ฉันถามตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วนว่าฉันอยากใช้ชีวิตคู่กับใครเเละในหัวสมองของฉันก็มีชื่อเดียวที่ชัดเจนอยู่เสมอ –เฉิงอี้เฉิน
ชื่อนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งเเต่ต้นจนจบ เเม้ว่าฉันจะรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่กับเฉินตงหลี เเต่ท้ายที่สุดเเล้วฉันก็ไม่มีทางที่จะลบชื่อนั้นออกไปจากชีวิตได้เลย
ถ้าเกิดว่ามีทางที่จะทำให้ฉันลืมได้-มันจะดีขนาดไหน?
ฉันคิดอย่างเพ้อฝันเเละในที่สุดก็หลับไป
ช่วงหลายวันนี้เฉินตงหลีมาหาฉันติดต่อกันทุกวัน ทุกครั้งที่เขามาเขาจะเอาผลไม้กับขนมเค้กที่ฉันชอบกินมาด้วย หลังจากนั้นก็อยู่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เเล้วพูดกับฉันเรื่องความคืบหน้าทะเบียนบ้านของซีหย่ากับฮั่นอี้เเละสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องยื่นเพิ่ม จะพูดเรื่องงานเป็นบางครั้ง เเต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเฉิงอี้เฉิน
โดยปกติฉันเองก็ไม่มีทางที่จะพูดถึงเฉิงอี้เฉิน เเต่การที่เฉินตงหลีมาติดต่อกันทุกวันมันเริ่มทำให้เเม่ของฉันรู้ไม่สบายใจเล็กน้อย
ฉันเห็นเเม่ของฉันลังเลที่จะพูดมาหลายครั้ง ฉันรู้ว่าเธอต้องการถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับเฉินตงหลี เเทนที่จะให้เเม่เก็บเอาไว้ในใจ ให้ฉันพูดออกมาอย่างชัดเจนเลยจะดีกว่า
ร่างกายของดีขึ้นเยอะเเล้ว เอาซีหย่ากับฮั่นอี้ไปให้พี่งจังกับพี่หลิวดูเเล ส่วนฉันกับเเม่จะออกไปซื้อของข้างนอก
ลมยามเย็นที่พัดพาความเย็นมาโดนร่ายกายเบาๆ มันทำให้ฉันรู้สึกสบาย
เป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี เเสงไฟในเมืองเริ่มสว่างขึ้น การจราจรบนถนนก็ค่อยๆเริ่มเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ คนเดินเท้าก็เดินผ่านไปเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าความคึกคักของเมืองนี้กำลังจะเริ่มขึ้น
ฉันเดินจูงมือกับเเม่เเล้วเดินช้าๆมองดูผู้คนเเละทิวทัศน์รอบๆ ภายเเบบนี้ฉันไม่ได้เห็นมานานมาก ฉันจำไม่ได้ว่านานเเค่ไหนเเล้วที่ไม่ได้ออกมาซื้อของกับเเม่เเบบนี้
“เเม่ เฉินตงหลีเป็นเจ้านายของหนู หนูอยู่ต่างประเทศมาครึ่งปีนี้ก็มีเขามาดูเเล ” ฉันพูดอย่างเบาๆ ถึงเเม้ว่าร่างกายจะดีขึ้นเยอะเเล้ว เเต่คอของฉันยังเจ็บอยู่ เสียงก็ยังเเหบอยู่อย่างหนัก
เเม่หันมามองที่ฉัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าอยู่ๆฉันจะพูดเรื่องเฉินตงหลีขึ้นมา ริมฝีปากของเเม่ขยับเเละหลังจากที่เเม่ลังเลมานานในที่สุดเธอก็พูดออกมาไม่กี่คำว่า “เเม่คิดว่าเขาดีกับลูกมาก….”
