ฉันน่าจะไม่ได้สู้นานขนาดนั้นนะ น่าจะแค่ประมาณ20นาที
จำนวนที่ฉันปราบลงไปได้เกิน30ไปแล้ว น่าจะถึง40แล้วมั้ง
เป็นเพราะSPที่ฉันมีถึงแถบสีแดงและใกล้จะหมดแล้วหรือเปล่านะ?ฉันรู้สึกถึงความแสบร้อนขึ้นมาภายในปอด
พอฉันปราบไปได้ตัวหนึ่ง อีกตัวก็จะมาแทนที่จากด้านข้าง เพราะอย่างนั้นในตอนนี้ฉันเลยเห็นมอนสเตอร์ถึง60ตัวทั้งเป็นและตาย
“อ๊ะ….”
อีกครั้งที่ขว้าง[Meteor Impact –Type Zero–]และเป่ามอนสเตอร์กระเด็นไปสามตัว มีลูกบอลน้ำแข็งพุ่งตรงมาทางด้านหลังของฉัน ฉันพยายามที่จะหลบแต่ร่างกายของฉันกลับนิ่งเฉย
เป็นเพราะSPของฉันได้หมดลงไป
ปะทะ เป็นเพราะพลังป้องกันเวทมนตร์อันต่ำเตี้ยของฉัน HPของฉันจึงลดลงไป การโจมตีเมื่อสักครู่ทำให้HPของฉันหายไปกว่าครึ่งอย่างง่ายดาย และค่าHPของฉันก็อยู่ในขีดอันตราย
ไม่เหมือนกับครั้งที่ฉันจงใจรับการโจมตี ฉันไม่สามารถรักษาท่ายืนที่มั่นคงได้ฉันจึงถูกผลักกระเด็นออกมา แต่เพราะอย่างนั้นฉันถึงรอดพ้นจากเวทมนตร์อื่นๆแต่ว่า ต้องแลกมาด้วยค่าHPที่ลดลงไปยิ่งกว่าเดิม
ค่าSPจะฟื้นฟูระหว่างการต่อสู้อย่างต่อเนื่องราวกับเทน้ำลงบ่อ แต่เมื่อSPถูกใช้ไปจนหมด ดูเหมือนจะทำให้เกิดบทลงโทษขึ้นมา
เหมือนกับระยะเวลาชะงักหลังใช้สกิล แต่ว่าบทลงโทษของการใช้SPจนหมดทำให้ขยับตัวไม่ได้ยาวนานจนน่าหัวเราะเลยเมื่อที่เทียบกับเวลาชะงักหลังใช้สกิล
อ๊ะ ฉันน่าจะถอด[บทบรรเลงเดี่ยวของคาเมลเลียจันทรา]ออกก่อนนะ อย่างน้อยจะได้ลดบทลงโทษจากการตายลงได้
ฉันคิดอย่างนั้นแต่โชคไม่ดีที่อวาตาร์ของฉันไม่ขยับเลยสักนิดทำให้กดหน้าต่างเมนูไม่ได้เลย
เวทมนตร์หลากสีพุ่งตรงเข้ามาใกล้ฉันทุกที สถานการณืนี้เป็นจุดจบของฉันแน่
ท่ามกลางเวทมนตร์พวกนั้น ได้มีกระดาษยันต์แผ่นนึ่งล่อยเข้ามาอย่างช้าๆในสายตาของฉัน
“[คาถายันต์ –เขตแดนแห่งการชำระล้าง–]”
กิ๊งงง….แล้วเสียงสูงเล็กดังกังวานพร้อมกับครึ่งวงกลมสีม่วงใสครอบคลุมรอบตัวฉัน
ครึ่งวงกลมนั่นทนรับเวทมนตร์โจมตีที่พุ่งตรงเข้ามาและคอยป้องกันฉันไว้
“ฟู่ว….ดีใจจังที่ฉันมาทันเวลาพอดี”
คนที่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคือผู้หญิงในชุดกิโมโน
เธอเป็นผู้หญิงสูงผมสีขาวและบนหน้าผากของเธอได้มีเขาสีฟ้าต่างจากฉันตั้งเด่นชันอยู่บ่งบอกว่าเธอเองก็เป็นคิจิน
“ขอโทษทีนะ แต่ฉันจะรับผิดชอบจัดการพวกที่เหลือให้เอง”
ผู้หญิงที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันได้ดึงยันต์กระดาษออกมาจากช่วงอกแล้วปรบมือเข้าด้วยกันพร้อมกับเอ่ยคำร่าย
“[คาถายันต์ –กระบวนรบสายฟ้า–]”
สิ่งที่สร้างเสียงดังราวฟ้าร้องไม่ใช่ท้องฟ้าแต่เป็นตัวยันต์กระดาษ ยันต์กระดาษถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าและหลังจากที่เว้นระยะสักครู่ก็ระเบิดออกมา
พวกมันไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมา
พวกมอนสเตอร์ที่เคยห้อมล้อมฉันเอาไว้ ได้ถูกสายฟ้ากลืนกินไปก่อนจะหายไปอย่างไร้วี่แวว
แล้วถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดไปเองล่ะก็ คิจินหญิงที่เปิดตัวอย่างเท่ก็ถูกสายฟ้ากลืนกินไปด้วยเช่นกัน
☆
“ป-เป็นอะไรไหม?”
