต่เขาไม่กล้าโยนกิ่งไม้ เพียงแต่โยนใบไม้เท่านั้น ใบไม้นั้นช้า ทุกครั้งเมื่อหยวนชิงหลิงเพียงโยกหัวหลบก็หลบได้ ตัวเป่าจึงไม่ได้พุ่งเข้าใส่ตัวนาง ตัวเป่าฉลาดเฉลียวมาก เมื่อรู้ว่านายหญิงของตนเองต้องการแกล้งอวี่เหวินฮ่าว ดังนั้นทุกครั้งมันจึงกระโจนใส่ตัวของอวี่เหวินฮ่าว สองคนและหนึ่งตัวเล่นด้วยกันครึ่งชั่วยามเต็ม หยวนชิงหลิงเหนื่อยจนหอบหายใจและนั่งพักลงบนพื้นหญ้าโดยตรง
ตัวเป่าหมอบอยู่ข้างเท้าของนางอย่างเชื่อฟัง หยวนชิงหลิงจึงเอื้อมมือไปลูบหัวมัน
อวี่เหวินฮ่าวก็นั่งลงเช่นกันและเช็ดเหงื่อให้นาง มองใบหน้าของนางที่แดงระเรื่อจากการออกกำลังก็หัวเราะและถามว่า "เหนื่อยใช่ไหมเล่า?"
"ไม่เหนื่อย มีความสุขมาก!" หยวนชิงหลิงแอบอิงอยู่ข้างกายเขา ลมเย็นในฤดูใบไม้ร่วงพัดมา รู้สึกว่าเย็นสบายยิ่งนัก
นางคงต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว
"มีความสุขงั้นหรือ? เช่นนั้นก็ดี ต่อไปทุกวันข้าจะมาเล่นกับเจ้าและตัวเป่า ฝึกซ้อมเสียหน่อย รอให้เจ้าคลอดลูกชายแล้วค่อยเล่นเป็นเพื่อนเขา"
พูดถึงลูกชายอีกแล้ว! หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไปที่ไหนก็หลบไม่พ้นเรื่องนี้เลยจริงๆ ยุคนี้อะไรก็ไม่ดีเอาเสียเลย ยังมีปัญหาเพิ่มมาอีกเรื่อง แต่งงานมาหนึ่งปีแล้วหากไม่มีลูกก็จะเป็นความผิดมหันต์ คนอื่นพูดเช่นนี้ก็ว่าไปอย่าง แต่เขาก็กลับพูดถึงเรื่องนี้ไม่หยุด หยวนชิงหลิงรู้สึกรำคาญยิ่งนัก
วันต่อมาไม่มีเรื่องอะไร หยวนชิงหลิงกลับบ้านแม่ไปเยี่ยมท่านฮูหยินใหญ่
นางยังคงอาศัยช่วงเวลาที่จิ้งโหวไม่อยู่กลับไป แต่ว่าครั้งนี้หลวนซื่อและท่านฮูหยินรองต่างก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำกับนางและยังให้คนเตรียมอาหารกลางวันให้นางอีกด้วย
อาการของท่านฮูหยินใหญ่ยังคงทรงตัว หยวนชิงหลิงรู้ว่านางไม่ให้ความสำคัญกับร่างกายตนเอง นางต้องไม่ใส่ใจกับการกินยาแน่ เมื่อถามซุนมามา ซุนมามาก็บอกว่าหลวนซื่อไม่ได้มาถามเรื่องยาอีกต่อไป แต่หยวนชิงหลิงเห็นว่ายาที่นางเคยให้ไว้ยังเหลืออยู่อีกมาก จึงเห็นได้ว่าท่านฮูหยินใหญ่ไม่ได้กินยาไปเท่าไรนัก
"ท่านย่า จะว่าท่านอย่างไรดีนะ? ร่างกายนี้เป็นของท่านเอง หากท่านไม่ทะนุถนอมมันแล้วใครจะช่วยท่านได้อีก?" หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ
ท่านฮูหยินใหญ่กล่าวอย่างราบเรียบ "จะเป็นหรือตายล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว หากเมื่อไหร่ที่ข้าจะต้องตายกินยาไปก็ไร้ประโยชน์ หากข้ามีชีวิตอยู่ ไม่ต้องกินยาข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ได้"
"นี่มันเหตุผลประหลาดอะไรกัน?" หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว ท่านฮูหยินใหญ่ช่างหัวแข็งเสียเหลือเกิน
"ว่าแต่ข้า เจ้าเองก็เถอะ ข้างนอกนั้นมีเรื่องอะไรข้าก็รู้เช่นกัน เจ้ากับท่านอ๋องเป็นอย่างไรกันแน่?" ท่านฮูหยินถาม
"ข้างนอกเป็นอย่างไรอะไรกัน? เรื่องนี้เกี่ยวกับข้าและท่านอ๋องอย่างไรเล่าเจ้าคะ?" หยวนชิงหลิงมึนงง
ซุนมามาหัวเราะและตอบว่า "ท่านฮูหยินหมายถึงว่าผู้คนข้างนอกกำลังลือกันว่าฝ่าบาทตั้งใจจะตั้งชินอ๋องที่มีบุตรได้ก่อนเป็นรัชทายาท จึงได้ถามว่าเมื่อไหร่ท่านและท่านอ๋องจะมีลูกสักคนเจ้าค่ะ"
หยวนชิงหลิงแทบจะลมจับ เหตุใดเมื่อไปที่ไหนต่างก็เอาแต่พูดถึงแต่เรื่องนี้อยู่ได้?
