รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 11 จัดการปัญหาในใจ
ฉันแทบจะไม่ได้หลับทั้งคืน เฝ้าดูแม่ที่กำลังสวมหน้ากากออกซิเจนนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยไอซียู ใจของฉันทุกข์ทรมานมาก แต่ยังดีที่มีหลินปิงชิงมาอยู่เป็นเพื่อน
ในที่สุดก็รอจนถึง8โมงเช้า ฉันใช้มือถือของหลินปิงชิงโทรไปหาเฉิงอี้เฉิน ฉันเพิ่งจะกดโทรออกไปแต่ฉันก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น
ฉันไม่ตอบสนองไปสักพัก แต่ได้ยินเสียงของหลินปิงชิงที่ตะโกนเรียก "พี่ใหญ่เฉิง"
ใช้สายตามองไปในทางเดียวกับหลินปิงชิง เฉิงอี้เฉินก็ยืนอยู่ไม่ไกล เขาก้มมองมือถือของตนเอง แสงแดดส่องมาที่บนตัวของเขาผ่านหน้าต่าง ทำให้เขาดูเหมือนถูกเคลือบเป็นชั้นๆไปด้วยแสงสีทอง ความหล่อเหลาที่ทำให้คนที่มองไม่สามารถละสายตาได้
แต่ภาพที่สวยงามนี้ก็ถูกทำลายด้วยคำพูดประโยคเดียว
"คุณต้องการจะคุยกับผมเรื่องค่าชดเชยใช่ไหม" เฉิงอี้เฉินวางสายแล้วเดินมาข้างฉับกับหลินปิงชิง มองมาที่ฉันอย่างใจเย็น
ฉันไม่คิดว่าเขาจะพูดทั้งหมดในประโยคเดียว เป็นเวลาเดียวกันที่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอย่างไรดี
หลินปิงชิงไม่ได้สังเกตอารมณ์ของฉัน เลยพูดออกไปตรงๆว่า "ใช่แล้วพี่ใหญ่เฉิง พี่ช่วยทำให้อีอีกับฉิน
จวิ้นเฟยหย่ากันได้ไหม?
แก้มของฉันเริ่มร้อนขึ้น ในใจก็ยิ่งอับอาย ก้มหัวลงอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ทนที่จะฟังคำตอบของเฉิงอี้เฉินไม่ไหว
"ฉินจวิ้นเฟยนั้นไม่ใช่คน" หลินปิงชิงกัดฟันอย่างขมขื่น "พี่ใหญ่เฉิง อีอีไม่สามารถเอาชนะฉินจวิ้นเฟยได้ แต่พวกเขาสามารถซื้อหน้าของพี่ได้ ดังนั้นพี่ช่วยอีอีเถอะ! "
หัวใจของฉันเต้นอย่างเร็วและมือทั้งสองข้างก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ หลินปิงชิงได้พูดทุกอย่างที่ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอย่างไร แต่ว่าเฉิงอี้เฉินนั้นจะตอบเธอไหม?
"ได้" เฉิงอี้เฉินตอบออกมาอย่างแผ่วเบา หัวใจของบีบแน่นและเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที
เขาเห็นด้วยด้วยไหม?
เฉิงอี้เฉินเพียงแค่พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย "พวกคุณยังไม่ทานข้าวใช่ไหม?งั้นทานไปคุยไปดีกว่า"
ฉันไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ความคิดของเขาได้ เกิดความตื่นเต้นที่เหมือนกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นหนึ่งถัง และในขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดอย่างไรดี
แต่หลินปิงชิงดึงแขนของฉันและมองมาที่ฉันแล้วพูดว่า "เธอไปทานข้าวกับพี่ใหญ่เฉิงเถอะ ฉันมาที่นี่เพื่อดูแลป้า มีเรื่องอะไรฉันสามารถดูแลได้"
เมื่อเห็นหลินปิงชิงขยิบตาให้ฉันไม่หยุด สุดท้ายฉันเลยเดินตามเฉิงอี้เฉินออกจากโรงพยาบาลไป
รอบโรงพยาบาลมีร้านอาหารเล็กๆมากมายและเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คึกคัก
"อยากทานอะไร? "เขาพูดออกมาอย่างกะทันหัน
"ได้ ได้หมดเลย…."
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เจอกันกับเฉิงอี้เฉิน แต่ฉันก็รู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก
เขาพยักหน้าแล้วมองไปร้านราเม็งที่อยู่ข้างหน้าพร้อมกับพูดว่า "งั้นร้านนี้ละกัน ดูแล้วสะอาดดี"
ฉันเดินตามเฉิงอี้เฉินเข้าไปในร้านและหาที่นั่ง ถึงแม้ว่าในร้านจะเปิดแอร์ แต่ฉันก็รู้สึกร้อนอบอ้าวมาก
เฉิงอี้เฉินนั่งอยู่ตรงข้ามฉัน มองขึ้นไปดูเมนูที่บนผนัง เขาใส่ชุดสูท ดูรวมๆแล้วหล่อเเละมีเสน่ห์ แต่การนั่งอยู่ที่นี่ดูลดลงเล็กน้อย
ปกติเขาจะมาสถานที่แบบนี้หรือเปล่า? ฉันคิดในใจ
"ขอราเม็งเนื้อชุดเล็กชุดหนึ่งครับ"เฉิงอี้เฉินพูดกับพนักงานแล้วมองมาที่ฉันแล้วถามว่า "คุณจะทานอะไร?"
"เอาเหมือนของคุณ" ฉันพูดออกไปอย่างเร่งรีบ
เฉินอี้เฉินจ่ายเงินในทันที และหลังจากที่พนักงานรับเงินไป ฉันจึงนึกขึ้นได้ว่ามันควรมันฉันที่ต้องเลี้ยงมากกว่า เพราะฉันกำลังขอความช่วยเหลือจากเขา
"ต้องการที่จะหย่ากับฉินจวิ้นเฟยคุณคิดดีแล้วใช่ไหม?" เป็นคำถามที่ทำลายความเงียบ
หัวใจฉันรู้สึกแน่นและตอบพยักหน้า "ฉันคิดดีแล้ว"
ฉันอดคิดไม่ได้เลยว่าการหย่ามันจะเป็นทางเลือกเดียว หลินปิงชิงพูดถูก ฉินจวิ้นเฟยและฉันไม่สามารถใช้ชีวิตดีๆด้วยกันอีกต่อไป
"ต้องให้ผมทำยังไงบ้าง?"เสียงของเฉิงอี้เฉินน่าฟังและมีเสน่ห์ดึงดูด แต่ไม่สามารถรู้สึกถึงอารมณ์ได้
ฉันมองไปที่เฉิงอี้เฉินและพูดอย่างระมัดระวังว่า "ปิงชิงพูดว่า คุณสามารถทำให้ฉินจวิ้นเฟยไม่สร้างปัญหา…"
เฉิงอี้เฉินมองที่ฉัน และริมฝีปากก็ยิ้มขึ้น ทำให้หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้น ไม่รู้ว่าที่เขายิ้มแบบนี้มันหมายความว่าไง
"ปิงชิงจะหักหลังฉัน"เขาพูดเบาๆ รอยยิ้มของเขาไม่เปลี่ยนแปลง "ใช่ ฉันสามารถใช้กลุ่มบริษัทสกุลเฉิงไปกดดันบ้านสกุลฉินได้ ข้อสันนิษฐานคือตระกูลฉินนั้นให้ความสำคัญกับบริษัท"
"อย่างไรก็ตามจากที่ฉันรู้เกี่ยวกับฉินจวิ้นเฟยกับฉินจงหมิง พวกเขาคงจะไม่อยากที่จะสู้กับคุณ"
เมื่อได้ยินคำตอบนี้แล้วก็รู้สึกโล่งใจ มันเป็นไปไม่ได้อยู่เเล้วที่ฉินจวิ้นเฟยจะเอาบริษัทเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของฉัน ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะได้หย่ากับเขาได้อย่างแบบราบรื่นแล้วใช่ไหม?
ฉันขอบคุณครั้งแล้วครั้งแล้วด้วยความดีใจ เป็นเพราะฉันนั้นเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกและความกังวลก็หายไปมาก
"แล้วก็ขอบคุณที่เมื่อคืนจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ฉัน ฉันจะค่อยๆหามาคืนให้คุณ…."
ถึงเเม่ว่าหลินปิงชิงจะบอกว่าเงินหลายแสนสำหรับจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา แต่ฉันก็ไม่ควรเอาเงินของเขามาใช้เยอะขนาดนี้
เฉิงอี้เฉินมองมาที่ฉันแล้วขมวดคิ้ว
จู่ๆฉันก็กังวลว่าเขาจะไม่เชื่อจึงรีบบอกเขาไปว่า "ฉันสามารถทำหลักฐานการยืมเงินให้คุณได้ คุณเอาเลขบัญชีให้ฉันแล้วฉันจะคืนคุณทุกๆเดือน"
สายตาของเฉิงอี้เฉินที่มองฉันก็ยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ ความกังวลของฉันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า พอดีกับที่พนักงานกำลังจะนำอาหารมาเสิร์ฟก็เลยทำเลยทำให้ความกังวลหายไป