รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 94 เอาแต่ใจกลับประเทศ
"ชั่ง….ชั่งมันเถอะ……"ฉันรู้สึกผิดเล็กน้อย ฉันกับเฉิงอี้เฉินแต่ก็ไม่ได้คืนดีกันแล้วจริงๆ เพียงฉันหวั่นไหวแล้ว
"ลั่วอีอี ฉันอยากจะบอกเธอจริงๆนะ ครั้งนี้เธอต้องเช็ดตาเธอให้สว่าง!" มือสองข้างหลินปิงชิงจับแก้วมองฉัน
ฉันอึ้งไป เวลานี้อึดอัดเล็กน้อยกับท่าทีจริงจังของเธอ
"เฉินตงหลีนั้นเป็นบอสของเธอปะ ครึ่งปีกว่าก็เป็นเขาที่ดูแลเธอมาตลอด พูดมาแล้วเขาก็ดีกับเธอมาก เธอก็พิจารณาเขาก็ได้"
"อ๋า?"ฉันคิดว่าในหัวตัวเองไม่มีการตอบสนอง ทั้งหมดเหมือนอยู่ในอาการซึม
"อ๋าอะไร?พูดกับเธอเรื่องจริงจังนะ"เธอก็ได้ทิ่มมาที่หน้าผากฉัน "ถึงแม้ฉันจะสนิทกับพี่อี้เฉิน แต่ฉันก็จะบอกเธออย่าเอาคอไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ คนเราไม่ต้องเอาแต่ใจมากไป ไม่ต้องคิดว่ารักใครแล้วจะไม่สามารถรักคนื่นได้อีก"
"ฉันพูดตรงๆเธออย่าโกรธนะ ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ใช่รักฉินจวิ้นเฟยหรอ รักจะเป็นจะตาย ไม่ใช่อยากจะอยู่กับเขาไปชั่วนิรันด์หรอ?จากนั้นเธอก็ไม่ใช่มาตกหลุมรักพี่อี้เฉินหรอ?ดังนั้นไม่ต้องสนว่าเคยทรมานแค่ไหน ต่อไปอย่าทำให้ตัวเองสูญเสียคนที่รักเราและคนที่เรารัก"
ฉันมองหลินปิงชิงแบบตลึง ไม่คิดว่าเธอจะพวกแบบนี้กับฉัน เพียงว่าพูดมันง่าย แต่จะให้ทำมันง่านที่ไหนล่ะ?
"ฉันคิดว่าเธอจะเชียร์ให้ฉันกับอี้เฉิงอยู่ด้วยกันนะ"ฉันพูดแล้วหัวเราะ กัดหลอดไว้แต่ไม่ได้ดื่มน้ำผลไม้ มีแต่ทำอย่างนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าไม่มีอะไรให้กังวลแค่นั้น
"ฉันเชียร์เธอกับพี่อี้เฉินให้อยู่ด้วยกันไง พูดมาแล้วฉันมาครั้งนี้หรือมาแบกรับภาระนี้กัน"เธอพูดล้อเล่น สีหน้าก็จริงจังขึ้น "เพียงแค่ เทียบกับพวกเธอทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกันไหม แต่ฉันหวังแค่ให้เธอมีความสุขก็พอ"
ใจหายวาบ ที่เบ้าตาเริ่มร้อนๆ จับไปที่มือของหลินปิงชิงอย่างช่วยไม่ได้
หลินปิงชิงพอที่จะพูดพวกนี้ออกมา ฉันซึ้งใจมาก ได้มีเพื่อนสนิทดีๆแบบนี้ก็ถือเป็นความโชคดีของฉัน
"ที่ฉันพูดมันมาจากใจจริง เธอต้องพิจารณาดีๆ ไม่สนว่าจะเป็นพี่อี้เฉินหรือว่าเฉินตงหลี หรือคนอื่น มากกว่านั้นคือเธอคนเดียวเลี้ยงลูกสองคน พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไร แต่เธอต้องเลือกคนที่เธอรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุข"