“แค่ก แค่ก…อุ….มันเป็นคาถาที่รุนแรงก็จริงนะ แต่ถ้าไม่ได้มีบาเรียร์คลุมร่างเอาไว้มันจะกลายเป็นวิชาระเบิดตัวเองไปซะงั้น แต่ถ้าฉันช่วยเธอไว้ได้ก็ดีแล้วล่ะ”
ฉันเผลอถามออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจและเธอก็จัดชุดของเธอใหม่พร้อมกับตอบกลับมา
ฉันมองไปยังรูปลักษณ์ของเธออีกครั้ง ผมสีขาวและดวงตาสีแดงเข้ม และเขาสีฟ้าที่ต่างจากของฉันในบริเวณที่ต่างกันบนหัว กิโมโนที่เธอใส่ถูกย้อมไปด้วยสีดำ และดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีอะไรที่เรียกว่าอาวุธติดตัวอยู่เลย
แล้วก็เธอไม่มีแถบHPเลยด้วย
นั่นหมายความว่าเธอไม่ใช่ผู้เล่นแต่เป็นNPC
“ฉันชื่อว่าโคฮาคุ เป็นคิจินเหมือนกับเธอ”(โคฮาคุ = อำพัน)
“ฉันชื่อว่าซุคุนะค่ะ ขอบคุณที่มาช่วยนะ”
“ไม่ต้องพูดจาสุภาพนักก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องรู้สึกขอบคุณที่ฉันช่วยหรอก จริงๆแล้วฉันเห็นเธอตั้งแต่ที่ร้านน้ำชาแล้วสนใจขึ้นมาก็เลยแอบตามมาดูน่ะ”
“เอ๋…..?”
NPCคิจินสาวที่เรียกตัวเองว่าโคฮาคุยิ้มก่อนจะประกาศการกระทำดั่งสตอล์กเกอร์ออกมา ฉันหมดคำพูดเลยล่ะ
“เธอน่ะได้รับการอวยพรจากท่านคิชินใช่ไหม? สำหรับพวกเราคิจินแล้ว นั่นถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของ[ความรุนแรงบริสุทธิ์]เลยนะ”(คิชิน = เทพมาร, คิจิน = เผ่ายักษ์)
โคฮาคุแก้มแดงขึ้นเล็กน้อยขณะพูด ดวงตาของเธอไม่ได้ซ่อนความอยากรู้อยากเห็นไว้เลย
เดี๋ยวสิ อุดมคติที่สำคัญที่สุดของเผ่าคือความรุนแรงบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ?
ก็นะ คงไม่แปลกหรอกเมื่อคิดถึงลักษณะพิเศษของเผ่าพันธุ์ แต่ฉันก็เผลอคิดไปจริงๆว่าเผ่านี้มีกล้ามเนื้อแทนสมองจริงๆสินะ
และด้วยเหตุผลบางอย่างฉันก็เข้าใจได้ในทันทีว่าการอวยพรจากท่านคิชินที่เธอพูดถึงไม่ได้หมายถึงปิ่นปักผมแต่เป็นอาชีพ[โดวจิ]เสียมากกว่า
ฉันลืมไปเสียสนิทเลยแต่อาชีพนี้ส่งผลเพิ่มชื่อเสียงในหมู่NPCชาวคิจินอยู่ด้วย
และหลังจากที่ได้เจอกับชูเท็น โดวจิแล้ว ฉันกเข้าใจได้ว่าทำไมอาชีพ[โดวจิ]ถึงได้ถูกสร้างขึ้นมา
เผ่าที่เคารพบูชาเธอก็คงจะเป็นคิจินบนโลกนี้ล่ะนะ
“จริงด้วย ดื่มนี้สิ แทนคำขอโทษที่ไม่ยอมมาช่วยเธอจนถึงวินาทีสุดท้าย”
“ข-ขอบใจ”
ราวกับว่าพึ่งนึกขึ้นได้ เธอส่งยาบางอย่างมากให้กับฉัน ถ้าสิ่งที่ระบบบอกมาไม่ผิดไปล่ะก็ นี่คือโพชั่นระดับสูงที่เรียกว่า[ไฮโพชั่น]
หลังจากที่ดื่มมันไป ฉันไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อะไร แต่รับรู้ได้ว่าความเรวในการฟื้นฟูHPนั้นเพิ่มขึ้นมา
“ซุคุนะ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร พวกเรามาเดินทางด้วยกันไหม? ฉันอยากที่จะฟังเรื่องราวของเธอจัง”
“อืม ก็ดีนะ ฉันเองก็อยากฟังเรื่องของโคฮาคุเหมือนกัน”
ได้รับข้อเสนอมาระหว่างที่ฉันกำลังรอให้HPของฉันฟื้นฟู ฉันพยักหน้าตกลง
ไหนๆก็ได้ทำความรูจักกับNPCชาวคิจินแล้ว ฉันรู้สึกเสียดายถ้าพลาดโอกาสนี้ไป
อย่างพวก[คาถายันต์]นั่น ฉันอยากที่จะรู้เรื่องพวกนั้น
“เยี่ยมไปเลย! สำหรับตอนนี้ฉันว่าพวกเราออกจากป่านี้กันก่อนเถอะ”
“ฉันก็ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้นล่ะ”
“โอเค งั้นไปกันเถอะ”
ครั้งแรกตั้งแต่ที่เล่นเกมนี้มา ในที่สุด
ฉันก็ได้ทำความรู้จักกับNPCสักที
“อย่างนี้นี่เอง คนที่ปราบหมาป่าแดงได้ก็คือเธอเองสินะ”
“อืม เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเลยล่ะ”
“ฉันตกใจมากเลยล่ะในตอนที่ฉันได้ยินว่าชิ้นส่วนของราชันหมาป่าถูกปราบลงไปน่ะแต่….ฉันว่าฉันเชื่อแล้วล่ะ”
ขณะที่เดินทางผ่านป่าแห่งเวทมนตร์ พวกเราก็ได้คุยกันอย่างผ่อนคลาย
แม้ว่าฉันจะยังไลฟ์สตรีมอยู่ ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรกับผู้ชมเลยและให้ความสำคัญกับการคุยกับโคฮาคุ
เพราะว่าเธอเป็นหญิงสาวที่สวย ผู้ชมเองก็ตอบรับอย่างดี
“ชิ้นส่วนของราชันหมาป่า?”
“อ่า อาเรียหมาป่าแดงแห่งความสันโดษน่ะ จริงๆแล้วเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งล่ะนะ”
ขณะที่ให้เธออธิบายถึงคำศัพท์ที่ฉันไม่คุ้น โคฮาคุก็ชูนิ้วขึ้นมาประกอบการอธิบาย
“[ราชันหมาป่าเคลื่อนนภา –เรเควียม–](Requiem) หนึ่งในผู้แข็งแกร่งที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในเหล่าผู้ที่ใกล้เคียงพระเจ้ามากที่สุดล่ะ”
สิ่งที่สะท้อนภายในนัยน์ตาของโคฮาคุขณะที่เธอเล่าสิ่งเหล่านี้ออกมาคือความหวาดเกรงและความชื่นชม
ความรู้สึกของความกลัวในผู้ที่มีพลังท่วมล้นและความรู้สึกชื่นชมให้แก่ผู้ที่มีพลังเหล่านั้น
“หมาป่าแดงแห่งความสันโดษ,หมาป่าดำแห่งการชุมนุม,หมาป่าขาวแห่งความลวงตา นั่นคือชื่อของสามมอนสเตอร์ยูนีคที่ตามตำนานว่าไว้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของราชันหมาป่า ตามตำนาน[เมื่อเหล่าชิ้นส่วนของราชันหมาป่าถูกปราบลงจนหมด หนทางสู่ราชันหมาป่าจะถูกเปิดขึ้น]ว่าเอาไว้อย่างนั้นล่ะ”
“หมายความว่ามอนสเตอร์ยูนีคสามตัวนั้นคือกุญแจเปิดทางสินะ?”
“ตามที่พวกเขาว่ามาล่ะนะ ก็เพราะว่าไม่เคยมีใครปราบพวกมันได้เลยจนถึงตอนนี้ ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปลาล่ะนะ”
หมาป่าดำแห่งการชุมนุมและหมาป่าขาวแห่งความลวงตาสินะ
คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆสินะที่อาเรียอยู่ใกล้เมืองแห่งการเริ่มต้นน่ะ
ได้ฟังเรื่องจากโคฮาคุแล้ว แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าเป็นความรู้ที่ทุกคนรู้กัน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่แพร่หลายในหมู่NPCล่ะนะ
สาเหตุที่หนึ่งในตั๋วที่จะพาไปสู่การสู้กับมอนสเตอร์ระดับสูงอย่างเรเควียมถึงถูกทิ้งไว้ใกล้เมืองแห่งการเริ่มต้น….ฉันลองคิดแล้วะแต่ก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“จริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกของฉันด้วยซ้ำที่ได้เห็นหลักฐานนั่นน่ะ”
“หลักฐานการปราบบอสยูนีคโซโล่?”
“ใช่แล้ว นั่นเป็นของขวัญจากเทพเจ้าเลยนะ มีน้อยคนที่สามารถปราบมอนสเตอร์ยูนีคลงได้ และการปราบด้วยตัวคนเดียวยิ่งน้อยลงไปอีก นับด้วยมือเดียวยังได้เลย ที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ก็มีเพียง[เมลตี้แห่งนัยน์ตาสวรรค์]ผู้กล้าของเหล่าแวมไพร์ล่ะมั้ง”
แตะไปที่หลักฐานเหนืออกของฉัน มันสะท้อนประกายสีฟ้าอ่อนออกมา
ในโลกของNPC ฉันสงสัยจังนะว่ามีกี่คนกันที่สามารถปราบมอนสเตอร์ยูนีคลงได้?
NPCมีชีวิตอยู่เพียงชีวิตเดียว แม้แต่โคฮาคุที่อยู่ข้างหน้าฉันเองก็มีเพียงชีวิตเดียว ต่างงจากผู้เล่นเมื่อNPCตายไปพวกเขาจะหายไปตลอดกาล
สำหรับตัวตนที่ไม่สามารถตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ได้ ไม่สามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเองได้….และยิ่งไปกว่านั้นยังปราบบอสยูนีคด้วยตัวคนเดียวอีก คนพวกนั้นคงจะแข็งแกร่งราวสัตว์ประหลาด ไม่ผิดแน่ที่จะถูกยกย่องให้เป็นผู้กล้า
“รู้ไหมว่ามอนสเตอร์ยูนีคเองก็มีหลายประเภทนะ?”
“หมายถึงเรื่องที่จำกัดจำนวนคนที่สามารถร่วมสู้ด้วยน่ะเหรอ?”
