รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 107 ไม่อยากข้องเกี่ยว
จู่ๆฉันก็รู้สึกว่าตัวเองอาจมีศักยภาพในเรื่องข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงอยู่บ้าง ตอนนี้ฉันเหมือนตบหน้าฉินจวิ้นเฟยอย่างชัดเจน แต่ฉันกลับแสดงท่าทางที่น่าสงสาร
ในความเป็นจริงสิ่งที่ฉันอยากจะพูดในใจคือ ดูเอาเถอะฉันบอกคุณตั้งนานแล้วว่าลูกของจิ้นเหวินเชี่ยนไม่ใช่ลูกของคุณ คุณเต็มใจที่จะเชื่อจิ้นเหวินเชี่ยน ดังนั้นจึงสมควรแล้วที่โดนเขาหลอก
แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนวิธีสักหน่อย แกล้งบ่นอย่างน่าสงสารว่าฉินจวิ้นเฟยไม่เชื่อฉันแต่ไปเชื่อจิ้นเหวินเชี่ยน ดังนั้นฉินจวิ้นเฟยจึงไม่มีเหตุผลที่จะมาทะเลาะกับฉัน ในทางกลับกันเขาก็จะปลอบฉันเพราะเขาไม่เชื่อฉันด้วย
แน่นอนว่าฉินจวิ้นเฟยตกตะลึงทันทีที่เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของฉัน จากนั้นเขาก็รีบนำทิชชู่มาให้ฉัน
"ผมไม่ใช่ไม่เชื่อคุณ ตอนนั้นผมหาผู้ชายคนนั้นเจอแล้ว จริงที่จิ้นเหวินเชี่ยนเคยทำกับเขา"
“แล้วทำไมคุณถึงปล่อยให้เธอคลอดลูกออกมาละ! ถึงว่า คุณชอบเขามากจนเต็มใจช่วยเขาเลี้ยงลูกของคนอื่น?” ฉันตะโกนและใช้ทิชชู่เช็ดน้ำตาที่ไม่จำเป็นออก
เสียงของฉันดังมาก เพราะถึงคนอื่นได้ยินฉันก็ไม่สนใจเลยสักนิด เพื่อความชัดเจนฉันแทบรอไม่ไหวที่จะใช้ลำโพงขนาดใหญ่มาเผยแพร่เรื่องนี้ อย่างไรก็ตามคนที่ขายหน้าคือฉินจวิ้นเฟย ไม่ใช่ฉัน ฉันรออย่างใจจดใจจ่อที่จะเห็นเขาขายหน้ามากกว่านี้
ฉินจวิ้นเฟยขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะคิดว่าเสียงของฉันดังเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรฉัน เพียงแค่เขามองมาที่ฉันและลดเสียงลงแล้วพูดว่า "ผมจงใจให้เขาคลอดลูกออกมา ถ้าเป็นแบบนี้หากผมหย่ากับเขา เขาจำเป็นต้องหย่ากับผมโดยไม่ได้รับเงินส่วนแบ่ง"
“ผมไม่ต้องการสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็ก จิ้นเหวินเชี่ยนก็ไม่ต้องหวังว่าจะได้เงินจากผมแม้แต่สลึงเดียว”
ฉันแสร้งทำเป็นมองเขาด้วยความตกใจ "คุณต้องการหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยนนานแล้วหรอ?"
ฉินจวิ้นเฟยพยักหน้าและพูดอย่างโหดเหี้ยม: "เขากล้าที่จะมีชู้ ดังนั้นเขาต้องเตรียมใจที่จะโดนไล่ออกจากบ้านและต้องออกไปอย่างมือเปล่าด้วย"
ฉันลดสายตาลงเพื่อปกปิดดวงตาของฉัน ฉินจวิ้นเฟยเป็นแบบที่ฉันคิดไว้จริงๆ เขาเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวและหยิ่งผยองอย่างมาก เขาบอกว่าจิ้นเหวินเชี่ยนสวมเขาให้เขา แล้วหัวของจิ้นเหวินเชี่ยนเองก็ถูกสวมเขามานานแล้วไม่ใช่หรือ?