"อึม!"ฉันหยักหน้าแรงๆ ในใจรู้สึกร้อนๆ เหมือนเต็มไปด้วยพลัง
พวกเราสองคนไม่ได้อยู่นานนัก หลินปิงชิงต้องไปโรงพยาบาล ฉันขับรถไปส่งเธอ แล้วขับเลยไปที่บริษัท
หลินปิงชิงพูดไม่มีผิด ฉันต้องเลือกคนที่ฉันรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุขในชีวิต ตอนนี้ฉันไม่ต้องพิจารณาถึงความสัมพันธ์เรื่องระหว่างฉันกับเฉิงอี้เฉินยังมีเฉินตงหลี แต่ฉันรู้ชัดว่าควรจัดการกับโครงการในบริษัทยังไง
ยุ่งที่บริษัทมาเกือบทั้งวัน รู้ตัวอีกทีก็บ่ายแล้ว ทั้งพลาดอาหารกลางวันที่แสนอร่อยไปอีก ในใจก็รู้สึกพึงพอใจมาก
เวลาครึ่งปีกว่าฉันยิ่งรู้สึกว่าทำงานเป็นเรื่องพอที่ทำให้ฉันพลุ่งพล่านได้ เอากำลังไปวางไว้กับงานยังรู้สึกสบายกว่าเอากำลังไปไว้ที่ความรู้สึก ทั้งยังได้รับการตอบแทนง่ายกว่า
ฉันรู้สึกสนุกกับที่ได้ทำงานหาเงินได้ด้วยความสามารถของตัวเอง พิเศษกว่านั้นคือเห็นรายรับเข้ามาไม่ขาดสาย ความพอใจแบบนั้นก็ยิ่งแกร่งขึ้น
ก่อนหน้านั้นที่ซ่งเสวี่ยเหม่ยให้ฉันยี่สิบล้าน ฉันได้ลงทุนสิบล้านไปกับการค้าระหว่างประเทศตงหลี นับว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ที่เหลือฉันได้เอาไปทำการลงทุนด้านการเงิน เวลาครึ่งปีกว่านี้ ฉันเติบโตได้อย่างเร็วมาก ก่อนหน้านี้ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรมาก ยังได้สัมผัสกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันไม่ได้คาดคิด
เงินของฉันกระจายไปทั่ว ดูกราฟเส้นที่ขึ้นขึ้นลงลง มุมปากฉันก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ก็ยิ่งดี
ตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่อยู่ในมือฉัน เวลาครึ่งปีกว่านี้ฉันทำสำเร็จทำให้มันเติบโตขึ้นเข้าใกล้ยี่สิบเปอร์เซ็น แม้นับไม่ได้ว่าเก็บไปแล้วกี่ร้อยล้าน เทียบกับกลุ่มบริษัทสกุลเฉิงอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย จิตใจฉันยังไม่สงบพอที่จะกินเค้กที่คำละร้อย ดื่มใบชาที่ครึ่งโลล่ะกี่สิบล้านได้ แต่ฉันก็พอใจมากแล้ว
ทั้งเฉินตงหลีบอกว่าฉันเป็นคนที่โชคดีมาก ซื้อหุ้นกับกองทุนเงินแทบไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าฉันรู้ดีฉันไม่ได้สนใจ ฉันเห็นการเติบโตของหุ้นเพิ่มขึ้นก็ได้ขายออก แม้ว่าจะทำให้ฉันไม่มีวิธีเอาหุ้นกับกองทุนที่อยู่ในมือไปขายในราคาที่สูงที่สุด แต่ก็ทำให้ฉันหลีกเลี่ยงการสูญเสียอย่างมาก
ตาฉันมองแล้วยื่นมือไปหยิบเอาแฟ้มเอกสารที่วางบนโต๊ะ ในใจก็คิดออกวิธีหนึ่ง
หรือว่า ฉันก็ควรที่จะกลับประเทศไปดูแล้ว
