รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 81 เยี่ยมเยือนเพื่อนบ้าน
ฉันจำได้แม่นนั้นเป็นรถของเฉิงอี้เฉิน วันนี้ฉันได้วิ่งตามเขาตั้งนาน ไม่มีทางที่จะจำทะเบียนรถผิดแน่ เพียงแค่ ตอนนี้ทำไมรถของเฉิงอี้เฉินถึงได้อยู่ที่นี้?
ได้ครุ่นคิดในสายตาฉันมองออกเป็นเงาที่คุ้นเคย หนังตาฉันได้กระตุก ทันใดความเป็นไปได้ก็ปรากฏขึ้นในใจฉัน
เป็นไปไม่ได้….
“ติ่งต่อง…ติ่งต่อง…”เสียงออดก็ได้ดีงขึ้น คิ้วฉันก็ได้ขมวดขึ้น ได้กำกำปั้นแน่นๆ
ฉันไม่อยากลุกขึ้นได้คิดว่าใครกันแน่อยู่ข้างนอก เพราะเมื่อกี้ฉันได้เห็นชัดเจนแล้วว่าเป็นเฉิงอี้เฉินได้เดินเข้ามาที่สวนบ้านของฉัน
“อีอี คุณไม่เปิดประตูหรอ?” หลินปิงชิงกะพริบตามองดูฉัน
ฉันหายใจเข้าลึกๆลุกขึ้น แล้วเดินไปเปิดประตู
ประตูบ้านถูกเปิด แสงอบอุ่นที่ลงมาจากฟ้า ใต้แสงอาทิตย์เฉิงอี้เฉินได้ยิ้มจางๆด้วยมุมปากมองดูฉัน
ตอนนี้เฉิงอี้เฉินก็ไม่ใช่ลักษณะคนเมื่อเช้าที่ใส่ชุดสูทรองเท้าหนังแล้ว เขาเปลี่ยนใส่ชุดลำรอง เสื้อที่เชิร์ตง่ายๆประกอบกางเกงยีนต์สีน้ำเงินกับรองเท้าผ้าใบสีขาว ทำให้ทั้งตัวเขามีกลิ่นอายของแสงอาทิตย์
ฉันขมวดคิ้วมองเขา เขายังส่งยิ้มน้อยๆให้ฉัน “ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยหรอ?”
“พี่อี้เฉิน มาได้ยังไง?”หลินปิงชิงได้ยินเสียงก็วิ่งออกไป มองเห็นเฉิงอี้เฉินยืนอยู่นอกประตูหน้าตกใจ
ฉันหันหน้าไปมองหลินปิงชิง หลินปิงชิงได้รีบยกมือลักษณะขอยอมแพ้ “ฉันสาบานได้ ฉันไม่ได้เอาที่อยู่ของเธอไปบอกพี่อี้เฉิน
ฉันทำอะไรไม่ถูก เมื่อฉันได้รู้หลินปิงชิงไม่ได้เอาที่อยู่ไปบอกเฉิงอี้เฉิน อีกทั้งก่อนที่ฉันพาหลินชิงชิงกลับบ้านรถของเฉิงอี้เฉินก็ได้จอดอยู่ที่นั้นก่อนแล้ว เห็นได้ชัดเลย เฉิงอี้เฉินเขารู้ที่อยู่ของฉัน
ฉันได้ทบทวนเวลาก่อนหน้านี้เฉิงอี้เฉินทำอะไร รถของเขาได้จอดที่ประตูข้างบ้าน ทั้งไม่ใช่หันหน้าเข้าบ้านฉัน….
ในใจได้คาดคะเน ทำให้ฉันอยู่ไม่นิ่ง
“เข้ามานั่งก่อน”ฉันถอนหายใจ คนก็มาถึงแล้ว ฉันก็ไม่สามารถจะไล่เขาไปได้ ทั้งยังไม่สนว่าคำพูดเมื่อวานของเฉิงอี้เฉินหรือจะเป็นคำพูดของหลินปิงชิงวันนี้ ยิ่งทำให้ความคิดฉันรู้สึกกับเฉิงอี้เฉินยุ่งเยิงมาก
เฉิงอี้เฉินยิ้มหน่อยๆเข้ามา ในมือก็ถือตระกล้าผลไม้หนึ่งอัน “ครั้งแรกที่มาเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้าน เลยเอาของมาฝาก”
ฉันได้ยินคำนี้เท้าได้สะดุด เกือบล้มลงไปที่พื้น
ฉันคาดเดาถูกจริงๆ!