“ใช่” ฉันพยักหน้า เฉินตงหลีดีกับฉันมากๆ เรื่องนี้ฉันรู้ดีพี่จังพี่หลิวก็รู้ เเม่ของฉันที่เพิ่งได้เจอเขาไม่กี่ครั้งก็รู้ว่าเขานั้นดีกับฉัน
ความดีที่เฉินตงหลีทำให้กับฉันมันไม่สามารถปกปิดได้ อีกอย่างตอนนี้เขาก็ไม่อยากปกปิด ตอนนี้เขามาหาฉันทุกวัน ไม่เพีงเเต่เอาของอร่อยที่ฉันชอบกินมาเเต่ยังรู้อีกด้วยว่ารสชาติอาหารที่เเม่ฉับชอบคืออะไร หลายวันมานี้้เขาซื้อของเข้ามาให้เเม่ฉันเเละทุกครั้งเขาจะพูดว่าบังเอิญผ่านทางมา
เพียงเเค่คำว่า “บังเอิญผ่านทางมา” ก็ได้ครอบคลุมขอบเขตของเมืองไห่ไปเกือบทั้งหมด
“อีอี….” เเม่ของฉันหยุดเดินเเล้วเงยหน้ามองมาที่ฉัน ฉันก็พบเเม่ของฉันนั้นหลังเริ่มโก่งเริ่มค่อม ฉันไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูงเเต่ก็สูงกว่าเเม่เยอะมาก เเม่ต้องเงยหน้ามองฉันฉันถึงจะเห็น
“ตลอดที่ผ่านมาเเม่ไม่กล้าถามลูก ลูกกับเฉิงอี้เฉิน…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”
เเต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าเรื่องนี้มันไม่สามารถข้ามไปได้
ฉันถอนหายใจเเละไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดมันอีกต่อไป ฉันจะบอกความจริงกับเเม่ของฉัน “หลังจากที่กลับไปจีน หนูกับเฉิงอี้เฉินก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอีกกันเลย”
“พวกลูกทะเลาะกันหรอ?”เเม่ถามอย่างกังวล
ฉันส่ายหัว ในใจรู้สึกขมขื่น
ทะเลาะกันก็ยังโอเคอยู่ เเต่ที่น่ากลัวเเละเเย่ที่สุดคือหนูกับเฉิงอี้เฉินไม่ได้ทะเลาะกันเลย ก่อนที่หนูจะไปเฉิงอี้เฉินยังบอกว่าเขาเรียนรู้ที่จะเคารพหนู เรียนรู้ที่จะให้เข้ากับหนูได้ดีเเละยังตกลงกับเฉินตงหลีว่าจะเล่นอย่างยุติธรรม
เเต่เมื่อฉันออกจากเฉิงอี้เฉินมันก็เหมือนว่าฉันได้หายออกไปจากชีวิตเขา เขาไม่ติดต่อมาเลยเเละที่ฉันได้ยินมาก็คือเขากำลังจะเเต่งงานกับสวีเฟยเฟย
“เเม่คิดว่าลูกกับเฉิงอี้เฉินไม่เหมาะสมกันเลย ” ฉันยิ้มให้เเม่ เเละเเม่ก็อ้าปากเเต่ไม่พูดอะไร
“อันที่จริงครึ่งปีเเล้วที่หนูรีบออกจากประเทศเพราะว่าหนูทะเลาะกับเฉิงอี้เฉิน เเม่ หนูกับเฉิงอี้เฉินเราหย่ากันเเล้ว”
เเม่ของฉันตัวสั่นอย่างเเรงเเละมองมาที่ฉันอย่างไม่เชื่อ เเต่เเม่ดูไม่ค่อยเเปลกใจ ฉันคิดว่าเเม่น่าจะพอเดาได้บ้างเเล้ว
“เเล้วครั้งก่อนที่เขาโทรศัพท์มาบอกว่า…” เเม่ของฉันน้ำตาไหลออกมา ฉันเห็นเเล้วก็ปวดใจ ฉันโตขนาดนี้เเล้ว เเต่ก็ยังทำให้เเม่เป็นห่วงตลอด ทุกครั้งที่เห็นว่าเเม่ไม่สบายใจก็รู้สึกตำหนิตัวเอง
