อย่างไรก็ตาม หยวนชิงหลิงเพียงยืนเงียบๆ โดยไม่มีร่องรอยของอาการบูดบึ้งบนใบหน้าของนาง แม้แต่ความสนใจก็ไม่มีสักนิด
ฉุ่หมิงฉุ่ยไม่เชื่อว่านางจะเฉยเมยจริงๆจึงยั่วนางต่อ "เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าทำไมเขาถึงบอกข้าเรื่องนี้?"
จู่ๆหยวนชิงหลิงก็คว้าขอมือของนางแล้วลากนางเดินเข้าไปข้างใน "อยาก แต่ข้าไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เราสี่คนจะนั่งคุยกันดีๆไม่ได้"
นางมั่นใจว่าอวี่เหวินฮ่าวและฉีอ๋องอยู่ด้านใน ตามที่นางได้เข้าใจมาจนถึงตอนนี้ จุดประสงค์ที่คู่สามีภรรยาคู่นี้มาหาอวี่เหวินฮ่าวนางก็รู้ ดังนั้นฉู่หมิงฉุ่ยจึงยืนอยู่ที่ประตูโดยไม่เข้าไป
เมื่อเห็นนางมาก็จะยั่วโมโหนางเหมือนแต่ก่อน นางจะยั่วยุให้นางต้องโมโห เพื่อที่นางจะได้ไม่สามารถอยู่ในวังรับใช้ใกล้ชิดกับองค์อดีตจักรพรรดิอีก
"ปล่อยนะ!" ฉู่หมิงฉุ่ยไม่คิดว่านางจะทำเช่นนี้ นางตกใจจนเสียอาการ นางเกี่ยวนิ้วก้อยอันแหลมคมของนางผ่านข้อมือของ หยวนชิงหลิงเพื่อบังคับให้นางปล่อยมือ
ตั้งแต่เด็กหยวนชิงหลิงก็มีพลังงานดื้อรั้นในการทำสิ่งต่างๆ แม้ต้องต่อสู้ด้วยชีวิตนี้ก็ต้องทำให้ได้
ดังนั้นตลอดทางที่เข้าไปจึงมีเลือดไหลหยดไปตลอดทาง บนพื้นถูกเลือดย้อมราวดอกทับทิม
"ฉู่อ๋อง ฉีอ๋อง!" หลังจากที่หยวนชิงหลิงทำลายแผนนางแล้วก็ไม่สนใจที่จะรักษามารยาทอีก นางโยนตัวฉู่หมิงฉุ่ยลงบนเก้าอี้โดยตรง จากนั้นจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาพันแผลพร้อมยังไม่ลืมกล่าวว่า "พระชายาฉีอ๋องมีเรื่องอยากพูดกับพวกเรา"
อวี่เหวินฮ่าวมองนางแสดงกิริยาหยาบคายต่อฉู่หมิงฉุ่ย แววตาของเข้าก็โกรธขึ้งและถามเสียงเย็น "เจ้าจะทำอะไร?"
ฉู่หมิงฉุ่ยเมื่อครู่รู้สึกอับอายมาก แต่หลังจากนั่งลงแล้ว นางก็จัดเสี้อผ้าเล็กน้อยมองไปที่หยวนชิงหลิงอย่างเรียบเฉย
นางไม่เชื่อว่าหยวนชิงหลิงจะกล้ากล่าวคำพูดเมื่อครู่ของนางออกมา ที่นี่ไม่ได้มีเพียงฉู่อ๋องคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฉีอ๋องด้วย ใครก็ตามที่มียางอายจะไม่พูดถึงเรื่องในห้องหอออกมา
แต่นางคิดผิด หลังจากพันข้อมือแล้ว หยวนชิงหลิงก็เงยหน้ามองฉู่อ๋อง "เมื่อครู่ พระชายาฉีอ๋องบอกข้าว่าเจ้ากับนางอยู่บนเจดีย์เหวินชางเพียงลำพัง เจ้าบอกนางว่าเจ้าต้องดื่มยาเพื่อร่วมหอกับข้า ยิ่งไปกว่านั้นนางยังบอกอีกว่าเจ้าจะไม่มีวันลืมนางได้ให้ข้าตัดใจเสีย สุดท้าย นางบอกว่านางเป็นคนโยนฝูเป่าลงมา คำพูดนี้ ในเมื่อนางสามารถพูดกับข้าได้ คิดว่านางก็คงพูดต่อหน้าพวกท่านได้เช่นกัน"
สีหน้าของฉู่หมิงฉุ่ยเปลี่ยนไปอย่างมาก นางซ่อนใบหน้าและร้องไห้ออกมาตรงนั้น ตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว "เจ้า… ทำไมเจ้าถึงพูดเหลวไหล? ทำไมเจ้าถึงพยายามใส่ร้ายข้า?"
อวี่เหวินฮ่าวลุกขึ้นยืนและเดินไปด้านหน้าของหยวนชิงหลิง ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศมืดมนจนน่ากลัว แววตาราวกับพายุคลั่ง เขายกมือขึ้นและกำลังจะฟาดมันลงมา
หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธ "ตบสิ ตบเลย หากท่านตบลงมาข้ารับรองได้ว่าพวกเราทั้งสี่คนไม่รอดแน่ ข้าจะใช้ทั้งชีวิตเข้าแลกเพื่อเล่นกับพวกเจ้า!"
หยวนชิงหลิงได้แตะเกล็ดมังกรของอวี่เหวินฮ่าวเข้าแล้ว แววตาของเขาโกรธเคืองยิ่งกว่าเดิมเสียอีก มือของเขาฟาดลงมา แต่ฉีอ๋องรีบยืนขึ้นมาขวางเขาและจับมือของเขาไว้ "พี่ห้า อย่าไปสนใจผู้หญิงต่ำทรามเช่นนี้เลย"
หยวนชิงหลิงดึงปิ่นปักผมออกมาเพื่อปกป้องตัวนางเอง นางดูโกรธแค้นมาก "ฉีอ๋อง เจ้าหุบปาก หากข้าเป็นผู้หญิงต่ำทราม ชายาของเจ้าก็เป็นนังงูพิษ แต่งงานกับงูพิษเช่นนี้แล้วเจ้าจะทำอะไรได้? นางชอบเจ้าจริงๆหรือ? นางเพียงชอบองค์ชายที่เกิดจากฮองเฮาเท่านั้นเอง"
ฉีอ๋องพูดด้วยแววตาเย็นชา "ข้าเคยพบหญิงสาวจัดจ้านมาบ้าง ก็ไม่เคยพบหญิงใดที่จิตใจมืดมิดเช่นเจ้ามาก่อนเลย หากเจ้าใส่ร้ายหมิงฉุ่ยเช่นนี้ กลับผิดเป็นถูก เจ้าไม่กลัวถูกฟ้าผ่าหรืออย่างไร?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้หยวนชิงหลิงก็อยากจะหัวเราะ ถูกฟ้าผ่าหรือ? นี่หรือคือสิ่งที่องค์ชายพูดออกมา?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉู่หมิงฉุ่ยจะร้อนใจ แต่งงานกับคนไร้หัวใจเช่นนี้ หากนางไม่วางแผนเองแล้วเมื่อไหร่เรื่องจะสำเร็จ?
ฉู่หมิงฉุ่ยยังคงร้องไห้ แต่ก็แอบด่าว่าฉีอ๋องโง่อยู่ในใจ
นางรู้ว่าสุดท้ายฉีอ๋องก็จะเชื่อนาง แต่จะไม่สามารถออกหน้าแทนนางได้ นางจึงทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากฉู่อ๋องเท่านั้น
นางยืนขึ้นและมองอวี่เหวินฮ่าวทั้งน้ำตา "ฉู่อ๋อง ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่คำพูดของนางเมื่อครู่ข้าไม่ได้พูดเลยสักประโยคเดียว เรื่องเช่นนี้ แม้ตายฉู่หมิงฉุ่ยคนนี้ก็ไม่มีวันพูดออกมาได้"
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือนางไม่ได้ไร้ยางอายขนานี้ที่จะนำเรื่องแบบนี้มาพูดคุยกัน
"ส่วนที่บอกว่าข้าโยนฝูเป่าลงไปยิ่งเป็นเรื่องไร้สาระ ข้ากินมังสวิรัติตลอดทั้งปีและไม่ฆ่าสัตว์ แม้แต่มดข้าก็ไม่เหยียบ นับประสาอะไรกับฝูเป่า"
น้ำตาของนางหยดลงมาจากมุมหางตา น้ำตาใสราวแก้วไหลอาบแก้มขาวช่างดูน่าสงสารและน่ารักน่าทะนุถนอมอย่างบอกไม่ถูก
ฉีอ๋องรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมากและเอื้อมมือไปโอบนาง "ถูกและผิดอยู่ที่ใจเรา ไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงเลวทรามแบบนี้"
ฉู่หมิงฉุ่ยถูกฉีอ๋อมกอดไว้ในอ้อมแขน แต่นางกลับมองอวี่เหวินฮ่าวอย่างเศร้าสร้อย
หยวนชิงหลิงมองภาพนี้อย่างเย็นชา ในใจนางรู้สึกขบขันมากกว่าจะโกรธ
คนสวยพูดประโยคเดียวก็ชนะคำพูดอธิบายนับร้อยพันของนาง
อย่างไรก็ตาม ความโกรธของอวี่เหวินฮ่าวก็ค่อยๆจางหายไป ในที่สุดดวงตาของเขาก็สงบลง เขาพูดกับฉีอ๋องว่า "พวกเจ้าไปก่อนเถอะ"
"ได้ งั้นพวกเราขอตัวก่อน พี่ห้าอย่าโกรธไปเลย ถือเสียว่าเป็นคำพูดของคนบ้าก็แล้วกัน" ฉีอ๋องกลัวว่าอวี่เหวินฮ่าวจะทุบตีพระชายาในวัง หากเรื่องไปถึงพระพักตร์ฮ่องเต้แล้วก็จะแก้ไขลำบาก หลังจากพูดจบ เขาก็พาฉู่หมิงฉุ่ยออกไป
ฉู่หมิงฉุ่ยแทบกระอักเลือด ตอนนี้จะไปได้อย่างไรกัน? เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดกันให้รู้เรื่องเลย
นางหันกลับมามองอวี่เหวินฮ่าวอย่างไม่เต็มใจและพูดเสียงสะอื้น "หวังว่าฉู่อ๋องจะสามารถทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ข้าได้"
อวี่เหวินฮ่าวพยักหน้าเล็กน้อย "พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ"
ฉู่หมิงฉุ่ยไม่ได้รับการรับรอง ในใจนางรู้สึกขุ่นข้องและโกรธเคือง แต่คราวนี้ไม่ใช่โอกาสดีที่จะทำอะไรอีก จึงทำได้เพียงตามฉีอ๋องไป
นางไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามองเยาะเย้ยหยวนชิงหลิง
อวี่เหวินฮ่าวถอนสายตากลับมาและจ้องไปที่ปิ่นในมือของหยวนชิงหลิง มวยผมของนางหลวม ปอยผมร่วงลงมา หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ เผยให้เห็นดวงตาเฉียงขึ้นดังหงส์ที่มองมาอย่างดุดัน
"เจ้าอย่าเข้ามานะ!" หยวนชิงหลิงชูปิ่นขึ้นและจ้องเขา "อย่ารังแกกันให้มากนัก ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก"
นางเตรียมใจเอาไว้แล้ว ถ้าเขาลงมืออีก แม้นางจะสู้เขาไม่ได้ก็ต้องทำร้ายเขาให้ได้จึงจะยอมหยุดมือ
อวี่เหวินฮ่าวเข้ามาใกล้นาง ทำให้นางกลัวมากจนเกิดปฏิกิริยาอัติโนมัติ เอาปิ่งแทงไปที่แขนของเขาอย่างจัง
ปิ่นเสียบเข้าไปแล้ว
นางใช้กำลังทั้งหมดของนาง
หลังจากแทงเขาแล้ว นางเองก็ตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางถืออาวุธทำร้ายคน
เลือดไหลซึมออกมาจากเสื้อผ้าของเขาและรอยเลือดขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นในครู่ต่อมา
อวี่เหวินฮ่าวมองหยวนชิงหลิงที่กำลังสับสนจนทำอะไรไม่ถูก และนึกได้ว่าตอนที่นางรักษาฝูเป่า นางเอามือเข้าไปจัดการแผลและเย็บแผล นี่เป็นคนๆเดียวกันหรือไม่?
อวี่เหวินฮ่าวดึงปิ่นออกแล้วโยนใส่ร่างกายของนาง นางรับมันไว้โดยอัติโนมัติและได้ยินเขาพูดอย่างเฉยเมย "กินข้าว!"
เขาเดินผ่านนางไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
และแขนของเขายังคงมีเลือดไหลออกมา
หยววนชิงหลิงจัดการรวบผมของนางใหม่ ปักปิ่นเข้าไปและมองดูเขาอย่างระมัดระวัง โดยไม่รู้ว่าความคิดของเขาเป็นอย่างไร
อวี่เหวินฮ่าวเงยหน้าเหลือบมองนาง "นั่งลงกินข้าว!"
หยวนชิงหลิงส่ายหัว "เจ้าพูดกันให้รู้เรื่องก่อน"
"ไม่ใช่ว่าเรื่องทุกอย่างจะต้องทำให้ชัดเจนไปเสียทั้งหมด ข้าขอโทษที่เมื่อครู่ข้าเกือบจะทำร้ายเจ้า" อวี่เหวินฮ่าววางตะเกียบบนชามตรงข้ามแล้วพูดอย่างนิ่งเรียบ
ขอโทษ?
หยวนชิงหลิงเดินไปช้าๆ ลังเลเล็กน้อยและนั่งตรงข้ามเขา อวี่เหวินฮ่าวไอเล็กน้อย ทำให้นางตกใจจนสะดุ้ง ทันใดนั้นนางก็ดึงปิ่นออกมาชี้หน้าเขาอีกครั้งพร้อมทั้งร้องเสียงแหลม "เจ้าคิดจะทำอะไร?"
MANGA DISCUSSION