ฉันได้กลับหลังมองดูเฉิงอี้เฉิน กัดฟันพูด “คุณจะทำอะไรกันแน่?”
เฉิงอี้เฉินเป็นคนที่ทำงานโดยรอบคอบ เขายังวิ่งมาเป็นเพื่อนบ้านฉัน ยังไงไม่ใช่เพื่อความสนุก หรือว่าเขาจะอยู่ที่นาน?แล้วกลุ่มบริษัทสกุลเฉิงเขาไม่สนแล้วหรอ?
เฉิงอี้เฉินมองฉัน อย่างจริงจังว่า “อยากจะพาภรรยากับลูกกลับบ้าน”
ฉันมีปมอยู่ในใจ มองดูเฉิงอี้เฉินดวงตาของเขาคู่นั้นทำให้คำพูดทุกคำหยุดค้างไว้ในตอนนั้น
ฉันกัดริมฝีปากไม่รู้ตัว มือสองข้างบีบกันไว้แน่น สีหน้าเขามันเกินคำว่าจริงจัง ทำให้ฉันอยากหลบไปโดยปริยาย
บรรยากาศตอนนั้นรู้สึกอึดอัด หลินปิงชิงดึงแขนฉันเดินนำหน้า “อีอี พี่อี้เฉิงก็มามแล้ว หรือไม่…ให้เขาเจอฮั่นอี้กับซีหย่าป่ะ…”
เสียงของหลินปิงชิงเบาลง เห็นได้ชัคือสีหน้าของฉันเริ่มหมอง
เฉิงอี้เฉินมองฉัน พูดออกมาในที่สุด “อีอี ผมอยากเจอลูก”
นาทีนี้ ฉันเกือบต้องสงสัยว่าเฉิงอี้เฉินกับหลินปิงชิงได้ปรึกษากันแล้ว แต่น้ำเสียงเฉิงอี้เฉินจริงใจ ฉันยังมองเห็นความต้องการเบาๆจากสายตาของเขา
เสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นมาทันที ฉันอึ้งไปได้รีบวิ่งไปข้างบน
“เป็นอะไร?”ในห้องของลูกพี่หลิวกำลังอุ้มซีหย่า แต่ซีหย่าอยู่ในอ้อมกอดเธอยังร้องไม่หยุด ใบหน้าก็เริ่มแดงก่ำ
ตอนนั้นฉันเครียดมาก สุขภาพซีหย่าไม่ดี มีลมพัดมาฉันก็มีกังวลเล็กน้อย
พี่หลิวหัวเราะให้ฉัน “ซีหย่าพึ่งฉี่ไป ตอนนี้กำลังเปลี่ยนแพมเพิส”
ใจฉันก็เริ่มลงความกังวลลง พี่หลิวได้กระซิบเบาๆเสียงร้องซีหย่าก็ได้ลดลง
“ฉันทำเอง”ฉันเดินก้าวไปรับลูกที่อ้อมกอดของพี่หลิว ฉันเริ่มทำงานเมื่อสองนี้ ดูแลซีหย่ากัยฮั่นอี้ไม่ได้เท่าไหร่ ยิ่งอยากจะอยู่กับพวกเขาไปอีกสักหน่อย
ฉันได้วางซีหย่าไว้บนเตียง ถอดเอาผ้าอ้อมที่สกปกออกกำลังต้อการหยิบผ้าทำความสะอาดให้เธอเช็ดก้น พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นมือใหญ่ๆก็ได้ยื่นเอาผ้าเช็ดทำความสะอาดส่งมาให้
ไม่รู้ว่าเฉิงอี้เฉินมายืนอยู่ข้างฉันตอนไหน ในมือของเขาถือผ้าเช็ดทำความสะอาด สายตาได้มองลงไปที่ตัวซีหย่ากับฮั่นอี้
ดวงตาของเขาเหมือนนิลที่แวววาว เหมือนได้เห็นอัญมณีที่ล้ำค่า
ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้แพร่กระจายอยู่ในใจฉัน ฉันไม่ได้ปฏิเสธเฉิงอี้เฉินส่งยื่นผ้าเช็ดทำความสะอาดให้ ฉันได้บอกตัวเองในใจเฉิงอี้เฉินเป็นพ่อของเด็ก ถึงฉันกับเขาจะหย่ากันแล้วแต่เขาก็ยังเป็นพ่อของเด็ก เขาทำเพื่อลูกนั้นถูกแล้ว