น่าเสียดายคนอย่างฉินจวิ้นเฟยที่เอาแต่เรียกร้องคนอื่นอย่างเคร่งครัด แต่กลับไม่เคยดูตัวเอง
เวลาเริ่มสายแล้ว สมองของฉันก็คิดอย่างรวดเร็วว่าจะออกไปอย่างไร
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยนใช่ไหม?” ฉันมองเขาอย่างไม่แน่ใจ
"ใช่!" ฉินจวิ้นเฟยตอบอย่างเด็ดขาด
ฉันยิ้มให้เขาเบา ๆ "ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอคุณติดต่อมาหลังจากหย่ากับเขา ในช่วงนี้เราไม่ต้องติดต่อกันดีไหม?"
ฉินจวิ้นเฟยขมวดคิ้วขณะที่เขามองมาที่ฉันสายตาของเขาก็เย็นชา ราวกับว่าเขาต้องการมองฉันให้ทะลุปรุโปร่ง ในใจฉันรู้สึกขนลุกเล็กน้อย แต่ใบหน้าของฉันไม่ได้แสดงท่าทีว้าวุ่นใจออกไปแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ก้มศีรษะลงเงียบๆและยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา
“แม้ว่าจิ้นเหวินเชี่ยนจะเป็นมือที่สามที่มาทำลายชีวิตแต่งงานของฉัน ฉันเองก็ไม่อยากเป็นมือที่สามเช่นกัน สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดในชีวิตคือการไปเป็นมือที่สาม ดังนั้นฉันไม่อยากให้คุณหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยนเพราะฉัน คุณเข้าใจไหม?"ฉันพูดเสียงต่ำ
ฉันรู้สึกได้ว่าฉินจวิ้นเฟยจ้องมองมาที่ฉัน ฉันกัดริมฝีปากและยืนขึ้น "ฉันไปก่อนนะ จะรอคุณติดต่อกลับมาหลังคุณจัดการเรื่องทั้งหมดจนเสร็จ"
"อีอี" ฉินจวิ้นเฟยคว้าแขนของฉัน แรงของเขาเยอะมาก ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจนต้องขมวดคิ้ว
เหตุการณ์นี้คล้ายกับเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นฉินจวิ้นเฟยก็จับแขนของฉันไว้แน่น แต่ตอนนั้นคือฉินจวิ้นเฟยกำลังจะหย่ากับฉันและจิ้นเหวินเชี่ยนก็อยู่ข้างๆเขาเพื่อทำอวดอ้างกับฉัน แต่พอตอนนี้เป็นฉินจวิ้นเฟยที่กำลังจะหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยน
"จวิ้นเฟยฉันพูดค่อนข้างชัดเจนนะ ฉันจะไม่มีวันเป็นมือที่สาม ดังนั้นคุณไปจัดการเรื่องขับข้องใจระหว่างคุณกับจิ้นเหวินเชี่ยนก่อน จากนั้นคุณค่อยมาหาฉัน โอเคไหม?" ฉันมองไปที่เขาอย่างจริงจังในดวงตาของฉันมีน้ำใสๆสะท้อนออกมา
ฉินจวิ้นเฟยเม้มริมฝีปากและมองมาที่ฉัน ในที่สุดก็ปล่อยมือฉัน "ได้ คุณรอผม"
ริมฝีปากของฉันพยายามยิ้มและฉันก็จากไปทันที
เมื่อออกจากร้านกาแฟฉันพึ่งรู้ว่าข้างนอกฝนตก กลางคืนอากาศค่อนข้างหนาวและเพราะฝนตกอากาศเลยชื้นเล็กน้อย ฉันยักไหล่ขึ้นโดยไม่รู้ตัวและกระชับเสื้อผ้าให้แนบชิดกับตัว
ฉันกังวลว่าฉินจวิ้นเฟยจะตามออกมา ดังนั้นฉันจึงไม่สนใจว่าฝนกำลังตกอยู่และวิ่งกลับบ้านทันที
ฝนตกไม่หนัก แต่เมื่อฉันวิ่งเข้าไปในทางเดินของตึกฉันก็เปียกไปหมดทั้งตัว ทันทีที่ลมพัดฉันก็รู้สึกหนาวสั่น แต่ภายในใจฉันกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นคำพูดของฉันหรือเปล่า ฉินจวิ้นเฟยเลยไม่ได้ตามมา
ฉันยืนอยู่ตรงทางเข้าของทางเดินจู่ๆก็รู้สึกไม่อยากกลับบ้าน สักพักฝนเม็ดเล็กๆตกลงมาราวกับเป็นเส้นตรง ภายใต้แสงไฟของถนนในชุมชนทำให้สายฝนโปร่งใสและส่องแสงเป็นประกาย
ฉันอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับสายฝน แต่ในใจก็คิดว่าฉินจวิ้นเฟยจะหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยนไหมนะ?
