วิถีไลฟ์สตรีมของโอนิสาวสายอัดกระแทก - ตอนที่ 31
หลังจากที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ทดสอบอาวุธให้กับฮารูรุ ฉันก็ได้ไปเยือนหนองน้ำลอว์เรสอีกครั้ง
ทำไมฉันถึงเลือกที่นี่หลังจากที่ได้พบประสบการณ์เลวร้ายเมื่อวานอย่างนั้นเหรอ? ก็เพื่อมาทดสอบอาวุธที่มีชื่อที่แปลว่าปากกาลูกลื่นยังไงล่ะ
และเหตุผลที่สองก็เพื่อมาลองสู้กับมอนสเตอร์ประเภทกิ้งก่าที่ฉันไม่ได้เจอเลยในเมื่อวานล่ะ
พอมาลองคิดดูดีๆแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมถึงจะมีกิ้งก่าในหนองน้ำกันนะ หรือว่าจะเป็นกิ้งก่าประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำกัน?
จระเข้ยังฟังดูเข้ากับสถานที่มากกว่า แต่เพราะว่าที่นี่คือเกม ฉันเลยรู้สึกว่าจะแพ้ถ้าตบมุขกลับไปอย่างนั้น
“โยะ โฮะ ย่าห์!”
ขณะที่ฉันฟาดไปยังอามะฟร็อกที่กระโดดมาใส่ฉันเป็นจังหวะราวกับเกมดนตรี ฉันก็ได้ลองทดสอบประสิทธิภาพของตะบองสองมือใหม่นี้
พลังโจมตีของมันอยู่ที่35 ซึ่งมากกว่าสุดยอดตะบองเหล็กอีก
แม้ว่าในตอนที่แปลงสภาพแล้วพลังโจมตีก็ยังคงเดิม แต่ดูเหมือนว่าความทนทานของใบมีดส่วนที่ยืดออกมาจากตะบองหลังแปลงสภาพจะถูกตั้งไว้ต่างกันนะ
อาจจะเพราะกลการแปลงสภาพได้ ความทนทานของใบมีดจึงไม่ได้สูงขนาดนั้น
ฉันจึงต้องเล็งอย่างระมัดระวังหวังการโจมตีจุดตายและใช้งานเหมือนกับกำลังใช้หอกอยู่ หรือพูดให้ถูกคือเหมือนใช้นากินาตะ* หลังจากที่แปลงสภาพอาวุธ
*(นากินาตะ หอกญี่ปุ่นใช้โดยขุนนางญี่ปุ่น)
“เซะเรียะ!”
ฉันบิดตัวสุดกำลังและทำการ[กวาดเรียบ]ขณะที่ก้าวเข้าประชิด มันคือสกิลเบสิกของ[ตะบองสองมือ]และเป็นเทคนิคที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดด้วย
เป็นเพราะฉันใช้แรงสุดกำลังขณะที่ใช้[กวาดเรียบ]หรือเป็นเพราะพวกมันถูกลดค่าHPไปมากพอก่อนแล้วกันนะ? ฉันยังไม่ได้เปลี่ยนสภาพอาวุธด้วยซ้ำแต่พวกมันสองตัวก็กลายเป็นโพลีกอนไปพร้อมกันก่อนจะสลายหายไป
จะว่าไปแล้ว อาจเป็นเพราะเป็นสกิลที่แยกย่อยออกมา สกิลตะบองสองมือยังมีสกิลที่ใช้งานได้อีกหนึ่งสกิล
นั่นคือสกิลโจมตี[ตีไม่ยั้ง] เป็นทักษะการทิ่มอาวุธไปข้างหน้าสามครั้งต่อกัน
จากที่[ไม่ยั้ง]ในชื่อได้บอกไว้ นอกจากการโจมตีแรกแล้ว การโจมตีที่เหลือจะสุ่มตำแหน่งเป้าหมาย
ถ้าจะให้เห็นภาพก็คงจะให้นึกภาพวงกลมรอบๆเป้าแรกที่โจมตีไป การโจมตีอีกสองครั้งก็จะสุ่มอยู่ในระยะวงกลมนั่นล่ะ
พอได้เห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้ได้รู้อีกครั้งเลยว่า คฑามือเดียว, คฑาสองมือ, ตะบองสองมือ ทั้งสามอาวุธในหมวดหมู่[อาวุธไร้คม]นั้นต่างกันอย่างมากเลย
จากที่ฮารูรุว่าไว้ ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งสามต่างกันก็คือ[ความยาวและน้ำหนัก]
อาวุธที่สั้นที่สุดในหมู่ก็คือคฑามือเดียว หนักที่สุดก็คือคฑาสองมือ ส่วนอาวุธที่ยาวและเบาที่สุดคือตะบองสองมือ
ในหมวดหมู่ที่ควบคุมได้ง่ายที่สุดก็คือคฑามือเดียว ก็นะ ในมือสามารถใช้ได้ในมือข้างเดียว ความง่ายในการควบคุมก็พอจะเข้าใจได้ ถ้าคิดตามหลักการอย่างนั้น คฑาสองมือก็เลยมีชื่อเสียงในด้านการควบคุมที่ใช้ยากที่สุด
ถึงแม้ว่าเมื่อคิดเรื่องของพลังโจมตีแล้ว จุดยืนของทั้งสองจะสลับกันก็ตาม คฑาสองมือเป็นอาวุธที่ถูกเรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่มีพลังโจมตีที่สูงที่สุดในเกม และไม่สามารถใช้งานได้เลยถ้าไม่มีค่าความแข็งแกร่งที่มากพอ
แล้วจุดเด่นของตะบองสองมือล่ะ?
นั่นก็คือระยะบริเวณของการโจมตีที่สูงยังไงล่ะ
ถึงแม้ว่าอาวุธต่างๆเองก็มีวิธีการส่งมอบความเสียหายที่ต่างกันก็เถอะ
ถ้าเป็นคฑาก็ต้องเป็นส่วนไร้คม–คาดหวังความเสียหายมหาศาลได้เลยถ้าใช้ตรงส่วนนั้นโจมตีไปน่ะ กลับกันแล้วถ้าเป็นส่วนปลายอีกด้านก็จะไม่สามารถทำความเสียหายให้สมกับพลังโจมตีได้
ก็เหมือนกับการที่คุณจะไม่เจ็บมากนักถ้าถูกตีด้วยด้ามดาบ และก็การโดนตีจากส่วนด้ามของหอกเองก็ไม่เจ็บเท่าการโดนปลายแหลมแทงด้วย อ๊ะ แต่ว่าถ้าเป็นหอกจริงๆส่วนปลายด้ามจับเองก็ถูกสร้างมาให้หนักเหมือนกัน แต่ว่านั่นน่ะคือข้อยกเว้นนะ
ก็ตามนั้น อาวุธแต่ละชนิดก็ต้องถูกใช้งานต่างวิธีกันไปตามที่มันถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหาย
ในเมื่อเข้าใจคอนเซปพวกนั้นแล้ว อาวุธที่เรียกว่าตะบองสองมือเองก็มีลักษณะแบบเดียวกับ[พลอง] เป็นวัตถุที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะใช้ส่วนไหนโจมตีก็ตาม
และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เมื่อใช้งาน[กวาดเรียบ]ด้วยอาวุธนี้แล้ว คุณจะสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างเท่าเทียมกันให้แก่มอนสเตอร์หลายๆตัวพร้อมกันได้ และยังเป็นเหตุผลที่แม้แต่การทิ่มด้วยส่วนปลายของอาวุธเองก็ยังสามารถสร้างความเสียหายได้เช่นกัน การที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆสถานการณ์และยังมีระยะการโจมตีที่กว้าขวางอีก เป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดาเลย
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พลังโจมตีของสกิลนั้นจะอยู่ในด้านที่เรียกไดว่าน้อย ซึ่งก็คงเพื่อความสมดุลล่ะนะ
แล้วก็ถ้าอยู่ในปาร์ตี้แล้วไม่ได้เลือกใช้สกิลอย่างเหมาะสมล่ะก็ คุณอาจเผลอโจมตีพวกเดียวกันก็เป็นได้ ตะบองสองมือขึ้นชื่อในด้านอาวุธระยะประชิดที่มีโอกาสโจมตีโดนพวกเดียวกันมากที่สุดเลยด้วย
ถึงแม้ว่าจะหมายความได้อีกอย่างว่าการควบคุมของอาวุธนี้จะเฉิดฉายหากเล่นเดี่ยวๆแทนล่ะนะ
และก็แน่นอนว่าคุณสามารถใช้สกิลของสายสกิล[อาวุธไร้คม]ได้ในขณะที่ใช้อาวุธนี้อยู่ ถ้าใช้งานสกิลได้อย่างชำนาญแล้ว คุณก็จะมีวิธีต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากให้เลือกใช้ได้เลย
*([หวด][ปิดฉาก]ใช้ได้ตราบที่อาวุธเป็นอาวุธไร้คม [กวาดเรียบ][ตีไม่ยั้ง]ใช้ได้ตอนที่ใช้ตะบองสองมือ)
“หืมมมมม….ไม่มีกิ้งก่าโผล่มาเลยสักตัวนะ”
ขณะทีตั้งใจล่ามาได้ราวๆชั่วโมง ก็ยังไม่พบกิ้งก่าเลยแต่น้อย
อามะฟร็อก, อามะฟร็อก, อามะฟร็อก, อามะฟร็อก มีแต่มอนสเตอร์ตัวเดิมโผล่มาครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันถึงกับได้เทคนิคในการจัดการพวกมันอย่างง่ายดายแล้วด้วย
ที่ต้องทำก็แค่หวดไปยังที่ที่สมองของมันอยู่ หรือไม่ก็ควักเครื่องในพวกมันออกมา ฉันคิดว่านั้นถือเป็นวิธีการโจมตีถึงจุดตายของมอนสเตอร์ประเภทกบพวกนี้นะ
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะได้ผลกับอามะฟร็อก แต่ถ้าเป็นอุชิฟร็อกหรือโทโนะซามะฟร็อก ฉันได้แต่จินตนาการถึงการที่ไม่สามารถโจมตีถึงจุดตายได้จนการต่อสู้เละเทะซึ่งกลายเป็นอะไรที่น่ารำคาญสุดๆเลย
การแปลงสภาพอาวุธของ[Kugelschreiber]ก็สะดวกดีอยู่หรอก แต่ความยาวของใบมีดมันเรียกได้ว่าสั้นล่ะ
ถึงจะไม่ต่างจากหอกเท่าไหร่แต่เทียบกับนากินาตะแล้ว ใบมีดก็ยาวถึงแค่ครึ่งเดียวเอง
มันยากที่จะควักเครื่องในของกบตัวใหญ่หลายเมตรด้วยใบมีดแค่นี้
“…………..คย๊า….”
“หืม?”
ฉันที่คิดอย่างนั้นขณะที่แทงจุดตายของกบอยู่ จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องจากที่ห่างไกลออกไป
“เสียงกรี๊ด…ทางนั้นสินะ”
ต้องขอบคุณบริเวณรอบข้างที่โล่ง ฉันจึงสามารถรู้ได้ทันทีว่าเสียงมาจากทิศทางไหน
จริงๆแล้วฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปช่วยหรอกนะ อีกอย่างบางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือแต่แรกแล้วก็ได้ แต่ในเมื่อฉันได้ยินแล้วฉันก็น่าจะไปดูสักหน่อย เผื่อไว้ล่ะนะ
พอเข้าใกล้แล้ว ฉันก็พอจะเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น เหตุเกิดที่เกาะเล็กๆที่พวกเราเจอเมื่อวาน
เท่าที่เห็น มีเด็กสาวในชุดโกธิกถูกโจมตีโดยอุชิฟร็อก HPของเธอยังไม่ลดแต่ตัวเธอนั้นได้แต่นั่งตัวสั่นอยู่อย่างนั้น
“เฮ้ อยากให้ช่วยหรือเปล่า ~?”
“ช-ช่วยด้วยค่ะ!”
“รับทราบ~”
หลังจากที่ยืนยันกับเธอให้แน่ใจเรียบร้อย ฉันก็ช่วยป้องกันเธอจากการโจมตีด้วยลิ้นด้วยตะบองเหล็กที่ฉันถือในมือมาตลอด ฉันกระโดดไปยังหัวของมัน ซึ่งเปิดโล้ง แล้วทำให้มันชะงักด้วย[หวด] แล้วจึงช่วยเด็กผู้หญิงให้ลุกขึ้นยืน
“สู้ได้ไหม?”
“ค-คือว่า…อาวุธฉันพัง”
“เข้าใจล่ะ งั้นฉันจะจัดการมันนะ โอเคไหม?”
มองไปยังรอบตัวของเธอ ก็ไม่มีอาวุธใดๆอยู่เลยจริงๆ ตราบที่เธอไม่มีอาวุธสำรองหรือสกิลต่อสู้มือเปล่า เธอก็ไม่น่าจะสู้ได้อีก
ขณะที่คุยกับเธอ ฉันก็หลบการโจมตีพุ่งตัวกดจากอุชิฟร็อกด้วยการก้าวถอยหลัง
เอาจริงๆนะทำไมมันถึงว่องไวแบบนี้กัน ฉันไม่เคยเห็นกบบูลฟร็อกในโลกจริงหรอกนะแต่พวกมันว่องไวขนาดนี้เลยเหรอ?
แต่ว่าโชคไม่ดีสำหรับเจ้าอุชิฟร็อก ฉันได้สู้กับพวกเดียวกับมันมาหลายต่อหลายตัวแล้ว
“ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีการโจมตีล่ะก็ มันจะกลายเป็นศึกฝ่ายเดียวนะรู้เปล่า?”
พูดอย่างนั้นไปฉันก็ตั้งท่าสำหรับสกิลหนึ่ง
มันอาจจะคิดว่าการพุ่งตัวกดของมันไม่มีทางโดนก็ได้? มันเลยเปลี่ยนมาเป็นการโจมตีด้วยลิ้นแทน ขณะที่หลบมันฉันก้าวเข้าประชิดและใช้ตะบองเหล็กในมือหวดมันสุดกำลัง
เพื่อที่จะจัดการอุชิฟร็อกที่กำลังชะงักขั้นเด็ดขาด ฉันจึงหวดมันเข้าไป และอีกหนึ่งครั้ง และอีกครั้ง
และนั่นจึงเป็นการ[หวด]รวมทั้งหมด4ครั้ง ทำให้เกิดสกิล[หวด4ครั้งซ้อน]ขึ้น
ข้อดีของมันก็คือการใช้สกิลนี้ใช้SPน้อยกว่าการใช้[หวด]4ครั้งแยกกัน แต่ก็มีจุดอ่อนที่จะเป็นการบังคับใช้แค่ท่าทางการหวดอย่างเดียวในระยะเวลาสกิล และเพราะว่ามันเป็นการโจมตีต่อเนื่องกันจึงต้องโจมตีให้โดนทั้งหมดทีละครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนดไม่งั้นมันจะไม่กลายเป็นสกิลนั้น
ถึงจะพูดอย่างนั้น หวดเองก็เป็นสกิลที่มีอิสระสูง–ตราบใดที่โจมตีออกไปด้วยการจับอาวุธทั้งสองมือก็นับว่าเป็นการหวดได้
แต่ถ้าไม่ใช่กับศัตรูที่ช้าระดับหนึ่งแล้ว สกิลนี้ก็มักจะโจมตีได้ไม่โดนสักเท่าไหร่
ถ้าฉันใช้กับศัตรูอื่นอย่างอาเรีย ราวๆช่วงการหวดที่สองมันก็คงจะทิ้งระยะไปแล้วและหัวของฉันก็คงร่วงลงระหว่างระยะเวลาชะงักหลังใช้สกิล
“ไหนๆแล้วก็ขอให้ฉันได้ลองใช้งานสกิลต่างๆหน่อยนะ โอเค๊?”
จริงๆแล้วเมื่อวานนี้ ต้องขอบคุณพวกกบที่ดันมีความถึกทนต่ออาวุธไร้คมที่ฉันเสียเวลาสู้ไปอย่างยาวนาน เลยทำให้ความเชี่ยวชาญสกิลอาวุธไร้คมของฉันเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
เนื่องจากสถานการณ์ของฉันกับอาเรีย จึงทำให้ฉันไม่ได้พัฒนาความเชี่ยวชาญของสกิลที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเลเวลของฉันแล้ว ในตอนเมื่อวานที่ฉันมาที่นี่ สิ่งที่ฉันใช้ได้ก็มีแค่[หวด]กับ[ปิดฉาก]เท่านั้นเอง
[หวด4ครั้งซ้อน]เป็นสกิลที่เรียนรู้ได้ต่อจากปิดฉาก แต่นั่นก็ลดHPของอุชิฟร็อกไปได้แค่ราว20%เท่านั้นเอง
ถ้าอย่างนั้นฉันควรจะใช้งานสกิลให้มีผลกว่านี้สินะ
สำหรับช่วงหนึ่งที่ฉันคอยหลบการโจมตีด้วยลิ้นและสวนกลับ ฉันเฝ้ารอโอกาสหนึ่งจนกระทั่งโอกาสนั้นที่ฉันรอคอยมาถึง
ฉันกระทืบเท้าลงไปยังพื้นดินและกระโดดขึ้น หรือเป็นการเคลื่อนไหวที่เรียกได้ว่าหลบอุชิฟร็อกที่พุ่งตัวเข้ามา ฉันกระโดดก่อนที่มันจะถึงตัวฉัน หลบมัน และตั้งตะบองเหล็กในท่าเตรียมหวดไม้
ด้วยความรู้สึกราวจะพุ่งสวนหัวของอุชิฟร็อก ฉันเหวี่ยงตะบองเหล็กในมือสุดกำลังขณะที่ถูกเร่งด้วยสกิล
สกิลเคาน์เตอร์: [โฮมรัน] ใช้แรงจากศัตรูเพื่อสวนกลับไป เป็นสกิลที่ค่อนข้างป่าเถื่อนเลยล่ะ
โดะกย๊า!!! เป็นเสียงที่ค่อนข้างเละและอุชิฟร็อกขนาดกว่า2เมตรก็ถูกเป่ากระเด็นไป
ถ้าใช้งานสกิลนี้ได้อย่างถูกต้องแล้ว ศัตรูจะถูกเป่ากระเด็นไปทุกครั้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องของเวลาชะงักหลังใช้งานสกิล
เพียงแต่ว่า ด้วยแรงสะท้อนจากการเป่าศตรูขนาดใหญ่ให้กระเด็น ทำให้HPของฉันลดลงไปนิดหน่อย
ความเสียหายที่สะท้อนกลับมาขึ้นอยู่กับมวลของศัตรูและแรงที่เคลื่อนตัว และก็ยังเปลี่ยนไปตามค่าความแข็งแกร่งของฉันอีกด้วย เพราะงั้นมันจะเป็นการฆ่าตัวตายถ้าใช้กับศัตรูที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองอย่างมาก ถึงในกรณีนั้นบางทีก่อนที่จะได้ใช้สกิลจะเป็นคูณเองที่ถูกเป่ากระเด็นก่อนล่ะนะ
เป็นสกิลที่น่าสนใจและยังพลังโจมตีสูงอีกด้วย แต่ก็เป็นสกิลที่มีปัญหาขึ้นอยู่กับสถานการณ์อีก
รักษาความเสียหายด้วยการดื่มโพชั่นน้ำหวานที่ซื้อมาจากถนนร้านค้า ฉันหันไปมองอุชิฟร็อกที่กำลังตาย
มันกำลังช็อกจากค่าHPที่เหลืออยู่20%อย่างนั้นเหรอ? มันดูไม่มั่นคงเลยขณะที่พยายามยืน
เพราะว่าฉันไม่ชอบที่จะปล่อยให้ยืดเยื้อ ฉันจึงเข้าไปและใช้[หวด4ครั้งซ้อน]และก็กวาดHPที่เหลืออยู่ของอุชิฟร็อกจนเรียบ
“ฟู่ว…เรียบร้อ-…อุโว้ว!?”
ทันใดนั้นก็มีการฟันที่เล็งมายังคอของฉันซึ่งฉันก็หลบด้วยการก้มตัวลง
ฉันสร้างระยะห่างและหันไปยังทิศทางของผู้กระทำ ตรงนั้นก็คือเด็กสาวในชุดโกธิกที่ยิ้มมาในท่ายืนสำหรับการแกว่งเรเปียร์ในมือของเธอ