รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 8 จนตรอกอย่างถึงที่สุด
ฉันอึ้งไปสองวินาทีกว่าจะได้สติกลับมา ทันใดนั้นใบหน้าของฉันก็แดงอีกครั้ง
ผู้ชายคนนี้พูดจาไม่สุภาพเลยสักนิด แค่ถูกเขาพูดจา “เหน็บแนม”แค่ประโยคเดียว ฉันกลับรู้สึกเบาใจ
เขาพูดไม่ผิด ผู้ชายที่หล่อและรวยมากอย่างเขา ผู้หญิงหลายคนคงวิ่งเข้าหา ถ้าไม่ใช่ถูกเขาประเมินว่า “หิวถึงกินไม่เลือก” จะวนมาถึงฉันได้ยังไงละ?
ฉันสูดหายใจลึกๆแล้วลงจากรถ กลับเห็นเฉิงอี้เฉินกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าประตูโรงแรม เขามองฉันอย่างเงียบๆ สูดลมหายใจแรงๆ แสงวูบวาบๆจากก้นบุหรี่ ควันสีขาวยาวๆถูกพ่นออกมา
ในฐานะที่เป็นหมอ ตั้งแต่ไหนแต่ไรฉันไม่ชอบให้คนอื่นสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แต่ต้องยอมรับว่า เฉิงอี้เฉินหล่อมมาก รวมถึงท่าทางการสูบบุหรี่ก็ยังหล่อ ทำให้ผู้คนไม่รู้สึกรังเกียจสักนิด เมื่อเห็นการกระทำของเขา ในหัวของฉันมีเพียงคำเดียวที่ปรากฏขึ้นมานั่นคือ——ความสง่างาม
เขาโยนก้นบุหรี่ทิ้งไปที่ถังขยะข้างๆ เดินมาทางฉันในทันที
ฉันรู้สึกตื่นเต้น วินาทีถัดมาก็เห็นเขาถอดเสื้อสูทของเขาออก บนไหล่ฉันรู้สึกหนัก จากนั้นก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
“ไม่ต้อง……” ฉันพูดโดยไม่รู้ตัว แต่เขาไม่รอคำตอบของฉันก็เดินที่เข้าไปในประตูโรงแรม
“เข้ามา” น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกและน่าดึงดูดลอยมาอย่างแผ่วเบา เฉิงอี้เฉินยืนมองฉันที่ประตูอย่างเงียบๆ
ฉันคว้าเสื้อที่อยู่บนไหล่รู้สึกสับสนเล็กน้อย เห็นเขาเลิกคิ้ว “เสื้อผ้าคุณไม่เรียบร้อยแบบนี้ เข้าโรงแรมไปกับฉันคุณคิดว่าคนอื่นจะคิดยังไงกัน?”
แก้มของฉันร้อนผ่าว ฉันรีบกระชับเสื้อผ้าและห่อตัวให้แน่น ก้มหัวลงแล้วเดินตามหลังเขาเข้าโรงแรมไป
โรงแรมนี้หรูหราโอ่อ่า ทำให้ฉันว่ารู้สึกตัวเองไม่เข้ากันกับที่นี่ แม้ว่าห้องโถงจะเงียบมาก แต่ฉันกลับรูสึกเหมือนมีสายตายหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่ฉัน ฉันก็ยิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา แค่เพียงแค่จ้องไปที่ขายาวสองข้างและเดินตามเขาไป
เฉิงอี้เฉินหยุดกะทันหัน ฉันไม่สามารถโต้ตอบได้ชั่วขณะ และชนไปที่ตัวเขาโดยไม่ทันระวัง
“โอ๊ย……” ฉันร้องด้วยความเจ็บปวด ลูบจมูกโดยไม่รู้ตัว ขมวดคิ้วมองไปที่เฉิงอี้เฉิน เห็นเขากำลังยืนรอลิฟต์อยู่ที่ประตูลิฟต์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน
“เดินไม่ดูทาง” เขาถอยห่างออกไปสองก้าวจากเพื่อรักษาระยะห่าง ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วก้มลงหน้าลงมามองฉัน ในคำพูดแฝงไปด้วยความเมินเฉยและเหินห่างเล็กน้อย
ฉันก้มหน้าไม่มีคำพูด เบ้าตากลับค่อยๆร้อนผ่าว
คำพูดนี้ ฉินจวิ้นเฟยก็เคยพูดกับฉัน ตอนนั้นมันช่างหวานชื่นเหลือเกิน ตอนนี้เมื่อหวนกลับไปคิดถึงมันช่างไร้สาระมาก
ไม่นานลิฟต์ก็มา เฉิงอี้เฉินพาฉันมาถึงห้องพัก เห็นห้องชุดที่หรูหราแบบนี้ไม่คู่ควรกับฉันจริงๆ เฉิงอี้เฉินเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะหนังสือแบบรู้ลู่ทางดี แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทร
“ห้องอาบน้ำอยู่ข้างใน เสื้อผ้าอีกสิบนาทีจะมาส่ง คุณตามสบายเถอะ”
ฉันมองเขาที่ยุ่งอยู่นาน ในที่สุดก็พูด “ขอบคุณ” เขาด้วยเสียงที่แหบแห้ง แต่เขากลับไม่สนใจความหมายของฉัน นั่งยุ่งอยู่กับงานที่หน้าโต๊ะหนังสือ
ถูกเจ้าของบ้านเมินเฉย ฉันยืนอยูในห้องรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย นั่งก็นั่งไม่ได้ ไม่นั่งก็ไม่ได้อยู่ชั่วขณะหนึ่ง โชคดีที่เสียงออดประตูดังขึ้น เฉิงอี้เฉินก็ลุกขึ้นไปเปิดประตู หลังจากนั้นก็ส่งเสื้อผ้าให้ฉัน
ฉันหยิบเสื้อผ้าวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำเหมือนควัน จนกระทั้งส่องกระจก ถึงได้เห็นว่าตัวเองจนตรอกแค่ไหน
ผู้หญิงในกระจกร่างกายผอมบางนั้นสวมแค่เสื้อสูทตัวเดียว เส้นผมยุ่งเหยิง ตาบวมแดง บนแก้มขาวมีรอยฝ่ามืออย่างชัดเจน
ฉันลูบที่แก้มแล้วยิ้มด้วยความเจ็บปวด แล้วถอดเสื้อสูทของเฉิงอี้เฉินออกแล้ววางไว้ด้านข้างอย่างระมัดระวัง กลับเห็นเสื้อของฉันที่คอเสื้อถูกฉีกขาด หน้าอกของฉันส่วนใหญ่ถูกเปิดออก รอยฟันที่ชัดเจนบนไหปลาร้าที่กำลังบวมขึ้น บนเรือนร่างมีรอยบวมแดงมากมาย
แก้มฉันร้อนผ่าว แทบจะแทรกแผ่นดินหนี
เมื่อกี้นี้ฉันอยู่ต่อหน้าเฉิงอี้เฉินในสภาพแบบนี้เหรอ? ไม่แปลกใจเลยที่เขาพูดว่าฉันไปหาหลินปิงชิงแบบนี้จะทำให้เธอเป็นห่วง
ฉันปลอบใจตัวเองด้วยการหัวเราะเยาะตัวเอง โชคดีที่คืนนี้ได้เจอเฉิงอี้เฉินโดยบังเอิญ ฉันกับเฉิงอี้เฉินมีความสัมพันธ์กันแล้ว มันดีกว่าที่จะถูกคนอื่นเห็นในลักษณะแบบนี้
ของใช้ในห้องอาบน้ำล้วนเป็นของมีระดับ แต่ฉันความคิดที่จะเสพสุข อาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่เฉิงอี้เฉินให้ฉันอย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าพอดีตัวมาก ทั้งยังย้อนยุคมาก ฉันสำรวจตัวเองอีกรอบอย่างละเอียดหน้ากระจก แล้วออกไป
ในห้อง เฉิงอี้เฉินยังคงยุ่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เมื่อได้ยินเสียงฉันเปิดประตู เขาหันหน้ามาทางฉัน
ฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ได้เห็นสายตาของเขา สองมือบิดม้วนไปมาโดยไม่รู้ตัว ด้วยความสงสัยว่าต้องขอบคุณหรือไม่ ถ้าหากไม่ใช่เขา ชีวิตฉันคงจะไม่แย่ขนาดนี้ แต่คืนนี้ก็เป็นเขาที่ช่วยฉันเอาไว้จริงๆ
เฉิงอี้เฉินกลับเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบลง “แม่ของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
ได้ยินเขาพูดถึงแม่ของฉัน ฉันตกใจเล็กน้อย ตอบอย่างเศร้าๆว่า “ยังอยู่โรงพยาบาล”
ถึงแม้ว่าแม่ฉันจะฟื้นแล้ว แต่สภาพร่างกายของเธอไม่คงที่มาโดยตลอด ไม่ต้องให้หมอคนอื่นบอก ฉันก็รู้อย่างแน่ชัดว่าเธอไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้
เฉิงอี้เฉินพยักหน้า “คุณยังไม่ติดต่อฉันเลยในเดือนนี้ จะเอายังไง? คุณคิดเรื่องค่าชดเชยหรือยัง?”