“อืม ใช่แล้วล่ะ นั่นรวมถึงหมาป่าแดงแห่งความสันโดษซึ่งเป็นยูนีคแบบโซโล่ พวกเขาจะมีลักษณะพิเศษที่ว่า[ความแข็งแกร่งแปรเปลี่ยนตามคนที่สู้ด้วย]และพวกเขาก็จะไม่โจมตีผู้อ่อนแอด้วย เพราะอย่างนั้นในโลกนี้พวกเขาถึงถูกเรียกอีกอย่างว่า[ผู้ส่งสาส์นแห่งบททดสอบ]ยังไงล่ะ”
เข้าใจล่ะ แม้ว่าจะมีพวกผู้เล่นฮาร์ดคอร์ที่เลเวลเกิน60ไปแล้ว นี่คือสาเหตุที่ไม่มีใครสามารถปราบอาเรียได้จนถึงตอนนี้สินะ
เพราะพวกนั้นสามารถเปลี่ยนความแข็งแกร่งได้ตามค่าสถานะของผู้เล่น ค่อนข้างขี้โกงเลยนะพอมาคิดดูดีๆแล้ว
แต่ว่าฉันรู้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องในสิ่งที่เธอพูดออกมา
ส่วนที่ว่าก็คือเรื่องที่ยูนีคแบบโซโล่จะไม่โจมตีผู้ที่อ่อนแอ
“เอ๊ะ แต่ตอนนั้นฉันยังเลเวล14อยู่เลยนะที่อาเรียเลเวล28โจมตีฉันน่ะ…”
“ฉันก็ไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ถูกท้าทายเลเวลต่ำขนาดนั้นมาก่อนนะแต่ว่า…เหมือนว่าพวกเขาจะมีวิธีที่จะเห็นความแข็งแกร่งของแต่ละคนได้ ไหนดูสิ ยกตัวอย่างเช่น ปราบหมาป่ากว่าร้อยตัวโดยไม่บาดเจ็บเลย พอจะรู้เรื่องอะไรอย่างนั้นบางไหม?”
“อุ๊….”
เรื่องพวกนั้น….ก็พอจะรู้อยู่หรอก….
“เดาจากที่เห็นเธอสู้ก่อนหน้านี้นะ สมกับที่เป็นผู้ที่ได้รับการอวยพรจากท่านคิชินน่ะเธอมีพรสวรรค์หายากสำหรับการต่อสู้อยู่ด้วยนะ บางทีหมาป่าแดงอาจจะเห็นจุดนั้นก็เลยมาท้าเธอก็ได้นะ?”
ด้วยความซื่อตรง โคฮาคุพูดขึ้นพร้อมกับท่าทางที่มีความสุข
ฉันรู้สึกได้ถึงบางอย่างด้วยเหตุผลบางประการ แววตาที่โคฮาคุมองมาที่ฉัน มันมีความคลั่งไคล้ซ่อนอยู่ลึกที่ไม่ได้มาจากการพบเจอกันครั้งแรกอยู่แน่
เป็นเพราะว่าฉันเป็นโดวจิ ได้รับพลังมาจากชูเท็น?
หรือเป็นเพราะฉันเป็นผู้ปราบบอสยูนีคโซโล่ได้กัน? ฉันไม่รู้เลย
––––––––––––––––––––––
ผู้เขียน : เสริม
ตอนที่เริ่มสู้กับยูนีคโซโล่ อัตราการเปลี่ยนของค่าสถานะขึ้นอยู่กับสถานะของผู้เล่น
ถึงแม้ว่าค่าสถานะปกติจะขึ้นอยู่กับเลเวล แต่กรณีของยูนีคแล้วเลเวลไม่สำคัญเลย
ผู้เล่นสามารถเพิ่มเลเวล เพิ่มเลเวลสกิล เตรียมอุปกรณ์สวมใส่ ในขณะที่ยูนีคสามารถเปลี่ยนค่าสถานะได้เลยทันที
เพราะอย่านั้นการเพิ่มเลเวลและพัฒนาทักษะการต่อสู้จึงเป็นวิธีที่สั้นที่สุดในการปราบยูนีค
แต่ถึงอย่างนนก็มีอีกสาเหตุที่อาเรียไม่เคยถูกปราบลงได้เลยจนถึงตอนนี้
อธิบายสั้นๆเสร็จสิ้น
––––––––––––––––––––––
MANGA DISCUSSION