เปลี่ยนแพมเพิสให้ซีหย่าเสร็จแล้ว สายตาของเฉิงอี้เฉินก็ได้มองไปที่ตัวของซีหย่า
“ผมอุ้มได้ไหม?” เขามองฉันแล้วพูดเบาๆ ทัศนคตินี้ทำให้ฉันประหลาดมาก ใจไม่อยากให้แต่ก็ได้พยักหน้า
ฉันได้ชินกับการเอาแต่ใจที่ทรงพลังของเฉินอี้เฉินแล้ว อยู่ต่าหน้าลูก เฉิงอี้เฉินวันนี้แสดงออกมาอย่าอบอุ่น แต่ยังได้ถามความคิดเห็นของฉัน
เฉิงอี้เฉินเห็นฉันพยักหน้าเขาก็ได้ยิ้มออกมาทันที ที่มุมปากมองออกถึงความอบอุ่น เขายื่นมือตรงไปที่ซีหย่า แต่ก็ยังชักช้าไม่กล้าจะอุ้มเธอขึ้น
“เขาตัวเล็กมาก….”เฉิงอี้เฉินพึมพัมออกมา นิ้วมือเขาได้ถูเบาๆที่แก้มของซีหย่า ท่าทางที่ดูระมัดระวังทำให้ใจฉันเต็มไปด้วยความอบอุ่น
จริงแล้วไม่ว่าผู้ชายจะมีความเย็นชามากแค่ไหน แต่เวลาอยู่กับลูกสาวตัวเองก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที?
ในใจก็ขยับเล็กน้อย ได้อุ้มซีหย่าขึ้นมา “คุณยกแขนขึ้น ฉันจะว่างเธอไว้ที่แขนคุณ”
“ได้!”เฉิงอี้เฉินพูดขึ้น ทำเหมือนฉันที่ยื่นแขนทั้งสองข้างออกมาก
ฉันเอาซีหย่าวางไว้บนแขนของเฉิงอี้เฉินเบาๆ บนหน้าเฉิงอี้เฉินแสดงถึงความประหลาดใจอย่างมาก แขนสองข้างแข็งทื่อ เป็นท่าดั้งเดิม
“เธอตัวเบามาก”
ฉันมองดูท่าทางที่ตรึงเคลียดของเขาก็อยากหัวเราะ ในใจฉันดูเหมือนว่าเฉิงอี้เฉินไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แต่ตอนที่เขาอุ้มซีหย่านั้นก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มทุกข์กับไม่เชื่อมั่นแล้ว
“ร่างกายซีหย่าอ่อนแอ ตอนที่คลอดออกมาน้ำหนักก็น้อยกว่าเด็กปกติทั่วไป”
เฉิงอี้เฉินขมวดคิ้ว “ตรวจเช็ครึยัง?สุขภาพแข็งแรงไหม?จะไปตรวจให้ระเอียดกว่านี้ดีไหม”
ดูท่าทีเขาที่เคลียดแบบนี้ใจฉันก็รู้สึกอุ่นขึ้นมาก “เคยมีอาการตัวเหลือง ตอนนี้หายแล้ว ดูแลเขาดีๆร่างกายก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ”
พูดประโยคนี้มาในใจก็คาดหวัง แต่คิดไม่ถึงว่าลูกสาวตัวเองจะได้รับความทุกข์แบบนี้ ตอนที่ฉันเห็นร่างกายเล็กของเขามีท่อต่างๆเสียบอยู่ เพียงต้องอาศัยยาและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยประทังชีวิต ใจฉันได้พังแล้วจริงๆ