ฉันก็ได้รีบโทรหาพี่จางกับพี่หลิว ให้พวกเธอเก็บกระเป๋าเดินทาง ในใจตื่นเต้นพลุ่งพล่านขึ้น
นี้อาจเป็นครั้งแรกที่ฉันทำไปอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เอกสารฉบับนี้จะจัดการเป็นขั้นต่อไป การค้าต่างประเทศตงหลีกับในประเทศมีตั้งมากมายที่ร่วมมือกัน ถึงแม้ว่าทุกคนใช้อินเทอร์เน็ตกับโทรศัพท์ในการดำเนินการเรื่องต่างๆ แต่ในเวลาสั้นๆก็ยังต้องให้ผู้รับผิดชอบได้เจอหน้ากันหรือไปตรวจสอบสินค้าเองบ้าง
เรื่องพวกนี้ฉันสามารถส่งให้คนไปทำได้ แต่ฉันอยากจะลองไปทำด้วยตัวเองดู
กำหนดการของเฉิงอี้เฉินฉันพอรู้อยู่บ้าง ครั้งนี้ที่เขามาต่างประเทศมาหาฉันก็เรื่องนึง แต่เวลาเดียวกันเขายังเอาธุรกิจมาด้วย นอกจากจะมาเซ็นสัญญากับการค้าต่างประเทศตงหลีแล้ว เขายังต้องมาเจรจาเสัญญากับบริษัทอื่น
ดังนั้น เฉิงอี้เฉินช่วงนี้ไม่สามารถที่จะกลับประเทศ
ส่วนเฉินตงหลี ธุรกิจของเขาส่วนมากอยู่ที่นี้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปก็ได้ไป
จริงๆฉันก็อยากจะหลบหนีบ้าง วันนี้ที่หลินปิงชิงพูดทำให้ฉันได้คิดอะไรมากมาย ฉันคิดว่าควรจะเข้าใจอารมณ์ตัวเองก่อน
เพียงต้องปล่อยว่าง ฉันถึงจะพร้อมเริ่มต้นใหม่ ฉันต้องเลือกดีดี ไม่อาจจะเอาเฉิงอี้เฉินมาเป็นคนที่ฉันรักมาตลอด ก็ไม่อาจจะเอาเฉินตงหลีมาเป็นคนที่ฉันติดค้างเขา แบบนี้ฉันก็คงไม่มีทางที่จะตัดสินได้อย่างมีเหตุผล
ดังนั้น การกลับประเทศเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
วันนี้ฉันก็ได้จองตัวเครื่อง หลังจากนั้นฉันก็เอางาที่บริษัทมาจัดการให้อย่างละเอียด
หลังจากเลิกงานฉันก็ขับรถกลับบ้าน ทั้งพี่จางกับพี่หลิวก็ได้จัดเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ฉันได้จองตั๋วเครื่องเแล้ว พาพี่จางกับพี่หลิวและลูกทั้งสองคนออกไปสนามบิน
ฉันไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเฉินตงหลี ได้ตรงขึ้นเครื่องฉันถึงได้เอาอีเมล์เขียนเสร็จแล้วส่งไปให้เฉินตงหลี ในนั้นมีคำอำลาของฉันและมีระเบียบงานที่เขียนอย่างละเอียด หลังจากนั้นฉันก็ได้เขียนข้อความไปบอกหลินปิงชิงกับเฉิงอี้เฉินฉันกลับประเทศไปสักระยะ จากนั้นก้ได้ปิดเครื่องไป
ได้พิงไปที่เบาะนั่งเครื่องบิน มุมปากฉันก็ได้วาดยิ้มขึ้น ในใจเครียดพูดไม่ออก ก็ตื่นเเต้นพูดไม่ออก หรือจะนานมากแล้วที่ความสบายใจไม่ปรากฏออกมา
ที่ประทับใจฉันไม่เคยที่จะเอาแต่ใจมาก่อน แต่ตอนนั้นอยู่บนเคื่องบินฉันคิดไม่ถึงตัวเองกลับประเทศจะต้องได้ติดพลาสเตอร์