ฉันกลัวว่าการหย่าร้างของฉินจวิ้นเฟยกับจิ้นเหวินเชี่ยนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาพูดกับฉันเป็นเพียงคำพูดที่สวยหรู จิ้นเหวินเชี่ยนไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ ฉินจวิ้นเฟยต้องการหย่ากับเขาแล้วเขาจะยอมไหม?
ถึงตอนนั้นอย่ากัดกันไปมาก็พอ
ฉันยิ้มโดยไม่รู้ตัวแล้วหันหลังกลับบ้านไป แม่ฉันอดไม่ได้ที่จะตะลึงเมื่อเห็นฉันตัวเปียกกลับมาถึงบ้านเลยรีบบอกให้ฉันไปอาบน้ำทันที
ฉันอาบน้ำอุ่นอย่างสบายตัวและรู้สึกสดชื่นมากๆ ทันทีที่ฉันออกจากห้องน้ำฉันก็ได้กลิ่นขิงอย่างแรง
"ดื่มซุปขิงสักถ้วยเพื่อขับไล่ความหนาว ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นหวัด" พี่จางมองฉันเดินออกมาและปิดเตาทันที จากนั้นก็ยื่นซุปขิงให้ฉันหนึ่งถ้วย
ฉันพูดขอบคุณแล้วเดินไปที่โต๊ะและจิบซุปขิง ร่างกายฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
"อีอี ทำไมถึงออกไปกะทันหันแถมยังไม่เอาร่มไปด้วย?" แม่ฉันพูดขณะที่นั่งอยู่ข้างๆฉันและมองมาที่ฉันด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจเล็กน้อย
ฉันลังเลสักพักและตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับแม่ อย่างไรก็ตามเรื่องบางเรื่องปิดยังไงก็ปิดไม่อยู่ อย่างน้อยบอกไว้ก่อนเพื่อให้แม่ได้เตรียมใจ
"ฉินจวิ้นเฟยรู้ว่าเราอยู่ที่นี้ เมื่อกี้เขาเพิ่งมา"
แม่ของฉันตกใจมากเมื่อเธอได้ยินชื่อของฉินจวิ้นเฟย "เขามาทำอะไรอีก?เขามาทำให้ลูกเดือดร้อนหรือเปล่า?"
"เปล่า" ฉันส่ายหัวและมองไปที่ท่าทางเป็นห่วงของแม่แล้วรีบจับมือเธอเพื่อให้บรรเทาอารมณ์ลง "ฉินจวิ้นเฟยต้องการหย่ากับจิ้นเหวินเชี่ยนและเขายังต้องการแต่งงานกับหนูอีกครั้ง"
"เขากล้าดียังไงมาบอกว่าต้องการแต่งงานกับลูกใหม่? เขาไม่อายหรอ?เขานอกใจลูกเอง แม่จะบอกให้อย่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป" แม่ฉันพูดพร้อมกับมองฉันอย่างประหม่า เมื่อเห็นแม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ฉันถึงกับผงะ
ก่อนหน้านี้แม่ฉันโทรหาฉันและบอกว่าฉินจวิ้นเฟยต้องการแต่งงานกับฉันอีกครั้ง ฉันคิดว่าแม่จะถูกฉินจวิ้นเฟยกล่อมจนเข้าข้างเขาซะแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่จะเกลียดฉินจวิ้นเฟยมาก ไม่เพียงแค่นั้นแม่คิดว่าฉันกับกับเฉิงอี้เฉินอยู่ด้วยกันแล้วและกลัวว่าฉันจะทำผิดศีลธรรมหรือเป็นเพราะเดิมทีเธอไม่ได้มองฉินจวิ้นเฟยดีอยู่แล้ว?
ฉันไม่ค่อยชัดเจนในคำตอบ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกความจริงกับแม่อย่างไร จริงๆแล้วฉันกับ เฉิงอี้เฉินก็ไม่ได้ดีกันอย่างที่แม่คิด บางทีฉันกับเฉิงอี้เฉินอาจจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีก