วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก - ตอนที่ 47
(มุมมองบุคคลที่สาม)
ทุกคนจะอยู่ที่เลเวล1เมื่อเกิดมา นั่นคือกฎที่นำมาซึ่งความเท่าเทียมกันในหมู่สรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
ค่าสถานะเริ่มต้น อัตราการเติบโต อะไรพวกนั้นอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละเผ่าพันธุ์ แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกสิ่งจะเริ่มต้นที่เลเวล1เมื่อเกิดมา
ทันทีที่เกิด ถ้าหากว่ามีเผ่าพันธุ์เดียวกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหรือNPCก็จะมีค่าสถานะโดยรวมที่เท่ากัน
หากแต่มีความต่างที่ไม่อาจโต้แย้งได้อยู่ระหว่างNPCและผู้เล่น
หนึ่งคือสกิล
และอีกสิ่งคือวิธีที่พวกเขาจะเติบโตขึ้น
ผู้เล่นจะมีสิ่งที่เรียกว่าแต้มโบนัสอยู่ ทำให้พวกเขาสามารถตัดสินใจในทางเดินที่พวกเขาปรารถนาได้ และในขณะเดียวกันพวกเขายังสามารถสลับสับเปลี่ยนสกิลได้ตามต้องการอีกด้วย
แต่ว่าการเพิ่มค่าสถานะของNPCนั้นจะแตกต่างออกไปจากของผู้เล่น โดยส่วนใหญ่แล้วจะมาจากการเพิ่มค่าสถานะโดยการสุ่ม
เส้นทางการใช้ชีวิตของพวกเขาสามารถเบี่ยงเบนได้เล็กน้อยด้วยความพยายามอย่างมาก แต่มีหลายกรณีที่พวกเขาถูกบังคับให้มีพรสวรรค์ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย แต้มสถานะที่พวกเขาจะสามารถรวบรวมไว้ได้ภายในหนึ่งชีวิตของพวกเขาด้วยความพยายามแสนสาหัส อย่างมากก็ส่งผลได้ราว60%จากทั้งหมด
และในส่วนของสกิลของพวกเขา นั่นคือผลจากความพยายามอย่างหนัก เป็นตะกอนตกผลึกจากเลือด เหงื่อ และน้ำตาของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถสับเปลี่ยนได้ง่ายดายอย่างที่ผู้เล่นทำ
และเพราะพวกเขาไม่มีอิสรภาพในการเลือกการเติบโตของค่าสถานะ การที่ค่าสถานะของNPCจะเพิ่มขึ้นในแต่ละค่าขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ
คิจินที่มีค่าสถานะปัญญา หรือมนุษย์สายช่างผลิตที่อยากจะพัฒนาแต่ค่าความคล่องแคล่วไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ในวงเวียนแห่งความโศกเศร้านี้ เพื่อที่จะปลอบประโลมจิตใจ ประโยคที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดที่จะให้อธิบายก็คือ ขึ้นอยู่กับ[โชคชะตา] ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงเรื่องตามธรรมชาติแล้ว มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น
ใช่แล้ว โคฮาคุเองก็ด้วย หนึ่งในNPCที่ถูกล้อเล่นโดยโชคชะตา
☆(มุมมองซุคุนะ)
“คือว่านะซุคุนะ สำหรับตัวฉันแล้ว ฉันคิดว่าฉันมีพรสวรรค์อย่างมากที่สุดเลยล่ะ”
หลังจากที่ดื่มบรั่นดีสีอำพัน(โคฮาคุ)โปรดของเธอ โคฮาคุก็พูดออกมาช้าๆ
โคฮาคุพาฉันมายังหนึ่งในบาร์หลังตรอกซอย ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นขาประจำสำหรับที่นี่และพวกเราก็ถูกพามายังห้องส่วนตัวในทันที
ขณะที่หยิบกินกับแกล้มที่ดูเหมือนอาหารจานชีสราคาแพง ฉันก็รอให้เธอพูดต่อ
“ลองดูเจ้านี่สิ?”
เธอหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าของเธอขณะที่พูด มันคือแหวนหิหิอิโระกาเนะ และหินตรงกลางที่ดูเหมือนจะสลักตามดอกซากุระ
“[พาวเวอร์โฮลเดอร์] เจ้านี่คือเองประดับที่ถูกมอบให้โดยเทพเจ้าให้กับตัวตนที่ถือครองความแข็งแกร่งที่มากที่สุดบนโลกน่ะ”
“หมายความว่า…”
“ใช่แล้วล่ะ จริงๆแล้วฉันคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเลยล่ะนะ”
โคฮาคุพูดออกมาอย่างขบขันแต่ฉันกลับสัมผัสไม่ได้ถึงความภาคภูมิใจเลยสักนิด ตัวเธอเองได้ตัดสินไปแล้วว่ามันไม่มีค่าอะไรสำหรับตัวเธอ
“แน่อยู่แล้วว่าฉันไม่สามารถไปเทียบเคียงท่านคิชินได้เลยแม้แต่น้อย….ซุคุนะ ฉันน่ะนะ จนถึงตอนนี้ที่ฉันสะสมประสบการณ์และเลเวลมา ทุกอย่างนอกจากเหตุยกเว้นเดียวแล้ว ได้ถูกทุ่มให้กับความแข็งแกร่ง ตั้งแต่ที่ฉันยังเด็กฉันก็ได้เติบโตมาท่ามกลางคิจินที่บอกฉันว่าฉันนั้นถือครองพรสวรรค์ที่โดดเด่นเหนือใครๆ”
[ทุกอย่าง] ถ้าจะให้ใช้ศัพท์เกมอธิบายแล้วล่ะก็ ก็คงจะเป็น[เล่นสาย—ล้วน]ละมั้ง?(อัพค่าสถานะแต้มเดียวล้วนๆ)
ฉันสงสัยจังว่าเธอต้องถูกรักใคร่โดยโชคชะตาแค่ไหนกันค่าสถานะถึงได้เอนเอียงให้เธอถึงขนาดนั้น?
พาวเวอร์โฮลเดอร์ มอกับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลก และคนนั้นยังเป็นคนที่มีพลังมากพอที่จะสามารถถล่มการอาละวาดของปราสาทได้ซึ่งๆหน้า โอนิที่มีชื่อว่าโคฮาคุ ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้าของฉัน คือคิจินที่ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุด
สิ่งที่ฉันเข้าใจจากการได้มองดูเธอ ค่าความแข็งแกร่งของเธอคงจะมากเกินกว่าจะนึกได้เลย
และยังมีคำนั้นอีก[นอกจากเหตุยกเว้นเดียวแล้ว]ที่เธอเน้นย้ำ เป็นจุดกำเนิดที่แท้จริงของอารมณ์ภายในแววตาของเธอ
“ครอบครัวของฉันค่อนข้างจะมีชนชั้นเหนือคิจินอื่นๆ ฉันได้รับการศึกษาที่ดี และฉันก็ชื่นชมท่านคิชินอย่างมากตั้งแต่ที่ฉันยังเด็ก ควบคู่ไปกับอัตราการเติบโตของค่าสถานะของฉันและพรสวรรค์ในการต่อสู้ของฉันแล้ว ฉันเชื่อมาโดยตลอดว่าท่านคิชินกำลังคอยเฝ้ามองฉันอยู่ ฉันไม่เคยคิดสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าฉันได้รับการอวยพรจากท่านคิชินจริงๆ”
“ช่างเป็นเด็กที่โง่จริงๆเลยนะ” โคฮาคุพูดออกมาอย่างเย้ยหยันพร้อมกับกระดกบรั่นดีในมืออีกครั้ง
“ฟู่ว….แต่ว่าตอนที่ฉันไปรับอาชีพ [โดวจิ]การอวยพรจากท่านคิชิน….ฉันกลับไมมีคุณสมบัติในการรับอาชีพนั้น นั่นคงจะเป็นเมื่อหลายสิบปีในอดีตแล้วมั้ง….ในตอนนั้นฉันได้แต่คลั่งแล้วก็คลั่ง สุดท้ายแล้วก็พังทำลายหมู่บ้านไปได้ครึ่งหนึ่งเลยน่ะ”
“เอ๋….”
นั่นค่อนข้างจะเป็นอดีตที่รุนแรงเหลือเกินนะ ฉันนึกภาพตามไม่ได้เลยจากการที่เห็นโคฮาคุในสภาพปล่อยตัวตามสบายตอนนี้ ฉันเลยเผลอส่งเสียงออกมา
บางทีเธอเองก็อาจจะรู้ถึงความขัดแย้งตรงนั้นเหมือนกัน? โคฮาคุยิ้มให้กับท่าทีของฉันก่อนจะเล่าต่อ
“ฟุฟุ เธอที่เกิดในเมืองแห่งการเริ่มต้นอาจจะไม่เข้าใจก็ได้นะ แต่เดิมแล้วคิจินน่ะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกอารมณ์ชักจูงได้ง่ายล่ะนะ และในตนนั้นฉันก็เป็นคิจินที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านด้วย ความเสียายตอนนั้นเละเทะน่าดูเชียวล่ะ รู้ไหม โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตล่ะนะ”
“โคฮาคุ เธอน่ะแข็งแกร่งจริงๆสินะ?”
“แปลกใจเหรอ? ….ถึงแม้ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นฉันจะถูกเนรเทศออกจากหมู่บ้านคิจินก็เถอะ และในเมื่อหมู่บ้านคิจินมักจะไม่ยุ่งกับโลกภายนอก นั่นจึงเป็นโอกาสให้ฉันได้เดินทางไปในที่ต่างๆยังไงล่ะ”
มองจากเรื่องราวที่โคฮาคุเล่ามาก็ฟังดูเชื่อมต่อกันดีอยู่หรอก แต่ว่ามีอยู่จุดหนึ่งที่ฉันยังสงสัยอยู่
“แล้วมีความสัมพันธ์กับเผ่าโยวโกะได้ยังไงกันล่ะ? เธอบอกว่าพวกเขาสนิทกับเผ่าคิจินแต่ว่าเธอติดต่อกับพวกเขาได้ไม่ลำบากเหรอถ้าถูกเนรเทศน่ะ?”
“ไม่หรอก ก็ตอนนี้ฉันไม่ได้ถูกเนรเทศอีกต่อไปแล้วนี่นา”
“อ๊ะ อย่างนั้นเหรอ….โทษทีนะที่ไปพูดขัดน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เป็นเวลาที่เหมาะเจาะสำหรับการพักจากเรื่องราวอันแสนน่าเบื่อนี้พอดี”
ดีเลย อย่างน้อยในตอนนี้ หนทางของฉันที่จะได้รับยันต์คาถาก็ยังไม่ถูกปิดกั้นไป
นี่เธอเมาแล้วอย่างนั้นเหรอ? แก้มของเธอดูเจือสีแดงหน่อยๆนะ
โคฮาคุเปลี่ยนบรรยากาศจากความมืดหม่นเมื่อสักครู่และสร้างความรู้สึกสดใสออกมา
“หลังจากที่ถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ฉันก็ไปศึกษามาหลายๆอย่าง อย่างที่เธอรู้อยู่แล้ว ฉันได้รู้ว่าการที่คิจินจะเป็น[โดวจิ]ได้นั้น พวกเขาจะต้องทิ้งความสามารถทางด้านเวทมนตร์ออกไปทั้งหมดและฉันก็ได้รู้ว่าคิจินทุกตนที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้โดยปราศจากข้อยกเว้น จะถูกเจียดค่าสถานะอันน้อยนิดไปยังค่าปัญญา”
“นั่นมันอะไรกัน….”
“จะว่าเป็นตลกร้ายของโชคชะตาหรือเป็นเพราะเทพผู้สร้างต้องการให้ท่านคิชินถูกผนึกไว้ต่อไปกันนะ….ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจได้ก็คือคิจินทุกตนที่เกิดในหมู่บ้านนั้นจะไม่มีวันสามารถเป็น[โดวจิ]ได้”
[เป็นไปตามธรรมชาติ] เรื่องราวน่าเศร้าอย่างนั้นมีอยู่จริงๆเหรอ?
ในตอนที่พวกเราผู้เล่นสร้างตัวละคร พวกเราสามารถเลือกได้อย่างมีอิสระว่าจะใช้แต้มโบนัสในค่าสถานะไหน แต่สำหรับNPCแล้ว ค่าสถานะพวกนั้นจะถูกสุ่มขึ้นมา
แล้วถ้าระบบถูกสร้างขึ้นเพื่อแบ่งค่าสถานะไปยังค่าสถานะทางเวทมนตร์แม้เพียงเล็กน้อย….นั่นมันแย่มากเลยนะ
เพราะว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่โคฮาคุต้องการมากที่สุดกลับเป็นสิ่งที่เธอจะไม่มีวันเป็นได้ตั้งแต่ต้น
ไม่สิ ไม่ใช่แค่โคฮาคุ แต่เป็นเหมือนกันสำหรับคิจินทุกตนบนโลกใบนี้
“ตามตำนานว่าไว้ เพื่อที่จะฟื้นคืนชีพให้กับท่านคิชิน [โดวจิ]เป็นสิ่งจำเป็น เพราะว่านอกจากอาชีพนั้นจะเป็นการอวยพรจากท่านคิชินแล้ว นั่นยังเป็น[สายสัมพันธ์]อีกด้วย ด้วยความที่ท่านคิชินถูกผนึกไว้โดยเทพผู้สร้างเพื่อกั้นไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับโลกนี้ ท่านจะต้องใช้[โดวจิ]เป็นสื่อแทนในการกระทำต่างๆ แต่ว่าเรื่องที่น่าเศร้าก็คือ….การที่คิจินบนโลกนี้ไม่สามารถเป็น[โดวจิ]ได้”
จากข้อมูลในเรื่องของโคฮาคุ ถ้าจะถามความหมายกับฉันแล้ว ฉันคิดว่านี่คือการตั้งเงื่อนไขเพื่อสร้างเควสพิเศษให้กับผู้เล่นเผ่าคิจิน
แรงจูงใจในกาสร้างข้อบังคับมหาโหดของ[โดวจิ]อาชีพที่มีบ่วงหนักรั้งเอาไว้ ก็เพื่อหยุดยั้งไม่ให้คิจินของโลกนี้ฟื้นคืนชีพคิชินขึ้นมา
แต่ว่าถ้าจะบอกว่าการเป็น[โดวจิ]แล้วจะได้เจอกับคิชิน-ชูเท็น โดวจิ- อย่างแน่นอนเลยก็ ฉันได้แต่เอียงคอด้วยความไม่แน่ใจ
ฉันยังไม่เจอผู้เล่นเผ่า[คิจิน]คนอื่นเพื่อที่จะถามเรื่องการได้พบกับคิชินเลย แต่แรกแล้วฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงถูกเรียกไปยังที่แห่งนั้น
“แม้ว่าฉันจะทำใจยอมรับเรื่องที่ฉันจะไม่มีวันได้รับการอวยพรได้แล้ว ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง [สายสัมพันธ์เดียวที่ฉันมีอยู่กับท่านคิชินได้หายไป] เพราะว่านับตั้งแต่ที่ท่านคิชินถูกผนึกไว้และไม่มีใครสามารถเป็น[โดวจิ]ได้อีก เมื่อท่านน้องสาวสุดที่รักของท่านคิชินเสีย ร่องรอยสุดท้ายของท่านก็ได้จางหายไป”
เพื่อพักจากการพูดคุย เธอถอนหายใจออกมาก่อนที่จะยกกระดกจนหมดแก้ว
“เพียงแค่แวบเดียวก็ได้ แค่นิดเดียว ฉันอยากที่จะเห็นเทพของพวกเรา….มันช่างลึกลับเสียจริง ว่าไหม? ยิ่งฉันได้รู้ว่าฉันไม่มีโอกาสมากแค่ไหน ฉันยิ่งโหยหาในสิ่งที่ไม่มีวันได้รับมากเท่านั้น”
ได้ยินเรื่องราวของโคฮาคุ ฉันรีบคิดอย่างวุ่นวายภายในหัวของฉัน
คิจินในโลกของWLO ฉันพึ่งได้ยินประวัติศาสตร์ของเผ่าผ่านเรื่องราวชีวิตของโคฮาคุ การจะเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันจึงค่อนข้างยาก
ข้อมูลสำคัญชิ้นแรก โคฮาคุเป็นตัวตนที่ถือครองความแข็งแกร่งมากที่สุดในโลก แต่ทั้งที่ใกล้เคียงกับ[โดวจิ]มากที่สุดเธอกลับไม่สามารถเป็นได้
ข้อมูลสำคัญชิ้นที่สอง คิจินที่ถือกำเนิดบนโลกนี้แทบไม่มีโอกาสที่จะเป็น[โดวจิ]ได้
ข้อมูลสำคัญชิ้นที่สาม ตัวตนเดียวที่สามารถติดต่อกับคิชินได้คือ[โดวจิ] ซึ่งจะถือว่ามีสายสัมพันธ์กับเธอ
ข้อมูลสำคัญชิ้นที่สี่ อย่างน้อยๆในหมู่บ้านของคิจินนั้น หลังจากการผนึกคิชินแล้วก็ไม่มีใครได้เป็น[โดวจิ]อีกเลย
หลังจากที่จัดเรียงข้อมูลเรียบร้อย ก็มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมา
เพราะว่าเรื่องของโคฮาคุถึงจุดพักพอดี ฉันเลยถามออกไป
“นี่โคฮาคุ อาชีพของท่านคิชินคือ[โดวจิ]อย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่หรอก ว่ากันว่าท่านคิชินไม่มีอะไรอย่างที่เรียกกันว่าอาชีพหรอก เพราะว่าอาชีพ[โดวจิ]เองก็ถูกสร้างขึ้นตามชื่อของท่านหลังจากที่ท่านขึ้นสู่การเป็นเทพล่ะนะ”
อย่างนี้นี่เอง สิ่งที่โคฮาคุพูออกมาตรงกับที่ฉันสันนิษฐานเอาไว้
อย่างที่คิดไว้ ต้นกำเนิดของ[โดวจิ]ก็คือชูเท็นจริงๆ
“น้องสาวสุดที่รักคือใครเหรอ?”
“ท่านคือน้องสาวของท่านคิชิน ว่ากันว่าท่านคือคนเดียวที่แม้แต่ท่านคิชินที่ไม่สนใจผู้ใดยังไม่อาจโต้แย้งได้ ท่านถูกสาปให้มีชีวิตนิรันดรและจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตท่าน ท่านก็ยังมีรูปโฉมที่งดงาม….”
“เอ๋ เธอเคยเจอด้วยเหรอ?”
“อืม ก็ท่านพึ่งจะเสียไปเมื่อราวๆครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเอง”
“โฮ่วเอ๋….หมายความว่าอย่างน้อยๆโคฮาคุก็อายุเกิน50ไปแล้วสิ?”
“ฉันยังถือว่าอายุน้อยในหมู่คิจินนะรู้ไหม? ถึงแม้ว่าสำหรับคิจินแล้วสิ่งสำคัญไม่ใช่อายุแต่เป็นความแข็งแกร่งและความสำเร็จในชีวิตต่างหากนะ”
ถ้าแค่มองจากภายนอกของเธอ โคฮาคุดูเหมือนหญิงสาวในช่วงอายุ20ต้นๆ และยังสวยพอที่จะเทียบเคียงกับรินจังได้เลย
ช็อคจากที่ได้รับรู้ว่าเธออายุมากกว่า50และยังได้รู้ว่าเธอยังถือว่าเด็กอยู่ทำให้ฉันสงสัยในอายุขัยเฉลี่ยของเผ่าคิจินจริงๆ
แต่ว่านะ น้องสาวของชูเท็นเสียแล้วจริงๆนะ?
ถ้าเธอฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาได้ เธอจะรู้สึกยังไงกันนะ? เธอจะเสียใจหรือเปล่า?
ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ฉันอยากจะเจอกับเธอดูสักครั้ง
“กลายเป็นเรื่องที่ยาวน่าดูเลยแต่ฉันไม่มีความรู้สึกหลงเหลือให้กับการอวยพรจริงๆและฉันไม่มีความคิดที่จะฝืนบังคับซุคุนะให้ทำอะไรด้วย ฉันเพียงแค่อยากจะขอโทษที่โกหกเธอไป….”
“ฉันว่าฉันรู้นะว่าเรื่องอะไร โคฮาคุ เธอน่ะน่าจะแอบตามฉันมาตั้งแต่ก่อนจะถึงดูอัลลิสแล้วสินะ?”
ในตอนที่ฉันขัดจังหวะและพูดออกไป โคฮาคุที่ทำสีหน้าจริงจังเหมือนกับคนที่จะสารภาพอะไรสักอย่างก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจแทน
“ทันทีที่เดินทางออกมาจากเมืองแห่งการเริ่มต้นแล้ว ยังไงพวกเขาก็ต้องไปที่ดูอัลลิสแล้วไปเลือกอาชีพใช่ไหมล่ะ เธอคงจะได้ยินข่าวที่ว่ามีคิจินจำนวนมากเกิดที่เมืองแห่งการเริ่มต้นก็เลยหมายตาพวกนั้นเอาไว้มาตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมาสินะ? อาจจะคาดหวังให้ใครสักคนในหมู่คนเหล่านั้นได้กลายเป็น[โดวจิ]”
พยายามหลีกเลี่ยงคำว่าผู้เล่นให้มากที่สุด ฉันก็อธิบายความคิดในหัวออกไป
เพราะว่าฉันไม่รู้ถึงความเห็นของNPCที่มีต่อคำว่าผู้เล่น ฉันเลยไม่สามารถใช้คำนั้นได้ง่ายๆยังไงล่ะ
โคฮาคุบอกว่าเธอเห็นฉันที่ร้านน้ำชาแล้วจึงตามฉันมา แต่นั่นมันเป็นเหตุผลที่อ่อนไปหน่อยนะสำหรับการจะมาตาม[ฉัน]
เพราะว่าในหมู่ผู้เล่นกลุ่มแรกน่าจะมีไม่น้อยเลยนอกจากฉันที่เลือกเผ่าคิจิน ยิ่งทำให้ไม่สมเหตุผลที่เธอเลือกฉันจากทั้งหมด
แม้ว่าเธอจะเห็นว่าฉันเป็น[โดวจิ]ได้ง่ายๆ เธอกลับจงใจกะเวลาในการใช้ไอเท็มล้ำค่าพวกนั้นอย่างล่าช้า
แต่แรกเลยมันคงจะเร็วกว่าถ้าเธอเตือนฉันซึ่งๆหน้า ดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์คือการทดสอบความสามารถของฉันนั่นเอง
ก็นะ ยังไงมันก็แปลกอยู่ดีที่มีคนที่แข็งแกร่งอย่างโคฮาคุอยู่ใกล้ดูอัลลิสน่ะ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามี[โดวจิ]กี่คนก่อนหน้าฉันแต่….เธอน่ะคงจะทักหาคนพวกนั้นหมดแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“…มีทั้งหมดแปดคน ซุคุนะ ก่อนที่ฉันจะได้พบกับเธอมีทั้งหมดแปดคน”
มีแค่แปดคนสินะ ต่อให้รวมฉันที่เป็นผู้เล่นกลุ่มที่สองไปแล้วด้วยจากทั้งหมดในกลุ่มผู้เล่นครึ่งหนึ่งของหมื่นคนก็มีเพียงแค่พวกเราเก้าคนเท่านั้น
“ฉันคงไม่ต้องพูดอ้อมค้อมอะไรแล้วสินะ ซุคุนะ ฉันไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป หลังจากนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะมี[โดวจิ]อีกกี่คนปรากฏตัวขึ้น และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน เพราะอย่างนั้น-”
“ที่ฉันต้องทำก็แค่ช่วยฟื้นคืนชีพให้กับท่านคิชินสินะ? ได้สิ”
สุดท้ายแล้วคำขอของโคฮาคุก็เริ่มยืดยาวฉันเลยรีบตอบตกลงไป ก็นะ โคฮาคุมีนิสัยที่พอได้พูดแล้วจะพูดนานเลยนี่นา….
ฉันขอโทษที่พูดขัดโคฮาคุในขณะที่เธอพูดกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายจะขอร้องให้ได้รับโอกาสน่ะ
โคฮาคุยิ้มออกมาอย่างร่าเริงแต่คำพูดถัดมาของฉันกลับทำให้เธอนิ่งค้างไป
“จะว่าไงดีล่ะ….อืม โทษทีที่ปิดเงียบไว้นะแต่ว่า…ฉัน แบบว่า ฉันได้เจอกับท่านคิชินไปแล้วน่ะ”
“เอ๋?”
สิ้นสุดอย่างงดงาม
ราวกับรูปสลักไม่แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย โคฮาคุก็ได้นิ่งค้างไปอย่างนั้น
——————-
โน้ตผู้เขียน
พึมพำ:จริงๆแล้วตั้งใจไว้ว่าจะจบเรื่องของโคฮาคุภายในสามตอนล่ะ
ค่าสถานะของโคฮาคุมีแค่1ในค่าปัญญา ที่เหลือถูกนำไปใส่ในค่าความแข็งแกร่ง ตอนนี้ค่านั้นตัวเลขเกิน4หลักไปแล้ว…..
ในอดีตของโลกนั้นมีวิธีที่จะอ่านค่าสถานะเป็นตัวเลขอยู่ แต่เพราะว่าคิจินทุกตนมีอย่างน้อย1แต้มในค่าปัญญาตั้งแต่เกิด ทุกตนเลยเข้าใจว่านั่นคือค่าเริ่มต้น
ยกเว้นแต่เพียงชูเท็น จนกระทั่งเอกสารที่บันทึกค่าสถานะแรกเริ่มของชูเท็นถูกค้นพบ โคฮาคุถึงได้รับรู้ถึงตลกร้ายของเทพผู้สร้างก็เท่านั้น
ผู้แปล:สับสนจริงๆเวลาเจอคำว่าคิชินกับคิจินติดๆกันเยอะๆ