นางถอนหายใจยาว "นี่เป็นโชคชะตาเจ้าค่ะ คงไปฝืนไม่ได้ ท่านย่าอย่าได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย ช่วงนี้หลานฟังจนหูแฉะแล้ว"
"ข้าไม่ถามเจ้า พ่อของเจ้าก็ต้องถามอยู่ดี ช่วงนี้เขาคิดจะไปหาเจ้าที่จวนอ๋องอยู่" ท่านฮูหยินใหญ่กล่าวเรียบๆ
หยวนชิงหลิงสะดุ้งตกใจ "ข้าต้องไปแล้ว จะให้เขาพบข้าไม่ได้"
ท่านฮูหยินใหญ่อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "เจ้านี่อย่างไรกัน? ถามหน่อยก็ไม่ได้ ย่าของเจ้าไม่ได้หวังอย่างอื่นเลย เพียงหวังให้เจ้ามีลูก จะได้ทำให้ตำแหน่งในจวนอ๋องของเจ้ามั่งคง ไม่ถูกคนรังแก"
"วางใจเถอะเจ้าค่ะ" หยวนชิงหลิงเก็บของเพื่อเตรียมที่จะไปหันกลับมาพูดกับท่านฮูหยินใหญ่ "หากหลานเขยของท่านรังแกข้า ข้าหอบผ้าหอบผ่อนหนีมาหาท่านย่าเสียก็สิ้นเรื่อง"
"อย่าเชียวนะ ข้าไม่รับหรอก!" ท่านฮูหยินใหญ่กล่าวพลางหัวเราะ
เมื่อเห็นว่าท่านย่าของนางอารมณ์ดีขึ้นแล้ว หยวนชิงหลิงก็จากไปอย่างอารมณ์ดี แต่ว่ายามออกไปกลับพบหวางซื่อ มารดาของตนเอง
หวางซื่อขวางนางด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ "เจ้ากลับมาก็ไม่มาทักทายข้า ข้าคลอดเจ้ามาเสียเปล่างั้นหรือ? หรือว่าพอเจ้าได้เป็นพระชายาแล้วก็กลายเป็นคนหัวสูงอย่างนั้นหรือ?
หยวนชิงหลิงไม่ชอบมารดาของเจ้าของร่างเดิมนัก นางโง่และเลอะเลือน ไม่มีความคิดเป็นของตนเองและยังชอบเล่นตัว
"ท่านแม่ ข้ากำลังคิดจะไปทักทายท่านอยู่พอดีเลยเจ้าค่ะ แต่มาพบท่านตรงนี้เสียก่อน" หยวนชิงหลิงแถ
"ในสายตาเจ้ายังมีแม่คนนี้อีกหรือไม่?" หวางซื่อถลึงตามองนาง
หยวนชิงผิงรีบแก้สถานการณ์ "ท่านแม่แกล้งพี่ใหญ่อีกแล้ว นางไม่ใช่คนเช่นนั้นเสียหน่อย"
หวางซื่อโปรดปรานหยวนชิงผิงอยู่เสมอ แต่วันนี้เมื่อเห็นนางก็ให้รู้สึกโมโห "เจ้าก็เหมือนกัน ไม่ได้เรื่องสักคน ไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย พ่อของเจ้าทำเพื่อเจ้า เพื่องานแต่งงานของเจ้า เจ้าไม่รับน้ำใจแล้วยังไปเถียงเขาอีก? เจ้าเบื่อที่ชีวิตผ่านไปอย่างราบรื่นเกินไปหรืออย่างไร?"
หยวนชิงหลิงมีสีหน้าไม่พอใจ "พอแล้ว ท่านก็เอาแต่บ่น ข้าจะไปส่งพี่ใหญ่กลับ"
ว่าแล้วนางก็คล้องแขนหยวนชิงหลิงและกล่าวเบาๆ "หนีเร็ว!"
เมื่อออกจากประตูจวนมาแล้ว หยวนชิงหลิงก็เอ่ยว่า "นี่มันเรื่องอะไรกัน? นางบอกว่าเจ้าเถียงพ่อเรื่องแต่งงานหรือ?"
หยวนชิงผิงสีหน้าหม่นหมอง "อย่าพูดถึงมันเลย ไม่รู้ว่าไปหาคนแบบใดมาให้ข้า แต่ละคนแทบจะเป็นพ่อข้าได้อยู่แล้ว แถมยังเป็นพ่อหม้ายอีก"
หยวนชิงหลิงรู้ว่าจิ้งโหวหยวนปาหลงเป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่ว่าอะไรก็สามารถนำมาแลกกับผลประโยชน์ได้ โดยเฉพาะบุตรี ย่อมต้องเอาไปแลกผลประโยชน์ที่มากที่สุด
เหล่าคุณชายที่อายุไม่มากในตระกูลดังต่างๆ ก็ไม่ให้ความสำคัญแก่โหวผู้ตกอับเช่นเขา รับราชการมานานเช่นนี้ก็ยังเป็นได้เพียงรองเจ้ากรม ตำแหน่งไม่เลื่อนอีกทั้งไม่แน่ว่าอาจจะถูกลดตำแหน่งลงเสียด้วยซ้ำ เหล่าคนที่ชาติตระกูลด้อยกว่า เขาก็รู้สึกว่าขาดทุน อย่างไรเขาก็มีตำแหน่งเป็นถึงท่านโหว! มีเพียงแต่ต้องหาผู้ที่อายุมากหน่อย ตำแหน่งมั่งคงและมีอำนาจ ถึงภรรยาจะตายไปแล้วก็ไม่เป็นไร
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "เรื่องการแต่งงานของเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรงก็แล้วกัน"
"อืม" หยวนชิงผิงรับคำไปเช่นนั้นเองและไม่ได้คิดจริงจัง
หลังจากที่หยวนชิงหลิงกลับมาถึงจวนแล้ว นางก็ถามซีมามาจริงๆ