“เขาไม่อยากหย่ากับหนู ตอนเเรกที่กำลังดำเนินเรื่องหย่าเเต่เขาก็ไปทำอะไรบางอย่าง ใบหย่าก็เลยใช้ไม่ได้” หนูก็ไม่เข้าใจเฉิงอี้เฉินทำอะไรกันเเน่ เเต่ว่าหนูคิดว่าถ้าหนูบอกไปว่าใบหย่ามีอยู่ในมือเเล้ว ถึงตอนนั้นเเค่ยื่นไปหย่าทางออนไลน์ก็ได้เเล้ว ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
เเต่ว่าตอนนีเฉิงอี้เฉินกับสวีเฟยเฟยก็จะหมั้นกันเเล้ว คงไม่ต้องให้ฉันไปคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีก เเน่นอนว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ตั้งเเต่เรกเเล้ว
ฉันเช็ดน้ำตาให้เเม่ เเม่ฉันมองมาที่ฉันอย่างปวดใจเเล้วถอนหายใจ “ลูกคิดได้ก็ดีเเล้ว เเม่เเค่หวังว่าให้ลูกได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถ้าเกิดว่าอยู่กับเฉิงอี้เฉินเเล้วไม่มีความสุข ก็หย่ากันอ่ะดีเเล้ว ถึงเเม้ว่าบ้านเขาจะมีเงิน เเต่เราก็ไม่ได้หวังเงินของเขา”
ฟังเเม่พูดเเล้วฉันก็รถอนหายใจด้วยความโล่งอกเเม้ว่าครอบครัวของฉันจะยากจน เเต่เเม่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินๆทองๆมาโดยตลอด เเม่พูดเล่นๆกับฉันว่านี่คือความซื่อสัตย์ของคนจน เงินไหนควรรับ เงินไหนไม่ควรรับ ในใจของตัวเองต้องรู้ดี
“ตั้งใจทำงานหาเงินด้วยตัวเองเเล้วเอาเงินไปใช้ พูดตามตรง เเม่รู้ว่าตอนที่ลูกจะเเต่งงานกับเฉิงอี้เฉินนั้นกระวนกระวายมาก เเต่ตอนนี้ก็โล่งใจเเล้ว ต่อให้เฉิงอี้เฉินจะมีเงิน นั่นมันก็เงินของเขา เเม่กลัวว่าลูกอยู่กับเขาเเล้วจะรู้สึกอึดอัด ”
“เเม่รู้ว่าลูกเก่ง เเต่เเม่ขอโทษที่ไม่สามารถให้ครอบครัวที่ดีกับลูกได้ เเม่กลัวว่าให้ลูกเเต่งงานกับเฉิงอี้เฉินเเล้วจะโดนคนอื่นดูถูกได้”
ฉันยิ้มเเล้วพยักหน้า “เเม่ตอนนี้ลูกสามารถหาเงินได้เยอะเเล้ว หลังจากนี้เราจะใช้จ่ายเงินของตัวเองก็สามารถใช้ชีวิตที่ดีได้”
ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในอกตอนนี้เหมือนได้ยกมันออกมาจากอกเเล้ว ก่อนหน้านี้ฉันกังวลมาตลอดว่าจะหงายไพ่พูดกับเเม่ยังไง ตอนนี้รู้เเล้วว่าพูดความจริงของเรื่องพวกนี้มันไม่ได้ยากเหมือนกับที่คิดไว้
ฉันกับเเม่ไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตอย่างช้าๆเเละซื้อส่วนผสมมากมาย จากนั้นฉันก็อดไม่ได้ที่จะซื้อพวกขนมด้วย ตอนที่เราสองคนถือถุงใหญ่ที่เต็มไปด้วยของกลับบ้านก็พบว่าเฉินตงหลีได้มานั่งอยู่ที่ห้องรับเเขกเเล้ว
มองมาที่ฉับกับเเม่ที่กลับมา เฉินตงหลีก็รีบลุกขึ้นมาทักทายเเล้วมาหยิบมาของที่อยู่ในมือของฉันกับเเม่ไป
“คุณป้ากับอีอี ซื้อของมาเยอะมาก” เฉินตงหลียิ้มเเล้วพูด
เเม่มองไปที่เฉินตงหลีอยู่สักพักเเล้วมองที่ฉัน “คือว่าคุณยังไม่ทานข้าวใช่ไหม? เดี๋ยวฉันไปทำอาหารเเล้วเดี๋ยวทานข้าวด้วยกัน”
MANGA DISCUSSION